“เส้นทางเก่า ในมุมมองใหม่” Heritage Ride สองล้อหมุนตามรอยพ่อ

วันแรกที่ผมได้ทราบข่าวถึงการจัดทริปขับเคลื่อนสองล้อตามรอยโครงการของในหลวงรัชกาลที่ 9 จากทางดูคาติ ไทยแลนด์ ผมได้แต่คิดครับ ว่าทริปนี้เมื่อดูจากพระราชกรณียกิจของพระองค์ที่ผ่านมาแล้วรับรองว่าเส้นทางที่เราไปนั้น เหนื่อยแน่นอน แต่ภายในใจกลับรู้สึกปิติ ที่เราจะได้รับรู้ถึงความเหนื่อยยากของพระองค์ ได้เรียนรู้การทำงาน การวางแผนงานต่าง ๆ ของพระองค์ เพื่อน้อมนำมาใช้ประกอบการดำเนินชีวิตของตนเอง โดยเราจะไปเรียนรู้โครงการส่วนพระองค์ 2 ที่ในทริปนี้ครับ นั่นคือ โครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูสภาพป่าบริเวณป่าสงวนแห่งชาติป่ากุยบุรีอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และโครงการช่างหัวมัน และไปร่วมทำบุญกับทำความดีด้วยการทาสีที่โรงเรียนบ้านพุสวรรค์ ครับ


ทริปนี้ คงไม่ได้มีภาพเพียงแค่ความสนุกในการขับขี่ หากแต่แฝงการทำบุญ การทำความดี และแง่คิดมากมาย ที่เราได้จากการเดินทาง … แก่นของคุณค่าของทริปนี้มันช่างลึกล้ำานักครับ มาติดตามชมกันนะครับ

สามารถติดตามชมรูปทั้งหมดของการเดินทางเกือบ 600 ภาพ ได้ที่ลิ๊งค์นี้นะครับ

ลิ๊งค์ชมรูปทริป Heritage Ride#2

 

เส้นทางที่ปัจจุบันพัฒนาแล้ว ต่างกับเมื่อ 20 ปี ก่อน ที่พ่อหลวงเคยมา

 

เช้าวันนี้ ผมตื่นเช้ากว่าปกติ คือจริง ๆ นอนแทบไม่หลับ(ฮา) เพราะกลัวตื่นไม่ทันครับ เรานัดกันเริ่มต้นที่ศูนย์ดูคาติ วิภาวดี เพื่อออกเดินทางพร้อมกันทุกท่าน เพื่อนๆ ร่วมทริปนี้เรามีกันเกือบ 40 คัน พร้อมสรรพด้วยทีมดูแลขบวนทั้งทีมมาแชล รถตู้เซอร์วิส และรถพยาบาลตามแบบฉบับความปลอดภัยสูงสุด โดยเราจะใช้เส้นทางราชพฤกษ์ กาญจนาภิเษก เพื่อไปออกเส้นพระราม 2 ตรงแสมดำ แน่นอนครับ การจราจรช่วงแรกในเมืองกรุง ถ้าออกสายเมื่อไหร่ รถสะสมเมื่อใด รับรองว่าการคุมขบวนรถขนาดนี้ ยากแน่ครับ เรารีบไปกันดีกว่า

 

รถทุกคันเตรียมพร้อม ส่วนใหญ่จะเป็น Multistrada ครับ

 

แดดยังอ่อน ๆ เช้านี้อากาศดีครับ

 

ทีมงานตรวจเช็ครถลูกค้าเบื้องต้นให้ทุกคัน

 

ล้อ และ ยาง ของ Multistrada Enduro งาม ๆ ครับ

 

ผู้ร่วมเดินทางมากันเกือบครบแล้ว

 

 

กล่าวต้อนรับ สรุปเส้นทาง และการขับขี่เพื่อความปลอดภัยสูงสุด

 

ม.ล.ณัฐสิทธิ์ ดิศกุล กล่าวต้อนรับคณะเดินทาง

 

และแล้วก็ถึงเวลาออกเดินทาง ไปครับเราเดินทางกันดีกว่า

 

และเพื่อให้การควบคุมเวลาเป็นไปได้ด้วยดี ปั๊มแรกที่เราแวะเติมน้ำมันจึงยืดมาไกลมากครับเลยโค้งวังมะนาวไปถึงเมืองเพชรบุรีเลย (ฮา) คือยังเช้าอยู่เลย ตลอดเส้นทางที่ขี่มา อากาศร้อนครับ (ใครว่าพายุเข้า) ออกจะร้อน ๆ หน่อย แต่ยังไงก็ดีกว่าฝนตกนะครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่วันนี้เดี๋ยวเราจะต้องไปทำกิจกรรมปลูกป่าและสร้างโป่งเทียมกัน ถ้าฝนตกนี่ มันคงจะเละสุด ๆ ไปเลยครับ ได้แต่ภาวนาขออย่าให้ฝนตกเลย

มีแต่รถสวย ๆ นะครับวันนี้ ^^

เราแวะรับประทานอาหารกันที่ครัวสุภาพชน ขาประจำของรถทัวร์ที่วิ่งสายได้นะครับ

และแล้วเราก็ขี่ต่อจนมาถึงจุดหมายการเดินทางแรกในทริปนี้ครับ นั่นก็คือ โครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูสภาพป่าบริเวณป่าสงวนแห่งชาติป่ากุยบุรีอันเนื่องมาจากพระราชดำริ  ซึ่งประวัติความเป็นมาที่นี่นั้น ช่างลึกล้ำและแสดงถึงน้ำพระทัยและสายพระเนตรของพระองค์ที่มองการณ์ไกลต้องการให้คน ป่า และสัตว์ป่าอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข ดังนี้ครับ

 

ในปี พ.ศ. ๒๕๔๐ ช้างป่าจำนวน ๒ ตัว เสียชีวิตเพราะได้รับสารพิษจากการทำไร่สับปะรดบริเวณพื้นที่บ้านรวมไทย หมู่ที่ ๗ ตำบลหาดขาม อำเภอกุยบุรี และช้างป่าจำนวน ๑ ตัว ถูกยิงเสียชีวิต และถูกเผาทิ้งด้วยยางรถยนต์บริเวณบ้านพุบอน หมู่ที่ ๘ ตำบลหาดขาม อำเภอกุยบุรี เนื่องจากเข้ามากินสับปะรดที่ราษฎรได้ปลูกไว้ ซึ่งเหตุการณ์ช้างป่าเสียชีวิตทั้ง ๒ กรณีสื่อต่าง ๆ ทั้งวิทยุ โทรทัศน์ และหนังสือพิมพ์ ได้กระจายข่าวออกไปอย่างกว้างขวาง

 

จากกรณีดังกล่าว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำริเมื่อวันที่ ๑๙ มิถุนายน ๒๕๔๐ สรุปได้ว่า

“ให้ดำเนินการอนุรักษ์และฟื้นฟูสภาพป่าบริเวณป่าสงวนแห่งชาติป่ากุยบุรี โดยใช้รูปแบบในการฟื้นฟูเช่นเดียวกับการดำเนินงานของโครงการศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทรายฯ จังหวัดเพชรบุรี และโครงการฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้มฯ จังหวัดราชบุรี”

และนี่คือน้ำพระทัยและการมองการณ์ไกลของพระองค์ ทำให้ทุกวันนี้ป่า สัตว์ป่า และชุมชน ยังสามารถอยู่ร่วมกันได้อยากพึ่งพาอาศัยและดูแลซึ่งกันและกันครับ

พร้อมลุยเข้าป่ากันแล้ว

ช่วงนั่งรถไปทำกิจกรรม ทุกคนยังสนุกอยู่ครับ  ยังครับ ยังไม่รู้ชะตากรรม^^’

เราเริ่มจากการร่วมกันปลูกป่า โดยมีทีมงานเจ้าหน้าที่จากทางโครงการมาให้ความรู้พร้อมสอนขั้นตอนวิธีการปลูกต้นกล้าที่ถูกต้องนะครับ ซึ่งหากปลูกผิดวิธีโอกาสรอดของต้นกล้าจะน้อยมากครับ

เหงื่อเป็นเม็ด ๆ บอกเลย (ฮา)

หลังจากปลูกป่าเสร็จหลายท่านนึกว่าเรียบร้อย จบกิจกรรมแล้ว !! เปล่าครับ เรามาทำโป่งเทียมให้สัตว์ป่ากันต่อ

(หลายคนหอบ 555)

วิทยากรแนะนำทั้งการทำ และการใช้งานของโป่งเทียม ได้ความรู้ใหม่ ๆ มากมายครับ

จากตอนแรกที่เข้ามานั้น แดดออกครับ เวลาคล้อยผ่านไปไม่นาน ฟ้าเริ่มครึ้ม ๆแล้วสิ -_-

หลังจากทำโป่งเทียมเสร็จเพียงไม่นาน ฝนก็ตกครับ เรานึกว่ารถทางเจ้าหน้าที่จะรีบกลับเพื่อไม่ให้เราตากฝนนานเกินไป  แต่เปล่าครับ 555 รถเลี้ยวไปอีกทาง เพื่อไปจุดชมวิว (นั่งตากฝนหลังกระบะ)  แต่สิ่งที่ได้มา คือความสวยงามของสัตว์ป่ากุยบุรี ไม่ว่าจะเป็นช้าง กระทิง หรือ นกเหยี่ยว ที่ออกมาให้เราได้เห็นกับตาสองคู่นี้ เป็นที่น่าตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างมากครับ

 

ขออภัยภาพอาจไม่ค่อยชัดเพราะตอนนั้นฝนตกครับ เลยเก็บกล้องใหญ่ ต้องใช้กล้องมือถือถ่ายแบบซูมครับ ^^’

เราจึงต้องกลับทั้งเปียก ๆ แบบนั้น เพื่อไปเติมน้ำมัน และเข้าที่พักกันนะครับ ^^ จบกิจกรรมสำหรับวันแรก

*************************************************************************************************

อรุณสวัสดิ์เช้าวันที่ 2 ครับ ^-^ เช้าวันนี้อากาศแจ่มใส ดี๊ดีย์ เราทุกคนเก็บกระเป๋าครับ เพราะเย็นนี้เราจะไปพักอีกที่หนึ่ง โดยจุดหมายปลายทางของการเดินทางวันนี้มี 2 สถานที่หลักครับ นั้นคือ  โครงการช่างหัวมัน  และ โรงเรียนบ้านพุสวรรค์

เปิดเช้ามาหลังจากจัดการธุระส่วนตัวเสร็จแล้ว ทีมงานประชุมเตรียมความพร้อม นัดแนะสถานที่ เส้นทางการขับขี่ ระยะทาง และความเร็วครับ เพื่อความปลอดภัย

 

มอนสเตอร์ก็มีนะครับ ^^

แดดแรงมากครับ ตอนไปถึง

 

 

โครงการชั่งหัวมันตามพระราชดำริ 

              ตั้งอยู่ใน อ. ท่ายาง จ. เพชรบุรี เกิดขึ้นจากความเอาพระทัยใส่ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีต่อเกษตรกรในการที่จะพัฒนาส่งเสริมอาชีพเกษตรกรรมให้ ประสบความสำเร็จและสามารถเลี้ยงดูตัวเองและครอบครัวได้อย่าง ยั่งยืน ประวัติที่มาของโครงการนี้ เริ่มตอนที่ตอนพระองค์ท่านประทับอยู่ ณ วังไกลกังวลแล้วมีชาวบ้านนำมันเทศมาถวาย ช่วงนั้นพระองค์ ต้องเสด็จกลับกรุงเทพเลยรับสั่งให้ เจ้าหน้าที่นำหัวมันเทศนั้นไปวางไว้บนตาชั่งในห้องทรงงานจากนั้นก็เสด็จกลับกรุงเทพ เวลาล่วงเป็น เดือน เมื่อเสด็จกลับมาหัวหินทรงพบว่ามันเทศนั้นได้แตกใบ เลยตรัสว่า “มัน อยู่ที่ไหนก็ขึ้น”

ดังนั้นจึงมีพระราชดำริให้จัดหาที่ดิน เพื่อทำโครงการด้านการเกษตร ปี พ.ศ. 2551 ก็ได้ซื้อที่ดินจำนวน 120 ไร่ และต่อมาในกลางปี 2552 ทรงซื้อที่ดินแปลงติดกันเพิ่มอีก ณ บ้านหนองคอไก่ ตำบลเขากระปุก อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี จำนวน 250 ไร่เพื่อพัฒนาเป็นศูนย์รวบรวมพืชเศรษฐกิจนานาชนิด เพื่อเป็นแนวทางให้กับเกษตรกรโดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอท่ายางจังหวัดเพชรบุรี ที่มีพื้นที่ค่อนข้างแห้งแล้ง ทรงพระราชทานพันธุ์มันเทศ ซึ่งงอกออกมาจากหัวมันที่ตั้งโชว์ไว้บนตาชั่งในห้องทรงงานที่วังไกลกังวล ให้นำมาปลูกไว้ที่ที่ดินแปลงนี้พระราชทานชื่อโครงการว่า “โครงการชั่งหัวมัน ตามพระราชดำริ”

โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เสด็จพระราชดำเนินมาเยี่ยมโครงการนี้ด้วยพระองค์เอง มีพระตำหนักทรงงานที่ตั้งอยู่ภายในโครงการเป็นบ้านไม้สองชั้นเรียบง่ายที่ใช้ทรงงานและพักผ่อนพระอิริยาบถเมื่อครั้งเสด็จเยี่ยม โครงการนี้ รวมถึงรถที่ทรงใช้ทรงงานก็จอดอยู่ภายในบริเวณพระตำหนักด้วย

รถสำหรับเยี่ยมชมภายในโครงการ

เนื้อที่ภายในโครงการกว้างไกลตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขา ในพื้นที่แห่งนี้ สภาพเดิมโดยทั่วไปแห้งแล้งเจ้าของเดิมปลูกต้นยูคาลิปตัสตัดไม้ขาย มีแปลงปลูกมะนาวเดิมอยู่ประมาณ 35 ไร่แปลงอ้อยประมาณ 30 ไร่ การพัฒนาพื้นที่ส่วนที่เป็นแปลงยูคาลิปตัสทั้งหมด แต่ปัจจุบันได้ จัดสรรทำการเกษตรเป็นอย่างดี มีทั้งแปลงพืชเศรษฐกิจที่ปลูกหลายชนิด อาทิ สับปะรด มะนาว มะพร้าว รวมทั้งมันเทศ นอกเหนือจาก พืชเศรษฐกิจในพื้นที่ ก็ยังมีการปลูกไม้ผล พืชไร่ และพืชผักต่างๆ อาทิ แก้วมังกร ชมพู่เพชร กล้วย ฟักทอง กะเพรา โหระพา พริก ฯลฯ  มีแปลงปลูกข้าว ทั้งข้าวเจ้าและข้าวเหนียว ปลูกยางพารา โดยทั้งหมดนี้จะเน้นไม่ให้มีการใช้สารเคมี หรือหากต้องใช้ก็ต้องมีในปริมาณ ที่น้อยที่สุด

วัวนมจากโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา ส่งน้ำนมเข้าแปรรูปภายในโรงงาน

ทรงให้นำพันธ์หญ้าแฝกในแต่ละท้องถิ่นมาทดลองปลูก

เรียนรู้เรื่องดินในไทย

กังหันไฟฟ้าพลังงานลม ผลิตไฟฟ้าขาย ให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค โดยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี และบริษัท พระพายเทคโนโลยี จำกัด ร่วมกันออกแบบติดตั้ง กังหันลมและระบบจำหน่ายไฟฟ้าจำนวน 20 ชุด ขนาดกำลังผลิตรวม 50 KW ได้รับการสนับสนุนงบประมาณบางส่วนจากกองทัพบก

หลังจากนั้น เราจะไปชม พระตำหนักของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ได้ทรงเสด็จพระราชดำเนินมาเยี่ยมโครงการนี้ด้วยพระองค์เอง เป็นบ้านไม้สองชั้นเรียบง่ายที่ใช้ทรงงานและพักผ่อนพระอิริยาบถเมื่อครั้งเสด็จเยี่ยม โครงการนี้ รวมถึงรถที่ทรงใช้ทรงงานก็จอดอยู่ภายในบริเวณพระตำหนักด้วย

รูปที่มีทุกบ้าน การได้มาอยู่ใกล้ชิดกับสถานที่ ที่พระองค์เคยมาพำนัก และทรงงานขนาดนี้ ทำให้รู้สึกคิดถึงพระองค์เหลือเกินครับ

หลังจากเราเยี่ยมชมโครงการเสร็จ ก่อนจะไปทำภารกิจถัดไป เราไปแวะทานข้าวกันที่ริมเขื่อนแก่งกระจานกันก่อนนะครับ

ชอบสติ๊กเกอร์นี้เหลือเกิน

ถึงแล้วครับ โรงเรียนบ้านพุสวรรค์ เพชรบุรี  มีน้อง ๆ รอต้อนรับอย่างอบอุ่น^^

สำหรับที่โรงเรียนแห่งนี้ เราจะมาบริจาคทุนการศึกษา และอุปกรณ์การกีฬาให้กับน้องๆ รวมถึงร่วมกันทาสีกำแพงโรงเรียนให้สดใสกันครับ (หลายคนไม่เคยทาสี รับรองว่าสนุกแน่นอน)

l

คนละไม้ คนละมือ

เริ่มจากการผสมหัวเชื้อสีเข้มข้น ให้เจือจางด้วยน้ำ และวางแผนการทาสีอย่างเป็นขั้นตอนครับ

พร้อมแล้วก็ลุยกันเล้ยยย!!

งานนี้ไม่ได้มากันเล่น ๆ นะครับ ผมเองอยู่หลังเลนส์กล้อง ได้มองทุกท่านร่วมมือกันทาสี บอกได้เลยว่าทุกคนมีความตั้งใจจริง ๆ ที่จะทำงานนี้ให้ออกมาได้ดี ให้น้องๆ มีความสุขเวลามาเรียนหนังสือแล้วเห็นรั้วสีสดใส

น้อง ๆ รู้ว่าพี่เหนื่อย(มาก 55) เลยช่วยกันหิ้วน้ำ หิ้วขนมตาล(ของขึ้นชื่อเมืองเพชร) มาบริการถึงที่ครับ

ตอนแรกนึกว่าโรงเรียนหญิงล้วน 555 เห็นมีแต่น้องผู้หญิงครับ

แม้แต่กำแพงที่พัง เราก็เก็บสีให้เรียบร้อย (ฮาๆ)

เพียงไม่นาน (1ชั่วโมงกว่า) ผลงานที่น่าภูมิใจก็ปรากฎเป็นรูปเป็นร่างครับ ใกล้เสร็จแล้ว

ถ่ายรูปร่วมกันสักทีครับ ^^

สีสรรอาจไม่สดใสมาก มองใกล้ๆ อาจไม่ละเอียดไปบ้าง

แต่คุณค่ามันอยู่ที่ว่า ทุกคนทำด้วยใจ อยากมอบให้โรงเรียน และน้อง ๆ จริงๆครับ

สำเร็จภาระกิจทุกอย่างไปด้วยดีครับ กับทริป HERITAGE RIDE #2 จาก Ducati Thailand

ตลอดเส้นทางการขับขี่ออกทริปสองล้อนั้น มีเรื่องราวมากมายให้ค้นหาและเก็บเกี่ยว แม้เส้นทางจะเป็นเส้นทางเดิม แต่วันเวลาผ่านไป ทุกอย่างย่อมมีการเปลี่ยนแปลงเสมอ  เหมือนดั่งเส้นทางออกทริปครั้งนี้ก็เช่นกันครับ แม้ผมเองและหลาย ๆท่านจะเคยได้ขี่ผ่านมาก็หลายครั้งแล้ว  แต่ในครั้งนี้ก็จะเป็นอีกหนึ่งทริปประทับใจ กับทริปที่ยังคงความสนุกสนาม ความเป็นเพื่อนพี่น้องดูแลพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน กับมิตรภาพทั้งใหม่และเก่าที่ยังหยิบยื่นให้กันเสมอ  สิ่งที่เพิ่มเติมจากเดิมคือ “คุณค่า” คุณค่าจากการได้เรียนรู้ ได้พัฒนาความคิดของตนเอง และแบ่งปันโอกาสต่าง ๆ ให้กับสังคม นอกเหนือจากแค่ความสนุก ถือเป็นอีกหนึ่งความประทับใจที่ไม่รู้ลืมจริง ๆ ครับ

ขอบคุณผู้ร่วมเดินทางทุกท่านที่ร่วมกันทำกิจกรรมและขับขี่ดูแลซึ่งกันและกัน

ขอบคุณทีมงานดูคาติ ไทยแลนด์ ที่คอยดูแลผู้ร่วมทริปเป็นอย่างดี

จนกว่าจะพบกันใหม่ ทริปหน้า  สวัสดีครับ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *