จริงๆก็มีอีกหลายๆปัญหาที่ยังเป็นที่สงสัยกันอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความร้อน ขาตั้ง ซื้ออะไหล่ผิด หรือเคลมประกันช้า(มว๊าก) ทางออกก็ยังไม่มี หรืออาจจะมีแต่ยังไม่เห็น
แต่สำหรับเรา เราเชื่อว่าคนมีชีวิตจิตใจ ไม่ได้เพอร์เฟคไปซะทุกอย่างตามที่เค้าพูดกัน "nobody's perfect"
รถก็เช่นกัน อาจไม่สมบูรณ์แบบตามที่เราต้องการ เพียงแต่จุดที่เป็นข้อด้อยนั้น เรารับได้มากน้อยแค่ไหน ถ้าเรารับไม่ได้ ก็ไม่ต้องนำเค้าเข้ามาในชีวิต แต่ถ้ารับได้ เราก็จะมีเพื่อนใหม่เพิ่มอีกหนึ่งคัน
เรากำลังหารถที่ดีที่สุด แล้วเราล่ะค่ะ เราเป็นคนขี่ที่ดีที่สุดแล้วหรือยัง ในขณะที่เราขับขี่เรารับผิดชอบต่อตัวเองและสังคมแล้วใช่ไหม ฝากพิจารณาเรื่องนี้ควบคู่กันไปด้วยนะคะเพื่อนๆ
ครับ ผมเห็นด้วยกับความคิดเห็นนี้ครับ ถ้าประเด็นเล็กๆ ไม่อันตราย ผมคงมองข้ามไปนานแล้วครับ แต่ประเด็นต้มถังน้ำมันเดือดๆ ผมว่าไม่ใช่เรื่องเล่นๆครับ ถามผมว่าความสมบูรณ์แบบคืออะไร ผมก็เรียนตรงๆ ว่าผมไม่ทราบครับ เพียงแต่ผมคำนึงถึงความรับผิดชอบของศูนย์บริการ ต่อการแก้ไขปัญหาดังกล่าวครับ เท่าที่ผมทราบ ทุกอย่างล่าช้า เพราะอะไรลองเดาดูสิครับ ข้อคำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตผู้ขี่ หรือ ชื่อเสียงบริษัท อันไหนมาก่อนครับ ดูจากการตอบสนองแล้วลองคิดดูครับ
บริษัทถึงจะอ้างว่าทราบเรื่องดังกล่าว แล้วกำลังหาทางออกอยู่ ผมเข้าใจครับว่าทุกอย่างคงต้องใช้เวลา แต่ลองคิดในมุมกลับดูสิครับ ว่าบริษัทแจ้งเตือน หรือมีมาตรการอะไรออกมาบ้าง ได้แต่ปิดเงียบ แล้วลุ้นกันต่อ
ลองนึกดูครับ ถ้ามันเกิดระเบิด ไฟลุกท่วม มีคนบาดเจ็บล้มตาย บริษัทจ่ายค่าทำขวัญให้ญาติพี่น้องอย่างสุดคุ้ม อยากระรอลุ้นหรือเปล่าละครับ
ทุกวันนี้ ผมเชื่อว่าบริษัท ไม่มีข้อมูลอะไรเลย ผมไปกระทุ้งอยู่สองชั่วโมงกว่า ข้อสรุปที่ได้คือ ปัญหาทักษะ ของผู้ขับขี่ คือปัญหาที่เขาเชื่อกันครับ
ผมออกมาบ้าๆแบบนี้ ผลที่อยากได้คือ ความปลอดภัย ความมั่นใจของผู้ใช้ และ ดูคาติที่ท่านขี่จะได้ไม่ก่อให้เกิดปัญหาต่อไปครับ
ถามผมว่า สี่แสนเกือบห้าแสนที่จะต้องจ่ายให้กับรถคันนี้ เราคิดว่ามันควรจะมีอะไรบ้าง ที่ทำให้มันสมราคาค่าตัวของมันครับ
ทางเศรษฐศาสตร์เราเรียกว่า ความเต็มใจที่จะจ่าย(wtp) เทียบกับเงินที่จ่ายจริง ถ้าอันแรกสูงกว่าอันหลัง ผู้ซื้อมีความสุขครับ
เดี๋ยวมาอัพเดทต่อครับ ศูนย์โทรมาแล้วครับ