“จะเนียนไปไหน” ขี่ไปรีวิวไปกับ Ducati Monster 797

หลังจากรถระดับตำนานอย่าง ดูคาติ มอนสเตอร์ 821 ได้โลดแล่นอยู่ในตลาดโลกกว่า 2 ปี ผ่านการวิจารณ์ทั้งด้านบวก และด้านลบ บ้างก็ชอบที่รถมีโหมดให้เลือกขับขี่ มีหม้อน้ำระบายความร้อน รวมถึงขนาดมิติรถที่ใหญ่ขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน รถรุ่นดังกล่าวก็เริ่มห่างไกลกับแนวคิดดั้งเดิมของดูคาติ นั้นคือ ความเรียบง่าย ใช้งานได้ทุกวันตลอดเวลา คาแรคเตอร์ใหม่ของ Ducati Monster 797 จึงตั้งใจออกแบบมาเพื่อตอบสนองต่อความรู้สึกนั้นครับ คือ ขี่ง่าย ขี่ได้ทุกเวลา

 

 

 

และแล้ว วันนี้.. ผมก็จะได้ลองเทสขี่ดูครับ โดยวิธีง่ายๆ เลย คือเข้าไปขอเทสรถทดสอบครับ ต้องขอขอบคุณศูนย์ดูคาติวิภาวดีด้วย สำหรับรถให้ลองขี่นะครับ

 

 

ความรู้สึกแรกที่คล่อมรถ !!

ต้องบอกว่าเป็นรถที่เบา ตัวถังแคบ รู้สึกเลยว่าผอมเพรียวกว่าเดิมครับ และปุ่มกดสำหรับปรับหน้าจอในส่วนต่าง ๆ นั้น ก็ไม่มีอะไรมากมาย มีเฉพาะที่จำเป็นเท่านั้นครับ อ้อ แล้วอย่างที่ทราบกัน ไม่มีมาตรวัดระดับน้ำมันนะครับ ต้องกดรีเซ็ททริปเอาเวลาเติมน้ำมันเต็มถัง ซึ่งปกติที่ผมเคยใช้งาน พอรถวิ่งถึงประมาณ 200 กิโลเมตร ก็จะเติมเต็มถังทีนึงครับ ความสูงเบาะรถที่ 805 มิลลิเมตร สำหรับผมที่สูง 174 ซม. ถือว่านั่งสบายมากๆฟิลลิ่งตอนที่เคยขี่ 795 มันย้อนเวลากลับมาให้หวนนึกถึงอีกครั้งทันทีครับ ผมเซ็ทกระจกมุมมองต่าง ๆ ให้พร้อม แล้วเราก็พร้อมขับขี่แล้วครับ

 

 

ออกตัวกันดีกว่า !!

ผมเริ่มเปิดคันเร่งช้า ๆ ขี่ออกตัวลงเนินจากด้านในศูนย์ดูคาติ วิภาวดีออกมา ตีโค้งซ้ายออกมาหน้าศูนย์ครับ ลองเบรคดูบ้างเล็กน้อย เพื่อให้ชินกับระยะเบรคมากขึ้นป้องกันอาการเหวอจากระยะเบรกที่ไม่เท่ากันในแต่ละคัน .. ความรู้สึกแรกที่รู้สึกได้ และแปลกใจมาก นั่นคือ “ความนุ่ม” ครับ ทุกครั้งที่เปิดคันเร่งออกไป รถไม่ได้กระชากกระแทกกระทั้นจนเราจะหน้าหงาย กลับกัน มันเปลี่ยนเป็นฟิลลิ่งที่สมูท นุ่มนวล แต่ค่อย ๆ แรงขึ้นเรื่อยๆ จนผมต้องผ่อนคันเร่งลง ซึ่งฟิลลิ่งแบบนี้ บอกเลยว่าในรถ ดูคาติ สแครมเบลอ ไม่สามารถทำได้ครับถ้าคันนั้นนี่ เปิดแรงไปนิดเดียวก็หน้าหงายแล้วครับ ต้องระวังในการบิดข้อมือขวามากๆ (แม้แรงปลายจะหายไปก็ตาม)

ก่อนหน้าที่จะได้ลองขี่เทสหลายท่านได้บอกผมกับผมไว้ว่า รถคันนี้มัน “เป็นมิตร” กับผู้ขับขี่ ณ.วันนี้ที่ผมมาทดลองขี่เอง เข้าใจความหมายแล้วครับ คือ มันเป็นมิตรมาก ทำให้การขับขี่ในเมืองมีความมั่นคง มั่นใจเร่งแซงได้ดั่งใจ แต่ไม่กระชากจนต้องเครียดหรือมีสมาธิกับคันเร่งตลอดเวลา

การเร่งความเร็วในทางตรง !!

หลังจากผมขี่กลับรถใต้สะพานข้ามแยกสุทธิสาร ก็ถึงเวลาได้ลองเปิดคันเร่งเต็ม ๆ กันละครับ ข้างหน้าโล่ง ๆ ด้วย (ต้องขออภัยผู้ร่วมทางท่านอื่นครับ) ผมเปิดคันเร่งจากเกียร์ 1 พอรอบสูงก็บีบครัชงัดเกียร์เข้าเกียร์ 2 และ 3 ตามลำดับ (ได้แค่ 3 เกียร์) รถให้การตอบสนองติดมือดีครับ แม้จะไม่ได้แรงหงายเงิบ แต่มีกำลังส่งต่อเนื่องมาตลอด ตอนที่งัดเกียร์ 3 ผมลองบิดสุดไปเลยตอนปล่อยครัชเสร็จไปแล้ว มือบิดสุดแล้ว เครื่องก็เร่งตามติดแรงบิดที่มือไปครับ ไม่ถึงกับเท่า สแครมเบลอ แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือ ความสมูทต่อเนื่อง

เมื่อลองโยกหลบรถ ซ้าย- ขวา !!

หลังจากวนรอบแรกไปที่เรียบร้อย มาถึงหน้าศูนย์ดูคาติ วิภาวดี .. อีกรอบเถอะครับ ! ขอลองบาลานซ์รถกันบ้าง ^^ โดยคราวนี้ผมลองขี่โยกมุดไปมา ในรูปแบบสลาลอม ฟิลลิ่งที่ได้ขอบอกว่า เป็นรถที่ทำให้เราสนุก และมีความสุขได้ทุกจังหวะการขับขี่จริงๆครับ ผมเปิดคันเร่งโยกหลบรถไปมาซ้ายขวา สิ่งที่ได้นอกจากความหล่อของรถที่สายตาหลายคู่จับจ้องแล้วนั่นคือมันโยกง่ายครับ บาลานซ์รถ และท่านั่งทำออกมาได้ดีมาก ผู้ขับขี่ไม่เมื่อยและถ่ายเทน้ำหนักเข้าโค้งต่าง ๆ สบายสุดๆครับ

ผมเข้าใจว่าดูคาติ คงต้องการออกแบบรถรุ่นนี้ให้ออกมาในลักษณะนี้ คือ ขี่ง่าย ขี่ได้ทุกวัน เหมาะกับทั้งมือใหม่ที่อยากมีรถดูคาติไว้ในครอบครองแต่ไม่ชอบทรงรถสแครมเบลอ รวมถึงมือเก่าที่มีดูคาติในครอบครองอยู่แล้วและอยากหารถดูคาติอีกสักคันเป็นรถอีกคาแรคเตอร์ คือขับขี่ง่าย ไว้ใช้ในเมือง ขี่ไปทำงาน ไปกินกาแฟ รึหาอาหารทานในเมืองยามค่ำคืนดูคาติ มอนสเตอร์ 797 ก็ดูจะเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่เหมาะมากๆครับ

 

 

ต้องขอกล่าวไว้เบื้องต้นก่อนว่าในการเทสรถครั้งนี้ ผมเองแค่ลองในระยะทางสั้น ๆ ยังไม่ได้เทสการสิ้นเปลืองน้ำมัน และการขับขี่ทางไกลอย่างจริงจัง ก็หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ อีกหลายท่านที่กำลังสนใจรถดูคาติรุ่นนี้ ได้ใช้อ่านประกอบการตัดสินใจกันนะครับ

อ้อ .. หลายท่านถามมาว่า ดูคาติ มอนสเตอร์ 821 ตอนนี้ ยังมีขายอยู่ไหม ขอตอบว่า ตอนนี้ศูนย์ในไทย ไม่มี มอนสเตอร์ 821 ขายแล้วนะครับ

**ค่าบำรุงรักษาปรับราคาใหม่ ฟินกว่าเดิมเยอะ

สรุป .. รถคันนี้ เป็นรถอีกรุ่นที่ออกแบบมาโดดเด่นมีคาแรคเตอร์เป็นของตัวเองอย่างชัดเจน นั่นคือ ไม่ใช่รถสไตล์ดิบ ๆ แรงๆ หงายเงิบ แต่กลับเป็นรถที่สมูท เป็นมิตรกับผู้ขับขี่อย่างมากผมแค่อยากให้ทุกท่านที่สนใจรถรุ่นนี้ ได้ลองอ่านบทความนี้ และลองขับขี่คันจริงประกอบการตัดสินใจครับ เหนือสิ่งอื่นใด รถคันนี้ ดูคาติ มอนสเตอร์ ซึ่งสานต่อตำนานมอนสเตอร์กว่า 20 ปีผมว่าใครก็ตามที่ได้มีมันไว้ในครอบครอง โครตน่าภูมิใจครับ

เพิ่มเติมอีกนิด ขณะนี้มีกรุ๊ปไลน์ สำหรับผู้ใช้ Ducati Monster 797 ด้วยนะครับ ขอเชิญทุกท่านที่ใช้รถรุ่นนี้มาเข้ากรุ๊ปไลน์เพื่อปรึกษาปัญหา และของแต่งต่าง ๆกันนะครับ
แอดไลน์ผมมาครับ ID LINE : diavel1200

ขอบคุณที่อ่านบทความมาถึงจุดนี้ครับ คอมเม้นอะไรก็ได้เป็นกำลังใจให้ผู้เขียนกันได้นะครับ ขอบคุณมากๆครับ

 

ราคา DUCATI MONSTER 797
Monster 797 Red 409,900
Monster 797 White 419,900
Monster 797 Dark 419,900

Tested: Ducati Monster 797
Engine:
Air-cooled 803cc Desmodue four-valve

Power: 75hp at 8,250rpm

Torque: 50.8lb/ft at5,750rpm

Chassis: Tubular steel trellis

Suspension: Front – 43mm non-adjustable USD Kayaba fork / Rear – Preload-adjustable Sachs shocck

Brakes: Front – Two four-piston Brembo M4.32 calipers and 320mm semi-floating discs / Rear – Single-piston caliper and 245mm disc

Tyres: Pirelli Rosso II (120/70 ZR17 front, 180/55 ZR17 rear)

Weight: 193kg (wet, with fuel)

Fuel capacity: 16.5 litres

Seat height: 805mm

Colours: ‘Star White Silk’, ‘Dark Stealth’, ‘Ducati Red’

 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *