ตัวเล็ก สเปคเทพ! New Ducati Monster 937

Ducati Monster !! ชื่อนี้ ผมเชื่อว่า ใครที่รู้จักรถแบรนด์ Ducati ย่อมต้องรู้จัก รถรุ่น Ducati Monster แน่ๆ  เพราะสำหรับผม  Ducati Monster เป็นรถที่เข้าถึงง่าย และเป็นที่นิยมทั่วโลก ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1993 ไม่เว้นแม้กระทั่งในประเทศไทยเอง   โดยสร้างสถิติผลิตและจำหน่ายสู่ท้องตลาดไปแล้ว 350,000 คัน ทั่วโลก…

ย้อนกลับไป เมื่อ8 ปีที่แล้ว สมัยแบรนด์ Ducati พึ่งมาตั้งโรงงานประกอบรถจักรยานยนต์ในประเทศไทย เจ้าDucati Monster นี่แหละ เป็นรถเรือธง รุ่นแรกที่ประกอบในประเทศเรา  และแน่นอนว่า ในช่วงเวลานั้น  ยอดจอง ยอดขาย ถล่อทลายมากๆ  ตัวผมเอง ยังพยายามจองให้ได้คันแรกๆในไทย และไปเกาะรั้วที่ศูนย์ ดูคาติ ทองหล่อ เพื่อจะได้จองรถไวๆเช่นกัน  สมัยนั้น ใครที่ได้ขี่ดูคาติ จะรู้สึกภูมิใจเป็นอย่างมากครับ บอกเลยว่า ติดไฟแดงทีไร มีแต่คนมาทัก จอดที่ไหนก็มีแต่คนมาขอถ่ายรูปนะครับ

 

แม้วันนี้ เรื่องราวของดูคาติ มอนสเตอร์จะผ่านมาหลายรุ่น  ในไทยเอง ก็มีการปรับเปลี่ยนมากมาย ตั้งแต่ รุ่นฮิตในตำนานอย่าง Ducati Monster795  ไปตัว โปรอาร์ม อย่าง Ducati Monster 796  และปรับเปลี่ยนสู่ยุคใหม่ กับเครื่องและระบบเซ็นเซอร์ที่มากขึ้นไปกับ Ducati Monster 821 และหลังจากนั้น ทางดูคาติ ก็กลับมาผลิต Ducati Monster แบบ New Biker ไปกับรุ่น Ducati Monster 797 แต่สำหรับผมแล้วมันยังไม่ปังครับ ตัวรถยังไม่แตกต่างไปจากเดิม จึงไม่น่าแปลกใจที่ยอดขายออกมาจะไม่ค่อยเข้าตาสักเท่าไหร่

 

แต่แล้ว หลังจากรอมาสักพักใหญ่   ณ.วันนี้   กับการเปิดตัวรถใหม่ เจ้า Ducati Monster 937 นั้น .. ผมว่า มันเป็นการปรับลุค และเปลี่ยนความคิดเดิม ๆ แบบ แหกกฎสุดๆครับ เป็นอย่างไร มาดูกันเล้ยยยย….

เริ่มอย่างแรก แน่นอนครับ มันคงเป็นเรื่องของ เฟรมรถ ที่เดิมคาแรคเตอร์ของดูคาติ ต้องเป็นเฟรมถัก  มาวันนี้ มันถูกถอดออกไป  เรื่องนี้ ถือเป็นย่างก้าวที่สำคัญมากของดูคาติ กับทีมออกแบบ ที่กล้าทิ้งตัวตนบางอย่างที่เคยเป็นคาแรคเตอร์ของตัวเอง  เพื่ออนาคต ที่จะสามารถแข่งขันกับรถค่ายอื่นได้   นี่เป็นความกล้าหาญ และท้าทายมากนะครับ ที่ถอดเฟรมถักออกไป   ดังเช่น Panigale V4 นั่นคือ เฟรมรถเปลี่ยนเป็นเฟรมอลูมิเนียมอัลลอยด์ ขนาดกระทัดรัก เกาะหน้าเครื่องยนต์  ทำให้น้ำหนักลดลง 4.5 กิโลกรัม และ ยังรีดน้ำหนักในส่วนของเปลท้าย โดยไม่ได้ใช้อลูมิเนียมอัลลอยด์เหมือนรถค่ายอื่นๆ แต่เลือกที่จะใส่สิ่งที่เบากว่านั่นคือ GFRP (Glass Fiber Reinforced Polymer) สิ่งที่ได้กลับมา คือ พื้นที่ที่มากขึ้น และน้ำหนักตัวที่ลดลง เหลือ 166 กิโลกรัม ลดลงจาก Ducati Monster 821 ถึง 18 กิโลกรัม

เฟรมหน้าแบบใหม่ อลูมิเนียมอัลลอยด์
แพท้าย น้ำหนักเบาหวิว

สำหรับดีไซน์ของรถนั้น จะมีความผสมกัน ระหว่างดูคาติมอนสเตอร์ในยุคก่อนหน้า กับความโมเดิร์นในแบบฉบับของปัจจุบัน  ส่วนความรู้สึกในการขับขี่โดยรวมผมว่า มันเป็นการผสมผสาน ฟิลลิ่งของการขับขี่ Ducati Monster กับ Ducati Street Fighter ตัวเก่า สมัยปี 2013 ร่วมกันครับ   อารมณ์เวลาเราขับขี่ จะรู้สึกเหมือนเกาะไปกับรถ และด้วยความแรงระดับ 937cc แน่นอนว่า ถ้าเผลอตัวไป ไม่เกร็งตัวเกร็งแขนไว้ รับรองครับ ว่ามีหงายเงิบกันไปแน่นอน

และอีกส่วนที่สุดจะเด่น ไม่กล่าวถึงไม่ได้เลย นั่นก็คือ ไฟหน้า LED ครับ โดยดูคาติเค้าบอกว่า เป็นแบบ LED Daytime Time Running Light (DRL) system. ผมว่าก็สวยดีนะครับ กลางวัน เราไม่ต้องเปิดไฟหน้าด้วย เปิดแค่ไฟวงแหวน LED ก็พอ ส่วนถ้าเข้าที่มืด หรือตกเย็นที่แสงเริ่มน้อย เราสามารถตั้งระบบออโต้ให้ไฟหน้าทำงานได้ครับ แจ่มไปเลย

สำหรับเครื่องยนต์ของ Ducati Monster 937นั้น ใช้ เครื่องยนต์ Testastretta 11° ขนาด 937 ซีซี 4 วาล์ว 2 สูบ มาตรฐาน Euro5 ระบบเกียร์ 6 สปีด ระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ เครื่องยนต์ให้พละกำลังสูงสุดที่ 111 แรงม้า (ที่ 9,250 รอบ/นาที) มีแรงบิดสูงสุดที่ 93 นิวตันเมตร (ที่ 6,500 รอบ/นาที) ขณะที่ความกว้างของกระบอกสูบ x ช่วงชัก อยู่ที่ 94 มิลลิเมตร x 67.9 มิลลิเมตร มีอัตราส่วนกำลังแรงอัดที่ 13.3:1

ส่วนการ Maintanant เครื่องยนต์นั้น ดูคาติ แจ้งไว้ว่า เปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุกๆ 15,000 กิโลเมตร และตั้งวาว์ลทุกๆ 30,000 กิโลเมตร วิ่งกันยาวๆไม่เหมือนรถรุ่นก่อนๆแล้วนะครับ

ความรู้สึกผมเอง หลังได้ทำการทำสอบความแรงของเครื่องยนต์ พูดได้ว่า  มันนิ่ง และแรง แบบไว้ใจได้ครับ  ด้วยน้ำหนักตัวที่เบา ทำให้เมื่อเราเล่นรอบเครื่องสักหน่อย รถจะพุ่งออกไปแบบติดมือเลยที่เดียว ประสานกับการทำงานของ Quick Shifter แบบทั้งแบบ Up และ Down ที่ทำงานได้ดีกว่าเก่าอีก 20% ทำให้การออกตัว การเร่งต่างๆ สมูทและสนุกขึ้นมากครับ

อีกเรื่องที่อยากจะกล่าวถึงมากๆนั่นคือ เรื่องของความสูงของเบาะที่ดูคาติแจ้งไว้ว่า 820 mm ก็จริง   แต่ด้วยการออกแบบช่วงเบาะที่แคบ ทำให้ขาไม่ต้องกางออกมาก ส่งผลให้ผมเอง ซึ่งสูง 174cm สามารถวางเท้าได้เต็มส้นเท้าทั้งสองข้าง แบบเหลือๆนิดหน่อย  ซึ่งถือว่า เหมาะกับคนเอเชียมากๆครับ

และยังมีการปรับตัวแฮนด์ให้หักเลี้ยวได้มากขึ้นเพื่อความคล่องตัวในการขับขี่ในเมืองเพิ่มขึ้นจากเดิม เป็น 36องศา (ซึ่งมากกว่า Ducati Monster 821 +7 องศา) และตัวแฮนด์บาร์ก็ปรับเข้าหาตัวผู้ขับขี่อีก 7cm เพื่อให้การขับขี่ในเมืองคล่องตัวสุดๆครับ  ซึ่งจากการลองมุดไปมาในเมืองในช่วงรถติด ผมก็ว่ามันคล่องตัวมากๆ เหมาะใช้ขี่ในเมืองเท่ห์ๆสุดๆครับงานนี้

มาในส่วนเรื่องความร้อนของรถกันบ้าง ตอนขับขี่ปกติ ลมแรงๆ ไม่รู้สึกอะไรนะครับ แต่ถ้าเกิดขี่ในช่วงการจราจรติดขัด พัดลมหม้อน้ำจะทำงาน พัดลมร้อนอัดใส่ขาซ้ายด้านบนพอสมควร แนะนำว่าให้ใส่ขายาวครับ  ทนได้ครับ ไม่ร้อนจัดเหมือนตัวสปอร์ท

และในส่วนของระบบอิเลคทรอนิกที่ให้มากับรถ แน่นอนว่า รุ่นนี้ จัดเต็มจนเกินคุ้มกันไปเลย ไม่ว่าจะเป็น

ABS Cornering คือ ระบบปรับแรงดันน้ำมันเบรคให้เหมาะสม ป้องกันล้อล็อคในขณะเข้าโค้ง
Ducati Traction Control คือ ระบบตัดการทำงานของเครื่องยนต์เพื่อให้ล้อทำงานสัมพันธ์กัน ช่วยเรื่องการทรงตัว ซึ่งระบบจะทำงานในเสี้ยววินาทีเท่านั้น
Wheelie Control คือ ระบบที่ให้เราสามารถออกตัวได้แรงที่สุด โดยที่ล้อหน้ายังไม่ยกนะครับ
Launch Control คือ ระบบออกตัวแนว ๆควอเตอร์ไมล์ครับ ระบบจะล็อครอบให้เราเปิดคันเร่งรอไว้ ก่อนออกตัว สนุกแน่นอน แต่ผมขอไม่เทสนะครับ ฮ่า
Smart Power Mode คือ ระบบที่ให้ผู้ขับขี่สามารถเซ็ตค่าการขับขี่ในระบบต่างๆ ด้วยตัวเองได้นั่นเองครับ

Riding Mode   คือ โหมดการขับขี่ ที่พรีเซ็ทมาให้จากโรงงานเลยครับ ได้แก่ Sport, Touring, Urban
Quickshifter up & down ระบบเปลี่ยนเกียร์ทั้งขึ้นและลง โดยไม่ต้องบีบคลัตช์ สร้างความสะดวกสบายและสนุกกับผู้ขับขี่ กลับมาขี่รถมีคลัตช์แบบเดิมรับรองมีมึนไปแปปนึงครับ ฮ่า

รถคันนี้ ถ้าหากผมจะหาซื้อมาใช้ หรือแนะนำใคร ๆ ก็ตาม ผมคงแนะนำว่า

ถ้าคุณชอบขับขี่รถในเมือง

ถ้าคุณชอบเทคโนโลยีใหม่ๆ ในมอเตอร์ไซค์เยอะๆ

ถ้าคุณออกทริปต่างจังหวัดไม่ค่อยเกิน 200 กิโลเมตร

ถ้าคุณชอบรถที่คล่องตัว แต่ความแรงจัดจ้านสุดๆ

ถ้าคุณชอบความคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป

และที่สำคัญ   ถ้าคุณชอบ แบรนด์รถ DUCATI

กับราคาเริ่มต้นที่ 449,000 บาท   บอกเลยครับ คุ้ม สุดๆแล้ว

ตอนนี้สีออกมาด้วยกัน 2 คือ

DUCATI MONSTER RED ราคา 449,000 บาท
DUCATI MONSTER Aviator Grey ราคา 453, 000 บาท

โดย Ducati จัดแคมเปญพิเศษให้เพิ่มอีกต่างหาก กับดอกเบี้ยพิเศษ 0% นาน 4 ปี ฟรีค่าจดทะเบียน และพ.ร.บ. หรือเลือกผ่อนสบายๆ เพียงเดือนละ 7,016 บาท เท่านั้น

นอกจากนี้ยังมีแบบดาวน์เพียงแค่ 67,350 บาท พร้อมรับประกันตัวรถ 3 ปี ไม่จำกัดระยะทาง และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง ฟรีค่าบำรุงรักษา 2 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร และให้ประกันภัยชั้นหนึ่งฟรี 1 ปี และฟรีค่าจดทะเบียนและ พ.ร.บ.

ใครสนใจ นัดหมายทดลองขับ New Monster 937 ผ่านช่องทางออนไลน์ที่ Line Official : @Ducatithailand หรือโทร.นัดหมายได้ที่ตัวแทนจำหน่ายดูคาติทั่วประเทศ.

ขอบคุณ ดูคาติ ไทยแลนด์ ด้วยนะครับ ที่ให้รถมาทดสอบเต็มที่เลยครับ ^^

 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *