แชม์ป3สมัยอย่าง ฮอเก้ โลเลนโซ่ นั้นมี “สัญชาตญานการขับขี่” น้อยกว่า เคซี่ สโตนเนอร์

ด้วยความที่กาบารินี่ ทีมวิศวะกรของดูคาติได้ทำงานร่วมเคียงบ่าเคียงไหล่กับสโตนเนอร์ในช่วงเวลาที่เค้าได้แชมป์โมโตจีพีทั้งสองครั้งนั้นคือ ในปี 2007 กับดูคาติ และในปี 2011 กับฮอนด้า และในปี 2012 หลังการยุติบทบาทในฐานะนักแข่งของสโตนเนอร์ เค้ายังคงทำงานต่ออยู่กับ แจ๊ค มิลเลอร์ ภายใต้ทีม Marc VDS squad ก่อนที่จะกลับมาทำงานให้ทางทีมดูคาติอีกครั้งในปีนี้ เพื่อดูแลโลเลนโซ่โดยเฉพาะ

สำหรับผลงานของโลเลนโซ่ในปี 2017 ที่ผ่านมานั้น หลายท่านคงทราบกันดีว่าเค้าเริ่มต้นฤดูกาลได้แย่มาก และเมื่อจบฤดูกาล คะแนนสะสมรั้งอยู่ที่อันดับ 7 โดยไม่เคยชนะเลย และขึ้นโพเดี้ยมเพียงแค่ 3 สนามเท่านั้นซึ่งถือเป็นผลงานที่แย่ที่สุดตั้งแต่เค้าเริ่มขี่ในโมโตจีพีตั้งแต่ปี 2008

“หลาย ๆคนก็บอกผมนะ ว่าทำงานกับโลเลนโซ่ มันจะต้องยากมาก ๆ แน่  แต่มันไม่จริง” กาบารินี่ กล่าว

“ถ้าคุณอธิบายกับเค้าอย่างชัดเจนว่ามันเกิดอะไรขึ้น  เค้าจะตั้งใจฟังเหตุผล และเค้าก็จะตัดสินใจว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย”

“การทำงานระหว่างโลเลนโซ่ กับสโตเนอร์นัน พวกเค้ามีความคล้ายคลึงกันในเรื่องของพรสวรรค์ พวกเค้าทั้งคู่เกิดมาเพื่อขี่รถมอเตอร์ไซค์จริงๆ แต่เค้าต่างกันในเรื่องของบุคลิกและวิธีการมุ่งไปสู่เป้าหมายของการแข่งขัน”

“สโตนเนอร์นั้น เป็นคนที่มีสัญชาติญานการขับขี่  เค้าต้องการแค่โค้งไม่กี่โค้งเพื่อจะทดลองและเข้าใจในบางสิ่ง และไม่ต้องการทดสอบหลายรอบ แต่โลเลนโซ่มีสัญชาติญานตรงนี้น้อยกว่า และเค้าต้องการการฝึกซ้อมมากขึ้นเพื่อเข้าใจมัน”

“โลเลนโซ่นั้น ค่อนข้างแม่นยำ และมีความพิธีพิถัน เค้าจะจับความรู้สึกในการขับขี่ต่าง ๆ ที่ได้รับจากตัวรถกลับมาวิเคราะห์เสมอ”

กาบารินี่ ยังกล่าวเพิ่มอีกว่า การที่โลเลนโซ่ออกสตาร์ทในฤดูกาล 2017 ช้า สร้างแรงกดดันตลอดเวลาภายในพิทดูคาติ

 

 

 

 

“ในบางเวลา ผมรู้สึกถึงแรงกดดันเพราะเรามีโลเลนโซ่อยู่กับเรา และผลการแข่งขันมันยังไม่ดีพอ”

“แต่นั่นก็คือส่วนหนึ่งของงานของเรา และเราต้องพยามทำให้นักแข่งหลุดพ้นจากแรงกดดันดังกล่าวเวลาแข่งขัน”

ที่มา Motorsport.com

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *