มันส์ สุด มาก !! กับงาน World Ducati Week 2016 ครับ

[WEBMASTER(กอล์ฟฟี่)]

ถ้าหากเพื่อน ๆ ลองจินตนาการถึงงาน World Ducati Week ที่ซึ่งเป็นที่รวมตัวของสาวกพันธุ์แท้ แบรนด์ดูคาติแล้ว เพื่อนๆ คาดหวังว่าจะเจออะไรภายในงานกันบ้างครับ ..

ตัวผมเอง ก่อนหน้าที่จะตัดสินใจเดินทางไปร่วมงานในครั้งนี้ ได้รู้จักงานนี้มาเมื่อ 2 -3 ปีก่อนแล้ว ก็คิดครับ  ว่าคงเป็นที่รวมตัวของคนที่มีใจรักดูคาติ รักรถดูคาติ คงเจอรถดูคาติมากมาย หลายรุ่นให้ได้ดู มีโชว์การแสดงต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสตั้น การขี่แดร็ก ดริฟ และมีสาวๆ มาล้างรถมอเตอร์ไซค์

แต่ผมคิดผิดครับ .. นั่นเป็นแค่ส่วนปลีกย่อย ที่ไม่ได้มีความสำคัญเท่าไหร่ เมื่อเทียบกับสิ่งยิ่งใหญ่กว่าที่ผมสัมผัสได้จริง ๆ โดยที่ไม่สามารถถ่ายภาพมาได้

สิ่งที่ผมบอก มันจะเกิดขึ้นเมื่อคนเราทุกคน มีมุมมองหรือความุ่งหมายไปในทิศทางเดียวกันทั้งหมด โดยไม่มีเรื่องเชื้อชาติ หรือสีผิวเข้ามาเกี่ยวข้อง คล้าย ๆ กับตอนมีมนุษย์ต่างดาวบุกโลกแล้วทุกคนรวมใจเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันนั่นละครับ หากนั่นเรียกว่าความสามัคคีของมนุษยชาติ  ..  สถานที่แห่งนี้ ก็เปรียบเหมือนความสามัคคีไร้พรหมแดน ของดูคาติชาติ เช่นเดียวกันครับ

ขออนุญาติชี้แจงเรื่องภาพนิดนึงครับ ว่า .. ภาพในทริปนี้ทั้งหมด ถ่ายโดยกล้องหลัง จาก มือถือ Samsung Galaxy S7 edge นะครับ  ต้องขอขอบคูณ Samgsung ไว้ด้วยนะครับ ที่ให้มือถือไปได้ลองถ่ายรูปกันเต็มที่เลยครับ งานนี้   ใครที่สนใจซื้อมือถือ Galaxy S7 edge แล้วสนใจภาพจากกล้องอยู่ บอกได้เลยครับว่า ดูกระทู้นี้ เต็มอิ่มแน่นอน  รูปทุกรูปมาจากมือถือตัวเดียวกันหมดครับ นั่นคือ ตัวข้างล่างนี้ครับ    

เพื่อนๆ  ร่วมทริปประทับใจภาพจากกล้องนี้มากครับ บอกเลย



ถ่ายใน Gate ที่สนามบิน ตอนกลางคืน มืด ๆ ก็ยังสว่างขึ้นมาได้ครับ



ลองติ ชม กันดูนะครับ 



สีสด ๆ   

[WEBMASTER(กอล์ฟฟี่)]

ต้องขอบอกก่อนว่า การรีวิวนี้ ไม่ได้มีแต่ภายในงาน WDW2016 นะครับ แต่กอล์ฟจะขอรีวิวการท่องเที่ยวอิตาลี ตามที่โปรแกรมทัวร์จัดไปด้วยทั้งหมดครับ เพราะถ่ายรูปมาเยอะเลย ก็รับชมกันไปเพลิน ๆ นะครับ เพราะตั้งใจรีวิวจริงๆครับ  ใครที่ไม่สนใจก็สามารถกดข้ามไปดูเฉพาะภายในงาน WDW ได้นะครับ ส่วนคลิปวิดีโอ จะถ่ายมาเฉพาะช่วงเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์และบรรยากาศภายในงาน WDW ครับ  รับรองว่าสนุกสุดๆแน่นอน

วันเริ่มต้น

เราเริ่มต้นการเดินทาง ที่สนามบินสุวรรณครับ  ปีนี้ ก็จะบินกันยาว ๆ อีกแล้ว หลังจากปีที่แล้วกอล์ฟเองได้เคยลุยเดี่ยว ไปขี่ดูคาติ ที่โบโลญญ่ามาแล้วนะครับ ปีนี้สบายหน่อย มีเพื่อนๆ และมีไกด์ คอยดูแลตลอดการเดินทาง คาดว่า อะไร ๆ ก็คงง่ายขึ้นเยอะครับ

ภาพที่คุ้นเคยทุกครั้งที่จะบินออกนอกประเทศ คงหนีไม่พ้น 





ระหว่างรอขึ้นเครื่องในเกต เรามาเริ่มต้นกันด้วยของแจกจากคณะทัวร์ก่อนครับ มีกำหนดการณ์ด้วย





ที่สำคัญคือ มีนี่ครับ  ผังสนามที่มิซาโน่  อันนี้สำคัญเลยๆ



หลังจากนั่ง ๆ นอน ๆ ดูทีวี ดูหนัง บนเครื่องมา 12 ชั่วโมงเศษ เราก็มาเปลี่ยนเครื่องกันก่อนครับ ที่ เวียนนา ออสเตรีย นั่นเอง (แหม อยากไปเยี่ยมบ้าน KTM)



พระอาทิตย์ยามเช้า ของที่นี่ครับ (แต่ยัง งง ๆ กับ เจ็ทแล็ก เวลาไทยนิดหนอ่ย)



เนื่องจากต้องรอเปลี่ยนเครื่องสามชั่วโมง  เรามาดูอาหารเช้าที่นี่กันครับ เป็นอาหารภายในสนามบิน เลยราคาค่อนข้างสูง





ไข่เจียวทรงเครื่อง หนมปัง กับเบคอน แล้วก็น้ำเปล่าขวดนึง โดนไป 520 บาทไทยคับ  (ไม่น่าหิวเล้ย) ตอนนั้น คิดถึง กระเพราะไก่ ไข่ดาวกรอบ ๆ ขึ้นมาทันใดครับ











อันนี้น่าจะไข่ลวก แต่ไม่รู้จะสั่งยังไง 555 



ไปครับ เราไปกันต่อ  ที่หมายถัดไป คือ โบโลญ่า อิตาลี แล้วครับ



น้ำเปล่าที่นี่ ไม่มีขวดไหน ต่ำกว่า 1 ยูโร(40บาท)  คิดถึงน้ำเปล่าที่เซเว่น แปปนึงคับ



ตอนนี้ ถึงสนามบินที่โบโลญ่าแล้วครับ เหลือบมาเห็นคันนี้ ขอเก็บภาพไว้หน่อย รถในอนาคตของผมเอง (ว่าไปเรื่อย)



บรรยากาศบนรถทัวร์ครับ  มีผู้ร่วมคณะมาทั้งหมด 15 คน กับรถทัวร์ขนาด 60 ที่นั่ง  ชิลสิครับ นอนเอกเขนกเลย



มาแวะทานอาหารมื้อแรกแปปครับ เป็นสเต็ก  ดีว่าพี่ไกด์เตรียมซอส แก้เลี่ยนติดไม้ติดมือมาจากประเทศไทย นั่นก็คือ... 



หลังจากทานอาหารเสร็จ โปรแกรมวันนี้ คือการเดินในโรงงานดูคาติ และพิพิธภัณฑ์นะครับ   แต่ก่อนอื่น  เราขอนอกโปรแกรมนิดนึง คือเราจะไปแวะที่ Ducati Outlet ซึ่งตั้งอยู่ไม่ห่างกับโรงงาน กันก่อนคร้าบ ไปดูว่ามี Riding Gear อะไรน่าสนใจกันบ้าง



นอกจาก Outlet แล้ว ยังมี Cafe และร้าน Scrambler ให้ได้แวะชิม แวะชมสินค้ากันด้วยครับ





อื้มหืมมมม ที่จอดหน้า Cafe Scrambler นั่นมัน ...



สวิงอาร์มนี้ ท่านได้แต่ใดมา







สวยงาม ดูสนุก ดุดัน หลากหลายอารมณ์ดีครับ







จับโช๊คแล้วเท่ห์มาก





คอท่อ งาม



ท้ายละเอียดๆ

[WEBMASTER(กอล์ฟฟี่)]

ตัดมาชมที่ Scrambler Cafe กันบ้างนะครับ 



ร้านนี้ ถึงจะดูโล่ง ๆ แต่ก็มีของครบครับ ครบหมดเลย ทั้ง Riding Gears และ เสื้อยืด หมวกแก็ป ของจุกจิกต่าง ๆ โลโก้ Scrambler ครับ ใครที่หาสะสมอยู่น่าจะชอบมากๆ





ทุกอย่าง ดูมีเรื่องราวในตัวเองครับ





อันนี้อยากได้สักอัน



เสื้อสวย ๆ ครับ



ขึ้นมาดูชั้น 2 กันบ้าง



รูปที่เห็นนี้ หลายรูปถ่ายที่ประเทศไทย นะครับนี่ (ผมจำได้)









ชั้นบนจัดเป็นโซนพักผ่อนครับ และก็แฝงความสนุกสนานให้สมกับ คาแรคเตอร์ของรถครับ







ออกจาก Shop Scrambler แล้ว เราไปลุย Ducati Outlet กันดีกว่าครับ



ที่นี่ เรียกว่า ครบสุดๆ และเยอะมากๆ ครับ สำหรับ ชุดขี่ และอุปกรณ์ต่าง ๆ แถมราคายังสุดพิเศษ ลดได้อีก 30% จากราคาป้ายแหนะครับ คือ ถูกกว่าที่ไทยพอสมควรครับ ใครมีโอกาสต้องมาแวะกันให้ได้นะครับ มาชมภาพกัน





หลากหลาย และ New Collection ก็มีครับ





่Racing Suit ก็มี





รองเท้า ก็มา







รถก็มีจอดเป็นพร้อพ โชว์ทุกรุ่นคับ





แอบสนใจ โบรชัวร์ 555



งานมิตติ้งบ้านเค้า มีแฮนด์บริวด้วยครับ



ระหว่างที่เราเลือกสินค้า ก็มีฝรั่งมากมาย แวะมาเยี่ยมเยียนครับ แน่นอน ว่าเค้าขี่มาร่วมงาน WDW นั่นเอง



ช้อปเสร็จแล้ว เราก็เตรียมไปโรงงานกันต่อครับ



บรรยากาศ ด้านหลัง Outlet คับ นั่งบนรถทัวร์เห็นว่างามเหลือเกิน เลยถ่ายเก็บไว้ครับ

[WEBMASTER(กอล์ฟฟี่)]

และแล้ว เพียง 3 นาที เราก็มาถึงหน้าโรงงาน ดูคาติ แล้วครับ  อีกจุดหมายหนึ่งที่สาวกดูคาติจากทั่วโลก ต่างไม่พลาดที่จะมาเข้าชมโรงงานผลิตซักครั้งในชีวิต รวมถึงเดินเที่ยวพิพิธภัณฑ์ด้วยครับ



ดูจากภาพจะเห็นครับ ว่ามีคนมาเยอะมากๆ



แต่เนื่องจากคณะเรา นั่งรถทัวร์มา จึงต้องขับเลยหน้าโรงงาน ไปจอดรถที่ที่จอดให้เรียบร้อยเสียก่อน



ระหว่างทางเดินไปโรงงาน เราจะผ่านเสาไฟ ซึ่งมีสติ๊กเกอร์แปลกตา ติดไว้มากมาย นั่นก็คือนี่ครับ ซึ่งใครที่เคยมาแล้วคงจะทราบกันดี ว่ามันคือ สติ๊กเกอร์สำหรับแปะที่เลนส์กล้องถ่ายรูปและมือถือ ว่าห้ามถ่ายภาพภายในโรงงานนะครับ คนที่เคยมาเที่ยวแล้วขากลับเดินกลับมาที่รถคงมาติดกัน เต็มเลยครับ ทุกเสาไฟ พอเห็นก็ทำต่อ ๆ กันครับ



ตึกบริเวณหน้าโรงงาน ดูเรียบง่าย แต่อบอุ่นดีนะครับ



เข้ามาภายในบริเวณลานจอดรถหน้าโรงงานกันแล้ว อย่างที่บอกครับ วันนี้ รถตรึม  มีทุกรุ่น ทุกสไตล์ให้เลือกสรรถ่ายรูปครับ 555







Scrambler Custom ก็มาเต็ม









ดูที่เช็คระดับน้ำมันเสียก่อน



เราเริ่มต้นด้วยบริเวณซื้อตั๋วเข้าชมครับ ช่วงนี้คนเยอะเลยจัดใหญ่ครับ



บัตรพร้อมแล้วครับ  ค่าชมงานติ๊กเอาไว้ว่า 10 ยูโร ก็ 400 บาทครับ



เส้นทางดูคาติ 90 ปี จาก ปี ค.ศ.1926 - 2016 ครับ



เนื้อหาในส่วนของการเดินชมโรงงานนั้น ถูกตัดไปนะครับ เพราะห้ามถ่ายภาพ เหตุผลคงเพราะต้องระวังความลับในเรื่องผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ รั่วไหลออกไปนะครับ ดังนั้นหลัก ๆ ก็คือ เราได้เดินดูสายการผลิตรถไดเวล มัลติ และมอนสเตอร์ครับ โดยมีวิทยากรบรรยาย ตั้งแต่อะไหล่ต่าง ๆ ที่มารวมกันเป็นเครื่อง และมีเครื่องส่วนหนึ่งที่ส่งมาไทยด้วยครับ พร้อมชมการเช็ค QC รถในทุกมิติ ว่าทำอะไรบ้าง  แถมท้ายพิเศษด้วยการเดินผ่าน Ducati Panigale ตัว ลิมิเต็ด ฉลองดูคาติ ครบรอบ 90 ปี ด้วยครับ อยากถ่ายมาอัพเดทใจจะขาด แต่ทำไม่ได้ครับ   กว่าจะเขียนรีวิวนี้จบเพื่อน ๆ คงได้เห็นรถคันนี้แล้ว

ดังนั้นเราเปลี่ยนมาดูบรรยากาศในพิพิธภัณฑ์กันเลยดีกว่าคับ ที่นี่ ถ่ายรูปได้เต็มที่เลยครับ



วันนี้ มีรายการทีวี มาเก็บภาพบรรยากาศผู้ที่มาเยี่ยมชมด้วยครับ  (น่าจะเอาไปทำคลิปฉลอง 90 ปี)



มาดูภาพรวม ๆ กันครับ

เริ่มจากผลิตภัณฑ์ที่ดูคาติเคยผลิตไว้มากมาย ก่อนจะมาเป็นมอเตอร์ไซค์



ภาพรถเก่า ของแท้ พร้อมคำอธิบายให้ได้เดินอ่านกันเพลิน ๆ ครับ





คันนี้ ชื่อเสียงโด่งดัง ที่หลายคนคุ้นเคย กับรถมอเตอร์ไซค์ดูคาติคันแรก ในนามเจ้า Cucciolo  (ดูๆ ไป เหมือนจักรยานติดเครื่องครับ)





จากที่ผมเองเคยได้มาที่นี่เมื่อเกือบสองปีก่อน ต้องบอกว่า ที่นี่จัดเปลี่ยนการแสดงรถไปมากครับ คือ เน้นให้ถ่ายรูปได้สวยครับ (แต่ก็ไม่รู้ผมถ่ายสวยไหมนะครับ  ถ้าสวย เพราะคนถ่าย ถ้าไม่สวยต้องโทษ S7 )





Ducati Scrambler กับประวัติเก๋า ๆ สนุก ๆ ยาวนานมา





Scrambler ตัวใหม่ ถอดโคลนนิ่งแรงบันดาลใจจากรุ่นเก่ามาเต็ม ๆ ในไทยก็ใช้กันหลายคนครับ



มุมสวยเยอะก็ถ่ายเข้าไป





Ducati Monster โมเดลดัง ที่ส่งยอดขายสูงสุดทั่วโลก



มาซูมดูใกล้ๆ มันคือถังมอนสเตอร์ครับ คงจะสื่อถึงรถมอนสเตอร์ที่มีอยู่ทั่วโลกในตอนนี้ เริ่มจากคันนี้นี่เอง



916 ก็มาครับ กับ สปอร์ทรุ่นดัง ได้รับรางวัลการออกแบบมากมาย





ตัวแข่งต่างๆ





ถ้วยรางวัลเก่าแก่ และพิเศษมากมาย หามูลค่าไม่ได้จริงๆครับ





ชุดแข่งพร้อมหมวกในแต่ละยุคของนักแข่งชื่อดังของดูคาติครับ



รุ่นนี้ หลายคนยังคงหลงไหลในมนสเน่ห์ครับ กับ Desmosedici RR ว่ากันว่า ใครก็ตามที่ได้ยินเสียงเครื่องยนต์คันนี้คำราม เป็นต้องตกหลุมรักทุกรายไป



นี่ไม่ใช่ภาพเบลอนะครับ แต่มันมีกระจกซ้อนอีกชั้นเลยเป็นภาพซ้อนครับ



ขออนุญาติจบการชมภายในพิพิธภัณฑ์เท่านี้นะครับ หนทางสู่ WDW2016 ยังอีกยาวไกลนัก





ตอนกำลังเดินกลับครับ ถ่ายอีกสักหน่อย



ตึกโรงงานดูคาตินี้ โดนระเบิดสมัยสงครามโลกครับ แต่เค้ายังอนุรักษ์เอาไว้ ไม่ทุบทิ้ง





ผ่าง  555555 ขอโผล่หน้าเล็กน้อย



พี่วิท ขอเก็บภาพเป็นที่ระทึก โดยมีตากล้องกิตติมศักดิ์ คือเติ้ลนั่นเอง



ระหว่างรอคนครบที่รถบัส ก็เจอBikers กำลังซ่อมดูคาติครับ คาดว่า คงล้มแปะมา คือ คงเป็นคู่รักครับ ชายขี่มัลติ หญิงขี่ไฮเปอร์ครับ อุปกรณ์ครบ เปลี่ยนเองเสร็จสรรพ สุดยอด



ส่วนคนนี้ น่าจะเป็นเพื่อนเค้า หรือคนทั่วไปที่จะเข้ามาช่วยครับ  ขี่มัลติมา แต่ตัวสูงขนาดที่ สามารถยกขาข้ามเบาะหลังมัลติ ตอนลงรถได้เลยครับ มัลติดูเล็กไปมาก สุดยอดครับ 555



เมื่อคนพร้อม เราก็ออกรถเดินทางต่อครับ เป้าหมายถัดไปของเราคือเมือง ริมินี่  เมืองตากอากาศ ทางด้านตะวันออก ของประเทศอิตาลีครับ เค้าบอกว่า ประมาณ พัทยา บ้านเรานี่เอง โดยในระหว่างอยู่บนรถ ทางพี่ไกด์ก็ได้แจกบัตรเข้าชมงาน WDW2016 ให้กับเราไว้ครับ



  พรุ่งนี้แล้วสินะ กับงาน World Ducati Week

[WEBMASTER(กอล์ฟฟี่)]

ระหว่างทางไปเมืองริมินี่ ก็จะเจอรถดูคาติ ขี่ไปร่วมงานด้วยมากมายครับ เพราะหลายคัน พึ่งแวะโบโลญ่า เพื่อเยี่ยมชมโรงงานมา และไปสนาม Misano Circuit ด้วยกันครับ



มาเรื่อย ๆ น่าสนุกมาก ๆ ครับ



ที่นี่ ขี่บิ๊กสกู๊ตเตอร์กันเยอะมากครับ (ภาพนี้ กล้องมือถือจับภาพได้สุดยอดมาก) ถ่ายจากกระจกรถที่รถติดอยู่ มอไซค์ผ่านรีบกด ทันด้วยครับ



และแล้วเราก็มาถึง ริมินี่ กันแล้วคร้าบ









คืนนี้ เป็นซีฟู้ด ครับ 





อันนี้อะไรหนอ คล้ายข้าวผัดคับ



ขอบคุณพี่ไกด์มากครับ  สำหรับน้ำจิ้มซีฟู้ด จากประเทศไทย 555 ค่อยยังชั่วครับ



อันนี้เหมือนปลาข้าวสารที่ยังไม่ทอด แล้วเอามายำครับ 



ปลาไข่ไม่สุก 55



ชอบจังมื้อนี้ ครับ





อันนี้ เรทซอตโต้ ครับ พิมพ์ไปหิวไปละผม



มาเต็มครับ มาเต็ม







เมื่อทานอิ่มแล้ว เราก็มาเดินย่อยนิดหน่อยครับ วันที่เรามานี่ ถือว่าโชคดีมากครับ เพราะทั้งเมืองเค้ากำลังจัดงานเฉลิมฉลอง วันสีชมพู กันครับ ทุกร้านจะประดับประดาด้วยผ้า และลูกโป่งสีชมพู ชาวเมืองก็จะแต่งกายด้วยชุดสีชมพู แปลกดีครับ

[WEBMASTER(กอล์ฟฟี่)]

และแล้ว เราก็มาถึง เช้าวันไฮไลท์ ของทริปนี้ครับ นั่นก็คือ งาน World Ducati Week 2016 นั่นเอ๊งงงงงงงง 



ระหว่างทางที่จะไปงาน ก็จะเริ่มเจอ รถดูคาติ ขี่มาทางเดียวกัน เพิ่มขึ้นครับ



มากขึ้นเรื่อย ๆ 



 



อื้อเลย



เอิ่มมม  อดทนไม่ไหวที่จะถ่ายรูปครับ ฟิวมันมา ๆ



เอ็นดูโร่ ก็มา



ตัดชั๊บ มาตอนจอดรถเรียบร้อยครับ ที่จอดรถ ติดกับ สนามขี่ทดสอบ Mltistrada Enduro กันเลย (เรียกน้ำย่อยครับ )



  อยากลง ๆ







มาถึงบริเวณทางช่องจำหน่ายตั๋วกันบ้างครับ ตอนแรกนึกว่าประตูเข้างาน ทำไมเล็กๆ ( เรามีบัตรเรียบร้อยแล้ว )







เก๋าซะไม่มีครับ คันนี้  งานนี้ เหมือนงานโชว์ตัวเลยครับ แต่ละคัน สุดๆทั้งนั้น





มาแล้วครับ บริเวณประตูเข้างานของจริง     คือ ผมก็เตรียมใจมาระดับนึงครับ ว่ารถดูคาติ เยอะแน่นอน  แต่..ๆๆๆ ไม่คิดว่ามันจะกระหึ่ม เยอะ ขนาดนี้ครับ วินาทีนั้น เสียงอึกทึก ครึกโครม เสียงเบิ้ลท่อไอเสีย เสียงเครื่องยนต์สองสูบ เสียงครัชแห้ง ปนเป รอแสดงพลังเข้างาน อยู่ที่ปากประตู เต็ม ต่อแถว ยาวเหยียดดดดด  .. มองไม่สุดครับ   ภาพนี้ เป็นอีกหนึ่งความประทับใจ ในทริปครั้งนี้ของผมเลยก็ว่าได้



เจ้าหน้าที่ ต้องคอยกั้นปล่อยทีละกลุ่มครับ เพราะต้องจัดการจราจรจอดรถภายในสนามให้ดี พอเต็มจุดนึง ก็จะเปิดจุดใหม่ ให้รถเลี้ยวไปจอด เนื่องจากรถมาร่วมงาน เยอะมากกกกกก





คือ ทุกคัน เบิ้ลท่อกัน ดังสนั่นครับ 



ต่อคิวลอดซุ้มประตู (ส่วนเรา เดินหลบข้างๆ 555)









พอเดินเข้าไป มองขวาปั๊บ เจอเลยครับ ซุ้มแรก  .. มามะ เราไปเดินซุ้ม Scrambler กันก่อน



อันนี้สงสัย ล็อคที่จอดไว้ให้สำหรับชาว SCR โดยเฉพาะครับ

[tong796red]

 

[WEBMASTER(กอล์ฟฟี่)]

เดินเข้ามาปั๊บ สิ่งแรกที่เจอเลย คือ รถ Custom Ramble ที่ทาง Scrambler จัดประกวดการคัสต้อมรถ จากทั่วโลกนะครับ โดยวันนี้จะเป็นการตัดสินรอบสุดท้าย จากรถทั่วโลก เหลือแค่ 5 คันสุดท้าย  ซึ่งหนึ่งเดียวในเอเชียที่ผ่านเข้ามานั้น เป็นตัวแทนจากไทยด้วยครับ ถือว่าสุดยอดมาก ๆ ครับ ทั่วโลกส่งประกวดกัน ถ้าผมจำไม่ผิด ก็น่าจะมี 60 คันได้นะครับ



ถัดมา คือ Scrambler ไต่ถังคับ 555  รอเปิดแสดงเดี๋ยวจะแวะมาดูครับ แน่นอนจริงๆ



อันนี้ ชื่อก็บอกครับ ร้านจำหน่ายสินค้าของ Scrambler ครับ



อันนี้นี่    คือ จะเอา Scrambler ไปกระโดดรึครับ  ต้องรอให้มีโชว์ก่อนคงได้เห็นกันนะครับ



ปีนหน้าผาก็มา  ฝรั่ง ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ ชาย หญิง เค้าชอบเล่นทุกคนเลยครับ  ผมเห็นมีคนเล่นตลอดเลย 



มาถึงซุ้มเด็ด  ต่อคิวกันยาวตลอดเวลา กับการฝึกยกล้อนะครับ ครูฝึกตั้งใจสอนจริงๆ ครับ แต่ฝรั่งส่วนใหญ่ที่ขึ้นไปลอง ชอบเบิ้ล ๆ ๆ ๆ เครื่อง ไม่บิดลากยาวทีเดียว รถเลย ตก ๆ ตลอดเลยครับ  จะโชว์ฝีมือคนไทย ก็ไม่อยากเสียเวลาต่อคิว (อวดได้ ไม่ได้ขี่ )

[WEBMASTER(กอล์ฟฟี่)]

ในบริเวณใกล้กันที่นี่ เราจะเจอบูทของ เหล่าคลับDucati Owner Club( DOC )จากทั่วโลกด้วยนะครับ 

ในตอนแรกที่เดิน แวะดูแค่ฝั่ง เอเชีย และถ่ายรูปของประเทศไทยมาครับ



คือ เท่าที่ดูนั้น ประเทศไทยนี่ มีดีลเลอร์เยอะสุดในภูมิภาคเลยครับ  เยอะมาก แต่บางประเทศ มี DOC 2 -3 แหนะครับ  ของเรามี DOC เดียว นั่นก็คือ DOCT นะครับ สำหรับเรื่อง DOC นั้น เดี๋ยวจะมีว่ากันยาว ๆ ตอนหลังครับ เพราะประสบการณ์เรื่อง DOC ที่นี่นั้น ยิ่งใหญ่เหลือเกิน ไว้ผมจะเก็บมาฝากในตอนท้าย ของวันนะครับ



ภาพกิจกรรมขอดูคาติในเอเชีย ที่นำไปประมวล ร่วมงานให้ต่างชาติได้ดูในครั้งนี้ครับ







เราตัดออกมาเดินข้างนอกกันครับ ช่วงนี้ยังเช้าอยู่คนยังไม่มาแวะพักที่ DOC เท่าไหร่ เราไปเดินทั่วๆ ดีกว่า



โอ๊ะ โอ .. สายตาเหลือบไปเห็นเค้าวางหมวกกันน็อคไว้บนพื้นครับ  ฝรั่งนี่ เค้าวางกันง่ายดีนะครับ เห็นแล้วห่วงแทน  ถ้าเป็นในไทย อาจมีโดนสอยนะแบบนี้ ARAI DUCATI เสียด้วย





รถเยอะม้าวกกก



  อ่า อันนี้ ไม่แน่ใจว่า ป้าทั้งสอง มาจาก DOC ประเทศไหนครับ แต่เหมือนจะหาของมาแจกชาว DOC อื่นๆ คุยภาษาอิตาเลี่ยนกับเค้าไม่ได้ อดเลย





ยังคงมีรถเข้ามาตลอดเวลา





ภาพนี้เป็นซุ้มของ ARUBA.IT TEAM ครับ เป็นเหมือนห้อง VIP ครับ มีนักแข่ง มีสต๊าฟ ทีมงาน เต็มเลย แต่บัตรทั่วไปแบบผมเข้าไม่ได้ค้าบ



เรามาดูบูท ของ Ducati X Diavel กันบ้าง (ที่เห็นสีดำครับ)



ภายในมีร้านกาแฟ กับบูทให้ถ่ายรูปในสตูดิโอ กับรถ X Diavel ครับ สำหรับคนที่ชอบก็รอต่อคิวได้เลย ฟรีครับ



บูทต่อไป เป็นคิวของ Multistrada Enduro ครับ





มีจอยักษ์ แสดงคลิปของ Enduro



ลายสติ๊กเกอร์ ฉลองครบ 90 ปี (น่าจะนะครับ )





หันไปฝั่งตรงข้าม จะเจอกับซุ้มใหญ่ คือซุ้มประวัติศาสตร์รถ ของ ดูคาติครับ เดี๋ยวเราจะเข้าไปดูกัน





ส่วนข้าง ๆ นี่ เป็นบูทสปอนเซอร์ต่างๆครับ



รถสวย ๆ แต่งเก๋ ๆ วันนี้ มีให้ชมจุใจที่สุดแล้ว





ที่นี่ มีจัดบูทโชว์เทคโนโลยีด้วยครับ



ในช่วงที่ผมไป กำลังมีจัดการแข่งขันประกอบเครื่องยนต์  โดยผู้เข้าแข่งนั้น เป็นช่างสุดยอดฝีมือ จากฝั่ง Aruba.it Team กับ MotoGP Team สุดยอดครับ ได้ดูการประกอบชั้นเซียนเข้าให้แล้ว







สรุปเลยละกันครับว่า Aruba.it ชนะครับ  อย่างไว คนเชียร์เยอะเลยครับ

[WEBMASTER(กอล์ฟฟี่)]

นอกจากนี้ ภายในซุ้ม ยังมีบูทเบรมโบ้ ด้วยครับ



ตัดมาด้านหน้า ซุ้ม  จะเจออีกซุ้ม คือ ซุ้มชุดแต่งกาย ของ Ducati ครับ  ซึ่งคนต่อคิวเยอะ เลยขอไม่เข้านะครับ เพราะหลายคนที่เข้าไปบอก Outlet ที่เราเข้ามาเมื่อวาน ของเยอะ ลดแยะกว่าเยอะครับ



ที่นี่ ถ้าใครขี่รถมาแล้วรู้สึกว่ามีปัญหา สามารถลงทะเบียน ขอเข้าเช็คอาการต่าง ๆ ได้ครับ



ร้านยาง ก็มี



ซุ้มของ Ohlins มีแนะนำการเซ็ทโช้ค ให้เหมาะสมกับผู้ขี่ด้วยครับ





ตอนแรก ผมก็งง ว่าลุมอะไรกัน  ที่แท้ chaz davies มาแจกลายเซ็นนี่เอง ฝรั่งมุงนี่ โหดตรงตัวสูงครับ 555







ไดเนส ก็มีรถมาครับ มีทำสายรัดข้อมือฟรี แบบเลือกสี คัสต้อมได้ครับ





Where are you?? บอร์ดเขียนแนะนำตัวเองกับเพื่อนๆ ร่วมงานคนอื่นครับ



ขอแปะแจม ให้โลกเห็น นิดนึงค้าบ



เราจะเข้าไปดูในอาคารประวัติศาสตร์รถดูคาติ กันบ้างครับ



ผมว่าคล้าย ๆ นำพิพิธภัณฑ์มารวมไว้ที่นี่เลยครับ

ตั้งแต่รุ่นแรกๆ





ไปจนประวัติการพัฒนา









ไม่ค่อยได้หยุดอ่านครับ ต้องขออภัย









แดดวันนี้ แรงมากครับ ร้อนแสบผิวเลย ร่มเงาไม่ค่อยมีนะครับ สำหรับงาน WDW2016 ครั้งนี้ ใครจะมาปีถัด ๆ ไป เอาครีมกันแดดมาด้วยนะคร้าบ



บอกเลยว่า น้ำเกล็ดผลไม้นี่ เหมือนสเลอปี้ บ้านเรา ขายดีมาก ในวันอากาศร้อนแบบนี้ครับ





ซุ้มนี้ ก็โครตแนวครับ  กับการเพ้น หมวกกันน้อคฟรี  โอย อยากเอาหมวกมาบ้างคร้าบบบ





ลายก็ เกี่ยวกับ ดูคาติแหละครับ 





งานละเอียดดีครับ







ตัดมาที่ด้านหลังสนามกันบ้างคับ



มีรถมาจอดโชว์ด้วย หลายคนยืนรอ เผื่อนักแข่งในดวงใจจะปรากฏตัวครับ





ซุ้มเชล คึกคักมากครับ พริตตี้ตรึม



ออดี้  ก็มาออกบูทครับ นำรถมาโชว์กัน



พานิกาเล่ เอามาให้เทสครับ 



ภาพงานจากด้านบนแสตนครับ



ตอนที่ขึ้นไป เค้ามีแข่ง Diavel Drag กันอยู่ครับ ซัดกันเต็มๆ 



ตัดมาบูทถัดไปเป็นของ TIM ครับ เอาเอียนโนเน่ มาเล่นเกมส์แข่งรถ 555 (บูทนี้เบียดได้หน้าสุดบูทเดียวครับ)







และแล้วก็หิวข้าวครับ บ่ายกว่าแล้ว มาลองสั่งอาหารกันดีกว่า 

รถขายอาหารที่นี่ อลังการสุดๆครับ









คนเต็มเลยครับ เวลานี้



ผลไม้น่ากินครับ แต่สั่งไม่ถูกเท่าไหร่   คือ ระบบที่นี่ ส่วนใหญ่ จะให้สั่งกับแคชเชียร์ แล้วเอาใบเสร็จไปแลกของที่สั่ง กับพนักงานประจำจุดขายต่าง ๆ อีกทีครับ  เราจึงไม่สามารถซื้อโดยวิธี ชี้นิ้ว ได้ครับ  ป้ายที่เขียน ก็เป็นภาษาอิตาเลี่ยนจ้า









สุดท้าย งู ๆ ปลา ๆ ไป ก็ได้อันนี้มาครับ  จะหมู จะเนื้อ ก็กินเถอะครับ พูดกันไม่ถูก (ผมไม่กินเนื้อวัวครับ) 555

[WEBMASTER(กอล์ฟฟี่)]

ที่นี่ มีที่รับฝากเสื้อการ์ด กับหมวกกันน็อคด้วยนะครับ ผมก็พึ่งรู้ และคิดว่า คนมาร่วมงานหลายคน ไม่รู้



เวลามองไปรถเยอะ ๆ ทุกมุมแบบนี้ มันสุดยอดมากครับ รถจอดหลายจุดทั่วงาน  แต่ละจุด แน่น ทะลักครับ ดูคาติล้วนๆ



้เดินมาเจอะคันนึง อยากถ่ายมาฝากครับ กับ Streetleggera 555 ทำไปได้







บูทน่ารัก ๆ อย่าง วาดภาพเหมือน ก็มีนะครับ





เอิ่ม 555 ถ่ายไปก็แอบยิ้มไป เหมือนไหมครับนั่น



เรากลับมาดูซุ้มใหญ่อีกซุ้ม กับซุ้มกิจกรรมของ ชาว Desmo Owner club จากทั่วโลกนะครับ



เค้ากำลังเล่นโต๊ะบอล แต่ทำไมย้าวววว ยาว

[WEBMASTER(กอล์ฟฟี่)]

เราตัดออกมาเดินด้านนอก ไปทั่ว ๆ สนามไกล ๆ สักนิดนะครับ



อันนี้เป็นซุ้มเทสรถ X Diavel และ Ducati Scrambler ครับ  (คนน้อยๆ แฮะ)



อันนี้ เปิดจองทัวร์ WDW Ducati Multistrada Enduro ครับ 



รถยังคงมีจอดเต็มแนวรอบสนาม Misano ครับ เยอะมาก







อันนี้จอดดั่งคู่รัก





ขอถ่ายเยอะหน่อยนะครับ ปกติในไทย ยังไม่เคยเจอขนาดนี้



เก่าใหม่ ไปด้วยกันได้หมดครับ









งามๆ



แค่มาเดินดูรถที่เข้ามาจอดในงานก็คุ้มแล้วครับ







ดูแต่ละคันวางหมวกกันน็อค น่ารักนะครับ ในไทยคงไม่กล้าวาง กลัวหาย





ที่นี่ มีเสาที่ระลึกถึง Marco Simoncelli ด้วยครับ มีคนแวะมาถ่ายภาพพอสมควร 





ยิ่งตกบ่าย คนยิ่งเยอะครับ ตอนนี้



บรรยากาศต่างกับช่วงเช้าเยอะเลย











ครอบครัวดูคาติรุ่นเยาว์ครับ



บางคัน ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันรุ่นอะไร แต่โครตเท่ห์อะครับ



ทัวร์ริ่งคันนี้ ดูเป็นลูกผสมระหว่าง Sports กับ touring งามมากๆครับ มีกระเป๋า3ใบด้วย



คันนี้ คล้ายในไทยสุดละครับ 555



กลับมาที่ซุ้ม Scrambler กันอีกสักที ตอนนี้ คนเยอะมากครับ เป็นซุ้มที่ใหญ่ที่สุดแล้วครับ ถ้าเทียบกับโมเดลอื่นๆ



กำลังมีดนตรีมันส์ๆเลยครับ













สนามบาสที่เมื่อเช้าไม่มีคน ตอนนี้ แย่งลูกกันแทบไม่ทันครับ



ภาพหยุดกลางอากาศ ของกล้อง S7



ลงไหมนะครับ



บอลโต๊ะเล็ก กลางแจ้ง ก็มา (แดดแรงสุดๆครับ)

[WEBMASTER(กอล์ฟฟี่)]

เดินมาอีกนิด กับมอเตอร์ไซค์ไต่ถังครับ 



ซูม ๆ 



ขอเค้าขึ้นมาถ่ายข้างบนครับ



เอาละครับ กำลังจะมีโชว์แล้ว



ช็อตนี้ คือ เค้าขออาสาสมัครผู้หญิง ไปนั่งบนแฮนด์ครับ แล้วไต่ถังไปด้วยกัน









คือ ความเร็วมันสูงมากครับ ถึงขนาดเหวี่ยงหนีศูนย์กลางขึ้นมาขอบถังขนาดนี้  แค่ยืนดูยังเสียว คนที่นั่งบนแฮนด์นี่ สุดยอดจริงๆครับ นับถือความกล้าเลย







วิวแน่นๆ



อยู่ใกล้กับผาจำลอง ขอถ่ายสักนิดครับ แบรคกราวสวยดี





เด็กก็ปีนได้นะครับนี่



ไวด้วยแหนะ



บูทสอนยกล้อ ตอนนี้ มีคนต่อคิวยาวมากครับ





ดูสภาพยางกันสักหน่อย



คันนี้ สวยมากกกกก





ดูไฟท้าย 555



เริ่มมีจักรยาน มาโชว์ลีลา Extreme แล้วครับ







กล้อง S7 หยุดเวลา





ย้อนแสง มืดตื๋อเลยครับ





คอนเสริตยังคงมีต่อเนื่องครับ



มุมไหนก็รถตรึม



รถ Scrambler Custom วันนี้ ต้องเรียกว่า เกลื่อนครับ เยอะมาก







ผมชอบแนวนี้ครับ ใส่โม่ง ตีแฟริ่งข้างสักหน่อย มันใช่









ดูเบาะเสียก่อน






มาถึงอีกหนึ่งช็อตเด็ดคราวนี้ กับกิจกรรมประกวดงาน Scrambler custom Rumble นะครับ ซึ่งรอบสุดท้าย มี 5 คัน ครับ  หนึ่งในนั้น เป็นรถจากไทยด้วยครับ โดยดูคาติ วิภาวดี ครับ





นี่ครับ ตัวแทนจากประเทศไทย 

[WEBMASTER(กอล์ฟฟี่)]

ไทยแลนด์ ปู๊น ปู๊นนนนน !!





คณะกรรมการขึ้นเวทีแนะนำตัวครับ



ตอนนี้เป็นช่วงให้กรรมการให้คะแนนในแต่ละด้าน ทั้งการออกแบบ สมรรถนะ ต่าง ๆ ครับ เข็นมาทีละคัน ๆ



ของไทยเราสวยไหมครับ



อันนี้ของบาเรนมั้งครับ ถ้าจำไม่ผิด



กองเชียร์ของ Scrambler โบโลญญ่า ครับ มากันเยอะมาก



นี่ครับ ตัวแทนประกวดของเค้า





คันนี้ก็ไม่แน่ใจว่าจากไหน ผมลืม ขออภัยครับ รู้แต่ว่าแต่งเป็นแนว พานิกาเล่แน่นอน





สุดท้ายนี่ จำได้ดีครับ ว่าจากรัสเซีย เอาไว้ขี่ลุยหิมะ และน้ำแข็งครับ





ถ้าโดนเหยียบ ไม่อยากจะคิด



กรรมการรวบรวมคะแนนกันอย่างเคร่งเครียด 



And the winner is...Thailand !! 





ฮิ ฮิ้ววววว  "BEST RUMBLE JAB" - SCRAMBOBBER ดังครับ บอกเลย คนไทยตรงนั้น มีสี่ห้าคน แต่ขึ้นเวที ให้เค้าปรบมือ แหม  มันภูมิใจครับ ที่ชนะทั้งโลกเลย คนส่งประกวดเยอะมากๆ รถสวย ๆ ตั้งมากมาย แต่เราได้ที่หนึ่งนะครับ สุดยอดดดดดด





มาครับ เรามาร่วมภูมิใจ และรู้จักพี่เจ ผู้ออกแบบกันสักนิด



อีกหนึ่งก้าวแห่งความสำเร็จของทีมงาน R&D (Research & Development) ดูคาติไทยแลนด์ กับผลงานล่าสุด SCRAMBOBBER ที่คว้ารางวัลระดับโลก "BEST RUMBLE JAB" จากกิจกรรม CUSTOM RUMBLE ที่มีผู้เข้าประกวดจากผู้จำหน่ายดูคาติทั่วโลก ที่ได้คัสตอมรถ DUCATI SCRAMBLER ออกมาเป็นรถที่สุดยอดในแบบฉบับของแต่ละทีม

และด้วยอีกหลายผลงานที่การันตีได้ถึงความใส่ใจในการออกแบบรถให้มีความหลากหลาย บ่งบอกความเป็นตัวตน แต่ยังคงแฝงความพรีเมี่ยมได้อย่างลงตัว จากผลงานที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น Scrambler Dirt Tracker รถแข่งสไตล์ Dirt Track ที่ทันสมัย หรือ รถรุ่นพิเศษที่ผลิตจำนวนจำกัดอย่าง Scrambler Paul Smart และ Scrambler Hailwood ที่ทำให้ผู้ที่ได้ครอบครอบมีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง

สุดยอดผลงานที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ เราขอขอบคุณผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ คุณปกาศิต จันทร์คุณานุเคราะห์ R&D Project Senior Manager ที่ทุ่มเทในการถ่ายทอดดีไซน์ชั้นเลิศออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ
Cr:Ducati Thailand

มีฝรั่งเข้ามาถามเยอะครับ โดยเฉพาะเรื่องครัชแห้งครับ (เดิมเป็นครัชสาย )



ขอที่ว่าง เพื่อลงรูปรายละเอียดรถสักเล็กน้อย ให้สมเกียรติที่คว้าตำแหน่งชนะเลิศมานะครับ







งาม ที่ รายละเอียด







มีแหวนให้ด้วยครับ



คุณเติ้ล เจ้าของดูคาติหาดใหญ่ ร่วมถ่ายรูปหล่อๆ

[WEBMASTER(กอล์ฟฟี่)]

ตัดมาอีกมุมสำคัญของงานนี้ที่ผมอยากจะพิมพ์บอกให้เพื่อนๆ ได้รับรู้ความรู้สึกมากครับ นั่นก็คือ ซุ้มใหญ่ DOC ครับ



คือ ที่นี่ จะเป็นที่รวมของคลับ Desmo Owner Club จากทั่วโลกนะครับ ซึ่งเป็นคลับกลางที่ดูคาติ อิตาลีสร้างขึ้นมา ให้สมาชิกคนขี่ดูคาติทั่วโลกได้หาเพื่อน และคนรักดูคาติเหมือนๆกัน ทั่วโลกนะครับ โดยในแต่ละประเทศจะมี DOC ของตัวเอง ซึ่งหลายๆ ประเทศในแถบบ้านเราก็มีครบครับ และมี 2 - 3 DOC ในประเทศเดียวด้วยครับ



ในภาพ กำลังแนะนำ DOC จากทางฝั่ง เอเชียครับ



มาเลเซีย กับญี่ปุ่น เค้ามาเยอะ จัดเต็ม และแข็งแกร่งมากครับ สำหรับ DOC







แต่เท่าที่ผมดู ประเทศที่มีดีลเลอร์ที่เยอะที่สุดในแถบเอเชีย คือ ประเทศไทยครับ  เค้าคง งงๆ กัน เพราะไม่มีตัวแทนจากไทยขึ้นเวทีครับ (รถดูคาติในไทยผมว่าก็เยอะสุดด้วยเช่นกัน)

ประเทศอื่น ๆ ขึ้นมากล่าวทักทาย สนุกสนานกันใหญ่ครับ







ซุ้มนี้ ผมรู้สึกจริง ๆนะครับ ว่าทุกคน เป็นมิตรกันมาก เหมือนมิตรภาพที่ไร้พรหมแดน เพียงแค่เรารักใน Ducati เหมือนๆ กันครับ  ทุกคนไม่ว่าหัวทอง หัวดำ รึหัวโล้น มักจะสนใจกล้องของผม รึเค้าร้องเพลง หรือเล่นอะไร ก็จะพยายามชวนผมไปเล่นกับเค้าครับ ดูมิตรภาพมากๆ







ที่เห็นแต่ละคนนั้น ผมว่าเค้าคุยคนละภาษาด้วยซ้ำครับ ไม่ใช่ชาติเดียวกัน   เหมือนเราไปเจอคนเขมร ลาว เวียดนาม จีน แนวนั้นครับ แต่เค้าก็สนุกกันได้ โดยไม่ต้องพูดกันมากครับ เปิดเพลง แนะนำตัว เฮฮา มากมาย   ประทับใจมากครับ



อันนี้ท่าทางมาจากบลาซิล



ก็นี่ละครับ สำหรับเรื่อง DOC คือ ผมว่าในปัจจุบัน DOCT ในไทย ยังไม่แข็งแกร่งเท่าที่ควร เพื่อน ๆ หลายคนยังไม่รู้ว่าจะเข้าไปทำไม มีอะไร ได้อะไร

สำหรับกอล์ฟ กอล์ฟขออธิบายความรู้สึก แบบนี้ครับ DOC เกิดจากกลุ่มคนที่รักดูคาติ ไม่แบ่งรุ่นรถ แค่ชอบ ผูกพัน  และ DOC จะเป็นสื่อกลางที่จะทำให้คุณติดต่อ และได้รับ มิตรภาพ จากคนอื่น ๆ ที่รักดูคาติเหมือนกัน ทั่วโลกครับ ผมก็ได้แต่หวังครับ ว่าวันนึง DOC ของไทยเราจะแข็งแกร่งระดับโลกเหมือนDOC ประเทศอื่นๆ ใกล้ๆบ้านเราครับ ฝากเพื่อน ๆ ไว้ด้วยนะครับ สำหรับ DOC ครับ

ตัดมาเดินข้างนอกบ้างครับ

เจอคันนี้เลย ไม่ถ่ายไม่ได้จริงๆ 





ต้มกาแฟสดครับ 555





X Diavel ก็มา





ผ่านมาเจอ ซุ้มประกวดรถคัสต้อม อีกซุ้มครับ เก็บภาพฝากครับ







งาม ระดับโลก









ข้างนอกก็คัสต้อมครับ







เดินมาที่สนามอีกทีครับ แข่งแดรก อีกแล้ว



แต่ด้านล่าง ก็มีคนมารอนักแข่งเช่นเดิม พร้อมกับ เอิ่ม 







ขึ้นมาด้านบนครับ คนเยอะขึ้นมากๆตอนนี้



แต่เอ้ะ .!!! ใครมานอนทำไร 555  นี่ไม่เกรงใจสายตาคนอื่นเล้ย





เสียงดังมากครับ จัดเต็มทุกคัน







ช่วงเซอร์วิสรถ รับงานเพียบครับ



ฝรั่งที่นี่ ... ใครแต่งตัวไม่ครบ ไม่เต็ม ถือว่าไม่เท่ห์นะครับ (ต่างจากค่านิยมในไทยมาก) ปลอดภัยไว้ก่อนนะครับ



รถสวย ๆ ยังมีตลอดทาง





X Diavel สีส้มก็มา





พานิกาเล่ ลาย 90 ปี รึเปล่า





รถหว่างรอกลับบ้าน หลายคนก็มายืนรับไอน้ำตรงนี้ละครับ อากาศร้อนมากครับ แดดแรง ฝรั่งยังหลบ 555





หันไปอีกที โอ้ว .. เจอรถเก๋าครับ Scrambler ปี 1962 ขอถ่ายหน่อยครับ







เท่ซะไม่มี



พอเดินมาประตูหน้า เห็นสาว ๆ ถ่ายรูปอยู่ ขอภาพนึงครับ เท่ดี





ลากันด้วยภาพนี้ครับ กับงาน WDW2016 ประสบการณ์ล้ำค่า คุ้มที่ได้มามาก ๆ ครับ แต่ยังมีต่อนะครับ กับอีกวันที่เหลือ รอติดตามครับ





 

[WEBMASTER(กอล์ฟฟี่)]

เย็นแล้ว เรากลับมาที่พักกันครับ



วันนี้ขอชิลๆ เดินดูตลาด ร้านค้า ที่ริมินี่ เสียหน่อย แถมท้าย สุดยอดกิจกรรมด้วยการเชียร์บอลยูโร 2016 ครับ อิตาลีแข่งรอบตัดเชือกพอดี  สุดจะคุ้มเลยผม ทริปนี้





เดินๆหาที่นั่งกินข้าวเย็นสักพัก ผลปรากฎว่า โต๊ะในตลาดเต็มครับ  วันนี้ชาวอิตาลีเค้าก็ออกมาเชียร์ฟุตบอลทีมชาติกัน มาลุ้นที่จอยักษ์กันเต็มเลยครับ







เรามากันสิบกว่าคนด้วยครับ เลยหาโต๊ะยากหน่อย ตามร้านอาหารก็จองเต็มหมด (จะได้ดูบอลไหม )





เดิน ๆ หาๆไปเรื่อย ๆ เราไปเจอกับรถคันนี้ครับ จะมีไกด์ คอยหาร้านอาหารใกล้ๆ ให้ พร้อมแบ่งค่าหัวคิว (ประมาณนายหน้าหาร้านอาหารครับ) พึ่งจะเคยเห็น





แต่เมื่อมองออกไปริมหาด ริมทะเล ไกล ๆ ผมก็เห็นครับ ว่ามีทีวีจอยักษ์ อยู่ หุๆ เราเลยตกลงไปเดินเล่น ซื้อของกิน กันที่นั่นกันครับ





ชาวริมินี่ เริ่มเอาเก้าอี้ชายหาด มากางดูบอลกัน เห็นสว่าง ๆ แบบนี้ จริง ๆ น่าจะสามทุ่มแล้วนะครับ



เอาแล้ว  ๆ   



เชียร์ทั้งประเทศครับ ช่วงเวลานั้น ดูบอลทุกร้าน







และมาเก็บวิวชายหาดสักหน่อย





หาดทรายบ้านเค้านี่ ยาวมากครับ หลายกิโลเลย ทำให้มีคนมาพักผ่อน ตากอากาศเยอะมาก







วัยรุ่นก็มา



เชียร์บอลกันต่อครับ สรุปผลคือ อิตาลี แพ้ลูกโทษครับ อดเฮเลยผม แต่ก็ได้ประสบการณ์ที่ดีมากครับ ที่ได้เชียร์บอลกับชาวอาชูลี่ จริง ๆ สักครั้ง



เดินกลับที่พัก ครับ





อันนี้ลองถ่ายมือถือ galaxy s7 แบบเปิดชัตเตอร์ค้างครับ ใช้มือจับเอาเลยสั่น แหะๆ



รถเมล์ผ่านจะเป็นแบบนี้



สวยดีครับ ไว้กลับไทยจะไปถ่ายกับ มัลติ บ้าง





เดี๋ยวพรุ่งนี้เราจะไปตลุยเมืองโบราณ และเที่ยวเอาท์เลต ก่อนกลับไทยกันครับ ติดตามชมกันครับ

[WEBMASTER(กอล์ฟฟี่)]

เช้าวันถัดมา เรามาเที่ยวกันที่ ประเทศซานมาริโน่ เมืองท่องเที่ยวที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน น่าสนใจสุด ๆ ครับ (อิตาลี: San Marino) หรือชื่อทางการคือ สาธารณรัฐซานมารีโน (อิตาลี: Repubblica di San Marino) เป็นประเทศในยุโรปใต้บนเทือกเขาแอเพนไนน์ ล้อมรอบโดยประเทศอิตาลี เป็นหนึ่งในจุลรัฐยุโรป  คล้าย ๆ กับ นครรัฐวาติกัน นะครับ



มีพื้นที่รวม เพียงแค่    61.2 ตร.กม. ประชากรประมาณ 30,000 คนเท่านั้น ประเทศตั้งอยู่ใจกลางอิตาลีเลยครับ





ตามตำนานแล้ว สาธารณรัฐซานมารีโนมีประวัติศาสตร์ย้อนไปถึงพ.ศ. 844 โดยช่างหินชาวคริสต์คนหนึ่ง ชื่อว่ามารีนุส ได้หนีการตามล่าทางศาสนา มาหลบภัยและตั้งถิ่นฐานบริเวณมอนเตตีตาโน ซึ่งเป็นที่ตั้งของซานมารีโนในปัจจุบัน มารีนุสภายหลังได้รับแต่งตั้งเป็นนักบุญ ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ (ซานมารีโน แปลว่านักบุญมารีนุส ในภาษาอิตาลี) ซานมารีโนถือเอาวันที่ 3 กันยายน พ.ศ. 844 เป็นวันก่อตั้งสาธารณรัฐ
CR: https://th.wikipedia.org

ชายคนในภาพนี้คือ มารีนุส ครับ หนีการตามล่าของโรม เพราะเชื่อในศาสนาคริส มาสร้างเมืองบนเขา เพราะที่ตั้งภูมิศาสตร์ดีกว่า ป้องกันเมืองได้ง่ายครับ โดยสร้างป้อมไว้ 3 ป้อม สำหรับป้องกันภัย สุดยอดเลย




ร้านส่วนใหญ่ ก็เปิดกิจการค้าขายของที่ระลึกกันนะครับ



เรามากันเช้าครับ ยังเงียบๆ  สบาย ๆ





ป้ายโฆษณา งามดีครับ



วิวด้านล่างครับ  เราอยู่บนเทือกเขาแอเพนไนน์



ใครชอบปั่นขึ้นเขานี่ แนะนำสุดๆครับ







  เจ้าของสองคันนี้ก็มาเที่ยวครับ





ด้านในเมืองครับ





ปัจจุบัน รายได้หลัก มาจากการท่องเที่ยวครับ







เมืองสวยงาม เหมือนเดินอยู่ในปราสาทใหญ่ๆเลยครับ



ิวิวมากมาย









ลานนี้ เอาไว้สำหรับแข่งขันยิงหน้าไม้ ประจำปีครับ





นี่คือ ฐานยิง



เป้าน่าจะเป็นตรงนู้นครับ



เดี๋ยวขากลับ เราจะลงกันด้วยกระเช้า 555 เหนื่อยหน่อยครับ เดินขึ้นเขา แต่ก็ได้เห็นรายละเอียดต่าง่ ๆ ดีครับ













ที่นี่ ขายปืนบีบี กัน กันด้วยครับ







กับพวกตุ๊กตาเล็ก ๆ ของชำร่วย เยอะมาก











อาคารนี้ คือ โบสถ์ประจำเมืองครับ









ดูหน้าเศร้าๆ  นะครับ





ถ้าเป็นคนซ่อนในหุ่นนี่ มีช็อคนะครับ



เดินขึ้นเนินตลอดเวลาครับ





ร้านกระเป๋าหนัง



เรามาถึงกันแล้วครับ ป้อมแรกบนเขา เก็บภาพไว้ในความทรงจำสักหน่อย







มีจิตรกรวาดภาพขายด้วยครับ







ที่เห็นไกล ๆ นู่นคือป้อมที่ 2 ครับ เหอๆ ไม่ไปดีกว่า ถ่ายตรงนี้แหละครับ เค้าบอกว่าเดินเท้า 20 นาที





แค่คิดว่า คนสมัยโบราณ เมื่อกว่า สองพันปีก่อน มาสร้างสิ่งเหล่านี้บนเขาได้ มันช่างยิ่งใหญ่เหลือเกินครับ





ขากลับมาแวะทานน้ำสักหน่อย (ขวดละ 120 บาท ) เจอโค้กสีเขียว เอ้ะ มันคืออะไร ต้องลอง







ที่ฉลากมีรูปใบไม้ ยิ่ง งง เข้าไปใหญ่ครับ ลองทานแล้วก็หวานปกติ กับแก๊สเยอะ  สรุปพี่ไกด์มาบอกว่า มันคือ โค้กที่ใช้ความหวาน จาก ใบหญ้าหวาน แทนน้ำตาลครับ ไม่อ้วน ว่างั้น 



ป้อมแรกชัดๆ อีกที



พอเริ่มสาย ๆ  โอ้โห คนเยอะมากครับ ไม่เหมือนเมื่อตอนเราเดินขึ้นมาเลย



นักปั่น ก็เยอะครับ







 



เดินๆ  มาเจอร้านโมเดลรถ แวะดูกันสักหน่อย



โมเดลหมวก น่ารักครับ











อันนี้ตลกดีครับ  ทำซะเหมือน









สิ่งหนึ่ง ที่สังเกตุได้คือ ชาวเมืองนี่ ดูแลเรื่องดอกไม้ ให้สวยงาม เสมอครับ น่ามองไปทั้งเมืองเลยเชียว







ร้านขายปืน นี่ผมจะซื้อกลับไทยได้ไหมนี่





คือ ดูไปดูมา จนเริ่มไม่แน่ใจว่า นี่ปืนปลอม หรือปืนจริงครับ





เที่ยงแล้ว วันนี้เราจะทานอาหารกลางวันกันบนนี้เลยครับ





เปิดด้วยเจลาโต้ก่อน ผมอยากลอง 555



มาแล้วครับ มื้อหลัก





ที่เด็ดคือ เค้ามีให้ดริ๊ง ก่อนกลับด้วยครับ คนละแก้ว 



เข้มข้น ทุกชนิดครับ บอกเลย



โดยเฉพาะ ซิกเนเจอร์ ตัวนี้





ผู้กล้าของเรา พร้อมแล้ว



รสชาติอาจบรรยายทางรูปไม่ได้ ชมสีหน้าตัวแทนกลุ่มไปก่อนนะครับ (ฮา)



ภาพภายหลังผ่านไป 3 ชนิด



วิวหน้าร้าน งดงามครับ







เตรียมกลับกันแล้ว





พึ่งรู้ว่ามีดารามาทริปกับเราครับ 















ป้ายกลมๆ  ด้านล่าง น่าจะบอกว่า เมืองนี้ ขึ้นเป็นมรดกโลกนะครับ



ลาแล้วจ้า Sanmarino

[WEBMASTER(กอล์ฟฟี่)]

วันนี้จะเป็นวันสุดท้ายแล้วครับ ที่เราจะเดินทางไปท่องเที่ยว และบินกลับกัน

โดยจุดหมายแรกของเราคือที่ เอาท์เลต ของฝากกันนะครับ ได้ข่าวว่าที่นี่ มีร้านค้าแบรนด์ดัง ๆ ขนสินค้าล้างสต๊อกมาลดราคากันสุด ๆ  และเราจะไปต่อที่เมืองปลายทางสำหรับการบินกลับบ้าน นั่นก็คือ เมืองฟอร์เรน หรือ ฟิเลนเซ่ นะครับ



เนื่องจากใช้เวลาเดินทางนานกว่าสามชั่วโมง เลยมีแวะเข้าห้องน้ำกันหน่อยครับ และก็แวะร้านค้าซื้อของกินกันหน่อย





แต่สิ่งที่ผมสนใจนั้น 



จำได้ว่าที่ไทย เล็กกว่านี้ (ครึ่งเดียว) แต่ราคา 300 บาทได้ครับ หาซื้ออยู่เลย เนทูล่า

หุๆ  ๆ  ได้ขนมฝากแฟนแล้วครับ





ของฝากเยอะเลยครับ คงเพราะเป็นที่พักระหว่างเมืองครับ นักท่องเที่ยวคงมาแวะกันเยอะ







เจอโค้กเขียวอีกแล้ว 555 จัดไปครับ



แถมด้วยกระป๋องโค้กเขียวเก็บความเย็น นำกลับบ้านมาเป็นที่ระลึกถึงวันวานได้ดีครับ



ไปกันต่อคร้าบ ระหว่างทางก็จะมีเหล่าไบเกอร์เป็นเพื่อนร่วมทางกันด้วยประปราย



การเดินทางน่าจะวิ่งตัดเทือกเขา รึอะไรสักอย่างครับ เพราะมีขับผ่านอุโมงค์เยอะมากครับ





สิ่งหนึ่งที่ประทับใจ และอยากลงภาพบอกกล่าวให้เพื่อนๆฟัง นั่นคือ ภายในอุโมงค์ที่นี่นั้น  "ไฟติด"  ครบทุกดวงเลยครับ 55 ดูปลอดภัยมาก ๆ ไม่น่าเชื่อว่าไม่มีดวงไหนดับเลย ดูใส่ใจมากครับ   เทียบกับที่จีน นี่มืดสนิท อันตรายสุด ๆ ส่วนไทย ก็จะติดครบทุกดวงเฉพาะช่วงที่พึ่งสร้างเสร็จใหม่ๆ นะครับ



ประทับใจที่เค้าใส่ใจรายละเอียดเรื่องความปลอดภัยกันนะครับ



ถึงแล้วคร้าบ เอาท์เล็ต ๆ ๆ 



ชื่อ Mc Arthur Glen ครับ 



บริเวณทางเข้าครับ



มีโบรชัวร์แนะนำแผนที่ร้านค้าต่างๆ ด้วยครับ





คือ อยากจะบอกว่า สมกับที่เค้าโฆษณาที่ป้าย ว่าเป็น Designer Outlet จริงๆ  ครับ  ด้านในบรรยากาศดี สวยมากๆ ร่มรื่น ธรรมชาติด้วยครับ





ดอกไม้งามอีกแล้ว





ภาพน้ ช็อป PRADA ครับ ต่อคิวอย่างนาน





ช็อป Super Dry นั้น ก็แจ่มครับ ลดกันสุดๆ 40% ก็มีค้าบ 



อันนี้เป็นช็อป MOTOSTORE ครับ เหล่าไบเกอร์จะไม่แวะก็กระไร







ร้อนๆ  แบบนี้  ไม่แปลกครับ ที่น้ำมะนาวจะขายดี



เค้าเอาเนื้อมะนาวมาตำ ๆ ใส่เข้าไปด้วยครับ  โอ้ว เลมอนเนด อร่อย 



เจลาโต้ ก็ไม่ต้องพูดถึงครับ เด็ก ๆ นี่ วิ่งเข้าใส่สุดๆครับ



สรุปของที่ได้มา มีเท่านี้ แหะๆ



ตัดฉับมาที่ เมืองฟอเรนเลยครับ เรามาถึงกันแล้ว





จริงๆ เวลานั้นประมาณ 1ทุ่มครับ แต่แดดยังแรง



กล้องมือถือถ่ายรถบิ๊กไบค์ที่ขี่ผ่านแบบปุ๊บปั๊บ  จับภาพทันด้วยครับ สุดยอด (ไม่ได้กดโฟกัส)



เราไปเดินเล่นในเมือง เพื่อไปทานอาหารที่ภัตรคารจีนครับ วันนี้ ว้าว ๆ



พื้นถนนแบบนี้ มันรู้สึกดีนะครับ ดูเก่าแก่จริง



รถคันนั้น ... เล็ก จนจอดเอาหน้าเข้าได้เลยครับ น่ารัก



ถึงร้านแล้วคร้าบ มื้อค่ำของเรา





ซุปไข่ คับ



ปูพริกไทยดำ ไข่เจียว และ ข้าวสวยร้อน ๆ โอยยย .. ถูกใจ 555



เมื่อขอน้ำแข็ง จะได้แบบนี้ครับ



ทานเสร็จแล้ว เดินย่อยนิดหน่อยครับ แต่เดี๋ยวพรุ่งนี้จะมาเดินเที่ยวเต็ม ๆ อีกที



กริ่งที่พัก เหมือนในหนังเลย









ย่านกลางเมือง ก็มีคนมาเดินเล่นเยอะครับ



เค้ากำลังฟังชายสูงวัย เล่นไวโอลีนครับ เล่นเพลงคลาสสิค เพราะมาก ๆ









เดินๆ มา เจอไฮเปอร์จอดด้วยครับ แค่นี้ก็หล่อสุดๆแล้ว



อันนี้ร้านขายของ ของชาวอินเดียวครับ  โปรดสังเกตุ การขายมะพร้าวเป็นชิ้น ๆ ของเค้า 1 ยูโร ก็ 40 บาท ครับ





เราจะจบค่ำคืนนี้ ด้วยร้านขายเนื้อนะครับ  หลับพักรอตลุย พรุ่งนี้วันสุดท้ายในอิตาลีแล้วครับ

[WEBMASTER(กอล์ฟฟี่)]

ผมขอเริ่มต้นเช้าวันใหม่ ด้วย เนทูล่า ถ้วยยักษ์นะครับ 555 



เช็คเอาท์ ๆ



จัดกระเป๋าขึ้นรถทัวร์ค้าบ



ไปเดินเมืองเก่า ฟิเรนเซ่ กันดีกว่า



เมืองฟลอเรนซ์นั้นเป็นเมืองหลวงของจังหวัดฟลอเรนซ์ (Firenze: FI) และแคว้นทัสกานี (Tuscany) แคว้นที่มีความสำคัญในทางประวัติศาสตร์ ศิลปกรรม สถาปัตยกรรม ศาสนา วัฒนธรรม และอุตสาหกรรม ของประเทศอิตาลีครับ ในไทย ชอบเรียกเมืองนี้ ว่าเป็นเมืองตักศิลา คือเมืองแห่งปัญญา ความรู้ ครับ











ฟีเรนเซในยุคกลางเป็นศูนย์กลางทางการค้าและทางการเงิน และถือกันว่าเป็นที่เกิดของยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา





ภาพนี้ คือ หมูเสี่ยงทายครับ ให้เอาเหรียญใส่ที่ปากแล้วให้เหรียญตกลงร่องไปครับ ถึงจะโอเค ที่ไทยเราก็มีคล้ายๆแบบนี้ หลายวัดนะคับ







เรามาเดินกันที่สะพานแห่งนี้ครับ เป็นสะพานที่รุ่งเรือง เรื่องการค้าทองครับ ชื่อ สะพาน ปอนเต เวชชิโอ (Ponte Vecchio) สะพานเก่าแก่ที่สร้างขึ้นเพื่อใช้ในการสัญจรข้ามแม่น้ำอาร์โน โดยบนสะพานนั้นเป็นที่ตั้งของอาคารร้านค้า ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายงานศิลปะ อัญมณี และของที่ระลึกจำนวนมาก โดยเชื่อกัยว่าสะพานที่ถูกสร้างขึ้นครั้งแรกในสมัยโรมัน ปัจจุบันกลายเป้นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชือ่เสียงมากแห่งหนึ่งของ เมืองฟลอเรนซ์





จำได้ว่าท่านนี้ มีชื่อเสียงมากเรื่องการตีทอง ครับ









ิิวิว แม่น้ำ อาโนล์







พอสังเกตุดี ๆ ร้านค้าบนสะพานนี่  สร้างได้อันตรายนะครับนั่น 



เรามาต่อกันที่ เปียสซ่า เดลลา ซินโยเลีย (Piazza della Signoria)



ที่นี่เป็นจัตุรัสรูปตัว Lที่อยู่ด้านหน้า ปาลาสโซ เวชชิโอ (Palazzo Vecchio) เป็นจุดท่องเที่ยวที่มีความเกี่ยวข้องกับศูนย์กลางศูนย์กลางทางการเมือง ทางการเมืองของเมืองฟลอเรนซ์



นอกจากนี้ยังถูกใช้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงเกี่ยวกับงานศิลปะ จิตรกรรมฝาผนัง รูปปั้น และอื่นๆอีกเป็นจำนวนมาก และบริเวณด้านหน้าปาลาสโซ เวชชิโอยังเป็นที่ตั้งของน้ำพุรูปเนปจูน (Fountain of Neptune) ที่ถูกสร้างขึ้นในช่วงระหว่างปี 1563-1565 โดย แบร์โตโลมิโอ แอมแมนนาติ (Bartolomeo Ammannati)

บุคคลสำคัญในประวัติศาตร์มากมาย มักเกี่ยวข้องกับเมืองนี้นะครับ







คนซ้ายนี่ คนโปรดผมเลย



นั่นก็คือ ท่าน กาลิเลโอ ครับ



เดินไปเรื่อยๆ ก็จะพบกับรูปปั้น เดวิด จำลองครับ



และอีกหลากหลาย



อันนี้ หัวเมดูซ่าครับ





ภาพนี้ ไม่แน่ใจ แต่คงเป็นนิยายกรีกครับ







ภาพนี้ .. ไม้เซลฟี่ ที่ยาวที่สุดในโลก (เอาฮาคับ)



อันนี้ ไม่แน่ใจว่าเค้าทำท่าถืออะไร อยากรู้มากครับ





เต่ายักษ์ทองคำ





แวะช้อปปิ้งอีกสักหน่อยครับ กับร้านนี้ ขายช็อคโกแลต และเจลาโต้ อร่อยๆ ครับ



ด้านหลังฉากนั้น เป็นช็อคโกแลตเหลว ทั้งหมดนะครับ





 





ได้มาแล้ว หุๆ





ทานข้าวกันครับ มื้อเที่ยง ก่อนไปสนามบินแล้วคร้าบ











แป้ง กับชีสสสส



อันนี้อร่อยครับ ชอบ ไก่นะคับ



ส่วนใครที่ทานเนื้อวัว  จัดไปครับ 555 ชิ้นใหญ่มาก 





รถมอเตอร์ไซค์ที่นี่ ผมชอบอย่างนึงนะครับ คือ เค้าจอดหันหน้าออกครับ เป็นระเบียบเชียว





ส่วนคันจิ๋วนี่ ยังเหมือนเดิม 555 เอาหน้าเข้า



กลับบ้านกันคร้าบ หิวส้มตำ ลาบ น้ำตก แล้ว





ก่อนกลับ ไม่ลืม นำเศษเหรียญ หยอดทำบุญครับ





จบแล้วครับ จากกันไปด้วยภาพสุดท้าย ที่ได้รับประทานอาหารร่วมกัน ของเพื่อนร่วมทริปทุกท่าน

หวังว่าเพื่อน ๆที่ได้อ่าน และรับชมรูปมาจนถึงข้อความสุดท้ายนี้ จะสนุก และได้ท่องเที่ยงอิตาลี พร้อมชมงาน WDW2016 ไปพร้อม ๆ กับผมอย่างเต็มอิ่มนะครับ



ผมขอสรุปภาพความประทับใจในทริปนี้ ที่ณ.ตอนนี้ที่ผมพิมพ์ ผมยังจำความรู้สึก ตอนได้พบ เห็น สัมผัสได้เสมอ เป็นรูปส่งท้ายนะครับ

 


ขอบคุณมากนะครับ ที่อ่านมาถึงตรงนี้   อย่าลืมคอมเมนต์ข้อความตอบโต้กันได้นะครับ มันเป็นสิ่งที่สร้างกำลังใจให้ผมในการเขียนรีวิวในเรื่องราวถัด ๆ ไปเสมอครับ ว่ายังมีคนสนใจการรีวิวละเอียด ๆ แบบนี้อยู่

จนกว่าจะได้รีวิวกันใหม่ ..  ลาแล้วครับ