Ducati Bikers Thailand

Riding Technique & learning center => Riding Technic/Learning center => ข้อความที่เริ่มโดย: dukdikdog ที่ กันยายน 23, 2012, 11:18:04 AM

หัวข้อ: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdog ที่ กันยายน 23, 2012, 11:18:04 AM
เท่าที่ผมนั่งอ่านเทคนิคการลดความร้อนจากการดับเครื่องยนต์ในช่วงรถติดไฟแดง หากพิจารณาถึงสภาพการจราจรช่วงนรกแตกที่ติดกันนานๆยาวๆ ดูเหมือนว่าจะทำให้ช่วงเวลาเหมาะสมสำหรับมือใหม่อย่างผมจะต้องงดขี่ช่วงเช้าเย็นที่รถกำลังติด บางท่านก็แนะนำการเปลี่ยนท่่อที่ช่วยการระบายความร้อนได้ดีขึ้น ซึ่งผมก็ยังไม่แน่ใจว่าจะเป็นวิธีที่ได้ผลจริงจังหรือไม่
การพันท่อก็ไม่ทราบว่าจะได้ผลประการใด เพราะในรถยนต์ เคยเห็นเขาพันช่วงเฮดเดอร์ แต่ก็ไม่น่าจะใช่วิธีการแก้ปัญหาดังกล่าวสำหรับกรณีนี้
ท่านสมาชิกมีข้อแนะนำเทคนิคการขี่ หรือวิธีที่ท่านใช้ โปรดแนะนำด้วยครับ
ย้อนกลับไปที่การออกแบบรถ น่าจะมีผลสะท้อนกลับไปพัฒนาปรับปรุงหรือหาวิธีแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรมสักที
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: vahahaha ที่ กันยายน 23, 2012, 12:46:43 PM
เปลี่ยนท่อมันช่วยลดความร้อนสะสมจากท่อได้แน่นอนครับ
ส่วนตอนติดไปแดง บ้างทีตอนผมดับเครื่องแล้วความร้อนมันระบายออกมาร้อนหนักกว่าเดิมอีก ถ้าติดไม่เกิน30วิผมไม่ดับครับ   mon48
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: hokoon (โฮ่ DNT) ที่ กันยายน 23, 2012, 01:35:51 PM
เปลี่ยนท่อเย็นขึ้นแน่นอน
แต่ถ้ารถติดวิ่งเกียร์หนึ่งเกียร์สองนานๆก็ไข่ลวกเหมือนเดิมครับ
ต้องรถเครื่องน้ำไม่มีแฟริ่งแบบ SF หรือ ER6n ถึงจะเย็นครับ
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: Fown ที่ กันยายน 23, 2012, 02:28:40 PM
เปลี่ยนท่อช่วยได้เยอะไหมครับ เอามาขี่ทีไรไข่แทบสุกทุกที  abc52
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: Capriccio ที่ กันยายน 23, 2012, 03:29:27 PM
ปัญหาเดียวกันครับ รถมีหม้อนำ้น่าจะดีกว่าเยอะ
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdog ที่ กันยายน 23, 2012, 03:50:43 PM
ก็เลยเกิดคำถามต่อเนื่องครับว่า ปัญหาเรื่องการระบายความร้อน โดยเฉพาะที่อาจจะนำไปสู่ปัญหา'ปลาวาฬ' หรือ ถังน้ำมันบวม ผมว่าอันตรายมากครับ ความเสี่ยงตรงนี้ บริษัทเคยตอบเป็นทางการ หรือมีการแก้ไขปรับปรุงอย่างเป็นทางการเพื่อแก้ปัญหาสิ่งเหล่านี้หรือไม่ครับ มีใครทราบบ้างครับ รบกวนช่วยแชร์ด้วยครับ
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: hokoon (โฮ่ DNT) ที่ กันยายน 23, 2012, 06:44:43 PM
ล๊อตหลังๆไม่มีแล้วครับปลาวาฬ
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: minigiulia(กัน) ที่ กันยายน 23, 2012, 07:28:27 PM
ล๊อตหลังๆไม่มีแล้วครับปลาวาฬ
ผมล๊อต ส.ค. 55 ห้าขีดเปิดถังยังแอบเห็นปลาวาฬเล็กๆนะครับ แต่คุยกับพี่เซลล์ไว้แล้ว
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: tauhoo (DCDC) ที่ กันยายน 23, 2012, 08:00:24 PM
จะแก้ปัญหาความร้อนจนถังบวม ปลาวาฬ แนะนำให้เอากล่องดักไอน้ำมันออกครับ ลองแล้ว หายเลย  mon57
แต่ถ้าจะแก้ปัญหาเรื่องความร้อนของรถ แนะนำให้ถอดเครื่องออกสถานเดียว ไม่ก็เปลี่ยนไปขับรถยนต์ครับ   mon6
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdog ที่ กันยายน 23, 2012, 09:23:54 PM
เคยสังเกตุระดับความร้อนที่เกิดขึ้นระหว่างการใช้ในรอบวันหรือเปล่าครับ จากการใช้รถในรูปแบบต่างๆกันครับ ท่านสมาชิกผู้ขี่บ่อยๆ รบกวนช่วยแชร์ ระดับความร้อน ความเร็วเฉลี่ยที่ใช้ ระยะทางที่ขับ ระยะเวลาขับรวม เวลาที่ขับ หรือข้อมูลอื่นๆที่น่าสนใจครับ ผมอยากทราบข้อมูลครับ
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: minigiulia(กัน) ที่ กันยายน 23, 2012, 09:51:28 PM
เคยสังเกตุระดับความร้อนที่เกิดขึ้นระหว่างการใช้ในรอบวันหรือเปล่าครับ จากการใช้รถในรูปแบบต่างๆกันครับ ท่านสมาชิกผู้ขี่บ่อยๆ รบกวนช่วยแชร์ ระดับความร้อน ความเร็วเฉลี่ยที่ใช้ ระยะทางที่ขับ ระยะเวลาขับรวม เวลาที่ขับ หรือข้อมูลอื่นๆที่น่าสนใจครับ ผมอยากทราบข้อมูลครับ
ผมวิ่ลพระรามสองไปอ่อนนุช อยู๋ที่ 4 ขีดดับเครื่องทุกไฟแดง ความเร็วอยู่ที่ 80-100 ในเส้นพระรามสอง พอเข้าพระรามสี่เหลือประมาณ 30
เคย 5 ขีดครั้งหนึ่ง ตอนนั้นไม่ได้ดับเครื่องที่ไฟแดงเลย
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdog ที่ กันยายน 23, 2012, 10:19:48 PM
ผมไปนั่งอ่านเว็บทางฝั่งอเมริกาที่เขาเจอปัญหาoverheat ในmonster เจอแต่696 อันนี้ผมเข้าใจว่าตัว795 เป็นเอเซี่ยนเวอร์ชั่น เลยหายากแถบโน้น เท่าที่อ่านดู เทคนิคการดับเครื่องช่วงจอดแช่นานๆเป็นเทคนิคยอดนิยมครับ ขีดเขาขึ้น5 เขาก็ยังว่าเฉยๆครับ (ผมไม่แน่ใจเรื่องจำนวนขีดของสองรุ่นนี้น่ะครับ แต่เดาว่าน่าจะมีจำนวนขีดเท่ากัน)
บางท่านก็แนะว่าเป็นจากการทำให้เครื่องยนต์เผาผลาญหมดจดขึ้น เลยต้องร้อนหน่อย ตามกฏมาตรฐานemissionเขาครับ
การเปลี่ยนท่อทั้งยวง มีคนลองแล้วครับ แจ้งว่าไม่ต่างกันครับเรื่องความร้อนที่เกิด
บางท่านแนะนำว่า ให้ขยันเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง และควรใช้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ หรือน้ำมันเครื่องที่มีความหนามากขึ้น เพื่อความเสถียรของการหล่อลื่นครับ
เห็นบางรายเจอหกขีด มีควันออกท่อเลยครับ
ความร้อนที่เกิดขึ้นเชื่อว่าจะส่งผลต่ออายุการใช้งานของรถ แต่ผมไม่เจอเรื่องปลาวาฬในอเมริกาน่ะ เท่าที่ผมลองหาดู
ที่ผมห่วงคือ การต้มน้ำมันให้เดือด ยิ่งผมสูบบุหรี่ด้วย กลัวจะเละครับ
มีคำแนะนำให้ติด oil cooler แต่ก็ไม่มีใครยืนยันว่าจะแก้เรื่องนี้ได้ครับ
กลายเป็นว่า เจ้าmonster กลายเป็นรถที่เรียกว่า รถขับแล้วแวะจอดทานกาแฟแบบเท่ห์ๆ มากกว่าจะใช้ขี่ระยะยาวๆครับ อันนี้เขาแซวกันครับ
ลองแชร์ประสบการณ์กันดูครับ ผมจะมีรถมอเตอร์ไซด์คันแรกก็ครั้งนี้แหละครับ
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdog ที่ กันยายน 23, 2012, 10:36:02 PM
สำหรับการเอาตัวดักไอน้ำมันออกเพื่อแก้ปัญหาถังบวม ผมไม่ค่อยมีความรู้เรื่องมอเตอร์ไซด์ครับ สารภาพก่อน แต่ขอลองใช้หลักคิดเหมือนตัวดักไอน้ำมันเครืีองในรถยนต์ นั่นคือการลดการสูญเสียของน้ำมันเครื่องที่ระเหยไปจากการเผาใหม้หรืออุณหภูมิเครื่องยนต์ที่สูงโดยการให้ควบแน่นและนำกลับมาใช้ในระบบได้อีก หากเอาส่วนดังกล่าวออก มันจะหมายถึงการสูญเสียน้ำมันเชื้อเพลิงที่เพิ่มจากการเผาผลาญปกติ โดยให้โอกาสระเหยไปฟรีๆ ใช่หรือเปล่าครับ ขอเรียนรู้เรื่องเทคนิคนี้ด้วยครับ
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: I3ank DEZ ที่ กันยายน 24, 2012, 12:49:04 PM
จะแก้ปัญหาความร้อนจนถังบวม ปลาวาฬ แนะนำให้เอากล่องดักไอน้ำมันออกครับ ลองแล้ว หายเลย  mon57
แต่ถ้าจะแก้ปัญหาเรื่องความร้อนของรถ แนะนำให้ถอดเครื่องออกสถานเดียว ไม่ก็เปลี่ยนไปขับรถยนต์ครับ   mon6
 

 mon57   ผมเห็นด้วยกับพี่ tauhoo ครับ  ร้อนไม่ร้อนอยู่ที่ใจครับ

ผมใช่3-4ขีดเวลารถวิ่งปกติ60-120แล้วแต่จังหวะ  แต่จะมี5ขีดก็เคยครับมีบ้างเวลารถติดใช้ความเร็วได้แค่15-40 ส่วนเวลาจอดก็ต้องมีร้อนเป็นะธรรมดาครับ เพราะรถหยุดนิ่งความร้อนก็ต้องขึ้นสูง แต่ว่าต่อให้5ขีดถ้าขี่วิ่งปกติลมก็พัดผ่านช่วยระบายความร้อนอยู่แล้วครับ เพราะเครืองตัวนี้เค้าก็ออกแบบมาให้ระบายความร้อนด้วยอากาศ  พร้อมติด ออยคูลเลอร์ มาให้แล้วครับ ส่วนเรื่องปลาวาฬ ของผมไม่มีปัญหาครับ     
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: hokoon (โฮ่ DNT) ที่ กันยายน 24, 2012, 01:33:19 PM
ไม่เคยห้าขีดครับ สูงสุดสี่ขีดไปขี่ช้าๆตามขบวนฮาเล่ไข่ลวกแล้ว
ทางแก้คือเลือกเส้นทางที่วิ่งได้ครับ เส้นไหนติดมุดไม่ได้ก็ไม่ต้องเอาไป
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdog ที่ กันยายน 24, 2012, 02:49:49 PM
อีกประเด็นหนึ่งครับที่อ่านเจอ เรื่องการที่ถังน้ำมันมีอาการผิดรูปของDucati หลายรุ่น อันนี้มีคดีฟ้องร้องกันพอสมควรในอเมริกา สาเหตุหนึ่งที่เจอคือ ลักษณะของตัวถังที่ทำจาก PA6 (โพลีเอไมด์ 6) เห็นว่าบิ้กไบค์หลายยี่ห้อก็ใช้กันครับ เขาไปเจอว่า น้ำมันที่มีส่วนผสมของเอธานอล อาจมีผลทำให้เกิดการผิดรูป การรั่วซึมของระบบไลน์ของน้ำมัน หรือ แม้แต่การแยกชั้นน้ำออกจากน้ำมัน
อันนี้ผมยังไม่รวมคิดเรื่องความร้อนจากเครื่องยนต์ที่เราคุยกันมานาน
หากนำปัจจัยเหล่านี้มารวมคิด... มีลุ้นอีกแล้วครับ
เท่าที่ทราบจาก DUCATI ที่จำหน่ายในอเมริกาก็ทราบเรื่องครับ แต่ก็ไม่ได้มีมาตรการแก้ไขใดๆ อย่างชัดเจน เท่าที่อ่านพบก็จะเป็นการเปลี่ยนเคลมถังอันใหม่ที่เป็นวัสดุเดิมให้ โดยเปลี่ยนให้เป็นกรณีๆไปครับ
เห็นมีบางเจ้าได้เพิ่มอายุการรับประกันเข้าไปด้วยครับ
แต่ในบ้านเรา ไม่ทราบว่าเป็นอย่างไรกันบ้างครับ
น้ำมันกลุ่มโซฮอล์โดนเต็มๆครับ งานนี้ ลองช่วยกันแชร์ประสบการณ์กันต่อครับ
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: OJJ69 ที่ ตุลาคม 02, 2012, 07:05:24 PM
แรกๆก็หลอนดูแต่เกความร้อน 4-5ขีด เดี๋ยวเจอไฟแดง เดี๋ยวรถติด เดี๋ยวดับเครื่อง ดูอนาจนะผมว่า(ส่วนตัว)ผมทราบอย่างเดียวผมซื้อ Ducati ผมต้องได้รับการดูแลแบบ Ducati (กับศูนย์ไทย พูดไทยดีๆคงไม่ติดอะไรมั่งครับ เท่าที่ทราบก็รับผิดชอบทุกเคส mon57)
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: minigiulia(กัน) ที่ ตุลาคม 02, 2012, 08:59:37 PM
อีกประเด็นหนึ่งครับที่อ่านเจอ เรื่องการที่ถังน้ำมันมีอาการผิดรูปของDucati หลายรุ่น อันนี้มีคดีฟ้องร้องกันพอสมควรในอเมริกา สาเหตุหนึ่งที่เจอคือ ลักษณะของตัวถังที่ทำจาก PA6 (โพลีเอไมด์ 6) เห็นว่าบิ้กไบค์หลายยี่ห้อก็ใช้กันครับ เขาไปเจอว่า น้ำมันที่มีส่วนผสมของเอธานอล อาจมีผลทำให้เกิดการผิดรูป การรั่วซึมของระบบไลน์ของน้ำมัน หรือ แม้แต่การแยกชั้นน้ำออกจากน้ำมัน
อันนี้ผมยังไม่รวมคิดเรื่องความร้อนจากเครื่องยนต์ที่เราคุยกันมานาน
หากนำปัจจัยเหล่านี้มารวมคิด... มีลุ้นอีกแล้วครับ
เท่าที่ทราบจาก DUCATI ที่จำหน่ายในอเมริกาก็ทราบเรื่องครับ แต่ก็ไม่ได้มีมาตรการแก้ไขใดๆ อย่างชัดเจน เท่าที่อ่านพบก็จะเป็นการเปลี่ยนเคลมถังอันใหม่ที่เป็นวัสดุเดิมให้ โดยเปลี่ยนให้เป็นกรณีๆไปครับ
เห็นมีบางเจ้าได้เพิ่มอายุการรับประกันเข้าไปด้วยครับ
แต่ในบ้านเรา ไม่ทราบว่าเป็นอย่างไรกันบ้างครับ
น้ำมันกลุ่มโซฮอล์โดนเต็มๆครับ งานนี้ ลองช่วยกันแชร์ประสบการณ์กันต่อครับ
แบบนี้สงสัยต้องใช้ทีเดียวให้หมด พอจอดก็เติม 95 ลงไปเจือจางน่าจะดี
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdog ที่ ตุลาคม 03, 2012, 06:51:05 AM
แรกๆก็หลอนดูแต่เกความร้อน 4-5ขีด เดี๋ยวเจอไฟแดง เดี๋ยวรถติด เดี๋ยวดับเครื่อง ดูอนาจนะผมว่า(ส่วนตัว)ผมทราบอย่างเดียวผมซื้อ Ducati ผมต้องได้รับการดูแลแบบ Ducati (กับศูนย์ไทย พูดไทยดีๆคงไม่ติดอะไรมั่งครับ เท่าที่ทราบก็รับผิดชอบทุกเคส mon57)
 
ผมห่วงเรื่องประกันรถครับ. พอหมดอายุประกันกรงว่าจะเป็นแบบตัวใครตัวมันครับ เคสเรื่องความร้อนที่ส่งผลต่อความเสียหายต่างๆของตัวรถและอุปกรณ์ที่ติดมากับรถก็ยังมีผู้โพส โดยที่เข้าใจถึงสาเหตุจากความร้อน หากแต่การแก้ไขจากศูนย์เอง กลับยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องดังกล่าว อันนี้แหละครับที่ผมกังวลครับ มันสะท้อนอะไรบางอย่างในระบบการทำงานของบริษัท โดยความเสี่ยงในการทดลองวัสดุกลับมาอยู่ที่ผู้ใช้ครับ อันนี้ผมว่ามันไม่แฟร์ครับ
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: debbie ที่ ตุลาคม 03, 2012, 09:15:50 AM
 อ่านแล้วนึกถึง Honda Click-I Idliling Stop              mon6       หม้อน้ำ+พ้ดลม+Idling
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdog ที่ ตุลาคม 03, 2012, 11:24:11 AM
ในขณะนี้รถที่ผมจองก็มารอแล้วครับ คุยกับSale มาแล้วว่ารถพร้อมรับ ตัวผมเองก็เกิดความไม่สบายใจเรื่องแนวทางการแก้ไขหรือป้องกันจากทางบริษัทครับ อธิบายถึงข้อมูลที่ทราบมาทั้งหมด ซึ่งท่านSaleก็เหมือนจะรับรู้ปัญหาดังกล่าวอยู่แล้วครับ โดยเบื้องต้นก็แจ้งว่า ทางบริษัทก็ใช้การเพิ่มฉนวนกันความร้อนเข้าไป ซึ่งผมว่าก็ยังตอบโจทย์ที่ผมมีไม่หมดครับ ผมเข้าใจข้อจำกัดของSaleดีครับว่าเขาไม่ใช่คนออกแบบและคนแก้ไขระบบดังกล่าวครับ เลยวันนี้ฝากท่านSaleไป ท่านSaleก็รับปากว่าจะไปปรึกษาฝ่ายserviceแล้วจะนำคำตอบมาแจ้งให้
ในมุมมองผมว่า คงไม่มีคำตอบอะไรที่แตกต่างมากนักจากสิ่งที่เป็นอยู่ครับ อันนี้มองแบบตามประสบการณ์ครับ ก็จะรอฟังคำตอบด้วยความหวังเล็กๆครับ
ถ้าไม่ชัดเจน ก็คงต้องทำใจย้ายค่ายครับ ถ้าหลุดจากเจ้าปีศาจ ผมก็คงจำใจต้องพึ่ง z1000 แทนครับ
สารภาพว่าคันนี้ผมเลือกโดย Passion โดยแท้ครับ แต่ตอนนี้ขอ Function ให้มันปลอดภัยขั้นต่ำก่อนครับ
(ถ้าผมย้ายค่ายก็จะมีชุดโปรท่อหลุดอีกหนึ่งชุดครับ นอกเหนือจากค่าจองรถแล้ว เผื่อมีท่านใดสนใจครับ) แล้วผมจะมาแจ้งอัพเดทอีกครั้งครับ
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: udrivemekzy ที่ ตุลาคม 03, 2012, 11:50:22 AM
เพิ่งขายใบจองจากค่ายยักษ์เขียวจะมาหาน้อง มอนเต้ ... เจอกะทู้นี้แล้วคิดหนักเลยยย หลังจากพยายามหาเหตุผลว่า ทนได้ๆ แล้วนะ  mon6 รือต้องกลับไปง้อ z1000 เนยะ
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: debbie ที่ ตุลาคม 03, 2012, 11:57:57 AM
Z800 เปิดตัวเมื่อวาน    รักใครชอบใครก็จัดกันไปครับอย่าคิดมาก อารมณ์ล้วนๆ ผมรักทั้งคู่สองล้อเหมือนกัน   mon43
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: minigiulia(กัน) ที่ ตุลาคม 03, 2012, 12:59:45 PM
ชอบอันไหนก็จัดเลยครับ ขี่ด้วยกันได้อยู๋แล้ว mon47
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: OJJ69 ที่ ตุลาคม 03, 2012, 02:17:18 PM
ในขณะนี้รถที่ผมจองก็มารอแล้วครับ คุยกับSale มาแล้วว่ารถพร้อมรับ ตัวผมเองก็เกิดความไม่สบายใจเรื่องแนวทางการแก้ไขหรือป้องกันจากทางบริษัทครับ อธิบายถึงข้อมูลที่ทราบมาทั้งหมด ซึ่งท่านSaleก็เหมือนจะรับรู้ปัญหาดังกล่าวอยู่แล้วครับ โดยเบื้องต้นก็แจ้งว่า ทางบริษัทก็ใช้การเพิ่มฉนวนกันความร้อนเข้าไป ซึ่งผมว่าก็ยังตอบโจทย์ที่ผมมีไม่หมดครับ ผมเข้าใจข้อจำกัดของSaleดีครับว่าเขาไม่ใช่คนออกแบบและคนแก้ไขระบบดังกล่าวครับ เลยวันนี้ฝากท่านSaleไป ท่านSaleก็รับปากว่าจะไปปรึกษาฝ่ายserviceแล้วจะนำคำตอบมาแจ้งให้
ในมุมมองผมว่า คงไม่มีคำตอบอะไรที่แตกต่างมากนักจากสิ่งที่เป็นอยู่ครับ อันนี้มองแบบตามประสบการณ์ครับ ก็จะรอฟังคำตอบด้วยความหวังเล็กๆครับ
ถ้าไม่ชัดเจน ก็คงต้องทำใจย้ายค่ายครับ ถ้าหลุดจากเจ้าปีศาจ ผมก็คงจำใจต้องพึ่ง z1000 แทนครับ
สารภาพว่าคันนี้ผมเลือกโดย Passion โดยแท้ครับ แต่ตอนนี้ขอ Function ให้มันปลอดภัยขั้นต่ำก่อนครับ
(ถ้าผมย้ายค่ายก็จะมีชุดโปรท่อหลุดอีกหนึ่งชุดครับ นอกเหนือจากค่าจองรถแล้ว เผื่อมีท่านใดสนใจครับ) แล้วผมจะมาแจ้งอัพเดทอีกครั้งครับ
มอนสเตอร์ 795 เป็นรถที่ดีมากคันนึง ( mon32) ผมก็เคยรู้สึกเช่นนี้ ถึงกับต้องสืบหาข้อมูลต่างๆเพื่อหักล้างความคิดเรื่องปัญหาที่รับทราบกันมา สรุปปัญหาก็คือปัญหาจะต้องแก้ไขเท่านั้นมันถึงจะจบ ถ้าทางศูนย์ยังมัวนิ่งเฉยไม่แคร์ที่จะแก้ไขอย่างจริงจังยังคงสนองเป็นกรณีกรณีไปอยู่อย่างนี้ ..(เขียนไปก็ต้องลบเพราะมีแต่คำด่าทั้งนั้น) ผมคาดหวังว่าจะได้รับการใส่ใจและแก้ไขกับปัญหาที่เราๆท่านๆกำลังกังวล mon49
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdog ที่ ตุลาคม 03, 2012, 03:42:15 PM
ผมเสนอแบบวิทยาศาสตร์ล้วนๆเลยน่ะครับ เพียงแต่จะมีสมาชิกท่านไหนอุทิศตัวเพื่อการทดลองครับ อุปกรณ์ก็มีแค่เทอรโมมิเตอร์แบบธรรมดาที่ใช้ในห้องlabทั่วไปครับ นำรถมาติดเครื่องทิ้งไว้ แล้วเร่งรอบเครื่องในระดับต่างๆที่กำหนด แล้ววัดอุณหภูมิของน้ำมันในถัง แล้วเทียบกับขีดความร้อนที่ระบุจากจอหน้าปัดของรถ ไม่น่ายากครับ จะได้ชัดเจน เคลียกันไปเลยครับ
โดยสมมติฐานการวัดคือการดูอุณหภูมิของน้ำมันที่เก็บในถังครับ หากสูงเกินกว่าระดับจุดเดือดของน้ำมันที่จะเริ่มเปลี่ยนสถานะเป็นไอ นั่นก็แสดงว่า ระบบฉนวนไม่สามารถป้องกันความร้อนดังกล่าวได้ดีพอ
ความร้อนรถ ผมคิดว่าผมรับได้ครับ แต่ถ้าร้อนจนระดับน้ำมันเดือดเป็นไอ หรือ ระเหยเป็นไอจำนวนมาก จะได้ฟันธงกันครับ
ท่านสมาชิกทั้งหลายคือผู้บริโภคล้วนๆ และอันนี้คือสิทธิที่ผู้บริโภคหาเช้ากินค่ำแบบเราๆควรจะทราบข้อเท็จจริงครับ
หากเป็นปัญหาจริง จะได้ร่วมกันร้องเรียนต่อไปครับ หากไม่พบปัญหา ผมยินดีที่จะซื้อมาขี่อย่างสบายใจ ลูกเมียไม่ต้องนอนผวา แค่คิดจะขี่มอเตอร์ไซด์ก็เสี่ยงมากพออยู่แล้วครับ ว่าไงดีครับ
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: อ๊อฟ ที่ ตุลาคม 03, 2012, 04:19:06 PM
แนะนำFINOครับหมดปัญหาที่กังวลใจ mon16 mon16 mon16
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdog ที่ ตุลาคม 03, 2012, 05:44:39 PM
แนะนำFINOครับหมดปัญหาที่กังวลใจ mon16 mon16 mon16

อันนี้เพื่อทำให้ปัญหามันมีคำตอบที่ชัดเจนขึ้น หรือ หนีปัญหาครับ ผมจะได้ปรับอารมณ์ถูกครับ
สิ่งที่ผมโพสถาม หากคิดว่าไร้แก่นสาระ ไม่มีประโยชน์ต่อผู้ใช้โดยรวม บอกได้ครับ ผมจะได้เอาเวลาไปทำอย่างอื่นครับ
หากไล่ผมไปขี่ฟีโน่ ก็ไม่ต่างกับคำพูดในแนวที่ว่า "ไม่พอใจ ก็ไม่ต้องใช้ ง่ายดี"
แต่คิดดูดีๆครับ รถผมยังไม่ได้ไปรับ แต่ท่านที่มีรถใช้อยู่ ท่านทราบข้อเท็จจริงของรถท่านใช้อยู่หรือยังครับ ผมว่ากลุ่มท่านน่าจะเครียดกว่าผมน่ะครับ
หากมันไม่เกิดปัญหาก็ยินดีด้วยครับ และหากช่วยแชร์ข้อมูลที่มีประโยชน์ น่าจะสวยงามกว่าครับ
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: อ๊อฟ ที่ ตุลาคม 03, 2012, 06:04:46 PM
แนะนำFINOครับหมดปัญหาที่กังวลใจ mon16 mon16 mon16

อันนี้เพื่อทำให้ปัญหามันมีคำตอบที่ชัดเจนขึ้น หรือ หนีปัญหาครับ ผมจะได้ปรับอารมณ์ถูกครับ
สิ่งที่ผมโพสถาม หากคิดว่าไร้แก่นสาระ ไม่มีประโยชน์ต่อผู้ใช้โดยรวม บอกได้ครับ ผมจะได้เอาเวลาไปทำอย่างอื่นครับ
หากไล่ผมไปขี่ฟีโน่ ก็ไม่ต่างกับคำพูดในแนวที่ว่า "ไม่พอใจ ก็ไม่ต้องใช้ ง่ายดี"
แต่คิดดูดีๆครับ รถผมยังไม่ได้ไปรับ แต่ท่านที่มีรถใช้อยู่ ท่านทราบข้อเท็จจริงของรถท่านใช้อยู่หรือยังครับ ผมว่ากลุ่มท่านน่าจะเครียดกว่าผมน่ะครับ
หากมันไม่เกิดปัญหาก็ยินดีด้วยครับ และหากช่วยแชร์ข้อมูลที่มีประโยชน์ น่าจะสวยงามกว่าครับ

เยอะจิงไรจิง mon3 mon3 mon3
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: bankie ที่ ตุลาคม 03, 2012, 06:05:47 PM
ใจเย็นๆคัฟ คนแถวนี้เค้าแซวกันอย่างนี้แหละ อย่าถือเป็นจริงจัง
 
mon2
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdog ที่ ตุลาคม 03, 2012, 07:02:15 PM
ช่วยกันอ่านดูครับ
The issue isn't with Ethanol directly, which has no significant effect on PA6; it's with water. Straight gasoline doesn't mix well with water, so it phase separates almost immediately and the water settles to the bottom of the tank where it gets sucked up by the fuel pump in such small quantities as to be unnoticeable.

However, with ethanol in the fuel, a significantly greater quantity of water can be held in suspension within the fuel before reaching the phase separation threshold, exposing a far greater surface area of the tank to the water. This wouldn't be so bad, except...

PA6 has the unfortunate attribute of being able to absorb water, up to ~9% by mass. This additional mass takes up space, so the tank walls deform.

Of course, this also implies that unpainted tanks (such as on the 696/796/1100) in areas with cold nights and humid days would see the same problem even without ethanol in the fuel as water would condense on the outer surface and be absorbed by the material. Hmmm...

You might also be onto something regarding heat. Air-cooled engines tend to get hotter than their water-cooled counterparts. I wonder how much of a role this plays? Some forms of PA6 deform at temperatures below what the Monster's engine can reach before giving an overheat warning.
อันนี้มีฝรั่งเขาตั้งข้อสังเกตุว่าการตอบสนองของบริษัทดูคาติในอเมริกาเป็นอย่างไรครับ
Did you actually read the motion and plaintiff's response? I hope you did. It was pretty interesting. I would suggest everyone to take a quick look through the pages. I know there are tons of law terms but it's worth the reading.

The basic Ducati claim is that they satisfied both plaintiffs by replacing the tanks under warranty. So basically (I am over-simplifying this and not quoting the past cases addressing these issues) they claim that they acted in good faith by satisfying their warranty.

The plaintiffs' response is that they didn't because they never provided a permanent solution. In other words, they replaced the tank with a tank that has the same problem. They argue that a warranty claim should address the underlying problem. That is the compatibility of fuel and materials.

I hope the judge dismisses Ducati's motion and we can all move on and get this resolved.
ผมกำลังหาผลการตัดสินอยู่ครับ ถ้ามีจะมาอัพเดทครับ
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: meng23 เหม่ง ที่ ตุลาคม 04, 2012, 06:03:15 AM
ผมว่าการแก้ปัญหาความร้อนเป็นเรื่องท่่ียาก รถเครื่องยนต์ 800cc มันจะไม่ร้อนได้ไง ถ้ายิ่งวิ่งใน กทม.รถติดๆอีก รถเรามันไม่มีหม้อน้ำอยู่แล้ว
ใช้รถในช่วงเวลารถติด ผมให้ขี่รถ125cc ยังร้อนเลยครับ
เรื่องประกันรถ ศูนย์เค้าดูแลรถให้เรา2ปี มีปัญหาก็เอารถเข้าศูนย์เลยครับ ขี่ให้รู้เลยว่ารถมีประสิทธิภาคแค่ไหน
ที่มาพูดให้ฟังไม่ได้โต้แย้งหรือจะสร้างเรื่องนะคับ แค่เสนอความคิดเห็น
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdog ที่ ตุลาคม 04, 2012, 06:38:40 AM
ความร้อนเกิดแน่นอนครับเรื่องปกติครับ แต่ที่ผมอยากแชร์หรือทราบข้อมูลคือ ความร้อนกับถังน้ำมันครับ มีผลกระทบอย่างไรครับ วัสดุที่ทำถังน้ำมัน ชนิดถังน้ำมัน ความร้อนเครื่องยนต์ การแก้ปัญหาจากทางบริษัทที่เป็นรูปธรรมและคำอธิบายที่ชัดเจน ผมเลยมาลองถามประสบการณ์ท่านทั้งหลายครับ ถ้าไม่เจอก็คงไม่มีปัญหาอะไรครับ แต่ถ้าเจอปัญหาจะได้แชร์กันครับ ที่ร้ายไปกว่านั้นคือ ที่ไม่ทราบว่าจะเกิดปัญหาดังกล่าวขึ้นครับ ผมก็เลยพยายามสืบค้นต่อไปครับ. ถ้าเห็นว่าไม่มีประโยชน์ก็ไม่ว่ากันครับ ลองอ่านเคสที่เจอในต่างประเทศและผลการตอบสนองจากบริษัทที่ผมโปรยไว้ดีๆครับ จะเห็นภาพครับ
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: KNOT... ที่ ตุลาคม 04, 2012, 09:32:54 AM
ขออนุญาตแสดงความคิดเห็นนะครับ
     ผมว่ายังไงตัวแทนจำหน่ายหรือศูนย์บริการความมีการแก้ไขที่เป็นรูปธรรมที่มากกว่านี้ ปัญหาที่เกิดขึ้นต้องแก้ไขยังไง ควรชี้แจ้งครับ เพราะเกือบทุกปัญหาเข้าแก้ไข มุบมิบมุบมิบ แล้วก็เงียบ ลูกค้าท่านอื่นก็รอให้เกิดปัญหาต่อไป ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเรื่องวัสดุ สเป็คน้ำมัน (ถ้าศูนย์ชี้แจงดี คงไม่มีใครได้เติม 91 หรอกครับ) หรือจะเป็นเรื่องการแก้ไขปัญหาความร้อน (เซลบางคนบอก 4 ปรกติ, บางคนบอก 3, บางคนบอก 5 ดับเครื่องเลย เพ่) .......ศูนย์บริการและตัวแทนเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมดครับ ผมมีหน้าที่ใช้ให้สนุกกับมันครับ สุดท้าย มอไซค์ มันก็เป็น Mechanic + Electronic ดังนั้นผมว่าปัญหามันเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา Nothing Perfect ครับ ขอแค่ดูแลรักษาตามระยะเวลา หมั่นดูแล ส่วนที่เหลือก็ ให้เป็นหน้าที่ของศูนย์บริการละกัน ส่วนผมขอใช้ชีวิตให้สนุกกับมันก็พอครับ

     
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: TOTTOO ที่ ตุลาคม 04, 2012, 10:17:36 AM
 ผมคิดว่ากำลังจะเอาไม่หนีบผ้าแบบที่ทำจากอลูมิเนียม..มาหนีบตามครีบระบายความร้อนของเสื้อสูบ.รอบๆเสื้อสูบ
เพื่อช่วยระบายความร้อน อาจจะช่วยได้ไม่มากก็น้อยนะครับ ..
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: ไอ้มดเอ็กซ์(DNT) ที่ ตุลาคม 04, 2012, 10:32:14 AM
ผมบอกตรงๆครับ ในความรู้ที่มีของผมและปริญญาทั้ง 8 ใบที่มี ผมว่าเจ้า M795 เป็นรถที่มีปัญหาจริงๆครับ
ผมแค่อยากจะแชร์ประสบการณ์เหมือนกัน ขอแชร์ปัญหาที่เจอเป็นข้อๆนะครับ

1. เรื่องความร้อนครับ ผมวิ่งเส้นลาดพร้าว-รัชดา(หน้าศาลอาญา)-บางซื่อทุกวัน
เวลาติดไฟแดงจะรู้สึกร้อนๆที่ไข่ครับ ตอนแรกร้องเห้ยในหมวกกันน๊อคเลยครับ ทำไมมันร้อนจัง
แต่พอหลังๆเริ่มทนได้ครับ รถเรา 800cc ไม่มีหม้อน้ำ ระบายความร้อนด้วยอากาศ
วิ่งมาแล้วจอดรู้สึกร้อนแน่นอนครับ แต่ถ้าวิ่งเรื่อยๆ ชิวมาก ไม่รู้สึกเลย 
ผมก็เลยไปหาข้อมูลสมัยที่เรียนมาให้กับตัวเอง อ่อ ความร้อนเกินจากการเสียดสี เพราะผมขี่นี่เอง มันเลยมีการเสียดสี
ถ้ามันไม่เสียดสีมันคงไม่ร้อน
mon17 mon36


2. สายตาครับ เวลาติดไฟแดง ชอบมีคนมอง จริงๆผมว่าเป็นทุกยี่ห้อ ถ้าเป็นบิ๊กไบท์ ติดไฟแดงใครๆก็มอง(เพราะเค้ารำคาญเสียงท่อมั้ง 555+)
ผมบอกตรงๆครับ ผมเขิล เวลาผมติดไฟแดง ผมจะดับเครื่องทันทีครับ และก็ไม่อยู่หน้าสุด ผมให้พี่ๆคันอื่นเขาไปก่อน ผมอยู่หลังดีกว่าครับ
ท่อก็ดัง กลัวไปเตะตาปลาขาใหญ่เข้าครับ
 mon6  mon32 mon17

3. สาวๆครับ ผมมีปัญหาสาวๆทะเลาะกัน คนนู้นว่าผมแอบพาคนนี้ไป คนนี้ว่าผมไปแอบซ้อนใครมา อีกคนอยากให้พาไปกินข้าว อีกคนอยากให้พาไปดูหนัง โอยสารพัด
สำหรับผม ผมมองว่าเป็นปัญหาข้อที่แก้ยากกว่าเรื่องความร้อนอีกครับ(ข้อนี้ใครมีวิธี รบกวนขอคำปรึกษาด้วยครับ) 
mon6

4. เรื่องเงินครับ รู้สึกว่าตัวเองเงินเหลือน้อยลง ยิ่งมีเจ้าคันนี้ยิ่งอยากขี่บ่อยๆ พอขี่บ่อยก็ต้องเติมน้ำมันบ่อยๆ 
พอเห็นรถคันอื่นสวยๆก็อยากแต่ง แต่งแล้ว แต่งอีก ไม่จบไม่สิ้น 
mon19 mon14

ปัญหาที่ผมเจอมาคร่าวๆก็ประมาณนี้ครับ ตอนผมจะซื้อคันนี้ผมก็คิดมากเรื่องความร้อนเหมือนกัน
ไม่คิดว่าซื้อมาแล้วจะมีปัญหาอื่นตามมาเยอะขนาดนี้ครับ เอาใจช่วยเจ้าของกระทู้ครับ 
mon4

หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: อ๊อฟ ที่ ตุลาคม 04, 2012, 11:11:06 AM
ขออนุญาตแสดงความคิดเห็นนะครับ
     ผมว่ายังไงตัวแทนจำหน่ายหรือศูนย์บริการความมีการแก้ไขที่เป็นรูปธรรมที่มากกว่านี้ ปัญหาที่เกิดขึ้นต้องแก้ไขยังไง ควรชี้แจ้งครับ เพราะเกือบทุกปัญหาเข้าแก้ไข มุบมิบมุบมิบ แล้วก็เงียบ ลูกค้าท่านอื่นก็รอให้เกิดปัญหาต่อไป ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเรื่องวัสดุ สเป็คน้ำมัน (ถ้าศูนย์ชี้แจงดี คงไม่มีใครได้เติม 91 หรอกครับ) หรือจะเป็นเรื่องการแก้ไขปัญหาความร้อน (เซลบางคนบอก 4 ปรกติ, บางคนบอก 3, บางคนบอก 5 ดับเครื่องเลย เพ่) .......ศูนย์บริการและตัวแทนเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมดครับ ผมมีหน้าที่ใช้ให้สนุกกับมันครับ สุดท้าย มอไซค์ มันก็เป็น Mechanic + Electronic ดังนั้นผมว่าปัญหามันเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา Nothing Perfect ครับ ขอแค่ดูแลรักษาตามระยะเวลา หมั่นดูแล ส่วนที่เหลือก็ ให้เป็นหน้าที่ของศูนย์บริการละกัน ส่วนผมขอใช้ชีวิตให้สนุกกับมันก็พอครับ

     



มันคืออุปกรณ์สร้างความสุขขขขขอีกรูปแบบหนึ่งของผมเหมือนกัน... mon47 mon47 mon47
เหมือนกาแฟแก้วนี้ของผม
โฆษณา เนสกาแฟความสุขที่เราสร้างเอง (http://www.youtube.com/watch?v=gpvXdnCkwKM#)
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: tauhoo (DCDC) ที่ ตุลาคม 04, 2012, 11:11:50 AM
มอไซค์ 800 cc ไม่มีหม้อน้ำ ขาอยู่ใกล้เครื่องไม่ถึง 10 เซน ลูกสูบทำงานอยู่ใต้เป้าคนขี่ ให้ยังไงมันก็ร้อนครับพี่

เรื่องความร้อนกับถังน้ำมัน หลายๆคนแก้ปัญหาไปแล้วกับการเอาถังดักไอน้ำมันออก มีคนแนะนำให้ผมเอาออก ความร้อนลดลง ถังน้ำมันเลิกบวม แก้ปัญหาเองได้จุดหนึ่ง

แต่ถ้าจะถามว่า ต่อไปจะถึงขั้นร้อนจนทำให้ถังน้ำมันระเบิดมั้ย อันนี้ผมไม่ทราบ เพราะไม่เคยมีเคสนี้มาก่อน

ถ้าจะถามอะไรจากศูนย์ ????

ที่นี่เคยมีเคสใหญ่อยู่ 2 ครั้ง

1 เรื่องปลาวาฬ ตอนนั้นตกใจกันอยู่พักใหญ่ หลายคนต้องการคำตอบที่มีที่มาที่ไปจากศูนย์ อยากให้ศูนย์เข้ามาตอบ หรืออธิบายว่ามันเกิดอะไรขึ้น สุดท้าย เรื่องเงียบ ศูนย์ไม่เข้ามาตอบ ไปถามที่ศูนย์ ศูนย์ตอบได้แบบอ้อมแอ้มว่าล๊อตใหม่แก้ไขแล้ว แล้วเรื่องก็เงียบไป

2 เรื่องการเข็นสตาร์ท ตกลงมาถึงตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่าเข็นสตาร์ทได้หรือเปล่า อยากให้ศูนย์เข้ามาอธิบาย สุดท้าย เรื่องเงียบ ศูนย์ไม่ตอบ ปล่อยให้ลูกค้าไปหาคำตอบเอาเอง

ทั้ง 2 เรื่อง ไม่มีคำอธิบายอะไรมาให้คนขี่ได้เข้าใจซักอย่าง คนที่นี่ก็คาใจ คากันจนเลิกสนใจแล้วครับ จนรู้ถึงแก่นแล้วว่าศูนย์เป็นยังไง จากนั้นก็เลิกถามครับ ถามไปก็เท่านั้น เหมือนคุยกับตอม่อโฮปเวลล์

แล้วคุณ dukdigdog อยากจะให้ศูนย์มาอธิบายเรื่องความร้อนอย่างเป็นรูปธรรมในบอร์ด ผมแนะนำว่าก่อนที่จะจองรถ หรือรับรถ ให้เข้าไปถามที่ศูนย์ตรงๆเลยดีกว่า ถามกับช่างเทคนิคเลย ถามถึงความมั่นใจว่าใช้รถแล้วจะไม่มีปัญหา มาถามที่นี่ มันไม่ได้อะไรหรอกครับ ทุกคนไม่ใช่วิศวกรเครื่องยนต์ ไม่ใช่ช่างเครื่อง เป็นเพียงลูกค้าที่ขี่มอไซค์เท่านั้น แก้ไขอะไรยังไงก็ทำได้แค่ความรู้งูๆปลาๆเท่านั้น

หากจะเอาแบบว่ามีหลักการชัดเจน คงจะต้องลงขันกันทำวิจัยแล้วล่ะครับ

ส่วนตัวผมไม่ทราบอะไรเกี่ยวกับรถซักอย่างครับ บอกตรงๆ วันๆ ขี่ จอด เติมน้ำมัน เท่านั้นแหละครับ ก่อนซื้อผมไม่ได้มาวิจัยหรอก ว่าความร้อนเป็นไง อะไรเป็นไง ขี่อยู่หลังถังน้ำมันซักวันมันจะระเบิดหรือเปล่า อันนี้ไม่ทราบครับ ผมซื้อเพราะชอบ ถ้าไม่ชอบผมก็ไปหายี่ห้ออื่นที่มันไม่ร้อนมาขี่แล้ว

ทุกวันนี้เครื่องและสายพานมันดัง แคร้งๆๆๆ ผมยังไม่รู้เลยตกลงมันเป็นเพราะรถหรือรถผมพัง แต่ก็ขี่ไปเรื่อยๆ ขอแค่น้ำมันไม่หมด รถมันไม่ดับ ยางไม่แบน ขี่ไม่ล้ม มันก็พาผมไปได้ถึงที่หมายครับ แต่ร้อนน่ะร้อนชัวร์ ขี่ไปนานๆจนชิน มันก็ชินไปเองครับ

เรื่องติดไฟแดงแล้วดับเครื่อง จริงๆมันไม่มีกฎเกณฑ์อะไรตายตัวหรอกครับ อยู่ที่ตัวคนขี่เองว่าจะเลือกติดเครื่อง หรือจะเลือกดับเครื่อง ตัวผมเลือกดับเครื่องครับ มันร้อน ถ้าทนไม่ไหวผมก็ดับเครื่อง ไฟเขียวก็สตาร์ทใหม่ เหตุผลที่ผมดับเครื่อง หนวกหู ร้อน เปลืองน้ำมัน ส่วนคนอื่นคิดไงผมไม่รู้

ปัญหาที่คุณเจ้าของกระทู้ต่างจากผม หรือหลายๆคนในนี้ ก็คือ พวกผมใช้รถแล้วขี่ไปเรื่อยๆไม่ได้เครียดกับมันไงครับ ไม่ได้สังเกตุเรื่องรถด้วยซ้ำ ส่วนคุณยังไม่ได้รับรถเลย แต่เครียดมากกว่า มันเลยเป็นปัญหาที่คุณไม่สบายใจไง

ไม่ได้บอกว่าคุณผิดนะครับที่ถาม แต่คุณมาถามผิดที่ครับ ที่นี่ตอบได้เพียงเท่านี้ครับ ที่นี่ไม่ใช่ศูนย์ ที่นี่ไม่ใช่สถานีวิจัย ที่นี่เป็นเพียงเวปบอร์ดของคนรัก ducati เท่านั้นเองครับ รถร้อนแก้ไขยังไง แก้ไขได้ตามมีตามเกิดครับ ไม่มีหลักการอะไรหรอก

ถ้ายังคาใจจริงๆ แนะนำเลยครับ ได้รถมา เอารถคุณไปทดลองเลยครับ แล้วถ้าเอามาบอกกันในบอร์ด จะเป็นพระคุณอยากมากครับ

ยินดีต้อนรับเข้าบอร์ดครับ

(http://image.ohozaa.com/i/0a9/dVIE4.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/3HqE)

ขี่ ducati ตามรูปนี่แหละครับ เท่ห์ แต่ ....... ร้อน


หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: ปุ๊ DNT ที่ ตุลาคม 04, 2012, 11:19:14 AM
มอไซค์ 800 cc ไม่มีหม้อน้ำ ขาอยู่ใกล้เครื่องไม่ถึง 10 เซน ลูกสูบทำงานอยู่ใต้เป้าคนขี่ ให้ยังไงมันก็ร้อนครับพี่

เรื่องความร้อนกับถังน้ำมัน หลายๆคนแก้ปัญหาไปแล้วกับการเอาถังดักไอน้ำมันออก มีคนแนะนำให้ผมเอาออก ความร้อนลดลง ถังน้ำมันเลิกบวม แก้ปัญหาเองได้จุดหนึ่ง

แต่ถ้าจะถามว่า ต่อไปจะถึงขั้นร้อนจนทำให้ถังน้ำมันระเบิดมั้ย อันนี้ผมไม่ทราบ เพราะไม่เคยมีเคสนี้มาก่อน

ถ้าจะถามอะไรจากศูนย์ ????

ที่นี่เคยมีเคสใหญ่อยู่ 2 ครั้ง

1 เรื่องปลาวาฬ ตอนนั้นตกใจกันอยู่พักใหญ่ หลายคนต้องการคำตอบที่มีที่มาที่ไปจากศูนย์ อยากให้ศูนย์เข้ามาตอบ หรืออธิบายว่ามันเกิดอะไรขึ้น สุดท้าย เรื่องเงียบ ศูนย์ไม่เข้ามาตอบ ไปถามที่ศูนย์ ศูนย์ตอบได้แบบอ้อมแอ้มว่าล๊อตใหม่แก้ไขแล้ว แล้วเรื่องก็เงียบไป

2 เรื่องการเข็นสตาร์ท ตกลงมาถึงตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่าเข็นสตาร์ทได้หรือเปล่า อยากให้ศูนย์เข้ามาอธิบาย สุดท้าย เรื่องเงียบ ศูนย์ไม่ตอบ ปล่อยให้ลูกค้าไปหาคำตอบเอาเอง

ทั้ง 2 เรื่อง ไม่มีคำอธิบายอะไรมาให้คนขี่ได้เข้าใจซักอย่าง คนที่นี่ก็คาใจ คากันจนเลิกสนใจแล้วครับ จนรู้ถึงแก่นแล้วว่าศูนย์เป็นยังไง จากนั้นก็เลิกถามครับ ถามไปก็เท่านั้น เหมือนคุยกับตอม่อโฮปเวลล์

แล้วคุณ dukdigdog อยากจะให้ศูนย์มาอธิบายเรื่องความร้อนอย่างเป็นรูปธรรมในบอร์ด ผมแนะนำว่าก่อนที่จะจองรถ หรือรับรถ ให้เข้าไปถามที่ศูนย์ตรงๆเลยดีกว่า ถามกับช่างเทคนิคเลย ถามถึงความมั่นใจว่าใช้รถแล้วจะไม่มีปัญหา มาถามที่นี่ มันไม่ได้อะไรหรอกครับ ทุกคนไม่ใช่วิศวกรเครื่องยนต์ ไม่ใช่ช่างเครื่อง เป็นเพียงลูกค้าที่ขี่มอไซค์เท่านั้น แก้ไขอะไรยังไงก็ทำได้แค่ความรู้งูๆปลาๆเท่านั้น

หากจะเอาแบบว่ามีหลักการชัดเจน คงจะต้องลงขันกันทำวิจัยแล้วล่ะครับ

ส่วนตัวผมไม่ทราบอะไรเกี่ยวกับรถซักอย่างครับ บอกตรงๆ วันๆ ขี่ จอด เติมน้ำมัน เท่านั้นแหละครับ ก่อนซื้อผมไม่ได้มาวิจัยหรอก ว่าความร้อนเป็นไง อะไรเป็นไง ขี่อยู่หลังถังน้ำมันซักวันมันจะระเบิดหรือเปล่า อันนี้ไม่ทราบครับ ผมซื้อเพราะชอบ ถ้าไม่ชอบผมก็ไปหายี่ห้ออื่นที่มันไม่ร้อนมาขี่แล้ว

ทุกวันนี้เครื่องและสายพานมันดัง แคร้งๆๆๆ ผมยังไม่รู้เลยตกลงมันเป็นเพราะรถหรือรถผมพัง แต่ก็ขี่ไปเรื่อยๆ ขอแค่น้ำมันไม่หมด รถมันไม่ดับ ยางไม่แบน ขี่ไม่ล้ม มันก็พาผมไปได้ถึงที่หมายครับ แต่ร้อนน่ะร้อนชัวร์ ขี่ไปนานๆจนชิน มันก็ชินไปเองครับ

เรื่องติดไฟแดงแล้วดับเครื่อง จริงๆมันไม่มีกฎเกณฑ์อะไรตายตัวหรอกครับ อยู่ที่ตัวคนขี่เองว่าจะเลือกติดเครื่อง หรือจะเลือกดับเครื่อง ตัวผมเลือกดับเครื่องครับ มันร้อน ถ้าทนไม่ไหวผมก็ดับเครื่อง ไฟเขียวก็สตาร์ทใหม่ เหตุผลที่ผมดับเครื่อง หนวกหู ร้อน เปลืองน้ำมัน ส่วนคนอื่นคิดไงผมไม่รู้

ปัญหาที่คุณเจ้าของกระทู้ต่างจากผม หรือหลายๆคนในนี้ ก็คือ พวกผมใช้รถแล้วขี่ไปเรื่อยๆไม่ได้เครียดกับมันไงครับ ไม่ได้สังเกตุเรื่องรถด้วยซ้ำ ส่วนคุณยังไม่ได้รับรถเลย แต่เครียดมากกว่า มันเลยเป็นปัญหาที่คุณไม่สบายใจไง

ไม่ได้บอกว่าคุณผิดนะครับที่ถาม แต่คุณมาถามผิดที่ครับ ที่นี่ตอบได้เพียงเท่านี้ครับ ที่นี่ไม่ใช่ศูนย์ ที่นี่ไม่ใช่สถานีวิจัย ที่นี่เป็นเพียงเวปบอร์ดของคนรัก ducati เท่านั้นเองครับ รถร้อนแก้ไขยังไง แก้ไขได้ตามมีตามเกิดครับ ไม่มีหลักการอะไรหรอก

ถ้ายังคาใจจริงๆ แนะนำเลยครับ ได้รถมา เอารถคุณไปทดลองเลยครับ แล้วถ้าเอามาบอกกันในบอร์ด จะเป็นพระคุณอยากมากครับ

ยินดีต้อนรับเข้าบอร์ดครับ

([url]http://image.ohozaa.com/i/0a9/dVIE4.jpg[/url]) ([url]http://image.ohozaa.com/view2/3HqE[/url])

ขี่ ducati ตามรูปนี่แหละครับ เท่ห์ แต่ ....... ร้อน
mon57 mon57 mon57
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdog ที่ ตุลาคม 04, 2012, 11:21:45 AM
ครับ ในขณะนี้ผมก็รอังคำตอบจากศูนย์อยู่เช่นกันครับ ในทางการผมลองส่งข้อมูลไปถามทางจีเอ็มอย่างเป็นทางการแล้วครับ หากได้ผลเป็นอย่างไรจะมาอัพเดทครับ
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: อ๊อฟ ที่ ตุลาคม 04, 2012, 11:25:45 AM
 mon3 mon3 mon3
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdog ที่ ตุลาคม 04, 2012, 11:33:13 AM
หรือว่ารอบหน้าหากมีมีตติ้ง มาจับเข่าคุยกันก็ดีเหมือนกันครับ จะได้แชร์กันเต็มที่ครับ
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: Karner ที่ ตุลาคม 04, 2012, 12:27:28 PM
ถึงจะร้อนแค่ไหน!!!  แต่ขับแล้วหล่อ mon17  ผมก็ยอมครับ mon16   mon2
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdog ที่ ตุลาคม 04, 2012, 02:16:47 PM
ขอบคุณคุณtauhoo (DCDC) ที่ให้ความกระจ่างในหลายเรื่องครับ เยี่ยมกับมุมมองบวกครับ mon57
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdog ที่ ตุลาคม 04, 2012, 02:24:12 PM
แถมนิดหนึ่งครับ
Liquid gasoline does not burn, but gasoline vapors do. Since
the vapors are heavier than air, they move along close to the
ground and can collect in low areas. Any ignition source
(cigarette, match, hot exhaust pipe or any spark) can ignite
gasoline vapors.
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: a_book ที่ ตุลาคม 04, 2012, 02:41:02 PM
ขอบคุณ จขกท ครับ
ผมเอง จองไปแล้ว แต่ไม่ได้ขี่เข้า กทม  เคยถามคนที่จอดตอนติดไฟแดง - พี่ๆ ร้อนมั้ยครับ
แกตอบ -- ไข่ลวกเลยน้อง!

กระทู้มีสาระ แลกเปลี่ยนความคิดด้วยข้อมูล เยี่ยมครับ!
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: ak_ganja(ไข่นุ้ย)(DCDC) ที่ ตุลาคม 04, 2012, 03:03:18 PM
มาแชร์ประสบการณ์ของผมให้คุณ dukdikdog ทราบครับ

ผมได้ M795 มา 22/6/2012มาจนถึงเดี๋ยวนี้ เลขไมล์ 26XX km.ไม่พบปัญหาอะไรเลยครับ

นอกจากความร้อนที่เราๆท่านๆเจอกันอาการถังน้ำมันบวมหรือปลาวาฬผมไม่รู้จัก(เพราะไม่เคยเจอ)

ปล.ผมใช้รถเกือบทุกวัน(ยกเว้นวันฝนตก)เส้นทางการใช้งาน สพานใหม่ - สุทธิสาร (ไป-กลับ)

ระดับความร้อนก็ 3-4 ขีดครับ ใช้เกียร์แค่ 1-2 เท่านั้น(ถ้ารถไม่ติดก็มี เกียร์ 3 บ้างแต่ไม่เคยถึงเกียร์ 4 เลยครับ)
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: samthaioilclube ที่ ตุลาคม 04, 2012, 04:59:57 PM
บ้านเราอากาศร้อนด้วยแหละครับมีผลเยอะ ต่างประเทศหนาวๆ
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdog ที่ ตุลาคม 04, 2012, 07:21:26 PM
ขอข้อมูลเพิ่มเติมอีกครับ มาแชร์กันอีก ช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ระดับความร้อนของรถแตกต่างจากวันปกติในหน้าอื่นๆหรือเปล่าครับ ช่วยกันโน๊ตเก็บข้อมูลกันครับ เพิ่มอีกนิดครับ หากใช้รถมาขณะร้อนๆ แวะเติมน้ำมัน มีใครเปิดฝาแล้วเจอน้ำมันพุ่งหรือไม่ครับ หรืออาการอื่นๆที่ระบุว่าถังเกิดแรงดันครับ ถ้าเจอลองแชร์สภาพอากาศวันนั้น ระดับความร้อนรถ ระยะเวลาการขับขี่ก่อนเติม เรามาแชร์กันหน้ากระทู้นี้ยาวๆกันไปเลยครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ
ในภายภาคหน้า หากรถในกลุ่มมีปัญหาจะได้ลากเอาหลักฐานมารุมเรียกร้องความเป็นธรรมกันต่อครับ
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: jack66 ที่ ตุลาคม 04, 2012, 07:42:27 PM
ขอนิดนึงนะครับ อากาศร้อนบ้านเราอย่างมากก็40กว่าองศา แต่ความร้อนเครื่องนี่มันร้อนมากกว่าอากาศเยอะนะครับ ผมขี่มาแค่ไหน 4ขีด 5ขีด เปิดฝาถังก็ไม่พุ่งนะครับ(อยากรู้เหมือนกัน) มีแค่แรงดันออกมาปกติ ตอนนี้ 795 ส่งมอบแล้วกว่า 500 คัน ผมว่าถ้าจะมีปัญหาเรื่องควาร้อนอีก คงต้องมีใครเป็นบ้างแหละครับ ความร้อนมันถูกทดแทนด้วย อารมณ์สนุกตอนขี่ ความสุขตอนนั่งมอง และอีกหลายๆอย่าง จนหมดครับ
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdog ที่ ตุลาคม 04, 2012, 08:14:51 PM
ขอนิดนึงนะครับ อากาศร้อนบ้านเราอย่างมากก็40กว่าองศา แต่ความร้อนเครื่องนี่มันร้อนมากกว่าอากาศเยอะนะครับ ผมขี่มาแค่ไหน 4ขีด 5ขีด เปิดฝาถังก็ไม่พุ่งนะครับ(อยากรู้เหมือนกัน) มีแค่แรงดันออกมาปกติ ตอนนี้ 795 ส่งมอบแล้วกว่า 500 คัน ผมว่าถ้าจะมีปัญหาเรื่องควาร้อนอีก คงต้องมีใครเป็นบ้างแหละครับ ความร้อนมันถูกทดแทนด้วย อารมณ์สนุกตอนขี่ ความสุขตอนนั่งมอง และอีกหลายๆอย่าง จนหมดครับ

ผมเดาว่า อาจจะต้องแยกประเด็นระหว่างความร้อนactual กับ ความร้อนสะสม อันนี้น่าจะเทียบระดับความร้อนกับระยะเวลาที่ขี่ร่วมด้วยครับ
ต่อมามีใครทราบหรือเปล่าครับว่า ตัวsensorวัดtemp. มันติดตั้งตรงไหนครับ

หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: nratti21 ที่ ตุลาคม 04, 2012, 10:11:44 PM
ออกทริปกับเพื่อนบ่อยฯฯครับ ใก้ลหนาวแล้วจัดทุกอาทิตย์ไปเลย mon33
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: udomsak ที่ ตุลาคม 05, 2012, 03:06:33 PM
ผมขับ ไป-กลับ ลาดกระบัง ( หัวตะเข้ - มธ.รังสิต )

ระยะทาง  :  127km.
ความเร็วที่ใช้ : 10  - 140 หรือ 150
เกียร์ที่ใช้บ่อย :  1-2-3  ช่วง ดอนมือง , หลักสี่ - กิโล 4  เข้าร่มเกล้า แล้วพอสบายครับ เกียร์ 5 - 6 พอมีแตะบ้างครับ ช่วง กิโล4-5 ช่วงกิโล 7 - หน้าแฟชั่น
ความร้อน : 4ขีด 
อัตราบริโภคน้ำมัน : 21Km./ ลิตร
พฤติกรรมการขับ : ไล่รอบปานกลาง แต่ ก็ถือว่าเร็ว และ ขับกระชากพอสมควร 

การลดความร้อน : เท่าที่ลองดู ถ้าไม่อัดรถมาแล้วติดไฟแดง ความร้อนจะไม่ค่อยขึ้นครับ อยาน้อยมันก็จะอยู่ 3-4 ขีด เป็นปกติ  แต่ถ้าอัดมาแล้วติดไฟแดง แล้ว เบิ้ลเครื่อง ซิกแซก เป็นเรื่องครับ

หาเวลาขับ ที่ดีที่สุด  โดยเลือกออกประมาณ 6 โมงเช้า หรือ ก่อน 6 โมงเช้า ประมาณ 5 -10 นาที รถจะ ไหลขับสบายครับ ส่วนจาก มธ.รังสิต ต้องรีบออกตั้งแต่ 5โมง ก่อนที่จะถึง หกโมงไม่งั้น เจอกับรถติด ตลอดเส้นครับ ไม่รู้ว่าจะแห่กันออกมาทำไมพร้อมกัน รณรงค์ให้ทยอยออกรถ จากบ้าน หรือ ที่ทำงาน มาดีไหม



หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdog ที่ ตุลาคม 05, 2012, 06:09:36 PM
ขอบคุณทุกข้อมูลครับ ขออัพเดทข่าวครับ
วันนี้หลังจากตัดเกรดนิสิตเสร็จ โล่งใจ โทรไปคุยกับSale ที่ทองหล่อ สานเรื่องต่อครับ ได้แนวทางที่ผมวางไว้ดังนี้ครับ
เนื่องจากผมตั้งใจที่จะซื้อรถขี่สักคัน แบบสบายใจ ไร้กังวล ผมจึงมีทางเรื่องดังนี้ครับ

แนวทางที่หนึ่ง หากศูนย์ไม่มีคำตอบที่เป็นทางการ ชัดเจนในเรื่องการแก้ปัญหาดังกล่าว ผมจะขอเงินจองคืน ย้ำครับ ไม่ใช่ขายใบจองครับ แต่ให้บริษัทคืนเงินจอง (กำลังคิดค่าเสียโอกาสเพื่อบวกเป็นค่าชดเชยเพิ่มเติม)

แนวทางที่สอง หากศูนย์มีคำตอบที่ชัดเจนอย่างเป็นทางการ ในระดับที่ลูกค้าใหม่คนนี้จะรับได้ ผมจะซื้อครับ

ทั้งนี้ ฝากท่านเจ้าของรถทุกท่าน ช่วยกรุณาตื่นตัวกับการหาความชัดเจนครั้งนี้ด้วยครับ มีอะไรมาแชร์กันเต็มๆครับ มันจะได้ครั้งเดียวให้จบกันไปเลย
เพราะคำตอบครั้งนี้อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ และประโยชน์จะตกอยุ่กับท่านผู้บริโภคทั้งหลายอย่างแน่นอน

หากหวยออกเป็นแนวทางแรก ผมคงต้องแสดงความเสียใจที่จะต้องย้ายค่ายครับ แต่ยังคงแฮปปี้ที่จะมาแชร์ความคิดแปลกๆแบบของผมต่อไป
แต่ถามในใจลึกๆ ผมชอบดูคาติเป็นทุนเดิม แต่อยากให้เกิดความชัดเจนสบายใจ ทั้งตัวผม และ ท่านทั้งหลายที่กำลังใช้รถกันครับ

เท่าที่ทราบ เมื่อครู่ใหญ่ Sale โทรมาแจ้งประเด็นหลักๆ เพื่อนำเสนอผู้บริหารในสัปดาห์หน้าแล้วครับ
เรามาร่วมกันจับตาดูการเปลี่ยนแปลงและการพิทักษ์สิทธิผู้บริโภคหาเช้ากินค่ำอย่างพวกเรากันเถิด

ผมอาชีพเป็นครูจนๆ อันนี้คือกรณีศึกษาชั้นดีสำหรับการสอนของผมเลยครับ ฮ่า ฮ่า ฮ่า เทอมหน้าใครลงเรียนกับผม ได้เรียนกรณีศึกษาอันนี้แน่นอนครับ
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: tauhoo (DCDC) ที่ ตุลาคม 05, 2012, 06:56:31 PM
เอาใจช่วยนะครับพี่โท ขอให้ได้อย่างหวัง  mon57
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: minigiulia(กัน) ที่ ตุลาคม 06, 2012, 08:57:57 AM
ผมว่าเรื่องความร้อนของเครื่องคงแก้ยากนะครับเพราะระบายอากาศด้วยลม อีกอย่างลูกโต ชักสั้น กำลังอัดสูง หรือไม่ก็ต้องเป็นเครื่องน้ำ ไอที่หน้าจะพอแก้ได้ก็คงเป็นการระบายแรงดันในถังเท่านั้นนะผมว่า  mon32
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdog ที่ ตุลาคม 06, 2012, 09:32:21 AM
ผมว่าเรื่องความร้อนของเครื่องคงแก้ยากนะครับเพราะระบายอากาศด้วยลม อีกอย่างลูกโต ชักสั้น กำลังอัดสูง หรือไม่ก็ต้องเป็นเครื่องน้ำ ไอที่หน้าจะพอแก้ได้ก็คงเป็นการระบายแรงดันในถังเท่านั้นนะผมว่า  mon32
 
ผมว่าจะให้บริษัทเขาหาทางแก้อย่างจริงจังและยั่งยืน ให้สมกับAsian modelครับ ไม่ใช่ให้เตี้ยลงและราคาถูกจากการลดต้นทุนการผลิต R&D เขาต้องมาคิดแทนพวกเราครับ ทั้งด้านความปลอดภัยและประสิทธิภาพการใช้งาน ไม่งั้นเงินที่จ่ายก็เป็นเพียงแค่ค่ายี่ห้อล้วนๆ
ตัวบริษัทเขาจะได้ทราบว่า การผลิตรถออกมาขาย มันต้องมีอะไรมากกว่ายี่ห้อครับ
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: OJJ69 ที่ ตุลาคม 06, 2012, 09:47:37 AM
ไม่ว่าจะแก้ไข ได้หรือไม่
มีคนพยายามเรียกร้องแบบนี้ผมมองเป็นประโยชน์ขอบคุณครับ
 mon48
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdog ที่ ตุลาคม 13, 2012, 12:23:49 PM
ได้รับข่าวเพิ่มเติมเมื่อครู่ว่า เจ้าหน้าที่จะไปอิตาลีเพื่ออบรมและแถมจะนำคำถามดังกล่าวนี้ไปถามที่บริษัทแม่ โดยแยกเป็นสามประเด็นคือ ประเด็นวัสดุถังน้ำมัน ประเด็นตัวน้ำมันผสมเอธานอล และ ประเด็นความร้อนที่อาจจะทำให้สองประเด็นแรกเป็นปัญหา โดยในเบื้องต้นเท่าที่ฟังจากทางฝั่งไทย เหมือนกับไม่มีข้อมูลเพียงพอครับ เลยต้องไปหาเอาที่อิตาลีเพิ่มเติม
ดูผิวเผินก็เกือบรู้สึกดีที่จะนำปัญหาดังกล่าวไปติดต่อหาข้อมูล แต่หากคิดดีๆจะพบว่า ตั้งแต่ที่เริ่มมีรถรุ่นนี้ปล่อยออกสู่ตลาดในประเทศไทย บริษัทตัวแทนจำหน่ายในไทยเองกลับไม่มีข้อมูลอะไรรองรับหรืออธิบายกับสิ่งที่เกิดกับตัวรถที่จำหน่ายเลย ผู้บริโภคคือผุ้สมัครใจทดลองผลิตภัณฑ์โดยแท้ กลายเป็นผุ้บริโภคกลับต้องมาหาข้อมูลกันเอง แก้ปัญหากันเอง แล้วกลับไปถามศูนย์ซึ่งมีหน้าที่ขายและทำกำไรต่อไป หมดประกันเมื่อไหร่ก็คงตัวใครตัวมัน เฮ่อ กลุ้มใจแทนเลยครับ
เห็นว่าปลายสัปดาห์หน้าจะกลับมาให้คำตอบครับ ผมสารภาพว่าไม่ได้หวังอะไรเป็นรูปธรรมจากนี้ อาทิตย์หน้าจะมาอัพเดทต่อครับ
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdog ที่ ตุลาคม 18, 2012, 03:38:51 PM
อัพเดทครับ ดังคาด ข้อมูลที่ชัดเจนยังไม่พบครับ ผมเสนอทางเลือกให้กับบริษัทไปแล้วครับ ทางตัวแทนฝ่ายขายขอไปปรึกษาผู้ที่มีอำนาจหรือผู้ที่เกี่ยวข้องอีก2-3วันครับ ผลจะเป็นอย่างไร รอติดตามผลได้ครับ
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: a_book ที่ ตุลาคม 18, 2012, 05:05:42 PM
มีผมคนนึง ตามข้อมูลอยู่นะครับ
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: Sig 69 ที่ ตุลาคม 20, 2012, 09:32:43 PM
ผมรอฟังข้อมูลด้วยคนครับ เพราะผมเองก็จะซื้อ 795 อยู่แล้ว แต่แค่อยากรู้ปัญหานี้จะมีทางออกมาในรูปแบบไหนครับ
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: Vito ที่ ตุลาคม 21, 2012, 12:55:12 PM
ผมว่าเรื่องความร้อนของเครื่องคงแก้ยากนะครับเพราะระบายอากาศด้วยลม อีกอย่างลูกโต ชักสั้น กำลังอัดสูง หรือไม่ก็ต้องเป็นเครื่องน้ำ ไอที่หน้าจะพอแก้ได้ก็คงเป็นการระบายแรงดันในถังเท่านั้นนะผมว่า  mon32
 
ผมว่าจะให้บริษัทเขาหาทางแก้อย่างจริงจังและยั่งยืน ให้สมกับAsian modelครับ ไม่ใช่ให้เตี้ยลงและราคาถูกจากการลดต้นทุนการผลิต R&D เขาต้องมาคิดแทนพวกเราครับ ทั้งด้านความปลอดภัยและประสิทธิภาพการใช้งาน ไม่งั้นเงินที่จ่ายก็เป็นเพียงแค่ค่ายี่ห้อล้วนๆ
ตัวบริษัทเขาจะได้ทราบว่า การผลิตรถออกมาขาย มันต้องมีอะไรมากกว่ายี่ห้อครับ


ผมเห็นด้วยอย่างมากเลยนะครับ และไม่เห็นด้วยกับความคิดที่ว้าถ้ามันร้อนนักก็ไล่ให้ไปขับอย่างอื่น
ส่วนตัวผมชื่นชอบ Ducati มานานแล้วสมัยก่อนผมขับ SS 750 และขายไปไม่ได้แตะมอเตอร์ไซด์มาเป็นเวลา 10 ปีพอดี
ปัจจุบันพอไทยมี 795 ผมก็ถอยมา ด้วยความชอบในแบรนด์ ในเสียงและ Characteristic ของรถ
ถามว่าร้อนผมทนได้มั้ย? ผมทนได้
แต่ถ้า M795 ออกมาสองรุ่นคือ รุ่นร้อนและรุ่นไม่ร้อน ในราคาเท่ากัน ผมคงไม่ซื้อรุ่นร้อนครับ
ชอบค่ายนี้มาเป็น 10 ปี ถามว่าอะไรที่ถ้ามันพัฒนาขึ้นได้ผมก็อยากให้มันดีขึ้น
เดิมๆมันก็ขี่ดีอยู่แล้ว มีความสุขที่ได้ขี่มัน
แต่ถ้ามันขี่ดีกว่าเดิมคือไม่ร้อนผมก็คงจะสบายมากขึ้น
เอาใจช่วยเต็มที่ครับ จริงๆถ้าผู้บริหาร Ducati Thailand รับ Comment ตรงนี้ไปให้บริษัทแม่
ก็คงมีเปอเซนสูงขึ้นบ้างว่าเราคงเห็นอะไรๆที่มันดีขึ้นในอนาคต
ตัดกังวลลูกค้าได้เรื่องหนึ่ง ก็ช่วยให้ขายดีขึ้นอีกนะครับเค้าคงเล็งเห็นอยู่แล้ว
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: kimchiko ที่ ตุลาคม 22, 2012, 11:27:39 AM
ขอบคุณทุกข้อมูลครับ ขออัพเดทข่าวครับ
วันนี้หลังจากตัดเกรดนิสิตเสร็จ โล่งใจ โทรไปคุยกับSale ที่ทองหล่อ สานเรื่องต่อครับ ได้แนวทางที่ผมวางไว้ดังนี้ครับ
เนื่องจากผมตั้งใจที่จะซื้อรถขี่สักคัน แบบสบายใจ ไร้กังวล ผมจึงมีทางเรื่องดังนี้ครับ

แนวทางที่หนึ่ง หากศูนย์ไม่มีคำตอบที่เป็นทางการ ชัดเจนในเรื่องการแก้ปัญหาดังกล่าว ผมจะขอเงินจองคืน ย้ำครับ ไม่ใช่ขายใบจองครับ แต่ให้บริษัทคืนเงินจอง (กำลังคิดค่าเสียโอกาสเพื่อบวกเป็นค่าชดเชยเพิ่มเติม)

แนวทางที่สอง หากศูนย์มีคำตอบที่ชัดเจนอย่างเป็นทางการ ในระดับที่ลูกค้าใหม่คนนี้จะรับได้ ผมจะซื้อครับ

ทั้งนี้ ฝากท่านเจ้าของรถทุกท่าน ช่วยกรุณาตื่นตัวกับการหาความชัดเจนครั้งนี้ด้วยครับ มีอะไรมาแชร์กันเต็มๆครับ มันจะได้ครั้งเดียวให้จบกันไปเลย
เพราะคำตอบครั้งนี้อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ และประโยชน์จะตกอยุ่กับท่านผู้บริโภคทั้งหลายอย่างแน่นอน

หากหวยออกเป็นแนวทางแรก ผมคงต้องแสดงความเสียใจที่จะต้องย้ายค่ายครับ แต่ยังคงแฮปปี้ที่จะมาแชร์ความคิดแปลกๆแบบของผมต่อไป
แต่ถามในใจลึกๆ ผมชอบดูคาติเป็นทุนเดิม แต่อยากให้เกิดความชัดเจนสบายใจ ทั้งตัวผม และ ท่านทั้งหลายที่กำลังใช้รถกันครับ

เท่าที่ทราบ เมื่อครู่ใหญ่ Sale โทรมาแจ้งประเด็นหลักๆ เพื่อนำเสนอผู้บริหารในสัปดาห์หน้าแล้วครับ
เรามาร่วมกันจับตาดูการเปลี่ยนแปลงและการพิทักษ์สิทธิผู้บริโภคหาเช้ากินค่ำอย่างพวกเรากันเถิด

ผมอาชีพเป็นครูจนๆ อันนี้คือกรณีศึกษาชั้นดีสำหรับการสอนของผมเลยครับ ฮ่า ฮ่า ฮ่า เทอมหน้าใครลงเรียนกับผม ได้เรียนกรณีศึกษาอันนี้แน่นอนครับ

ขอบคุณครับ ที่เป็นตัวแทนที่จะเรียกร้องสิทธิที่ผู้บริโภคควรจะได้ แทนที่จะต้องยอมรับสภาพแล้วไม่เรียกร้องให้แก้ไข แล้วก็เป็นกระทู้ที่ดีมากๆเพราะบางคนทีกำลังตัดสินใจจะซื้อจะได้รู้ว่ามันเป็นปัญหาที่ค่อนข้างจริงจังมาก  (แล้วก็ร้อนมากๆด้วย) เมื่อวันเสาร์แฟนผมขี่ไปหลงแถววุฒากาศ  รถติดมาก กลับมาขาข้างซ้ายแทบไหม้ครับ เป็นจ้ำๆแดงๆ ต้องไปซื้อยามาทา  mon36 mon36
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdog ที่ ตุลาคม 22, 2012, 03:40:54 PM
ช่วงบ่ายได้เข้าไปตามนัดที่ศูนย์ทองหล่อ ผมไปถึงตั้งแต่เที่ยงครึ่ง ก็ได้เห็นกลุ่มลูกค้าDucatiกลุ่มใหญ่กำลังเกาะกลุ่มคุย เดาว่าน่าจะเป็นสมาชิกในclub แต่ผมก็ไม่ได้เข้าไปพูดคุยทักทายครับ เอาไว้โอกาสหน้าละกัน ฮ่า ฮ่า
เริ่มประชุมพูดคุยบ่ายโมง โดยมีคุณโด่งและคุณเจ นั่งคุยสอบถามช้อมูลทางวิชาการได้สักสองชั่วโมงครึ่งครับ
โดยรวม "นอกเหนือประเด็นความลับ" ที่ทางบริษัทข้อให้ผมสงวนได้ประเด็นดังนี้ครับ
ข้อที่1 ปัญหาความร้อน มีความเห็นตรงกันครับว่า เป็นปัญหาหลัก ที่จำเป็นต้องแก้ไขครับ โดยแนวทางแก้ไขยังต้องรอทางบริษัทแม่หาคำตอบให้อยู่ครับ พูดตามตรงครับ ฟังแล้วเหนื่อยใจแทนเพราะระบบบริหารและการแก้ปัญหาที่ยังไม่เข้าหลัก Quick Response (QR) รอโต้ตอบ พัฒนากันอีกพอควรครับ ผมเสนอแนวทางในเชิงวิชาการที่ครอบคลุมการวิจัยอย่างเป็นระบบไป อันนี้ยังต้องรอคำตอบต่อไปครับ และที่สำคัญ ตัว795มันยังแคบที่จะโดนทั้งโลกหันมามองปัญหาให้ เมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆ
ข้อที่2 มีคำอธิบายว่า ปัญหาความร้อนจะลดลงได้ หากขับขี่อย่างเข้าใจข้อจำกัดของรถ อันนี้ผมว่าโดนเต็มๆสำหรับผม เพราะผมพึ่งหัดขี่ขับ แต่ทางศูนย์ยืนยันว่าจะจัดหลักสูตรอบรมให้ความรู้แก่ลูกค้า ในความคิดเห็นของผม มันช้าไปหนึ่งก้าวเสมอ หากยังใช้ระบบการแก้ไขปัญหาแบบดังกล่าวนี้
ข้อที่3 ตัว795 จะมีoption  ABS เพิ่มในเร็ววันนี้ ราคายังไม่นิ่ง แต่น่าจะเพิ่มราคาอยู่ในวิสัยที่รับได้ แต่เครื่องหมายคำถามเรื่องการแก้ปัญหาความร้อนก็ยังไม่ชัดเจนกับรุ่นเพิ่มoptionดังกล่าวครับ
ประเด็นโดยรวมทางวิชาการ ขอเปิดตัวแบบสาระนิดหน่อยครับ เท่าที่ผมรีวิวข้อมูล ปัญหาที่เกิดจะมาจาก 3 ปัจจัยที่ยังรอการปรับปรุงแก้ไข คือ ตัวถังน้ำมันในประเด็นเรื่องวัสดุ ความสามารถในการรับแรงดัน และ การแก้ปัญหาแรงดันน้ำมันเดือด ตัวน้ำมันที่มีองค์ประกอบของเอธานอลที่เร่งการระเหยได้เร็วขึ้น ร่วมกับความร้อนจากเครื่องที่เหมือนลักษณะการตั้งเตาต้มน้ำมันในระหว่างการขับขี่
ตามความคิดเห็นของผม ปัญหานี้น่าจะเป็นปัญหาเรื้อรังในระยะยาวๆ แน่นอนหากไม่มีการแก้ไขอย่างเป็นระบบ คงต้องรอแนวทางการแก้ปัญหาแบบฟ้าประทานกันต่อไป
โดยสรุป ผมก็รอฟังคำตอบการขยับของบริษัทในเร็ววันนี้ครับ จะได้เลือกคำตอบที่ถูกต้องต่อไปครับ
ต้องขอขอบคุณ คุณเจและคุณโด่ง ที่มานั่งแลกเปลี่ยนข้อมูลทางวิชาการและวิชาเกินกันถึงสองชั่วโมงกว่า มีหลายประเด็นที่ผมขอสงวนสิทธิไม่เปิดเผยในที่นี้ เอาไว้หากสุดปลายทางไม่มีคำตอบเหมือนเคย และ รูปแบบการแก้ปัญหายังเป็นระบบซื้อเวลา ผมจะค่อยมาแฉทีเดียว ฮ่า ฮ่า
รอฟังข่าวต่อไปครับ
ปล นั่งคุยกับคนขับรถผม เขางงว่า จ่ายแพงกว่า มันน่าจะมีอะไรดีกว่า แต่ทำไมผมถึงจะซื้อหากรู้ว่ามันยังมีปัญหาที่ต้องแก้ไข ผมตอบสั้นๆว่า เพราะมันคือ Ducati ฮ่า ฮ่า
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: OJJ69 ที่ ตุลาคม 22, 2012, 04:19:38 PM
"ความลับ!?" mon40

มีของแต่ง ฮีทซิงค์พัดลมแต่ง!?
 mon6
Thanks' ครับ mon57
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdog ที่ ตุลาคม 22, 2012, 04:23:52 PM
"ความลับ!?" mon40

มีของแต่ง ฮีทซิงค์พัดลมแต่ง!?
 mon6
Thanks' ครับ mon57

ฮ่า ฮ่า ฮ่า ผมว่าถ้ามีแบบทางเลือกนั้นจริง มันคงจบง่ายกว่านี้เยอะครับ
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: Nongk69 ที่ ตุลาคม 23, 2012, 07:51:29 PM
เก็บข้อมูลอย่างใกล้ชิด เนี้ยถ้าผมเป็นวิศวกร ดูคาติ นะ ผมมีสองทางเลือกคือจะทำให้ตัววัดอุณหภูมิอ่านแข็งอีกนิด เพราะคนขี่จะไม่มีโอกาสเห็น ขีดที่สี่ กะขีดที่ห้า เพราะผมจะล้อคมันไว้ยังงั้ย ก้ไม่ถึง สองผมจะติดหม้อน้ำให้ 795 ซะเลย 5555 ขำ ๆครับ ผมก้อยากได้ 795 ยอมขาย คาวา เพื่อมาหา ดูคาติ ขอให้แก่ปัยหาได้เถอะ ผมจะได้เป็นสาวกอีกคน abc24
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: wiwat ที่ ตุลาคม 24, 2012, 11:30:29 AM
แล้วตัว 1100 มีปัญหามั๊ยครับเรื่องความร้อนน่ะ เพราะเห็นไม่มีหม้อน้ำเหมือนกันนี่ครับ
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdog ที่ ตุลาคม 24, 2012, 05:26:28 PM
แล้วตัว 1100 มีปัญหามั๊ยครับเรื่องความร้อนน่ะ เพราะเห็นไม่มีหม้อน้ำเหมือนกันนี่ครับ

ไม่ทราบครับ แต่ว่างๆจะหาข้อมูลให้ครับ
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: Nongk69 ที่ ตุลาคม 24, 2012, 07:57:36 PM
คำเตือนขี่ดูคาติทุกวัน จะทำให้เสื่อมสมรรถทางเพศลดลงเพราะใข่ร้อนทุกวัน. เอ้รึว่ามันจะเพิ่มขึ้นหว่าเพราะมันร้อนเลือดลมเดินดี55555 abc23
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: wiwat ที่ ตุลาคม 25, 2012, 11:14:10 AM
แล้วตัว 1100 มีปัญหามั๊ยครับเรื่องความร้อนน่ะ เพราะเห็นไม่มีหม้อน้ำเหมือนกันนี่ครับ

ไม่ทราบครับ แต่ว่างๆจะหาข้อมูลให้ครับ
ขอบคุณครับ ผมเคยถามเซลล์ว่า ทำไม m795 ไม่มีหม้อน้ำ เซลล์บอกว่าทางducati คำนวนมาแล้วว่า cc ขนาดนี้ไม่ต้องมีหม้อน้ำ ก็ลืมถามเค้าว่าแล้ว 1000cc. ต้องมีมั๊ย เป็นความเข้าใจแบบบ้านๆครับ ว่า ขนาด 800cc ยังร้อนขนาดนี้ แล้ว 1000cc มันน่าจะมากกว่านะ แล้วปัญหาจะสาหัสกว่ามั๊ย ถ้าไม่เป็น เหตุผลเดียวที่ผมคิดออกคือ วัตถุดิบที่ใช้ทำถังน้ำมัน อาจรวมถึงอะไหล่ตัวอื่นๆด้วย abc17
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdog ที่ ตุลาคม 25, 2012, 02:29:47 PM
คำเตือนขี่ดูคาติทุกวัน จะทำให้เสื่อมสมรรถทางเพศลดลงเพราะใข่ร้อนทุกวัน. เอ้รึว่ามันจะเพิ่มขึ้นหว่าเพราะมันร้อนเลือดลมเดินดี55555 abc23

เป็นเล่นไปครับ อาจจะมีผลน่ะเพราะเทียบเคียงกับงานวิจัยกางเกงรัดรูปที่ทำให้ลูกบอลเล็กๆสองลูกของท่านแนบติดกับตัวมีผลต่ออุณหภูมิที่เหมาะสมของการผลิตน้ำเชื้อครับ เพราะเจ้าลูกบอลเหล่านั้นมันชอบอากาศเย็นครับ คราวนี้เริ่มเครียดหรือยังครับ ฮ่า ฮ่า ฮ่า
หล่อ เท่ห์ แต่ลดอัตราการเกิดของประชากร อันนี้มีฮาแน่นอน
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdog ที่ ตุลาคม 25, 2012, 02:35:32 PM
แล้วตัว 1100 มีปัญหามั๊ยครับเรื่องความร้อนน่ะ เพราะเห็นไม่มีหม้อน้ำเหมือนกันนี่ครับ

เข้าไปอ่านดูของ Monster 1100ครับ

L-Twin cylinder, 2 valve per cylinder Desmodromic, air cooled <-- อันนี้แหละ

เบื้องต้นมองบวก น่าจะขนาดเครื่องใหญ่ขึ้น แรงขึ้น เปรียบเหมือนคำขวัญไอ้แมงมุม Great power comes with great responsibility! ถ้าใช้กับ Ducati น่าจะ Great Power comes with Great Heat and Good looking when you're riding!
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdog ที่ ตุลาคม 25, 2012, 02:54:38 PM
อันนี้ไปแอบอ่านมา มีฝรั่ง review monster 1100 ไว้ครับ อุณหภูมิ 20 c วิ่งช้าๆจะไม่รู้สึกอะไร แต่ถ้าวิ่งเร็ว เขายังแนะนำกางเกงที่มีHeat shield ครับ
หากเปรียบเทียบง่ายๆ บ้านเราร้อนขึ้นไปอีก บวกรถติด... มีโอกาสอยู่น่ะผมว่า หากแต่ยังไม่ยืนยันว่าเป็นความร้อนจนoverheatน่ะ แต่มองกลางๆ น่าจะมีโอกาสครับ ลองอ่านดูครับ
Any other issues? When they refer to 'air-cooling', they're talking about the air immediately around your hamstrings and butt cheeks. Stopped at lights, it gets really uncomfortable, even when the ambient temp is 20C. Once moving, even very slowly, you don't notice it at all. Mr. Joe Rocket - if you read this, maybe consider optional heat shields for your pants.
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdog ที่ ตุลาคม 25, 2012, 03:12:39 PM
ผมอยากให้พิจารณาประเด็นดังนี้ครับ
ประเด็นด่วน นั่นคือความร้อนกับอุณหภูมิน้ำมัน อันนี้ผมมองว่าเป็นSafty feature ที่สำคัญที่สุดครับ และต้องแก้ด่วนที่สุดครับ เพราะมีโอกาสที่จะนำไปสู่ปัญหาที่ถึงกับชีวิตและความปลอดภัยของท่าน
ประเด็นรองๆที่น่าคิด ความร้อนอันมหาศาลนี้ หากไม่ถูกลดลงหรือควบคุม อายุการใช้งานของเครื่อง และ อุปกรณ์อิเล็กโทรนิคที่ไม่ค่อยชอบอุณหภูมิสูงๆ อาจจะมีผลต่อเนื่องให้อายุการใช้งานลดลง (ตามทฤษฏี) ประเด็นรองๆนี้จะหวยออกตอนรถท่านหมดประกันไงครับ คือเรื่องเงินๆทองๆ
ดูคาติ ไม่ใช่รถบ้านครับ มันคือเทพของจักรยานยนต์ สนนราคาและค่าบริการเลยโตตามตัวครับ กระเป๋าหนักอาจจะไม่แคร์ครับ ผมกระเป๋าเล็กเลยต้องคิดหนักครับ
ประเด็นของการทำตลาด monster795นี้ จึงเป็นคำถามทางธุรกิจและการทำตลาดอยู่เหมือนกันครับว่า ทำให้ถูกลงเพื่อเพิ่มตลาด มันยั่งยืนจริงหรือ
หากเปรียบเทียบง่ายๆ ตอนนี้ปัญหาเหมือนกับตระกูลรถสามแฉกสุดหรู ที่พยายามพัฒนา กลุ่ม A และ B Class มันดูสับสนดีครับ ว่าคนที่จะซื้อรถกลุ่มนี้ เขาเน้นประหยัดน้ำมันจริงหรือ หรือ เน้นรถเล็กๆ จริงหรือ คำตอบก็อย่างที่เห็นครับ A และ B class ดังกล่าว เลยเงียบๆ ไม่อู้ฟู่เหมือนค่ายญี่ปุ่นที่พยายามlaunch ecocar มาตีตลาดส่วนนี้ครับ

หัวข้อ: Re: เน€เธ—เธ„เธ™เธดเธ„เธเธฒเธฃเนเธเน‰เธ›เธฑเธเธซเธฒเธเธฒเธฃเธฃเธฐเธšเธฒเธขเธ„เธงเธฒเธกเธฃเน‰เธญ
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdog ที่ ตุลาคม 25, 2012, 03:13:21 PM
ผมอยากให้พิจารณาประเด็นดังนี้ครับ
ประเด็นด่วน นั่นคือความร้อนกับอุณหภูมิน้ำมัน อันนี้ผมมองว่าเป็นSafty feature ที่สำคัญที่สุดครับ และต้องแก้ด่วนที่สุดครับ เพราะมีโอกาสที่จะนำไปสู่ปัญหาที่ถึงกับชีวิตและความปลอดภัยของท่าน
ประเด็นรองๆที่น่าคิด ความร้อนอันมหาศาลนี้ หากไม่ถูกลดลงหรือควบคุม อายุการใช้งานของเครื่อง และ อุปกรณ์อิเล็กโทรนิคที่ไม่ค่อยชอบอุณหภูมิสูงๆ อาจจะมีผลต่อเนื่องให้อายุการใช้งานลดลง (ตามทฤษฏี) ประเด็นรองๆนี้จะหวยออกตอนรถท่านหมดประกันไงครับ คือเรื่องเงินๆทองๆ
ดูคาติ ไม่ใช่รถบ้านครับ มันคือเทพของจักรยานยนต์ สนนราคาและค่าบริการเลยโตตามตัวครับ กระเป๋าหนักอาจจะไม่แคร์ครับ ผมกระเป๋าเล็กเลยต้องคิดหนักครับ
ประเด็นของการทำตลาด monster795นี้ จึงเป็นคำถามทางธุรกิจและการทำตลาดอยู่เหมือนกันครับว่า ทำให้ถูกลงเพื่อเพิ่มตลาด มันยั่งยืนจริงหรือ
หากเปรียบเทียบง่ายๆ ตอนนี้ปัญหาเหมือนกับตระกูลรถสามแฉกสุดหรู ที่พยายามพัฒนา กลุ่ม A และ B Class มันดูสับสนดีครับ ว่าคนที่จะซื้อรถกลุ่มนี้ เขาเน้นประหยัดน้ำมันจริงหรือ หรือ เน้นรถเล็กๆ จริงหรือ คำตอบก็อย่างที่เห็นครับ A และ B class ดังกล่าว เลยเงียบๆ ไม่อู้ฟู่เหมือนค่ายญี่ปุ่นที่พยายามlaunch ecocar มาตีตลาดส่วนนี้ครับ
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: ไอ้มดเอ็กซ์(DNT) ที่ ตุลาคม 25, 2012, 05:40:41 PM
ขอบคุณทุกข้อมูลครับ ขออัพเดทข่าวครับ
วันนี้หลังจากตัดเกรดนิสิตเสร็จ โล่งใจ โทรไปคุยกับSale ที่ทองหล่อ สานเรื่องต่อครับ ได้แนวทางที่ผมวางไว้ดังนี้ครับ
เนื่องจากผมตั้งใจที่จะซื้อรถขี่สักคัน แบบสบายใจ ไร้กังวล ผมจึงมีทางเรื่องดังนี้ครับ

แนวทางที่หนึ่ง หากศูนย์ไม่มีคำตอบที่เป็นทางการ ชัดเจนในเรื่องการแก้ปัญหาดังกล่าว ผมจะขอเงินจองคืน ย้ำครับ ไม่ใช่ขายใบจองครับ แต่ให้บริษัทคืนเงินจอง (กำลังคิดค่าเสียโอกาสเพื่อบวกเป็นค่าชดเชยเพิ่มเติม)

แนวทางที่สอง หากศูนย์มีคำตอบที่ชัดเจนอย่างเป็นทางการ ในระดับที่ลูกค้าใหม่คนนี้จะรับได้ ผมจะซื้อครับ

ทั้งนี้ ฝากท่านเจ้าของรถทุกท่าน ช่วยกรุณาตื่นตัวกับการหาความชัดเจนครั้งนี้ด้วยครับ มีอะไรมาแชร์กันเต็มๆครับ มันจะได้ครั้งเดียวให้จบกันไปเลย
เพราะคำตอบครั้งนี้อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ และประโยชน์จะตกอยุ่กับท่านผู้บริโภคทั้งหลายอย่างแน่นอน

หากหวยออกเป็นแนวทางแรก ผมคงต้องแสดงความเสียใจที่จะต้องย้ายค่ายครับ แต่ยังคงแฮปปี้ที่จะมาแชร์ความคิดแปลกๆแบบของผมต่อไป
แต่ถามในใจลึกๆ ผมชอบดูคาติเป็นทุนเดิม แต่อยากให้เกิดความชัดเจนสบายใจ ทั้งตัวผม และ ท่านทั้งหลายที่กำลังใช้รถกันครับ

เท่าที่ทราบ เมื่อครู่ใหญ่ Sale โทรมาแจ้งประเด็นหลักๆ เพื่อนำเสนอผู้บริหารในสัปดาห์หน้าแล้วครับ
เรามาร่วมกันจับตาดูการเปลี่ยนแปลงและการพิทักษ์สิทธิผู้บริโภคหาเช้ากินค่ำอย่างพวกเรากันเถิด

ผมอาชีพเป็นครูจนๆ อันนี้คือกรณีศึกษาชั้นดีสำหรับการสอนของผมเลยครับ ฮ่า ฮ่า ฮ่า เทอมหน้าใครลงเรียนกับผม ได้เรียนกรณีศึกษาอันนี้แน่นอนครับ

ข้อนี้น่าสนใจครับผม ไม่ทราบว่าพี่ dukdikdog ได้คำตอบอย่างไรจากศูนย์บ้างครับ
แล้วพี่ตัดสินใจจะซื้อ M795 ไหมครับ หรือว่าได้มองตัวอื่นแทนไว้ครับ
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdog ที่ ตุลาคม 25, 2012, 05:56:00 PM
ขอบคุณทุกข้อมูลครับ ขออัพเดทข่าวครับ
วันนี้หลังจากตัดเกรดนิสิตเสร็จ โล่งใจ โทรไปคุยกับSale ที่ทองหล่อ สานเรื่องต่อครับ ได้แนวทางที่ผมวางไว้ดังนี้ครับ
เนื่องจากผมตั้งใจที่จะซื้อรถขี่สักคัน แบบสบายใจ ไร้กังวล ผมจึงมีทางเรื่องดังนี้ครับ

แนวทางที่หนึ่ง หากศูนย์ไม่มีคำตอบที่เป็นทางการ ชัดเจนในเรื่องการแก้ปัญหาดังกล่าว ผมจะขอเงินจองคืน ย้ำครับ ไม่ใช่ขายใบจองครับ แต่ให้บริษัทคืนเงินจอง (กำลังคิดค่าเสียโอกาสเพื่อบวกเป็นค่าชดเชยเพิ่มเติม)

แนวทางที่สอง หากศูนย์มีคำตอบที่ชัดเจนอย่างเป็นทางการ ในระดับที่ลูกค้าใหม่คนนี้จะรับได้ ผมจะซื้อครับ

ทั้งนี้ ฝากท่านเจ้าของรถทุกท่าน ช่วยกรุณาตื่นตัวกับการหาความชัดเจนครั้งนี้ด้วยครับ มีอะไรมาแชร์กันเต็มๆครับ มันจะได้ครั้งเดียวให้จบกันไปเลย
เพราะคำตอบครั้งนี้อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ และประโยชน์จะตกอยุ่กับท่านผู้บริโภคทั้งหลายอย่างแน่นอน

หากหวยออกเป็นแนวทางแรก ผมคงต้องแสดงความเสียใจที่จะต้องย้ายค่ายครับ แต่ยังคงแฮปปี้ที่จะมาแชร์ความคิดแปลกๆแบบของผมต่อไป
แต่ถามในใจลึกๆ ผมชอบดูคาติเป็นทุนเดิม แต่อยากให้เกิดความชัดเจนสบายใจ ทั้งตัวผม และ ท่านทั้งหลายที่กำลังใช้รถกันครับ

เท่าที่ทราบ เมื่อครู่ใหญ่ Sale โทรมาแจ้งประเด็นหลักๆ เพื่อนำเสนอผู้บริหารในสัปดาห์หน้าแล้วครับ
เรามาร่วมกันจับตาดูการเปลี่ยนแปลงและการพิทักษ์สิทธิผู้บริโภคหาเช้ากินค่ำอย่างพวกเรากันเถิด

ผมอาชีพเป็นครูจนๆ อันนี้คือกรณีศึกษาชั้นดีสำหรับการสอนของผมเลยครับ ฮ่า ฮ่า ฮ่า เทอมหน้าใครลงเรียนกับผม ได้เรียนกรณีศึกษาอันนี้แน่นอนครับ

ข้อนี้น่าสนใจครับผม ไม่ทราบว่าพี่ dukdikdog ได้คำตอบอย่างไรจากศูนย์บ้างครับ
แล้วพี่ตัดสินใจจะซื้อ M795 ไหมครับ หรือว่าได้มองตัวอื่นแทนไว้ครับ


ใบจองยังมีอยู่ครับ พร้อมชุดท่อศูนย์ครับ กำลังรอคำตอบที่ชัดเจนจากศูนย์ครับ ทางเลือกผมก็อยู่ตรงคำตอบศูนย์ครับ วันนี้ช่วงเช้าได้รับข้อมูลว่าขอรอคำตอบจากบอสเขาอีกนิดครับ ถ้าผมเห็นว่าไม่เคลีย คงย้ายค่ายครับ หารถมีหม้อน้ำ ไม่เกิน1000ซีซี เป็นทางเลือกของโครงการจักรยานยนต์คันแรกครับ แนวผมชอบnaked bikeครับ
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: Nongk69 ที่ ตุลาคม 25, 2012, 07:08:21 PM
ผมตั้งใจจะเอาตัวนี้เหมือนกันเจอ กระทู้นี้ชักฟ่อๆๆซะแล้ว abc33
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdog ที่ ตุลาคม 25, 2012, 08:30:54 PM
ผลการทำนายเรื่องน้ำมันเดือด หวยไปออกที่เคสผู้ใช้โดนน้ำมันพุ่งอีกรายครับ เชิญชมที่หน้า general discussion ครับ กลุ้มแทนโว้ย
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: ไอ้มดเอ็กซ์(DNT) ที่ ตุลาคม 26, 2012, 11:28:04 AM
ขอบคุณทุกข้อมูลครับ ขออัพเดทข่าวครับ
วันนี้หลังจากตัดเกรดนิสิตเสร็จ โล่งใจ โทรไปคุยกับSale ที่ทองหล่อ สานเรื่องต่อครับ ได้แนวทางที่ผมวางไว้ดังนี้ครับ
เนื่องจากผมตั้งใจที่จะซื้อรถขี่สักคัน แบบสบายใจ ไร้กังวล ผมจึงมีทางเรื่องดังนี้ครับ

แนวทางที่หนึ่ง หากศูนย์ไม่มีคำตอบที่เป็นทางการ ชัดเจนในเรื่องการแก้ปัญหาดังกล่าว ผมจะขอเงินจองคืน ย้ำครับ ไม่ใช่ขายใบจองครับ แต่ให้บริษัทคืนเงินจอง (กำลังคิดค่าเสียโอกาสเพื่อบวกเป็นค่าชดเชยเพิ่มเติม)

แนวทางที่สอง หากศูนย์มีคำตอบที่ชัดเจนอย่างเป็นทางการ ในระดับที่ลูกค้าใหม่คนนี้จะรับได้ ผมจะซื้อครับ

ทั้งนี้ ฝากท่านเจ้าของรถทุกท่าน ช่วยกรุณาตื่นตัวกับการหาความชัดเจนครั้งนี้ด้วยครับ มีอะไรมาแชร์กันเต็มๆครับ มันจะได้ครั้งเดียวให้จบกันไปเลย
เพราะคำตอบครั้งนี้อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ และประโยชน์จะตกอยุ่กับท่านผู้บริโภคทั้งหลายอย่างแน่นอน

หากหวยออกเป็นแนวทางแรก ผมคงต้องแสดงความเสียใจที่จะต้องย้ายค่ายครับ แต่ยังคงแฮปปี้ที่จะมาแชร์ความคิดแปลกๆแบบของผมต่อไป
แต่ถามในใจลึกๆ ผมชอบดูคาติเป็นทุนเดิม แต่อยากให้เกิดความชัดเจนสบายใจ ทั้งตัวผม และ ท่านทั้งหลายที่กำลังใช้รถกันครับ

เท่าที่ทราบ เมื่อครู่ใหญ่ Sale โทรมาแจ้งประเด็นหลักๆ เพื่อนำเสนอผู้บริหารในสัปดาห์หน้าแล้วครับ
เรามาร่วมกันจับตาดูการเปลี่ยนแปลงและการพิทักษ์สิทธิผู้บริโภคหาเช้ากินค่ำอย่างพวกเรากันเถิด

ผมอาชีพเป็นครูจนๆ อันนี้คือกรณีศึกษาชั้นดีสำหรับการสอนของผมเลยครับ ฮ่า ฮ่า ฮ่า เทอมหน้าใครลงเรียนกับผม ได้เรียนกรณีศึกษาอันนี้แน่นอนครับ


ข้อนี้น่าสนใจครับผม ไม่ทราบว่าพี่ dukdikdog ได้คำตอบอย่างไรจากศูนย์บ้างครับ
แล้วพี่ตัดสินใจจะซื้อ M795 ไหมครับ หรือว่าได้มองตัวอื่นแทนไว้ครับ



ใบจองยังมีอยู่ครับ พร้อมชุดท่อศูนย์ครับ กำลังรอคำตอบที่ชัดเจนจากศูนย์ครับ ทางเลือกผมก็อยู่ตรงคำตอบศูนย์ครับ วันนี้ช่วงเช้าได้รับข้อมูลว่าขอรอคำตอบจากบอสเขาอีกนิดครับ ถ้าผมเห็นว่าไม่เคลีย คงย้ายค่ายครับ หารถมีหม้อน้ำ ไม่เกิน1000ซีซี เป็นทางเลือกของโครงการจักรยานยนต์คันแรกครับ แนวผมชอบnaked bikeครับ


เอาใจช่วยครับ บางทีศูนย์ก็ตอบคำถามพวกเราช้าเหมือนกัน
ส่วนค่ายอื่น ผมมองว่าตัวนี้ก็น่าสนครับคุณ dukdikdog 800cc
ผมว่าตัวนี้สวยเหมือนกัน เพราะก่อนผมจะมาเล่นค่ายแดง ผมก็เคยจองรถค่ายเขียวไว้เหมือนกันครับ
http://www.er6thailand.com/board/index.php?topic=32953.0 (http://www.er6thailand.com/board/index.php?topic=32953.0)
ยังไงอยากให้มาขี่สองล้อเหมือนกัน ชีวิตสนุกขึ้นเยอะครับ ชีวิตแสนสั้น เต็มที่กับชีวิตครับ :D
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdog ที่ ตุลาคม 27, 2012, 06:19:20 AM
ขอบคุณทุกข้อมูลครับ ขออัพเดทข่าวครับ
วันนี้หลังจากตัดเกรดนิสิตเสร็จ โล่งใจ โทรไปคุยกับSale ที่ทองหล่อ สานเรื่องต่อครับ ได้แนวทางที่ผมวางไว้ดังนี้ครับ
เนื่องจากผมตั้งใจที่จะซื้อรถขี่สักคัน แบบสบายใจ ไร้กังวล ผมจึงมีทางเรื่องดังนี้ครับ

แนวทางที่หนึ่ง หากศูนย์ไม่มีคำตอบที่เป็นทางการ ชัดเจนในเรื่องการแก้ปัญหาดังกล่าว ผมจะขอเงินจองคืน ย้ำครับ ไม่ใช่ขายใบจองครับ แต่ให้บริษัทคืนเงินจอง (กำลังคิดค่าเสียโอกาสเพื่อบวกเป็นค่าชดเชยเพิ่มเติม)

แนวทางที่สอง หากศูนย์มีคำตอบที่ชัดเจนอย่างเป็นทางการ ในระดับที่ลูกค้าใหม่คนนี้จะรับได้ ผมจะซื้อครับ

ทั้งนี้ ฝากท่านเจ้าของรถทุกท่าน ช่วยกรุณาตื่นตัวกับการหาความชัดเจนครั้งนี้ด้วยครับ มีอะไรมาแชร์กันเต็มๆครับ มันจะได้ครั้งเดียวให้จบกันไปเลย
เพราะคำตอบครั้งนี้อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ และประโยชน์จะตกอยุ่กับท่านผู้บริโภคทั้งหลายอย่างแน่นอน

หากหวยออกเป็นแนวทางแรก ผมคงต้องแสดงความเสียใจที่จะต้องย้ายค่ายครับ แต่ยังคงแฮปปี้ที่จะมาแชร์ความคิดแปลกๆแบบของผมต่อไป
แต่ถามในใจลึกๆ ผมชอบดูคาติเป็นทุนเดิม แต่อยากให้เกิดความชัดเจนสบายใจ ทั้งตัวผม และ ท่านทั้งหลายที่กำลังใช้รถกันครับ

เท่าที่ทราบ เมื่อครู่ใหญ่ Sale โทรมาแจ้งประเด็นหลักๆ เพื่อนำเสนอผู้บริหารในสัปดาห์หน้าแล้วครับ
เรามาร่วมกันจับตาดูการเปลี่ยนแปลงและการพิทักษ์สิทธิผู้บริโภคหาเช้ากินค่ำอย่างพวกเรากันเถิด

ผมอาชีพเป็นครูจนๆ อันนี้คือกรณีศึกษาชั้นดีสำหรับการสอนของผมเลยครับ ฮ่า ฮ่า ฮ่า เทอมหน้าใครลงเรียนกับผม ได้เรียนกรณีศึกษาอันนี้แน่นอนครับ


ข้อนี้น่าสนใจครับผม ไม่ทราบว่าพี่ dukdikdog ได้คำตอบอย่างไรจากศูนย์บ้างครับ
แล้วพี่ตัดสินใจจะซื้อ M795 ไหมครับ หรือว่าได้มองตัวอื่นแทนไว้ครับ



ใบจองยังมีอยู่ครับ พร้อมชุดท่อศูนย์ครับ กำลังรอคำตอบที่ชัดเจนจากศูนย์ครับ ทางเลือกผมก็อยู่ตรงคำตอบศูนย์ครับ วันนี้ช่วงเช้าได้รับข้อมูลว่าขอรอคำตอบจากบอสเขาอีกนิดครับ ถ้าผมเห็นว่าไม่เคลีย คงย้ายค่ายครับ หารถมีหม้อน้ำ ไม่เกิน1000ซีซี เป็นทางเลือกของโครงการจักรยานยนต์คันแรกครับ แนวผมชอบnaked bikeครับ


เอาใจช่วยครับ บางทีศูนย์ก็ตอบคำถามพวกเราช้าเหมือนกัน
ส่วนค่ายอื่น ผมมองว่าตัวนี้ก็น่าสนครับคุณ dukdikdog 800cc
ผมว่าตัวนี้สวยเหมือนกัน เพราะก่อนผมจะมาเล่นค่ายแดง ผมก็เคยจองรถค่ายเขียวไว้เหมือนกันครับ
[url]http://www.er6thailand.com/board/index.php?topic=32953.0[/url] ([url]http://www.er6thailand.com/board/index.php?topic=32953.0[/url])
ยังไงอยากให้มาขี่สองล้อเหมือนกัน ชีวิตสนุกขึ้นเยอะครับ ชีวิตแสนสั้น เต็มที่กับชีวิตครับ :D




รอดูกันครับ  mon57
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: Nongk69 ที่ ตุลาคม 27, 2012, 07:55:04 PM
ทำไมรุ่นอื่นมันไม่มีปัญหาอ่ะ รึว่าฝีมือพี่ไทยยังไม่ดีพอ mon14
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdog ที่ ตุลาคม 27, 2012, 08:13:57 PM
ทำไมรุ่นอื่นมันไม่มีปัญหาอ่ะ รึว่าฝีมือพี่ไทยยังไม่ดีพอ mon14

จำนวนรถที่ถูกขายสู่ตลาด น่าจะอธิบายได้ครับ
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: HandSome Beer ที่ ตุลาคม 28, 2012, 07:23:24 PM
ช่วงบ่ายได้เข้าไปตามนัดที่ศูนย์ทองหล่อ ผมไปถึงตั้งแต่เที่ยงครึ่ง ก็ได้เห็นกลุ่มลูกค้าDucatiกลุ่มใหญ่กำลังเกาะกลุ่มคุย เดาว่าน่าจะเป็นสมาชิกในclub แต่ผมก็ไม่ได้เข้าไปพูดคุยทักทายครับ เอาไว้โอกาสหน้าละกัน ฮ่า ฮ่า
เริ่มประชุมพูดคุยบ่ายโมง โดยมีคุณโด่งและคุณเจ นั่งคุยสอบถามช้อมูลทางวิชาการได้สักสองชั่วโมงครึ่งครับ
โดยรวม "นอกเหนือประเด็นความลับ" ที่ทางบริษัทข้อให้ผมสงวนได้ประเด็นดังนี้ครับ
ข้อที่1 ปัญหาความร้อน มีความเห็นตรงกันครับว่า เป็นปัญหาหลัก ที่จำเป็นต้องแก้ไขครับ โดยแนวทางแก้ไขยังต้องรอทางบริษัทแม่หาคำตอบให้อยู่ครับ พูดตามตรงครับ ฟังแล้วเหนื่อยใจแทนเพราะระบบบริหารและการแก้ปัญหาที่ยังไม่เข้าหลัก Quick Response (QR) รอโต้ตอบ พัฒนากันอีกพอควรครับ ผมเสนอแนวทางในเชิงวิชาการที่ครอบคลุมการวิจัยอย่างเป็นระบบไป อันนี้ยังต้องรอคำตอบต่อไปครับ และที่สำคัญ ตัว795มันยังแคบที่จะโดนทั้งโลกหันมามองปัญหาให้ เมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆ
ข้อที่2 มีคำอธิบายว่า ปัญหาความร้อนจะลดลงได้ หากขับขี่อย่างเข้าใจข้อจำกัดของรถ อันนี้ผมว่าโดนเต็มๆสำหรับผม เพราะผมพึ่งหัดขี่ขับ แต่ทางศูนย์ยืนยันว่าจะจัดหลักสูตรอบรมให้ความรู้แก่ลูกค้า ในความคิดเห็นของผม มันช้าไปหนึ่งก้าวเสมอ หากยังใช้ระบบการแก้ไขปัญหาแบบดังกล่าวนี้
ข้อที่3 ตัว795 จะมีoption  ABS เพิ่มในเร็ววันนี้ ราคายังไม่นิ่ง แต่น่าจะเพิ่มราคาอยู่ในวิสัยที่รับได้ แต่เครื่องหมายคำถามเรื่องการแก้ปัญหาความร้อนก็ยังไม่ชัดเจนกับรุ่นเพิ่มoptionดังกล่าวครับ
ประเด็นโดยรวมทางวิชาการ ขอเปิดตัวแบบสาระนิดหน่อยครับ เท่าที่ผมรีวิวข้อมูล ปัญหาที่เกิดจะมาจาก 3 ปัจจัยที่ยังรอการปรับปรุงแก้ไข คือ ตัวถังน้ำมันในประเด็นเรื่องวัสดุ ความสามารถในการรับแรงดัน และ การแก้ปัญหาแรงดันน้ำมันเดือด ตัวน้ำมันที่มีองค์ประกอบของเอธานอลที่เร่งการระเหยได้เร็วขึ้น ร่วมกับความร้อนจากเครื่องที่เหมือนลักษณะการตั้งเตาต้มน้ำมันในระหว่างการขับขี่
ตามความคิดเห็นของผม ปัญหานี้น่าจะเป็นปัญหาเรื้อรังในระยะยาวๆ แน่นอนหากไม่มีการแก้ไขอย่างเป็นระบบ คงต้องรอแนวทางการแก้ปัญหาแบบฟ้าประทานกันต่อไป
โดยสรุป ผมก็รอฟังคำตอบการขยับของบริษัทในเร็ววันนี้ครับ จะได้เลือกคำตอบที่ถูกต้องต่อไปครับ
ต้องขอขอบคุณ คุณเจและคุณโด่ง ที่มานั่งแลกเปลี่ยนข้อมูลทางวิชาการและวิชาเกินกันถึงสองชั่วโมงกว่า มีหลายประเด็นที่ผมขอสงวนสิทธิไม่เปิดเผยในที่นี้ เอาไว้หากสุดปลายทางไม่มีคำตอบเหมือนเคย และ รูปแบบการแก้ปัญหายังเป็นระบบซื้อเวลา ผมจะค่อยมาแฉทีเดียว ฮ่า ฮ่า
รอฟังข่าวต่อไปครับ
ปล นั่งคุยกับคนขับรถผม เขางงว่า จ่ายแพงกว่า มันน่าจะมีอะไรดีกว่า แต่ทำไมผมถึงจะซื้อหากรู้ว่ามันยังมีปัญหาที่ต้องแก้ไข ผมตอบสั้นๆว่า เพราะมันคือ Ducati ฮ่า ฮ่า

สงสัยเรื่อง m795 ตัวที่มี ABS อะครับ ว่าจะมาเมื่อไหร่ คือพอดีแบบว่าจะรับรถเดือนหน้านี้แล้ว  mon3
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: Nongk69 ที่ ตุลาคม 28, 2012, 07:57:07 PM
ผมคิดว่าคงไม่นานน่าจะมีตัว abs. กับล้อลายใหม่ครับ. ขอให้มาไวๆเหอะ ร้อนก็ยอมถ้ามันหล่ออ่ะ abc24
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdog ที่ ตุลาคม 28, 2012, 08:21:31 PM
ต้องลองถามเซลดูครับ แต่ถ้ายังร้อนแบบแก้ปัญหาไม่ได้ ผมคงย้ายค่ายครับ ถึงแม้จะเพิ่มเอบีเอสหรืออุปกรณ์ตัวอื่นๆครับ
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: HandSome Beer ที่ ตุลาคม 29, 2012, 12:49:26 AM
ผมคิดว่าคงไม่นานน่าจะมีตัว abs. กับล้อลายใหม่ครับ. ขอให้มาไวๆเหอะ ร้อนก็ยอมถ้ามันหล่ออ่ะ abc24

แล้วผมจะเอาไงดี เดือนหน้าก็จะรับรถแล้ววว  mon6

ต้องลองถามเซลดูครับ แต่ถ้ายังร้อนแบบแก้ปัญหาไม่ได้ ผมคงย้ายค่ายครับ ถึงแม้จะเพิ่มเอบีเอสหรืออุปกรณ์ตัวอื่นๆครับ

เหนพี่คุยกันแล้ว ก็เปนปัญหาที่น่าหนักใจและไม่มีคำตอบที่ชัดเจนแหละคับ

แต่ผมใช้อารมมาตัดสินเป็นหลักเลยกะว่า ขับไปแก้ไปเป็นอะไรที่พอรับได้  mon6

ยังไงก็ขอให้ได้คำตอบไวๆนะคับ คงสบายใจกันทั้งบอร์ด  mon48
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: poodchui ที่ ตุลาคม 29, 2012, 12:11:53 PM
แล้ว M 796 จะมีปัญหาความร้อนเท่ากับ M 795 หรือป่าวคับ
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: hans795 ที่ ตุลาคม 29, 2012, 06:17:10 PM
ถ้าขับรถในเมือง ลักษณะเส้นทางการขับขี่ต้องเจอไฟแดงหลายๆดวง แต่ตังค์ถึง  แนะนำ รุ่นที่มีหม้อน้ำ

ถ้าขับรถในเมือง ลักษณะเส้นทางการขับขี่ต้องเจอไฟแดงหลายๆดวง แนะนำ ค่ายเขียว โลด

 mon61

เรื่องเอาเปรียบผู้บริโภคหรือไม่ ผมคิดว่าจากคลับที่ค่อนข้าวเหนียวแน่น ก้อน่าจะเป็นตัวต่อรองที่ดี กับ"ฝ่ายบริหาร"



หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: Glaugh ที่ ตุลาคม 30, 2012, 02:25:37 PM
มาเก็บข้อมูลครับ เจอแบบนี้ คิดหนักเลยครับ

มันคงแปลกๆดี ที่เวลาจะเติมน้ำมัน ต้องไปจอดให้ถังน้ำมันเย็นก่อน ยังไง ก็ รบกวนขอติดตามข้อมูลด้วยคนครับ
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: Nack Motobike ที่ ตุลาคม 30, 2012, 03:31:32 PM
ของผมโดนแล้วครับ ปลาวาฬ
ไม่กล้าเปิดถังน้ำมันเลยครับ เวลาเครื่องร้อน ต้องค่อยๆ แง้ม หรือไม่ก็รอเครื่องเย็นแล้วค่อยเติมน้ำมัน
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: hans795 ที่ ตุลาคม 30, 2012, 04:34:52 PM
ที่ผ่านมา ห้าขีด เคยเจอ ป๊อปคอร์น ทีนึงครับ สี่ขีด จะฟุ่บๆ

 mon5

หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdog ที่ ตุลาคม 30, 2012, 06:53:28 PM
ถึงนาทีนี้ คงจะยิ่งมั่นใจว่า ความร้อนของเครื่องที่สะสมและยังไม่สามารถระบายได้ครับ น้ำมันที่ท่านเติม สามสิบกว่าองศามันก็จะมีส่วนประกอบระเหยเป็นไอ ยิ่งอุณหภูมิสูงขึ้น การเปลี่ยนสภาพเป็นไอก็จะรุนแรงและมากขึ้นครับ และเจ้านี่เองคือสิ่งที่ดันถังน้ำมันให้บวมออกจนฝาระเบิดหากแรงดันหาที่ไปไม่ได้
ตัวยืนยันเรื่องเครื่องดับ เพราะน้ำมันเกิดระเหยเป็นไอ ก็ยืนยันปัญหานี้เช่นกัน
พวกแผ่นกันรอยก็จะเยิ้ม ลอกง่าย นี่ก็ยืนยันปัญหานี้เช่นกัน
หากพวกท่านยังนิ่งๆ ทำใจรับกับมันได้ ก็ตามสะดวกครับ
บางท่านแยกท่อไอน้ำมันออกมา ผมว่ามันแก้ปัญหาหนึ่งแต่กำลังจะนำไปสู่อีกปัญหาหนึ่งครับ ถังไม่บวม แต่น้ำมันในรูปไอที่เดือด หรือ น้ำมันที่เดือดออกมาจากท่อนั่น ก็เป็นประเด็นเสี่ยงหากมันไปจ่อกับสิ่งที่พร้อมจะลุกเป็นไฟ

ถามว่าเราจะทำอย่างไรดี ในขณะที่ศูนย์ยังไม่มีมาตรการอะไรที่ชัดเจนขนาดที่รถขายมาจะครบปีอยู่แล้ว
ทางแก้สำหรับผู้ที่ครอบครองอยู่ หรือ มั่นใจว่าซื้อแน่ ผมว่า การศึกษาเส้นทางและการวางแผนการใช้อย่างดี การหมั่นสังเกตุระดับความร้อนและสภาพแวดล้อม พร้อมๆกับการประเมินสภาพที่จะเกิดขึ้นเมื่อท่านขี่จากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่ง
ถ้าผมใช้ คงต้องนั่งคิดว่าจะมีcool down ช่วงไหน

ยอมรับครับว่าเป็นรถที่สวยมากคันหนึ่งครับ เอาสมการ
ความสวยเท่ห์ของดูคาติ มาเทียบกับ การลงทุนเป็นเจ้าของ ต้นทุนความเสี่ยงต่างๆ ระยะยาวและสั้น
ผลน่าจะออกมาชัดเจนครับ ถ้าซ้ายมากกว่าขวาก็จัดเลยครับ

คำตอบอยู่ที่ท่านทั้งหลายครับว่า คุ้มหรือไม่ เพราะ การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน ครับ
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: HandSome Beer ที่ ตุลาคม 30, 2012, 07:35:18 PM
ถึงนาทีนี้ คงจะยิ่งมั่นใจว่า ความร้อนของเครื่องที่สะสมและยังไม่สามารถระบายได้ครับ น้ำมันที่ท่านเติม สามสิบกว่าองศามันก็จะมีส่วนประกอบระเหยเป็นไอ ยิ่งอุณหภูมิสูงขึ้น การเปลี่ยนสภาพเป็นไอก็จะรุนแรงและมากขึ้นครับ และเจ้านี่เองคือสิ่งที่ดันถังน้ำมันให้บวมออกจนฝาระเบิดหากแรงดันหาที่ไปไม่ได้
ตัวยืนยันเรื่องเครื่องดับ เพราะน้ำมันเกิดระเหยเป็นไอ ก็ยืนยันปัญหานี้เช่นกัน
พวกแผ่นกันรอยก็จะเยิ้ม ลอกง่าย นี่ก็ยืนยันปัญหานี้เช่นกัน
หากพวกท่านยังนิ่งๆ ทำใจรับกับมันได้ ก็ตามสะดวกครับ
บางท่านแยกท่อไอน้ำมันออกมา ผมว่ามันแก้ปัญหาหนึ่งแต่กำลังจะนำไปสู่อีกปัญหาหนึ่งครับ ถังไม่บวม แต่น้ำมันในรูปไอที่เดือด หรือ น้ำมันที่เดือดออกมาจากท่อนั่น ก็เป็นประเด็นเสี่ยงหากมันไปจ่อกับสิ่งที่พร้อมจะลุกเป็นไฟ

ถามว่าเราจะทำอย่างไรดี ในขณะที่ศูนย์ยังไม่มีมาตรการอะไรที่ชัดเจนขนาดที่รถขายมาจะครบปีอยู่แล้ว
ทางแก้สำหรับผู้ที่ครอบครองอยู่ หรือ มั่นใจว่าซื้อแน่ ผมว่า การศึกษาเส้นทางและการวางแผนการใช้อย่างดี การหมั่นสังเกตุระดับความร้อนและสภาพแวดล้อม พร้อมๆกับการประเมินสภาพที่จะเกิดขึ้นเมื่อท่านขี่จากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่ง
ถ้าผมใช้ คงต้องนั่งคิดว่าจะมีcool down ช่วงไหน

ยอมรับครับว่าเป็นรถที่สวยมากคันหนึ่งครับ เอาสมการ
ความสวยเท่ห์ของดูคาติ มาเทียบกับ การลงทุนเป็นเจ้าของ ต้นทุนความเสี่ยงต่างๆ ระยะยาวและสั้น
ผลน่าจะออกมาชัดเจนครับ ถ้าซ้ายมากกว่าขวาก็จัดเลยครับ

คำตอบอยู่ที่ท่านทั้งหลายครับว่า คุ้มหรือไม่ เพราะ การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน ครับ

แล้วสรุปพี่จะยังคงออกเจ้า 795 อยู่ป่าวครับ อ่านแล้วเครียดจะรับรถแล้ว ลังเลเลยครับ mon36
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: jack66 ที่ ตุลาคม 30, 2012, 08:30:21 PM
ถึงนาทีนี้ คงจะยิ่งมั่นใจว่า ความร้อนของเครื่องที่สะสมและยังไม่สามารถระบายได้ครับ น้ำมันที่ท่านเติม สามสิบกว่าองศามันก็จะมีส่วนประกอบระเหยเป็นไอ ยิ่งอุณหภูมิสูงขึ้น การเปลี่ยนสภาพเป็นไอก็จะรุนแรงและมากขึ้นครับ และเจ้านี่เองคือสิ่งที่ดันถังน้ำมันให้บวมออกจนฝาระเบิดหากแรงดันหาที่ไปไม่ได้
ตัวยืนยันเรื่องเครื่องดับ เพราะน้ำมันเกิดระเหยเป็นไอ ก็ยืนยันปัญหานี้เช่นกัน
พวกแผ่นกันรอยก็จะเยิ้ม ลอกง่าย นี่ก็ยืนยันปัญหานี้เช่นกัน
หากพวกท่านยังนิ่งๆ ทำใจรับกับมันได้ ก็ตามสะดวกครับ
บางท่านแยกท่อไอน้ำมันออกมา ผมว่ามันแก้ปัญหาหนึ่งแต่กำลังจะนำไปสู่อีกปัญหาหนึ่งครับ ถังไม่บวม แต่น้ำมันในรูปไอที่เดือด หรือ น้ำมันที่เดือดออกมาจากท่อนั่น ก็เป็นประเด็นเสี่ยงหากมันไปจ่อกับสิ่งที่พร้อมจะลุกเป็นไฟ

ถามว่าเราจะทำอย่างไรดี ในขณะที่ศูนย์ยังไม่มีมาตรการอะไรที่ชัดเจนขนาดที่รถขายมาจะครบปีอยู่แล้ว
ทางแก้สำหรับผู้ที่ครอบครองอยู่ หรือ มั่นใจว่าซื้อแน่ ผมว่า การศึกษาเส้นทางและการวางแผนการใช้อย่างดี การหมั่นสังเกตุระดับความร้อนและสภาพแวดล้อม พร้อมๆกับการประเมินสภาพที่จะเกิดขึ้นเมื่อท่านขี่จากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่ง
ถ้าผมใช้ คงต้องนั่งคิดว่าจะมีcool down ช่วงไหน

ยอมรับครับว่าเป็นรถที่สวยมากคันหนึ่งครับ เอาสมการ
ความสวยเท่ห์ของดูคาติ มาเทียบกับ การลงทุนเป็นเจ้าของ ต้นทุนความเสี่ยงต่างๆ ระยะยาวและสั้น
ผลน่าจะออกมาชัดเจนครับ ถ้าซ้ายมากกว่าขวาก็จัดเลยครับ

คำตอบอยู่ที่ท่านทั้งหลายครับว่า คุ้มหรือไม่ เพราะ การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน ครับ


รบกวนคุณพี่ พิจารณารูปด่านล่างนี้ด้วยครับ

ปกติรถจะมีการระบายอยู่แล้วครับ ตามรูปครับ
(http://imageshack.us/a/img838/8682/img2226c.jpg)


ซึ่งสายนี้้้ต่อออกมาจากฝาถังน้ำมันด้านซ้าย ส่วนสายด้านขวา ต่อเข้ากล่องดักไอน้ำมัน
(http://imageshack.us/a/img201/9085/img2220e.jpg)


ทำการถอดสายด้านขวาออกซะ
(http://imageshack.us/a/img441/6482/img2221v.jpg)


จากนั้นหาน็อตมาอุดรูไว้
(http://imageshack.us/a/img543/9021/img2222jw.jpg)


เดินไปหน้าปากซอย ซื้อสายน้ำมัน สายลม หรือสายอะไรก็ตามแต่ใจท่านๆ ความยาว 1.5-2เมตร
(http://imageshack.us/a/img542/1783/img2223i.jpg)

นำมาต่อเข้าแทนที่สายเดิมที่เราถอดออก
(http://imageshack.us/a/img208/4480/img2229d.jpg)


ลากมันลงไปฝากอยู่กับสายระบายเดิมติดรถ
(http://imageshack.us/a/img109/6460/img2228xl.jpg)



 
จบครับ ไม่ฟู่ ไม่บวม ไม่ระเบิด ไม่พัง(ไม่รู้) ครับผม  mon16  mon32
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: HandSome Beer ที่ ตุลาคม 30, 2012, 08:41:11 PM
ชัดเจนเลยครับพี่ ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆครับ  mon4
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdog ที่ ตุลาคม 30, 2012, 09:04:03 PM
ถึงนาทีนี้ คงจะยิ่งมั่นใจว่า ความร้อนของเครื่องที่สะสมและยังไม่สามารถระบายได้ครับ น้ำมันที่ท่านเติม สามสิบกว่าองศามันก็จะมีส่วนประกอบระเหยเป็นไอ ยิ่งอุณหภูมิสูงขึ้น การเปลี่ยนสภาพเป็นไอก็จะรุนแรงและมากขึ้นครับ และเจ้านี่เองคือสิ่งที่ดันถังน้ำมันให้บวมออกจนฝาระเบิดหากแรงดันหาที่ไปไม่ได้
ตัวยืนยันเรื่องเครื่องดับ เพราะน้ำมันเกิดระเหยเป็นไอ ก็ยืนยันปัญหานี้เช่นกัน
พวกแผ่นกันรอยก็จะเยิ้ม ลอกง่าย นี่ก็ยืนยันปัญหานี้เช่นกัน
หากพวกท่านยังนิ่งๆ ทำใจรับกับมันได้ ก็ตามสะดวกครับ
บางท่านแยกท่อไอน้ำมันออกมา ผมว่ามันแก้ปัญหาหนึ่งแต่กำลังจะนำไปสู่อีกปัญหาหนึ่งครับ ถังไม่บวม แต่น้ำมันในรูปไอที่เดือด หรือ น้ำมันที่เดือดออกมาจากท่อนั่น ก็เป็นประเด็นเสี่ยงหากมันไปจ่อกับสิ่งที่พร้อมจะลุกเป็นไฟ

ถามว่าเราจะทำอย่างไรดี ในขณะที่ศูนย์ยังไม่มีมาตรการอะไรที่ชัดเจนขนาดที่รถขายมาจะครบปีอยู่แล้ว
ทางแก้สำหรับผู้ที่ครอบครองอยู่ หรือ มั่นใจว่าซื้อแน่ ผมว่า การศึกษาเส้นทางและการวางแผนการใช้อย่างดี การหมั่นสังเกตุระดับความร้อนและสภาพแวดล้อม พร้อมๆกับการประเมินสภาพที่จะเกิดขึ้นเมื่อท่านขี่จากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่ง
ถ้าผมใช้ คงต้องนั่งคิดว่าจะมีcool down ช่วงไหน

ยอมรับครับว่าเป็นรถที่สวยมากคันหนึ่งครับ เอาสมการ
ความสวยเท่ห์ของดูคาติ มาเทียบกับ การลงทุนเป็นเจ้าของ ต้นทุนความเสี่ยงต่างๆ ระยะยาวและสั้น
ผลน่าจะออกมาชัดเจนครับ ถ้าซ้ายมากกว่าขวาก็จัดเลยครับ

คำตอบอยู่ที่ท่านทั้งหลายครับว่า คุ้มหรือไม่ เพราะ การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน ครับ


รบกวนคุณพี่ พิจารณารูปด่านล่างนี้ด้วยครับ

ปกติรถจะมีการระบายอยู่แล้วครับ ตามรูปครับ
([url]http://imageshack.us/a/img838/8682/img2226c.jpg[/url])


ซึ่งสายนี้้้ต่อออกมาจากฝาถังน้ำมันด้านซ้าย ส่วนสายด้านขวา ต่อเข้ากล่องดักไอน้ำมัน
([url]http://imageshack.us/a/img201/9085/img2220e.jpg[/url])


ทำการถอดสายด้านขวาออกซะ
([url]http://imageshack.us/a/img441/6482/img2221v.jpg[/url])


จากนั้นหาน็อตมาอุดรูไว้
([url]http://imageshack.us/a/img543/9021/img2222jw.jpg[/url])


เดินไปหน้าปากซอย ซื้อสายน้ำมัน สายลม หรือสายอะไรก็ตามแต่ใจท่านๆ ความยาว 1.5-2เมตร
([url]http://imageshack.us/a/img542/1783/img2223i.jpg[/url])

นำมาต่อเข้าแทนที่สายเดิมที่เราถอดออก
([url]http://imageshack.us/a/img208/4480/img2229d.jpg[/url])


ลากมันลงไปฝากอยู่กับสายระบายเดิมติดรถ
([url]http://imageshack.us/a/img109/6460/img2228xl.jpg[/url])



 
จบครับ ไม่ฟู่ ไม่บวม ไม่ระเบิด ไม่พัง(ไม่รู้) ครับผม  mon16  mon32


วันที่ผมคุยกับบริษัทเขา ผมก็เอาเคสนี้ไปเล่าและอ้างถึง ทางเจ้าหน้าที่เขาดูตกใจน่ะครับที่ท่านทั้งหลายใช้เทคนิคอย่างนี้ ฮ่า ผมเรียกว่า ภูมิปัญญาชาวบ้านครับ
ถ้าผมคิดแบบที่ท่านทำอยู่ ก็เท่ากับเราหาทางระบายน้ำมันต้มเดือดหรือน้ำมันที่เป็นไอทิ้งทางตรงครับ ถ้าน้ำมันปริมาณน้อย เดือดน้อยๆ คงจะเครียดไม่เยอะครับ ก็แค่ต้มน้ำมันทิ้งไปเรื่อยๆ
แต่คิดอีกมุม หากขี่ไป ร้อนได้ที่ ติดกลางแยก รถกระบะด้านข้างดีดบุหรี่ลงไปแถวนั้นก่อนออกตัวแข่งกับท่าน ... ท่านอาจคิดว่าเสี่ยงน้อยหรือมาก ผมไม่อาจตอบแทนท่านได้ครับ
ถ้าขี่แล้วลมโกรกๆ คงสบายใจ แต่ถ้าที่อับๆ อากาศไม่ไหลเวียน ผมว่าเครียดครับ
และที่สำคัญครับ ปัจจัยที่ทำให้ไฟติด อย่างเช่น คนสูบบุหรี่ที่อยู่รอบข้าง เมื่อรถท่านร้อนสักสี่ห้าขีด อยากจอดลุ้นข้างๆกันตามแยกไฟแดง ผมคิดแล้วเครียดครับ
ถ้าขับเท่ห์ ผมชอบครับ
แต่ถ้าครับเท่ห์คนมอง แต่ แพงซื้อ แถมซ่อมแพง ต้องดูขีดความร้อนตลอดเวลา รถติดต้องดับเครื่องเมื่อติดนานๆ ต้องคอยดมกลิ่นน้ำมัน หนีห่างพวกสูบบุหรี่ใกล้ จะเติมน้ำมันต้องรอรถเย็นก่อน รถติดห้ามใช้ ต้องออกเช้าตรู่หรือดึกๆเพื่อหลีกเลี่ยงการจราจร หรือ ขี่เฉพาะวันหยุด...
ผมว่า มันน่าจะเหมาะกับคนที่รถมากกว่าหนึ่งคันครับ และเหมาะกับการขี่ฉาบฉวยมากกว่า คงเปรียบเหมือนferrari ที่คงจะไม่เหมาะที่จะขับขี่ทุกวันครับ น่าจะเอาไว้มาออกรอบวันหยุดมากกว่า เป็นของเล่นราคาแพงนั่นเองครับ
หรือไม่ก็พวกที่ชีวิต ไม่ต้องเจอแยกชนแยก วิ่งชิวๆครับ

ถึงตรงนี้ผมก็ย้ำหลักการเดิมครับ ถ้าไม่เคลีย ไม่แก้ ไม่ชัดเจน ผมไม่ซื้อครับ ผมก็รอคำตอบจากทางศูนย์อยู่ครับ
ไม่ต้องรอคำตอบจากผมเพื่อการตัดสินใจทั้งหมดหรอกครับ ถามเซล ถามศูนย์ ช่วยกันครับ เพราะผมก็แค่ว่าที่ลูกค้าคนหนึ่งเท่านั้นเองครับ
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: jack66 ที่ ตุลาคม 30, 2012, 09:18:51 PM
 mon32
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdog ที่ ตุลาคม 30, 2012, 09:27:21 PM
ผมเข้าใจพี่นะครับ

แต่ผมขอเล่าประสบการณ์ให้ฟังหน่อยครับ เมื่อตอนผมเรียนมหาลัย ดูหนังเรื่องนึง มันทิ้งก้นบุหรี่ลงพื้นที่มีน้ำมัน ไฟลุกทันที ผมจึงลองปฏิบัติตามบ้าง ปรากฎว่า ก้นบุหรี่ดับคาน้ำมันเลยครับ mon40

ครับ ถูกต้องครับ น้ำมันน่ะไม่ติดครับ แต่ไอน้ำมันติดครับ มัจะลอยลงต่ำเพราะหนักกว่าอากาศครับ แล้วไอน้ำมันที่ต้มเดือดจากท่อยาง ผมว่าติดไฟครับ ลองหาข้อมูลอ่านดูครับ ลองสังเกตุดูเปลวไฟก็ได้ครับ มันจะไหม้ลอยอยู่เหนือน้ำมันครับ
และฝากเตือนใจสักนิดครับ ที่ท่านทำน่ะ หากเกิดเรื่อง ศูนย์เขาน่าจะถือโอกาสโบ้ยความรับผิดชอบน่ะ ผมก็อึดอัดแทนครับ เพราะศูนย์ก็ยังไม่มีคำตอบครับ
มันเรื่องของความน่าจะเป็นล้วนๆ หวยออก จะออกที่ใคร นี่ออกมาอย่างน้อย2รอบแล้ว แต่สองท่านนั้นยังไม่ถูก
ผมเป็นคนสูบบุหรี่ครับ ผมเลยเซ็งครับ

หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: wiwat ที่ ตุลาคม 31, 2012, 11:43:03 AM
อย่างนี้เราร้องเรียน ส.ค.ป. ได้มั๊ยครับพี่ dukdikdog
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: kaakumijung ที่ ตุลาคม 31, 2012, 01:23:05 PM
ไม่ทราบว่าตัว 696 กับ 796 เค้าระบายไอน้ำมันยังไงครับ. ผมว่าน่าจะเรียนแบบได้บ้างครับ ถือเปนการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน ถ้ายังไม่ได้คำตอบที่แน่นอนจากทางศูนย์อ่ะครับ รบกวนด้วยครับมือใหม่ ครับ. ใจจริงชอบดูคาติครับ แต่ค่ายยักเขียวก็ดีนะครับ แต่รถน้ามหนักเยอะไปหน่อย ประคองรถไม่ไหวครับ.  mon6
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: อ๊อฟ ที่ ตุลาคม 31, 2012, 01:35:57 PM
ถึงครูอังคณาแน่ ถ้าเรื่องไม่ถึงไหน!!! mon49 mon49 mon49
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdog ที่ ตุลาคม 31, 2012, 04:58:30 PM
เห็นศูนย์เงียบไป นึกว่าช็อต. ฮ่า
วันศุกร์รอฟังคำตอบจากศูนย์ครับ เห็นแจ้งมาแล้ว
หวังว่าคงเป็นข่าวดี
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdog ที่ ตุลาคม 31, 2012, 05:01:54 PM
ไม่ทราบว่าตัว 696 กับ 796 เค้าระบายไอน้ำมันยังไงครับ. ผมว่าน่าจะเรียนแบบได้บ้างครับ ถือเปนการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน ถ้ายังไม่ได้คำตอบที่แน่นอนจากทางศูนย์อ่ะครับ รบกวนด้วยครับมือใหม่ ครับ. ใจจริงชอบดูคาติครับ แต่ค่ายยักเขียวก็ดีนะครับ แต่รถน้ามหนักเยอะไปหน่อย ประคองรถไม่ไหวครับ.  mon6

ผมว่าสภาพการขับขี่โดยเฉลี่ยของเราต่างครับ น่าจะมีโอกาสถ้วนหน้า ทุกรุ่นครับ
เรื่องความร้อนและการระบายความร้อนล้วนๆครับ
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: Vut(DCDC) ที่ ตุลาคม 31, 2012, 06:17:43 PM
รอฟังคำตอบด้วยคนครับ mon2
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: Nongk69 ที่ ตุลาคม 31, 2012, 07:08:09 PM
มาอัพเดทข้อมูลรายวัน มีข่าวใหม่ป่าวครับ abc52
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdog ที่ พฤศจิกายน 02, 2012, 03:38:13 PM
ผมยังคงเฝ้ารอครับ เงียบสนิทจากทางศูนย์ครับ ขอโทษทุกท่านที่จับตาเฝ้ารอคำตอบครับ
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdog ที่ พฤศจิกายน 03, 2012, 10:32:03 AM
เวปล่ม ฮ่า แปลกดีครับ
เมื่อวานได้คุยบางส่วนแล้วครับ เห็ว่าวันนี้ก่อนเที่ยงจะโทรมาคุยอีกรอบ
เบื้องต้น ผมฟังความแล้ว รู้สึกได้ว่าบริษัทกำลังหาทางออกอยู่ครับ น่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงเร็วๆนี้
เท่าที่ฟัง ผมเชื่อว่าเกาที่คันยังไม่หมดครับ
ถึงตอนนี้แล้ว ผมก็ยังไม่มีความเชื่อมั่นในการแก้ปัญหาแบบนั้นเท่าไหร่ นอกจากจะเอาผลทดสอบในเชิงวิชาการมายืนยันครับ
ผมรอโทรศัพท์ก่อนเที่ยงอยู่ครับ
ท่านทั้งหลายที่ครอบครอง จองแล้วรอรับ หรือ กำลังจะคิดจอง ลองคิดดูครับ
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: ซ้อ888 (DCDC) ที่ พฤศจิกายน 03, 2012, 02:28:15 PM
จริงๆก็มีอีกหลายๆปัญหาที่ยังเป็นที่สงสัยกันอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความร้อน ขาตั้ง ซื้ออะไหล่ผิด หรือเคลมประกันช้า(มว๊าก) ทางออกก็ยังไม่มี  หรืออาจจะมีแต่ยังไม่เห็น
แต่สำหรับเรา เราเชื่อว่าคนมีชีวิตจิตใจ ไม่ได้เพอร์เฟคไปซะทุกอย่างตามที่เค้าพูดกัน "nobody's perfect"
รถก็เช่นกัน อาจไม่สมบูรณ์แบบตามที่เราต้องการ  เพียงแต่จุดที่เป็นข้อด้อยนั้น เรารับได้มากน้อยแค่ไหน ถ้าเรารับไม่ได้ ก็ไม่ต้องนำเค้าเข้ามาในชีวิต  แต่ถ้ารับได้ เราก็จะมีเพื่อนใหม่เพิ่มอีกหนึ่งคัน
เรากำลังหารถที่ดีที่สุด  แล้วเราล่ะค่ะ เราเป็นคนขี่ที่ดีที่สุดแล้วหรือยัง ในขณะที่เราขับขี่เรารับผิดชอบต่อตัวเองและสังคมแล้วใช่ไหม  ฝากพิจารณาเรื่องนี้ควบคู่กันไปด้วยนะคะเพื่อนๆ  mon32 mon32 mon32 


 
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdog ที่ พฤศจิกายน 03, 2012, 03:11:01 PM
จริงๆก็มีอีกหลายๆปัญหาที่ยังเป็นที่สงสัยกันอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความร้อน ขาตั้ง ซื้ออะไหล่ผิด หรือเคลมประกันช้า(มว๊าก) ทางออกก็ยังไม่มี  หรืออาจจะมีแต่ยังไม่เห็น
แต่สำหรับเรา เราเชื่อว่าคนมีชีวิตจิตใจ ไม่ได้เพอร์เฟคไปซะทุกอย่างตามที่เค้าพูดกัน "nobody's perfect"
รถก็เช่นกัน อาจไม่สมบูรณ์แบบตามที่เราต้องการ  เพียงแต่จุดที่เป็นข้อด้อยนั้น เรารับได้มากน้อยแค่ไหน ถ้าเรารับไม่ได้ ก็ไม่ต้องนำเค้าเข้ามาในชีวิต  แต่ถ้ารับได้ เราก็จะมีเพื่อนใหม่เพิ่มอีกหนึ่งคัน
เรากำลังหารถที่ดีที่สุด  แล้วเราล่ะค่ะ เราเป็นคนขี่ที่ดีที่สุดแล้วหรือยัง ในขณะที่เราขับขี่เรารับผิดชอบต่อตัวเองและสังคมแล้วใช่ไหม  ฝากพิจารณาเรื่องนี้ควบคู่กันไปด้วยนะคะเพื่อนๆ  mon32 mon32 mon32 


ครับ ผมเห็นด้วยกับความคิดเห็นนี้ครับ ถ้าประเด็นเล็กๆ ไม่อันตราย ผมคงมองข้ามไปนานแล้วครับ แต่ประเด็นต้มถังน้ำมันเดือดๆ ผมว่าไม่ใช่เรื่องเล่นๆครับ ถามผมว่าความสมบูรณ์แบบคืออะไร ผมก็เรียนตรงๆ ว่าผมไม่ทราบครับ เพียงแต่ผมคำนึงถึงความรับผิดชอบของศูนย์บริการ ต่อการแก้ไขปัญหาดังกล่าวครับ เท่าที่ผมทราบ ทุกอย่างล่าช้า เพราะอะไรลองเดาดูสิครับ ข้อคำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตผู้ขี่ หรือ ชื่อเสียงบริษัท อันไหนมาก่อนครับ ดูจากการตอบสนองแล้วลองคิดดูครับ
บริษัทถึงจะอ้างว่าทราบเรื่องดังกล่าว แล้วกำลังหาทางออกอยู่ ผมเข้าใจครับว่าทุกอย่างคงต้องใช้เวลา แต่ลองคิดในมุมกลับดูสิครับ ว่าบริษัทแจ้งเตือน หรือมีมาตรการอะไรออกมาบ้าง ได้แต่ปิดเงียบ แล้วลุ้นกันต่อ
ลองนึกดูครับ ถ้ามันเกิดระเบิด ไฟลุกท่วม มีคนบาดเจ็บล้มตาย บริษัทจ่ายค่าทำขวัญให้ญาติพี่น้องอย่างสุดคุ้ม อยากระรอลุ้นหรือเปล่าละครับ
ทุกวันนี้ ผมเชื่อว่าบริษัท ไม่มีข้อมูลอะไรเลย ผมไปกระทุ้งอยู่สองชั่วโมงกว่า ข้อสรุปที่ได้คือ ปัญหาทักษะ ของผู้ขับขี่ คือปัญหาที่เขาเชื่อกันครับ
ผมออกมาบ้าๆแบบนี้ ผลที่อยากได้คือ ความปลอดภัย ความมั่นใจของผู้ใช้ และ ดูคาติที่ท่านขี่จะได้ไม่ก่อให้เกิดปัญหาต่อไปครับ
ถามผมว่า สี่แสนเกือบห้าแสนที่จะต้องจ่ายให้กับรถคันนี้ เราคิดว่ามันควรจะมีอะไรบ้าง ที่ทำให้มันสมราคาค่าตัวของมันครับ
ทางเศรษฐศาสตร์เราเรียกว่า ความเต็มใจที่จะจ่าย(wtp) เทียบกับเงินที่จ่ายจริง ถ้าอันแรกสูงกว่าอันหลัง ผู้ซื้อมีความสุขครับ
เดี๋ยวมาอัพเดทต่อครับ ศูนย์โทรมาแล้วครับ
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: OJJ69 ที่ พฤศจิกายน 03, 2012, 03:25:31 PM
จริงๆก็มีอีกหลายๆปัญหาที่ยังเป็นที่สงสัยกันอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความร้อน ขาตั้ง ซื้ออะไหล่ผิด หรือเคลมประกันช้า(มว๊าก) ทางออกก็ยังไม่มี  หรืออาจจะมีแต่ยังไม่เห็น
แต่สำหรับเรา เราเชื่อว่าคนมีชีวิตจิตใจ ไม่ได้เพอร์เฟคไปซะทุกอย่างตามที่เค้าพูดกัน "nobody's perfect"
รถก็เช่นกัน อาจไม่สมบูรณ์แบบตามที่เราต้องการ  เพียงแต่จุดที่เป็นข้อด้อยนั้น เรารับได้มากน้อยแค่ไหน ถ้าเรารับไม่ได้ ก็ไม่ต้องนำเค้าเข้ามาในชีวิต  แต่ถ้ารับได้ เราก็จะมีเพื่อนใหม่เพิ่มอีกหนึ่งคัน
เรากำลังหารถที่ดีที่สุด  แล้วเราล่ะค่ะ เราเป็นคนขี่ที่ดีที่สุดแล้วหรือยัง ในขณะที่เราขับขี่เรารับผิดชอบต่อตัวเองและสังคมแล้วใช่ไหม  ฝากพิจารณาเรื่องนี้ควบคู่กันไปด้วยนะคะเพื่อนๆ  mon32 mon32 mon32 


ครับ ผมเห็นด้วยกับความคิดเห็นนี้ครับ ถ้าประเด็นเล็กๆ ไม่อันตราย ผมคงมองข้ามไปนานแล้วครับ แต่ประเด็นต้มถังน้ำมันเดือดๆ ผมว่าไม่ใช่เรื่องเล่นๆครับ ถามผมว่าความสมบูรณ์แบบคืออะไร ผมก็เรียนตรงๆ ว่าผมไม่ทราบครับ เพียงแต่ผมคำนึงถึงความรับผิดชอบของศูนย์บริการ ต่อการแก้ไขปัญหาดังกล่าวครับ เท่าที่ผมทราบ ทุกอย่างล่าช้า เพราะอะไรลองเดาดูสิครับ ข้อคำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตผู้ขี่ หรือ ชื่อเสียงบริษัท อันไหนมาก่อนครับ ดูจากการตอบสนองแล้วลองคิดดูครับ
บริษัทถึงจะอ้างว่าทราบเรื่องดังกล่าว แล้วกำลังหาทางออกอยู่ ผมเข้าใจครับว่าทุกอย่างคงต้องใช้เวลา แต่ลองคิดในมุมกลับดูสิครับ ว่าบริษัทแจ้งเตือน หรือมีมาตรการอะไรออกมาบ้าง ได้แต่ปิดเงียบ แล้วลุ้นกันต่อ
ลองนึกดูครับ ถ้ามันเกิดระเบิด ไฟลุกท่วม มีคนบาดเจ็บล้มตาย บริษัทจ่ายค่าทำขวัญให้ญาติพี่น้องอย่างสุดคุ้ม อยากระรอลุ้นหรือเปล่าละครับ
ทุกวันนี้ ผมเชื่อว่าบริษัท ไม่มีข้อมูลอะไรเลย ผมไปกระทุ้งอยู่สองชั่วโมงกว่า ข้อสรุปที่ได้คือ ปัญหาทักษะ ของผู้ขับขี่ คือปัญหาที่เขาเชื่อกันครับ
ผมออกมาบ้าๆแบบนี้ ผลที่อยากได้คือ ความปลอดภัย ความมั่นใจของผู้ใช้ และ ดูคาติที่ท่านขี่จะได้ไม่ก่อให้เกิดปัญหาต่อไปครับ
ถามผมว่า สี่แสนเกือบห้าแสนที่จะต้องจ่ายให้กับรถคันนี้ เราคิดว่ามันควรจะมีอะไรบ้าง ที่ทำให้มันสมราคาค่าตัวของมันครับ
ทางเศรษฐศาสตร์เราเรียกว่า ความเต็มใจที่จะจ่าย(wtp) เทียบกับเงินที่จ่ายจริง ถ้าอันแรกสูงกว่าอันหลัง ผู้ซื้อมีความสุขครับ
เดี๋ยวมาอัพเดทต่อครับ ศูนย์โทรมาแล้วครับ
mon3 mon3 mon3 มีให้ตามลุ้นเป็น ซีรี่ เลย  mon48 เอ้า!พยายามกันดูครับ  mon57
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdog ที่ พฤศจิกายน 03, 2012, 03:42:40 PM
อย่าว่ากันน่ะครับ ตอนนี้ผมแจ้งคุณโด่งเป็นทางการไปแล้วครับว่า ขอเงินจองรถและชุดท่อคืนจากบริษัทครับ ส่วนในเรื่องการร้องเรียน การร้องขอความเป็นธรรมและการแก้ไขปัญหาดังกล่าวนี้ ก็คงต้องมอบท่านสมาชิกที่เหลือต่อไปครับ ผมตั้งใจว่าจะหยุดรื้อ หยุดค้นเมื่อผมได้รับเงินคืนจากทางบริษัทเป็นที่เรียบร้อย น่าจะภายในสัปดาห์หน้า
ผมมองในมุมมองนักวิจัย ผมเสนอแนวทางการวิจัยเพื่อแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบไปให้แล้วครับ สุดแท้แล้วแต่ทางบริษัทจะดำเนินการอย่างไรครับ
ผมขอไม่ยุ่งครับ
ในฐานะของผู้บริโภคอย่างเราๆท่านๆ อย่ามัวนิ่งเฉยครับ สิทธิที่ท่านพึงมีในฐานะผู้บริโภค ท่านไม่ควรปล่อยให้ใครมาละเมิดครับ
ว่างๆ ผมจะรีวิวใบจองเจ้ามอนสเตอร์ในพันทิป ห้องรัชดา พร้อมอ้างอิงผลทางวิชาการที่ผมเจอ ติดตามได้ครับ
ไม่ต้องห่วงครับ มีบางท่านอุตส่าห์ห่วงใยว่าผมจะโดนซื้อตัว เอาเงินปิดปาก ยืนยันว่าไม่มีแน่นอนครับ
ผลที่ผมหวัง คือเกิดการแก้ไขเปลี่ยนแปลงที่นำมาซึ่งความปลอดภัยของรถที่เป็นรูปธรรมแก่ทุกท่านที่ครอบครองหรือกำลังจะครอบครอง
ตัวผมผิดหวังพอสมควรที่จำใจต้องตัดทางเลือกนี้ออกทิ้งไปครับ ขอแอบอิจฉาท่านทั้งหลายต่อไป ฮ่า ฮ่า
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: ซ้อ888 (DCDC) ที่ พฤศจิกายน 03, 2012, 04:01:38 PM
จริงๆก็มีอีกหลายๆปัญหาที่ยังเป็นที่สงสัยกันอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความร้อน ขาตั้ง ซื้ออะไหล่ผิด หรือเคลมประกันช้า(มว๊าก) ทางออกก็ยังไม่มี  หรืออาจจะมีแต่ยังไม่เห็น
แต่สำหรับเรา เราเชื่อว่าคนมีชีวิตจิตใจ ไม่ได้เพอร์เฟคไปซะทุกอย่างตามที่เค้าพูดกัน "nobody's perfect"
รถก็เช่นกัน อาจไม่สมบูรณ์แบบตามที่เราต้องการ  เพียงแต่จุดที่เป็นข้อด้อยนั้น เรารับได้มากน้อยแค่ไหน ถ้าเรารับไม่ได้ ก็ไม่ต้องนำเค้าเข้ามาในชีวิต  แต่ถ้ารับได้ เราก็จะมีเพื่อนใหม่เพิ่มอีกหนึ่งคัน
เรากำลังหารถที่ดีที่สุด  แล้วเราล่ะค่ะ เราเป็นคนขี่ที่ดีที่สุดแล้วหรือยัง ในขณะที่เราขับขี่เรารับผิดชอบต่อตัวเองและสังคมแล้วใช่ไหม  ฝากพิจารณาเรื่องนี้ควบคู่กันไปด้วยนะคะเพื่อนๆ  mon32 mon32 mon32 


ครับ ผมเห็นด้วยกับความคิดเห็นนี้ครับ ถ้าประเด็นเล็กๆ ไม่อันตราย ผมคงมองข้ามไปนานแล้วครับ แต่ประเด็นต้มถังน้ำมันเดือดๆ ผมว่าไม่ใช่เรื่องเล่นๆครับ ถามผมว่าความสมบูรณ์แบบคืออะไร ผมก็เรียนตรงๆ ว่าผมไม่ทราบครับ เพียงแต่ผมคำนึงถึงความรับผิดชอบของศูนย์บริการ ต่อการแก้ไขปัญหาดังกล่าวครับ เท่าที่ผมทราบ ทุกอย่างล่าช้า เพราะอะไรลองเดาดูสิครับ ข้อคำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตผู้ขี่ หรือ ชื่อเสียงบริษัท อันไหนมาก่อนครับ ดูจากการตอบสนองแล้วลองคิดดูครับ
บริษัทถึงจะอ้างว่าทราบเรื่องดังกล่าว แล้วกำลังหาทางออกอยู่ ผมเข้าใจครับว่าทุกอย่างคงต้องใช้เวลา แต่ลองคิดในมุมกลับดูสิครับ ว่าบริษัทแจ้งเตือน หรือมีมาตรการอะไรออกมาบ้าง ได้แต่ปิดเงียบ แล้วลุ้นกันต่อ
ลองนึกดูครับ ถ้ามันเกิดระเบิด ไฟลุกท่วม มีคนบาดเจ็บล้มตาย บริษัทจ่ายค่าทำขวัญให้ญาติพี่น้องอย่างสุดคุ้ม อยากระรอลุ้นหรือเปล่าละครับ
ทุกวันนี้ ผมเชื่อว่าบริษัท ไม่มีข้อมูลอะไรเลย ผมไปกระทุ้งอยู่สองชั่วโมงกว่า ข้อสรุปที่ได้คือ ปัญหาทักษะ ของผู้ขับขี่ คือปัญหาที่เขาเชื่อกันครับ
ผมออกมาบ้าๆแบบนี้ ผลที่อยากได้คือ ความปลอดภัย ความมั่นใจของผู้ใช้ และ ดูคาติที่ท่านขี่จะได้ไม่ก่อให้เกิดปัญหาต่อไปครับ
ถามผมว่า สี่แสนเกือบห้าแสนที่จะต้องจ่ายให้กับรถคันนี้ เราคิดว่ามันควรจะมีอะไรบ้าง ที่ทำให้มันสมราคาค่าตัวของมันครับ
ทางเศรษฐศาสตร์เราเรียกว่า ความเต็มใจที่จะจ่าย(wtp) เทียบกับเงินที่จ่ายจริง ถ้าอันแรกสูงกว่าอันหลัง ผู้ซื้อมีความสุขครับ
เดี๋ยวมาอัพเดทต่อครับ ศูนย์โทรมาแล้วครับ

สิ่งที่เราต้องการบอกมีแค่ถ้าชอบและรับได้กับสิ่งที่มันเป็นก็ซื้อหามาไว้ในครอบครอง แต่ถ้ายังมีข้อสงสัยกับสิ่งที่เรากำลังจะเลือกก็ไม่ต้องซื้อค่ะ มันไม่มีอะไรที่ต้องคิดเยอะแยะมากมาย สิ่งที่คุณให้เราคิด ไม่ต้องบอกหรอกค่ะ เราน่ะคิดมาหมดแล้ว อ่านจากคอมเม้นท์ของคุณ เราพอที่จะเดาได้ว่าคุณไม่น่าที่จะซื้อดูคาติ แต่ก็ขอบคุณคุณนะคะที่เสียสละเวลาค้นหาข้อมูล คุยกับ0และนำข้อมูลมาแชร์กับเพื่อนๆ ก็หวังว่าคุณคงหารถในดวงใจได้ในเร็ววันนะคะ (ถ้าเราเดาถูก)
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: ซ้อ888 (DCDC) ที่ พฤศจิกายน 03, 2012, 04:12:11 PM
อย่าว่ากันน่ะครับ ตอนนี้ผมแจ้งคุณโด่งเป็นทางการไปแล้วครับว่า ขอเงินจองรถและชุดท่อคืนจากบริษัทครับ ส่วนในเรื่องการร้องเรียน การร้องขอความเป็นธรรมและการแก้ไขปัญหาดังกล่าวนี้ ก็คงต้องมอบท่านสมาชิกที่เหลือต่อไปครับ ผมตั้งใจว่าจะหยุดรื้อ หยุดค้นเมื่อผมได้รับเงินคืนจากทางบริษัทเป็นที่เรียบร้อย น่าจะภายในสัปดาห์หน้า
ผมมองในมุมมองนักวิจัย ผมเสนอแนวทางการวิจัยเพื่อแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบไปให้แล้วครับ สุดแท้แล้วแต่ทางบริษัทจะดำเนินการอย่างไรครับ
ผมขอไม่ยุ่งครับ
ในฐานะของผู้บริโภคอย่างเราๆท่านๆ อย่ามัวนิ่งเฉยครับ สิทธิที่ท่านพึงมีในฐานะผู้บริโภค ท่านไม่ควรปล่อยให้ใครมาละเมิดครับ
ว่างๆ ผมจะรีวิวใบจองเจ้ามอนสเตอร์ในพันทิป ห้องรัชดา พร้อมอ้างอิงผลทางวิชาการที่ผมเจอ ติดตามได้ครับ
ไม่ต้องห่วงครับ มีบางท่านอุตส่าห์ห่วงใยว่าผมจะโดนซื้อตัว เอาเงินปิดปาก ยืนยันว่าไม่มีแน่นอนครับ
ผลที่ผมหวัง คือเกิดการแก้ไขเปลี่ยนแปลงที่นำมาซึ่งความปลอดภัยของรถที่เป็นรูปธรรมแก่ทุกท่านที่ครอบครองหรือกำลังจะครอบครอง
ตัวผมผิดหวังพอสมควรที่จำใจต้องตัดทางเลือกนี้ออกทิ้งไปครับ ขอแอบอิจฉาท่านทั้งหลายต่อไป ฮ่า ฮ่า

ตอบความเห็นข้างบนไปก่อน ก่อนที่จะเห็นความเห็นนี้
ทำไมชั้นซื้อหวยไม่ถูกนะเนี่ย....... เรื่องสิทธิในการปกป้องผลประโยชน์ของผู้บริโภค ไม่ต้องกังวลนะคะ เราคิดว่าทุกคนย่อมต้องการปกป้องสิทธิ์
ของตัวเองอย่างแน่นอน คุณอาจไม่เห็นสิ่งที่คนอื่นทำ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเค้าไม่ได้ทำ
แล้วไม่ทราบว่าอิจฉาอะไรค่ะ มีขำด้วย.....ซ้องง
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: ซ้อ888 (DCDC) ที่ พฤศจิกายน 03, 2012, 04:27:47 PM
อีกข้อนึง กรุณาอย่ามองว่าเราเข้าข้าง0นะคะ เราเนี่ยแหล่ะตัวชนกับ0เลย แต่ประเด็นที่เราจะบอกก็มีแค่ 0 ให้คำตอบในสิ่งที่เราต้องการได้หรือไม่คำตอบที่เราได้รับเราพอใจหรือไม่ ถ้าไม่พอใจก็เปลี่ยนแบรนด์ ย้ายค่าย ไปเลือกสิ่งที่ทำให้เรามีความสุขค่ะ
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdog ที่ พฤศจิกายน 03, 2012, 04:28:44 PM
เรียนคุณซ้อ888 ครับ
ผมสารภาพก่อนเลยว่า ผมไม่เคยขี่มอเตอร์ไซด์มาก่อนครับ ผมไปหัด และสอบใบขับขี่ เข้าหลักสูตรของเอพีฮอนด้า ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมครับ โดยตั้งธงไว้ว่าจะซื้อคันแรกคือ ducati monster ครับ แล้วจะขยับต่อไปเรื่อยๆหากมีโอกาสครับ
ผมไม่รู้จักข้อมูลมอเตอรไซด์มาก่อนครับ มาเริ่มอ่านตั้งแต่ครั้งนี้ และอ่านจนเจอประเด็นดังกล่าวครับ เลยเกิดคำถามครับ ในช่วงแรก ผมก็คิดว่าคงไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร เพราะเห็นว่าในบอร์ดเงียบกันมากครับ
ผมเซ็งและอึดอัดตรงที่เซลขายเอง กลับให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องเท่าที่ควร อันนี้เข้าใจว่าอาชีพเขาและข้อจำกัดของข้อมูลที่เขามีอยู่ครับ
แม้แต่ผมเดินหน้าถามบริษัท คำตอบที่ได้ ที่ผมนำมาโพสแค่บางส่วน่ะครับ มีบางประโยคขอสงวนไม่นำมาโพส เพราะมันทำร้ายความรู้สึกที่ดีต่อเจ้ามอนสเตอร์พอสมควรครับ (ถ้าอยากทราบ หลังไมค์ได้ครับ)
ลองถามเซลที่ชื่อโด่งดูว่า ผมเป็นคนอย่างไร ผมแนะนำและสอนเขาอะไรบ้าง เพื่อรักษาแบรนด์ดูคาติอันนี้ไว้ โดยไม่ได้หวังผลตอบแทนใดๆเลยครับ
ลองโทรถามได้ครับว่าผมพยายามทำอะไรกับปัญหานี้บ้าง นี่ขนาดผมยังไม่ได้รับรถเลยนะ ฮ่า ฮ่า
ธงน่ะ ผมปักที่ดูคาติมาอาจจะไม่นานเท่าคุณซ้อ888 ครับ แต่ผมเชื่อว่าผมก็พยายามทำและหาทางออกให้กับทุกฝ่ายครับ
มาถึงตรงนี้ หวังว่าคงเข้าใจผมมากขึ้นน่ะ ว่าผมไม่ได้มาปักธงไม่ซื้อแล้วเหมือนจะเข้ามาทำลายความเชื่อมั่นในแบรนด์นี้ครับ
คิดดูดีๆครับ หากผลการแก้ไขครั้งนี้ ทำให้รถท่านขี่แล้วปลอดภัยขึ้น โดยประโยชน์ไม่ได้ตกอยู่กับผมแม้แต่น้อย เพราะผมไม่ได้เคยเรียกร้องอะไรจากทางศูนย์เลยครับ เข้าตรงๆเลยครับว่า 'เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองท้อง แต่เอากระดูกมาแขวนคอ' ครับ
ตอนนี้ประเด็นน่าจะอยู่ที่ว่า พวกท่าน (ที่คุณจัดแยกผมออกจากกลุ่ม โดยใช้คำว่า 'เรา') จะดำเนินการอย่างไรต่อไปครับ เพื่อประโยชน์ของท่านแท้ๆ ล้วนๆ ลองคิดดูครับ
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: ซ้อ888 (DCDC) ที่ พฤศจิกายน 03, 2012, 06:57:49 PM
พยายามจะโพสต์รอบนี้เป็นรอบที่ 4 หวังว่าครั้งนี้ connection คงไม่ error
กอล์ฟฟี่ค๊าาาาาา  ช่วยแก้ไขเรื่องเวปล่มให้ด้วยนะคะ  ซ้อพิมพ์หน้ามืดเลยอ่ะ ป้าแก่แล้ววววววว   

เรียนคุณ dukdikdog คะ

ขอชี้แจงเป็นข้อๆเพื่อให้เข้าใจตรงกันนะคะ

1. ดิฉันได้ส่งหมายเลขโทรศัพท์ของดิฉันไปให้คุณตามที่คุณอีเมลมาขอแล้วนะคะ

2. ขอให้ชัดเจนตรงนี้เลยค่ะ คำว่า "เรา" เป็นสรรพนามแทนตัว  ไม่ได้มีเจตนาที่จะแบ่งแยก พวกคุณ พวกผม พวกฉัน  หรือพวกเธอ กรุณาอย่าเปลี่ยนประเด็นค่ะ คนขี่สองล้อไม่เคยแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ไม่แบ่งยี่ห้อ  ไม่แบ่ง CC แต่หากคุณยังไม่สบายใจก็เปลี่ยนคำว่า เรา เป็นคำว่า ดิฉัน ก็ได้นะคะ  ความหมายเหมือนกันนั่นแหล่ะค่ะ  หรือหากคุณยังไม่สบายใจอีก ลองไปดูกระทู้เก่าๆที่ดิฉันเขียน  ดิฉันก็ใช้คำแทนตัวเองว่า เรา ตลอดค่ะ

3. เรื่องที่คุณคิดว่าดิฉันไม่เข้าใจในตัวคุณ  คุณเข้าใจผิดค่ะ ดิฉันเข้าใจคุณค่ะ  ดิฉันไม่เคยคิดว่าการที่คุณไม่ซื้อดูคาติแล้วจะมาโจมตีทำลายความเชื่อมั่นคงแบรนด์นี้เลย  ดิฉันเพียงแต่อยากแสดงความคิดเห็นว่า ถ้าชอบและรับได้กับข้อด้อย ก็ซื้อ  แต่ถ้าชอบแต่รับไม่ได้ หรือยังมีข้องสงสัยก็ไม่ต้องซื้อ  ด้วยสัจจริง ไม่ได้ต้องการว่าอะไรคุณทั้งนั้น  ส่วนตัวดิฉันนั้นชอบดูคาติ แต่ก็ไม่ได้ชอบถึงขนาดที่ว่ารถข้าใครอย่าแตะ ห้ามวิจารณ์ ข้ายอมตายเพียงเพื่อรักษาแบรนด์นี้ อะไรที่ของเค้าดีดิฉันก็ชื่นชม อะไรที่ไม่ดี ไม่ถูกต้องดิฉันก็ตำหนิ (ถ้าจะใช้คำแรงหน่อย  ดิฉันก็ ด่า) เพื่อนๆที่รู้จักดิฉันและได้พูดคุยกับดิฉันทราบดีว่าดิฉันเป็นคนยังไง ดิฉันน่ะฉะกับ0บ่อยไป 

4. สิ่งต่างๆที่คุณทำดิฉันไม่ได้มองว่าผิด  ดิฉันขอบคุณคุณค่ะที่สละเวลา แรงกาย แรงใจมาทำให้ เพราะมันเป็นสิ่งที่ดีค่ะ (พูดรอบที่ 2 แระ)
 
5. เรื่องการรักษาผลประโยชน์และสิทธิ์ของตัวเอง คุณไม่ต้องกังวลเลยค่ะ ดิฉันเชื่อว่าแต่ละท่านก็คงไม่มีใครต้องการที่จะเสียผลประโยชน์อยู่แล้ว  แต่ดิฉันว่าประเด็นมันอยู่ที่ แต่ละท่านสามารถรับได้กับข้อด้อยได้หรือไม่เท่านั้น  ท่านที่รับได้ ก็ซื้อหามาใช้  ท่านที่รับไม่ได้ ก็เปลี่ยนไปซื้อแบรนด์อื่น  หรือท่านที่มีแล้วแต่ไม่มีความสุขทั้งกับตัวรถ  หรือ 0 ก็ขายแล้วไปซื้อยี่ห้ออื่นขี่ก็มีเยอะแยะ การคุยกับ0เพื่อรักษาแบรนด์นี้ไว้ ดิฉันก็ทำค่ะ เพราะถือคติที่ว่า "ติเพื่อก่อ" ไม่ใช่ว่าดิฉันก้มหน้ารับสภาพนะคะ

สุดท้ายนี้ หวังว่าคุณคงเข้าใจในตัวดิฉันมากขึ้นเช่นกัน หากยังมีข้อขัดข้องหรือสงสัยประการใดคุยกันต่อได้ทุกช่องทางค่ะ  ดิฉันยินดีเสมอ

ปล - ดิฉันคิดว่าดิฉันไม่ได้ปักธงที่ดูคาติมาก่อนหน้าคุณ dukdikdog หรอกค่ะ  เผลอๆดิฉันอาจจะปักธงทีหลัง แต่ดันซื้อก่อนก็ได้ค่ะ 
ปล 2 - เนื่องจากคุณdukdikdog ไม่เคยขี่มอไซค์มาก่อน แต่หากได้ลองขี่มอไซค์แล้วไม่ว่ายี่ห้อไหนก็ตาม  คุณอาจจะเข้าใจมากขึ้นว่าทำไมเพื่อนๆบางคนถึงยอมอะลุ้มอะล่วยในบางจุด เพราะการขี่มอไซค์อย่างมีความสุขนั้นไม่สามารถเอาเหตุและผล หรือ เอกสารทางวิชาการมาเป็นตัวประกอบได้ทั้งหมด แต่ มันต้องมี "อารมณ์ และ "ความรู้สึก"มาเป็นตัวแปรด้วยค่ะ
ปล 3 - ดูคาติมีหลายรุ่นนะคะ  รุ่นที่มีหม้อน้ำก็มีค่ะ  ลองดูค่ะ
ปล 4 - สำคัญมาก หากยังหลงเหลือคำว่า เรา ในกระทู้นี้  ช่วยเปลี่ยนเป็นคำว่า  ดิฉัน ด้วยนะคะ  คืออาจจะพิมพ์ไปด้วยความเคยชิน
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdog ที่ พฤศจิกายน 03, 2012, 09:03:36 PM
พยายามจะโพสต์รอบนี้เป็นรอบที่ 4 หวังว่าครั้งนี้ connection คงไม่ error
กอล์ฟฟี่ค๊าาาาาา  ช่วยแก้ไขเรื่องเวปล่มให้ด้วยนะคะ  ซ้อพิมพ์หน้ามืดเลยอ่ะ ป้าแก่แล้ววววววว   

เรียนคุณ dukdikdog คะ

ขอชี้แจงเป็นข้อๆเพื่อให้เข้าใจตรงกันนะคะ

1. ดิฉันได้ส่งหมายเลขโทรศัพท์ของดิฉันไปให้คุณตามที่คุณอีเมลมาขอแล้วนะคะ

2. ขอให้ชัดเจนตรงนี้เลยค่ะ คำว่า "เรา" เป็นสรรพนามแทนตัว  ไม่ได้มีเจตนาที่จะแบ่งแยก พวกคุณ พวกผม พวกฉัน  หรือพวกเธอ กรุณาอย่าเปลี่ยนประเด็นค่ะ คนขี่สองล้อไม่เคยแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ไม่แบ่งยี่ห้อ  ไม่แบ่ง CC แต่หากคุณยังไม่สบายใจก็เปลี่ยนคำว่า เรา เป็นคำว่า ดิฉัน ก็ได้นะคะ  ความหมายเหมือนกันนั่นแหล่ะค่ะ  หรือหากคุณยังไม่สบายใจอีก ลองไปดูกระทู้เก่าๆที่ดิฉันเขียน  ดิฉันก็ใช้คำแทนตัวเองว่า เรา ตลอดค่ะ

3. เรื่องที่คุณคิดว่าดิฉันไม่เข้าใจในตัวคุณ  คุณเข้าใจผิดค่ะ ดิฉันเข้าใจคุณค่ะ  ดิฉันไม่เคยคิดว่าการที่คุณไม่ซื้อดูคาติแล้วจะมาโจมตีทำลายความเชื่อมั่นคงแบรนด์นี้เลย  ดิฉันเพียงแต่อยากแสดงความคิดเห็นว่า ถ้าชอบและรับได้กับข้อด้อย ก็ซื้อ  แต่ถ้าชอบแต่รับไม่ได้ หรือยังมีข้องสงสัยก็ไม่ต้องซื้อ  ด้วยสัจจริง ไม่ได้ต้องการว่าอะไรคุณทั้งนั้น  ส่วนตัวดิฉันนั้นชอบดูคาติ แต่ก็ไม่ได้ชอบถึงขนาดที่ว่ารถข้าใครอย่าแตะ ห้ามวิจารณ์ ข้ายอมตายเพียงเพื่อรักษาแบรนด์นี้ อะไรที่ของเค้าดีดิฉันก็ชื่นชม อะไรที่ไม่ดี ไม่ถูกต้องดิฉันก็ตำหนิ (ถ้าจะใช้คำแรงหน่อย  ดิฉันก็ ด่า) เพื่อนๆที่รู้จักดิฉันและได้พูดคุยกับดิฉันทราบดีว่าดิฉันเป็นคนยังไง ดิฉันน่ะฉะกับ0บ่อยไป 

4. สิ่งต่างๆที่คุณทำดิฉันไม่ได้มองว่าผิด  ดิฉันขอบคุณคุณค่ะที่สละเวลา แรงกาย แรงใจมาทำให้ เพราะมันเป็นสิ่งที่ดีค่ะ (พูดรอบที่ 2 แระ)
 
5. เรื่องการรักษาผลประโยชน์และสิทธิ์ของตัวเอง คุณไม่ต้องกังวลเลยค่ะ ดิฉันเชื่อว่าแต่ละท่านก็คงไม่มีใครต้องการที่จะเสียผลประโยชน์อยู่แล้ว  แต่ดิฉันว่าประเด็นมันอยู่ที่ แต่ละท่านสามารถรับได้กับข้อด้อยได้หรือไม่เท่านั้น  ท่านที่รับได้ ก็ซื้อหามาใช้  ท่านที่รับไม่ได้ ก็เปลี่ยนไปซื้อแบรนด์อื่น  หรือท่านที่มีแล้วแต่ไม่มีความสุขทั้งกับตัวรถ  หรือ 0 ก็ขายแล้วไปซื้อยี่ห้ออื่นขี่ก็มีเยอะแยะ การคุยกับ0เพื่อรักษาแบรนด์นี้ไว้ ดิฉันก็ทำค่ะ เพราะถือคติที่ว่า "ติเพื่อก่อ" ไม่ใช่ว่าดิฉันก้มหน้ารับสภาพนะคะ

สุดท้ายนี้ หวังว่าคุณคงเข้าใจในตัวดิฉันมากขึ้นเช่นกัน หากยังมีข้อขัดข้องหรือสงสัยประการใดคุยกันต่อได้ทุกช่องทางค่ะ  ดิฉันยินดีเสมอ

ปล - ดิฉันคิดว่าดิฉันไม่ได้ปักธงที่ดูคาติมาก่อนหน้าคุณ dukdikdog หรอกค่ะ  เผลอๆดิฉันอาจจะปักธงทีหลัง แต่ดันซื้อก่อนก็ได้ค่ะ 
ปล 2 - เนื่องจากคุณdukdikdog ไม่เคยขี่มอไซค์มาก่อน แต่หากได้ลองขี่มอไซค์แล้วไม่ว่ายี่ห้อไหนก็ตาม  คุณอาจจะเข้าใจมากขึ้นว่าทำไมเพื่อนๆบางคนถึงยอมอะลุ้มอะล่วยในบางจุด เพราะการขี่มอไซค์อย่างมีความสุขนั้นไม่สามารถเอาเหตุและผล หรือ เอกสารทางวิชาการมาเป็นตัวประกอบได้ทั้งหมด แต่ มันต้องมี "อารมณ์ และ "ความรู้สึก"มาเป็นตัวแปรด้วยค่ะ
ปล 3 - ดูคาติมีหลายรุ่นนะคะ  รุ่นที่มีหม้อน้ำก็มีค่ะ  ลองดูค่ะ
ปล 4 - สำคัญมาก หากยังหลงเหลือคำว่า เรา ในกระทู้นี้  ช่วยเปลี่ยนเป็นคำว่า  ดิฉัน ด้วยนะคะ  คืออาจจะพิมพ์ไปด้วยความเคยชิน


น้อมรับคำชี้แจงและชี้แนะด้วยความจริงใจครับ ความไม่รู้จักกันมาก่อนหน้า อาจจะทำให้ความเข้าใจคลาดเคลื่อนกันไปครับ ผมขอโทษในปัญหาดังกล่าวมา ณ โอกาศนี้ครับ
อัพเดทเพิ่มเติมครับ ผมได้มีโอกาสไปแจมกลุ่มสมาชิกวันนี้ที่cdcครับ นั่งคุยกันพักใหญ่ รวมถึงคุณสามีที่เคารพของซ้อ888 ด้วยครับ
คิดว่าจูนตรงกันติดครับ
เอาไว้รอซ้อ888หายก่อนครับ เราคงได้มีโอกาสได้คุยกันตัวเป็นๆครับ
สารภาพเลยว่า ผมไม่ทราบโครงสร้างของระบบแฟนคลับในชมรมนี้มาก่อนครับ เลยไม่ทราบว่าแต่ละท่านเป็นอย่างไรครับ แต่วันนี้ได้พบปะสมาชิกของกลุ่มจำนวนหนึ่ง ทุกอย่างเริ่มชัดเจนขึ้นครับ ว่า'เรา'กำลังต้องรบกับอะไร และควรรบกับอะไรครับ
ท้ายที่สุดนี้ ขออภัยอีกครั้งด้วยความไม่รู้จักกันมาก่อน ที่เริ่มทำให้ก้าวต่อไปมีกระทบกระทั้งกันบ้าง แต่เชื่อว่าหนทางต่อไปจากนี้ เป็นทางที่ดีแน่นอนครับ
ฝากดูแลตนเองด้วยครับ ขอให้หายวัยๆครับ
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: อ.โอม (DCDC) ที่ พฤศจิกายน 03, 2012, 10:56:25 PM
มาช่วยกันรบครับผม เยี่ยมไปเลย  !!!!!

จริงๆปัญหาของ Ducati มีเยอะจริงๆ อย่างที่เราคุยกันในวงในเข้มข้นวันนี้ละครับ ผมไม่ได้เข้าไปคุยด้วยตลอด เพราะที่ทุกๆคนว่ากันไปเราก็เจอกันหมดแล้ว ทีนี้ปัญหาคือว่าต่อไปเราจะยังไงกันต่อไปดี ทาง 0 เค้าจะมีอะไรออกมารองรับปัญหาทีเ่กิดขึ้นหรือเปล่า ผมเองคงพูดได้เต็มว่าคงอยู่กับ Ducati ต่อไป ..... แต่คงไม่ใช่กับทาง 0 แล้วละ ... คงหาทางเลือกอื่นๆ ดูแลตัวเองดีกว่า เพราะได้ลองไปแล้ว ได้สัมผัสเอง ผมมีทั้งชอบและไม่ชอบการบริการของ 0 ... แต่ชั่งน้ำหนักแล้ว ไม่ชอบมากกว่าชอบ ก็เลยคิดว่า ทางเลือกอื่นๆ มีเยอะกว่าแค่ 0 คงไปลองทางอื่นๆบ้างดีกว่า แต่ยังไงเจ้า 795 ผมก็ยังมีประกันกับ 0 อีกตั้งนาน ถ้าในระหว่างนั้นเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรดีๆขึ้น ก็ยินดีกลับมาอยู่กับทาง ดูคาทีสติ ได้เช่นกันครับ และหวังอยากให้เป็นอย่างงั้นด้วย ... เพราะ 0 ก็ใกล้บ้าน .... สะดวกดี 555

 mon4 mon4
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: PokDiavel(DCDC) ที่ พฤศจิกายน 03, 2012, 11:08:27 PM
พยายามจะโพสต์รอบนี้เป็นรอบที่ 4 หวังว่าครั้งนี้ connection คงไม่ error
กอล์ฟฟี่ค๊าาาาาา  ช่วยแก้ไขเรื่องเวปล่มให้ด้วยนะคะ  ซ้อพิมพ์หน้ามืดเลยอ่ะ ป้าแก่แล้ววววววว   

เรียนคุณ dukdikdog คะ

ขอชี้แจงเป็นข้อๆเพื่อให้เข้าใจตรงกันนะคะ

1. ดิฉันได้ส่งหมายเลขโทรศัพท์ของดิฉันไปให้คุณตามที่คุณอีเมลมาขอแล้วนะคะ

2. ขอให้ชัดเจนตรงนี้เลยค่ะ คำว่า "เรา" เป็นสรรพนามแทนตัว  ไม่ได้มีเจตนาที่จะแบ่งแยก พวกคุณ พวกผม พวกฉัน  หรือพวกเธอ กรุณาอย่าเปลี่ยนประเด็นค่ะ คนขี่สองล้อไม่เคยแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ไม่แบ่งยี่ห้อ  ไม่แบ่ง CC แต่หากคุณยังไม่สบายใจก็เปลี่ยนคำว่า เรา เป็นคำว่า ดิฉัน ก็ได้นะคะ  ความหมายเหมือนกันนั่นแหล่ะค่ะ  หรือหากคุณยังไม่สบายใจอีก ลองไปดูกระทู้เก่าๆที่ดิฉันเขียน  ดิฉันก็ใช้คำแทนตัวเองว่า เรา ตลอดค่ะ

3. เรื่องที่คุณคิดว่าดิฉันไม่เข้าใจในตัวคุณ  คุณเข้าใจผิดค่ะ ดิฉันเข้าใจคุณค่ะ  ดิฉันไม่เคยคิดว่าการที่คุณไม่ซื้อดูคาติแล้วจะมาโจมตีทำลายความเชื่อมั่นคงแบรนด์นี้เลย  ดิฉันเพียงแต่อยากแสดงความคิดเห็นว่า ถ้าชอบและรับได้กับข้อด้อย ก็ซื้อ  แต่ถ้าชอบแต่รับไม่ได้ หรือยังมีข้องสงสัยก็ไม่ต้องซื้อ  ด้วยสัจจริง ไม่ได้ต้องการว่าอะไรคุณทั้งนั้น  ส่วนตัวดิฉันนั้นชอบดูคาติ แต่ก็ไม่ได้ชอบถึงขนาดที่ว่ารถข้าใครอย่าแตะ ห้ามวิจารณ์ ข้ายอมตายเพียงเพื่อรักษาแบรนด์นี้ อะไรที่ของเค้าดีดิฉันก็ชื่นชม อะไรที่ไม่ดี ไม่ถูกต้องดิฉันก็ตำหนิ (ถ้าจะใช้คำแรงหน่อย  ดิฉันก็ ด่า) เพื่อนๆที่รู้จักดิฉันและได้พูดคุยกับดิฉันทราบดีว่าดิฉันเป็นคนยังไง ดิฉันน่ะฉะกับ0บ่อยไป 

4. สิ่งต่างๆที่คุณทำดิฉันไม่ได้มองว่าผิด  ดิฉันขอบคุณคุณค่ะที่สละเวลา แรงกาย แรงใจมาทำให้ เพราะมันเป็นสิ่งที่ดีค่ะ (พูดรอบที่ 2 แระ)
 
5. เรื่องการรักษาผลประโยชน์และสิทธิ์ของตัวเอง คุณไม่ต้องกังวลเลยค่ะ ดิฉันเชื่อว่าแต่ละท่านก็คงไม่มีใครต้องการที่จะเสียผลประโยชน์อยู่แล้ว  แต่ดิฉันว่าประเด็นมันอยู่ที่ แต่ละท่านสามารถรับได้กับข้อด้อยได้หรือไม่เท่านั้น  ท่านที่รับได้ ก็ซื้อหามาใช้  ท่านที่รับไม่ได้ ก็เปลี่ยนไปซื้อแบรนด์อื่น  หรือท่านที่มีแล้วแต่ไม่มีความสุขทั้งกับตัวรถ  หรือ 0 ก็ขายแล้วไปซื้อยี่ห้ออื่นขี่ก็มีเยอะแยะ การคุยกับ0เพื่อรักษาแบรนด์นี้ไว้ ดิฉันก็ทำค่ะ เพราะถือคติที่ว่า "ติเพื่อก่อ" ไม่ใช่ว่าดิฉันก้มหน้ารับสภาพนะคะ

สุดท้ายนี้ หวังว่าคุณคงเข้าใจในตัวดิฉันมากขึ้นเช่นกัน หากยังมีข้อขัดข้องหรือสงสัยประการใดคุยกันต่อได้ทุกช่องทางค่ะ  ดิฉันยินดีเสมอ

ปล - ดิฉันคิดว่าดิฉันไม่ได้ปักธงที่ดูคาติมาก่อนหน้าคุณ dukdikdog หรอกค่ะ  เผลอๆดิฉันอาจจะปักธงทีหลัง แต่ดันซื้อก่อนก็ได้ค่ะ 
ปล 2 - เนื่องจากคุณdukdikdog ไม่เคยขี่มอไซค์มาก่อน แต่หากได้ลองขี่มอไซค์แล้วไม่ว่ายี่ห้อไหนก็ตาม  คุณอาจจะเข้าใจมากขึ้นว่าทำไมเพื่อนๆบางคนถึงยอมอะลุ้มอะล่วยในบางจุด เพราะการขี่มอไซค์อย่างมีความสุขนั้นไม่สามารถเอาเหตุและผล หรือ เอกสารทางวิชาการมาเป็นตัวประกอบได้ทั้งหมด แต่ มันต้องมี "อารมณ์ และ "ความรู้สึก"มาเป็นตัวแปรด้วยค่ะ
ปล 3 - ดูคาติมีหลายรุ่นนะคะ  รุ่นที่มีหม้อน้ำก็มีค่ะ  ลองดูค่ะ
ปล 4 - สำคัญมาก หากยังหลงเหลือคำว่า เรา ในกระทู้นี้  ช่วยเปลี่ยนเป็นคำว่า  ดิฉัน ด้วยนะคะ  คืออาจจะพิมพ์ไปด้วยความเคยชิน


น้อมรับคำชี้แจงและชี้แนะด้วยความจริงใจครับ ความไม่รู้จักกันมาก่อนหน้า อาจจะทำให้ความเข้าใจคลาดเคลื่อนกันไปครับ ผมขอโทษในปัญหาดังกล่าวมา ณ โอกาศนี้ครับ
อัพเดทเพิ่มเติมครับ ผมได้มีโอกาสไปแจมกลุ่มสมาชิกวันนี้ที่cdcครับ นั่งคุยกันพักใหญ่ รวมถึงคุณสามีที่เคารพของซ้อ888 ด้วยครับ
คิดว่าจูนตรงกันติดครับ
เอาไว้รอซ้อ888หายก่อนครับ เราคงได้มีโอกาสได้คุยกันตัวเป็นๆครับ
สารภาพเลยว่า ผมไม่ทราบโครงสร้างของระบบแฟนคลับในชมรมนี้มาก่อนครับ เลยไม่ทราบว่าแต่ละท่านเป็นอย่างไรครับ แต่วันนี้ได้พบปะสมาชิกของกลุ่มจำนวนหนึ่ง ทุกอย่างเริ่มชัดเจนขึ้นครับ ว่า'เรา'กำลังต้องรบกับอะไร และควรรบกับอะไรครับ
ท้ายที่สุดนี้ ขออภัยอีกครั้งด้วยความไม่รู้จักกันมาก่อน ที่เริ่มทำให้ก้าวต่อไปมีกระทบกระทั้งกันบ้าง แต่เชื่อว่าหนทางต่อไปจากนี้ เป็นทางที่ดีแน่นอนครับ
ฝากดูแลตนเองด้วยครับ ขอให้หายวัยๆครับ
วันนี้ได้พูดคุย กับคุณ Dukdikdog แล้วผมเข้าใจความรู้สึกดีครับ การพูดคุยวันนี้มีประโยชน์สำหรับสมาชิกทุกคนครับ ในใจอยากให้มาขี่ด้วยกันครับ ถึงแม้สุดท้ายจะไม่ใช่ Ducati ก็ตาม ถ้าแฟนหายเดี๋ยวเจอกันที่ CDC ก็ได้ครับ ถือว่ามิตรภาพเกิดขึ้นแล้วครับ
ป๊อก
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: ซ้อ888 (DCDC) ที่ พฤศจิกายน 03, 2012, 11:36:16 PM
พยายามจะโพสต์รอบนี้เป็นรอบที่ 4 หวังว่าครั้งนี้ connection คงไม่ error
กอล์ฟฟี่ค๊าาาาาา  ช่วยแก้ไขเรื่องเวปล่มให้ด้วยนะคะ  ซ้อพิมพ์หน้ามืดเลยอ่ะ ป้าแก่แล้ววววววว   

เรียนคุณ dukdikdog คะ

ขอชี้แจงเป็นข้อๆเพื่อให้เข้าใจตรงกันนะคะ

1. ดิฉันได้ส่งหมายเลขโทรศัพท์ของดิฉันไปให้คุณตามที่คุณอีเมลมาขอแล้วนะคะ

2. ขอให้ชัดเจนตรงนี้เลยค่ะ คำว่า "เรา" เป็นสรรพนามแทนตัว  ไม่ได้มีเจตนาที่จะแบ่งแยก พวกคุณ พวกผม พวกฉัน  หรือพวกเธอ กรุณาอย่าเปลี่ยนประเด็นค่ะ คนขี่สองล้อไม่เคยแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ไม่แบ่งยี่ห้อ  ไม่แบ่ง CC แต่หากคุณยังไม่สบายใจก็เปลี่ยนคำว่า เรา เป็นคำว่า ดิฉัน ก็ได้นะคะ  ความหมายเหมือนกันนั่นแหล่ะค่ะ  หรือหากคุณยังไม่สบายใจอีก ลองไปดูกระทู้เก่าๆที่ดิฉันเขียน  ดิฉันก็ใช้คำแทนตัวเองว่า เรา ตลอดค่ะ

3. เรื่องที่คุณคิดว่าดิฉันไม่เข้าใจในตัวคุณ  คุณเข้าใจผิดค่ะ ดิฉันเข้าใจคุณค่ะ  ดิฉันไม่เคยคิดว่าการที่คุณไม่ซื้อดูคาติแล้วจะมาโจมตีทำลายความเชื่อมั่นคงแบรนด์นี้เลย  ดิฉันเพียงแต่อยากแสดงความคิดเห็นว่า ถ้าชอบและรับได้กับข้อด้อย ก็ซื้อ  แต่ถ้าชอบแต่รับไม่ได้ หรือยังมีข้องสงสัยก็ไม่ต้องซื้อ  ด้วยสัจจริง ไม่ได้ต้องการว่าอะไรคุณทั้งนั้น  ส่วนตัวดิฉันนั้นชอบดูคาติ แต่ก็ไม่ได้ชอบถึงขนาดที่ว่ารถข้าใครอย่าแตะ ห้ามวิจารณ์ ข้ายอมตายเพียงเพื่อรักษาแบรนด์นี้ อะไรที่ของเค้าดีดิฉันก็ชื่นชม อะไรที่ไม่ดี ไม่ถูกต้องดิฉันก็ตำหนิ (ถ้าจะใช้คำแรงหน่อย  ดิฉันก็ ด่า) เพื่อนๆที่รู้จักดิฉันและได้พูดคุยกับดิฉันทราบดีว่าดิฉันเป็นคนยังไง ดิฉันน่ะฉะกับ0บ่อยไป 

4. สิ่งต่างๆที่คุณทำดิฉันไม่ได้มองว่าผิด  ดิฉันขอบคุณคุณค่ะที่สละเวลา แรงกาย แรงใจมาทำให้ เพราะมันเป็นสิ่งที่ดีค่ะ (พูดรอบที่ 2 แระ)
 
5. เรื่องการรักษาผลประโยชน์และสิทธิ์ของตัวเอง คุณไม่ต้องกังวลเลยค่ะ ดิฉันเชื่อว่าแต่ละท่านก็คงไม่มีใครต้องการที่จะเสียผลประโยชน์อยู่แล้ว  แต่ดิฉันว่าประเด็นมันอยู่ที่ แต่ละท่านสามารถรับได้กับข้อด้อยได้หรือไม่เท่านั้น  ท่านที่รับได้ ก็ซื้อหามาใช้  ท่านที่รับไม่ได้ ก็เปลี่ยนไปซื้อแบรนด์อื่น  หรือท่านที่มีแล้วแต่ไม่มีความสุขทั้งกับตัวรถ  หรือ 0 ก็ขายแล้วไปซื้อยี่ห้ออื่นขี่ก็มีเยอะแยะ การคุยกับ0เพื่อรักษาแบรนด์นี้ไว้ ดิฉันก็ทำค่ะ เพราะถือคติที่ว่า "ติเพื่อก่อ" ไม่ใช่ว่าดิฉันก้มหน้ารับสภาพนะคะ

สุดท้ายนี้ หวังว่าคุณคงเข้าใจในตัวดิฉันมากขึ้นเช่นกัน หากยังมีข้อขัดข้องหรือสงสัยประการใดคุยกันต่อได้ทุกช่องทางค่ะ  ดิฉันยินดีเสมอ

ปล - ดิฉันคิดว่าดิฉันไม่ได้ปักธงที่ดูคาติมาก่อนหน้าคุณ dukdikdog หรอกค่ะ  เผลอๆดิฉันอาจจะปักธงทีหลัง แต่ดันซื้อก่อนก็ได้ค่ะ 
ปล 2 - เนื่องจากคุณdukdikdog ไม่เคยขี่มอไซค์มาก่อน แต่หากได้ลองขี่มอไซค์แล้วไม่ว่ายี่ห้อไหนก็ตาม  คุณอาจจะเข้าใจมากขึ้นว่าทำไมเพื่อนๆบางคนถึงยอมอะลุ้มอะล่วยในบางจุด เพราะการขี่มอไซค์อย่างมีความสุขนั้นไม่สามารถเอาเหตุและผล หรือ เอกสารทางวิชาการมาเป็นตัวประกอบได้ทั้งหมด แต่ มันต้องมี "อารมณ์ และ "ความรู้สึก"มาเป็นตัวแปรด้วยค่ะ
ปล 3 - ดูคาติมีหลายรุ่นนะคะ  รุ่นที่มีหม้อน้ำก็มีค่ะ  ลองดูค่ะ
ปล 4 - สำคัญมาก หากยังหลงเหลือคำว่า เรา ในกระทู้นี้  ช่วยเปลี่ยนเป็นคำว่า  ดิฉัน ด้วยนะคะ  คืออาจจะพิมพ์ไปด้วยความเคยชิน


น้อมรับคำชี้แจงและชี้แนะด้วยความจริงใจครับ ความไม่รู้จักกันมาก่อนหน้า อาจจะทำให้ความเข้าใจคลาดเคลื่อนกันไปครับ ผมขอโทษในปัญหาดังกล่าวมา ณ โอกาศนี้ครับ
อัพเดทเพิ่มเติมครับ ผมได้มีโอกาสไปแจมกลุ่มสมาชิกวันนี้ที่cdcครับ นั่งคุยกันพักใหญ่ รวมถึงคุณสามีที่เคารพของซ้อ888 ด้วยครับ
คิดว่าจูนตรงกันติดครับ
เอาไว้รอซ้อ888หายก่อนครับ เราคงได้มีโอกาสได้คุยกันตัวเป็นๆครับ
สารภาพเลยว่า ผมไม่ทราบโครงสร้างของระบบแฟนคลับในชมรมนี้มาก่อนครับ เลยไม่ทราบว่าแต่ละท่านเป็นอย่างไรครับ แต่วันนี้ได้พบปะสมาชิกของกลุ่มจำนวนหนึ่ง ทุกอย่างเริ่มชัดเจนขึ้นครับ ว่า'เรา'กำลังต้องรบกับอะไร และควรรบกับอะไรครับ
ท้ายที่สุดนี้ ขออภัยอีกครั้งด้วยความไม่รู้จักกันมาก่อน ที่เริ่มทำให้ก้าวต่อไปมีกระทบกระทั้งกันบ้าง แต่เชื่อว่าหนทางต่อไปจากนี้ เป็นทางที่ดีแน่นอนครับ
ฝากดูแลตนเองด้วยครับ ขอให้หายวัยๆครับ

ดีใจค่ะที่เราเข้าใจซึ่งกันและกัน จะพยายามดูแลตัวเองให้หายในเร็ววันเพื่อที่จะได้เจอตัวเป็นๆนะคะ บ่อยครั้งมิตรภาพก็เริ่มต้นจากความไม่เข้าใจค่ะ
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: hokoon (โฮ่ DNT) ที่ พฤศจิกายน 03, 2012, 11:54:10 PM
ผมว่านะครับ กระทู้นี้มีสาระมากครับ แต่มันมีสาระมากเกินไปมั้ยครับผม คิดขนาดนี้ได้รถมาขี่คงไม่มีความสุขแล้วมั้งครับ
แค่เรื่องความร้อนที่รถ Air-cooled ต้องเจอทุกคัน ถ้าเคยลองขี่ HD จะรู้ว่า 795 ไข่ลวกหนะเรื่องเล็กไปเลย HD เค้าเรียกไข่ต้ม
ไม่ใช่ว่าผมไม่เห็นด้วยกับการไขข้อสงสัยอะไรต่างๆที่ต้องการคำตอบจากศูนย์นะครับ มันเป็นสิ่งที่ดีครับถ้าได้คำตอบเหล่านั้นออกมา

แต่ถ้าไม่ได้คำตอบหละ เราจะทำยังไง???

ประเด็นคือ สมมุติว่าเรารักเราชอบอะไรซักอย่าง เราควรจะหาวิธีที่จะอยู่กับมันครับ

ถ้าเปรียบ 795 เป็นผู้หญิง ก็คงเป็นเด็กสาวชาวอิตาเลี่ยนร่างเล็กเซ็กซี่ที่นิสัยกระโชกโฮกฮากเอาใจยากหน่อยในตอนแรก
กว่าจะคุยกันรู้เรื่องก็นาน แต่ถ้าเข้าใจนิสัยกันแล้ว ข้อเสียของเธอก็ไม่ใช่เรื่องที่เราจะรับมือไม่ไหว ใช่มั้ยครับ

ไม่งั้น... ถ้าไม่เรียนรู้ที่จะอยู่กับผู้หญิงคนนี้แบบมีความสุขก็คงต้องเลิกกันไปคบกับผู้หญิงที่เอาใจง่ายกว่า
เช่นหญิงสาวจากทางญี่ปุ่นที่นิสัยเรียบร้อย เสียงไม่ดัง ตัวไม่ร้อน สินสอดก็ไม่แพง
แต่ก็ต้องยอมรับข้อที่ว่าเธอหน้าตาธรรมดาพบเห็นได้ทั่วไปไม่มีเอกลักษณ์เหมือนสาวอิตาเลี่ยน


ผมไม่รู้ว่าคนอื่นเลือกทางไหน แต่ผมเลือกที่จะเรียนรู้และอยู่กับสาวอิตาเลี่ยนคนนี้อย่างมีความสุขครับ แล้วคุณหละ?
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: SuperNoPo ที่ พฤศจิกายน 04, 2012, 01:13:15 AM
ผมว่านะครับ กระทู้นี้มีสาระมากครับ แต่มันมีสาระมากเกินไปมั้ยครับผม คิดขนาดนี้ได้รถมาขี่คงไม่มีความสุขแล้วมั้งครับ
แค่เรื่องความร้อนที่รถ Air-cooled ต้องเจอทุกคัน ถ้าเคยลองขี่ HD จะรู้ว่า 795 ไข่ลวกหนะเรื่องเล็กไปเลย HD เค้าเรียกไข่ต้ม
ไม่ใช่ว่าผมไม่เห็นด้วยกับการไขข้อสงสัยอะไรต่างๆที่ต้องการคำตอบจากศูนย์นะครับ มันเป็นสิ่งที่ดีครับถ้าได้คำตอบเหล่านั้นออกมา

แต่ถ้าไม่ได้คำตอบหละ เราจะทำยังไง???

ประเด็นคือ สมมุติว่าเรารักเราชอบอะไรซักอย่าง เราควรจะหาวิธีที่จะอยู่กับมันครับ

ถ้าเปรียบ 795 เป็นผู้หญิง ก็คงเป็นเด็กสาวชาวอิตาเลี่ยนร่างเล็กเซ็กซี่ที่นิสัยกระโชกโฮกฮากเอาใจยากหน่อยในตอนแรก
กว่าจะคุยกันรู้เรื่องก็นาน แต่ถ้าเข้าใจนิสัยกันแล้ว ข้อเสียของเธอก็ไม่ใช่เรื่องที่เราจะรับมือไม่ไหว ใช่มั้ยครับ

ไม่งั้น... ถ้าไม่เรียนรู้ที่จะอยู่กับผู้หญิงคนนี้แบบมีความสุขก็คงต้องเลิกกันไปคบกับผู้หญิงที่เอาใจง่ายกว่า
เช่นหญิงสาวจากทางญี่ปุ่นที่นิสัยเรียบร้อย เสียงไม่ดัง ตัวไม่ร้อน สินสอดก็ไม่แพง
แต่ก็ต้องยอมรับข้อที่ว่าเธอหน้าตาธรรมดาพบเห็นได้ทั่วไปไม่มีเอกลักษณ์เหมือนสาวอิตาเลี่ยน


ผมไม่รู้ว่าคนอื่นเลือกทางไหน แต่ผมเลือกที่จะเรียนรู้และอยู่กับสาวอิตาเลี่ยนคนนี้อย่างมีความสุขครับ แล้วคุณหละ?

ผมเห็นด้วยกับพี่โฮ่
ผมเห็นด้วยกับซ้อ no one is perfect

ปล. พี่ dookdik ครับ มือถือใช้ยี่ห้อไร รถเก๋งใช้ยี่ห้อไร แอ เครื่องทำน้ำร้อน ไมโครเวฟ พัดลม ตู้เย็น เครื่องซักผ้า กระกาษชิดชู่ ใช้ยี่ห้อไรครับ กราบงามๆ1ทีครับพี่ mon32 บอกผมหน่อย ผมจะไปซื้อตาม เพราะผมมั่นใจว่ามันต้อง Perfect ไม่งั้นพี่คงไม่ซื้อ
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: Grace ที่ พฤศจิกายน 04, 2012, 02:08:19 AM
 abc5 มาถามครับ  ...ผมต้องวิ่ง ไปมา เชียงใหม่-เชียงรายประจำ 200 กม ประมาณวันเว้นวันได้
ตอนนี้นี่ D-T เก็บตังว่าจะซื้อ 975   นี่แหละครับ

เรื่องความร้อนกับการเดินทางยาวบ่อยๆ  กับ 975 นี่จะไหวไหมนะครับ  ชักกลัวพังก่อนครับ
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: hokoon (โฮ่ DNT) ที่ พฤศจิกายน 04, 2012, 02:59:56 AM
abc5 มาถามครับ  ...ผมต้องวิ่ง ไปมา เชียงใหม่-เชียงรายประจำ 200 กม ประมาณวันเว้นวันได้
ตอนนี้นี่ D-T เก็บตังว่าจะซื้อ 975   นี่แหละครับ

เรื่องความร้อนกับการเดินทางยาวบ่อยๆ  กับ 975 นี่จะไหวไหมนะครับ  ชักกลัวพังก่อนครับ

เอาง่ายๆครับ เคยได้ยินข่าว Ducati เครื่องพังหรือเปล่าครับ ผมไม่เคยนะ... (นอกจากในสนามแข่ง)

ปล. ใช้งาน 200 Km วันเว้นวันเชียงใหม่เชียงราย คิดดีแล้วเหรอครับที่จะเลือกใช้มอเตอร์ไซค์ มันไม่สบายเลยนะครับ
แล้วก็อีกอย่างผมว่าพอเดินทางบ่อยๆเราก็จะมีแต่ขี่เร็วขึ้นๆเพราะชินทาง อุบัติเหตมันเกิดขึ้นกับรถอย่างเราง่ายมากเลยนะครับไม่คุ้มหรอก
ผมว่าหารถสี่ล้อไว้เดินทางประจำแบบนี้ดีกว่านะครับ แล้วมอเตอร์ไซค์ค่อยเป็นรถใช้ในเมืองขี่หล่อๆ นานๆทีเอาไปไกลๆบ้างยืดเส้นยืดสาย

ไม่ใช่อะไรครับ ล้มมาแล้วเจ็บมาแล้วก็เลยเป็นห่วง มันไม่คุ้มกัน...
แต่ถ้ามั่นใจว่าบังคับใจตัวเองได้ไม่ขี่เร็ว อันนี้ก็ต้องลองดูครับ
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: AimilyAim ที่ พฤศจิกายน 04, 2012, 03:14:42 AM
abc5 มาถามครับ  ...ผมต้องวิ่ง ไปมา เชียงใหม่-เชียงรายประจำ 200 กม ประมาณวันเว้นวันได้
ตอนนี้นี่ D-T เก็บตังว่าจะซื้อ 975   นี่แหละครับ

เรื่องความร้อนกับการเดินทางยาวบ่อยๆ  กับ 975 นี่จะไหวไหมนะครับ  ชักกลัวพังก่อนครับ

เอาง่ายๆครับ เคยได้ยินข่าว Ducati เครื่องพังหรือเปล่าครับ ผมไม่เคยนะ... (นอกจากในสนามแข่ง)

ปล. ใช้งาน 200 Km วันเว้นวันเชียงใหม่เชียงราย คิดดีแล้วเหรอครับที่จะเลือกใช้มอเตอร์ไซค์ มันไม่สบายเลยนะครับ
แล้วก็อีกอย่างผมว่าพอเดินทางบ่อยๆเราก็จะมีแต่ขี่เร็วขึ้นๆเพราะชินทาง อุบัติเหตมันเกิดขึ้นกับรถอย่างเราง่ายมากเลยนะครับไม่คุ้มหรอก
ผมว่าหารถสี่ล้อไว้เดินทางประจำแบบนี้ดีกว่านะครับ แล้วมอเตอร์ไซค์ค่อยเป็นรถใช้ในเมืองขี่หล่อๆ นานๆทีเอาไปไกลๆบ้างยืดเส้นยืดสาย

ไม่ใช่อะไรครับ ล้มมาแล้วเจ็บมาแล้วก็เลยเป็นห่วง มันไม่คุ้มกัน...
แต่ถ้ามั่นใจว่าบังคับใจตัวเองได้ไม่ขี่เร็ว อันนี้ก็ต้องลองดูครับ

เห็นด้วยกับพี่โฮ่ค่ะ  mon57
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: อ.โอม (DCDC) ที่ พฤศจิกายน 04, 2012, 04:44:45 AM
abc5 มาถามครับ  ...ผมต้องวิ่ง ไปมา เชียงใหม่-เชียงรายประจำ 200 กม ประมาณวันเว้นวันได้
ตอนนี้นี่ D-T เก็บตังว่าจะซื้อ 975   นี่แหละครับ

เรื่องความร้อนกับการเดินทางยาวบ่อยๆ  กับ 975 นี่จะไหวไหมนะครับ  ชักกลัวพังก่อนครับ

ผมว่าพอเดินทางบ่อยๆเราก็จะมีแต่ขี่เร็วขึ้นๆเพราะชินทาง อุบัติเหตมันเกิดขึ้นกับรถอย่างเราง่ายมากเลยนะครับไม่คุ้มหรอก
ผมว่าหารถสี่ล้อไว้เดินทางประจำแบบนี้ดีกว่านะครับ

ไม่ใช่อะไรครับ ล้มมาแล้วเจ็บมาแล้วก็เลยเป็นห่วง มันไม่คุ้มกัน...
แต่ถ้ามั่นใจว่าบังคับใจตัวเองได้ไม่ขี่เร็ว อันนี้ก็ต้องลองดูครับ

เห็นด้วยละครับ .... ใช่เลย ขี่บ่อย ชิน ทำความเร็วเพื่มขึ้น มั่นใจขึ้น ... บางครั้งก็ประมาทขึ้นด้วยเหมือนกันนะครับ ผมวันนี้เส้นทางประจำไป CDC เพื่อเจอเพื่อน DCDC บอกตรงๆว่า .... วันนี้เกือบไปไม่ถึง ถึง 2 ครั้ง ทั้งๆที่เป็นเส้นทางประจำ ง่ายๆคำเดียวเลย .... "ประมาท" ....

ขับเยอะๆขนาด 200 โลบ่อยๆ รถเก๋งดีกว่าครับ !!


หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdog ที่ พฤศจิกายน 04, 2012, 06:18:45 AM
เรียนสมาชิกครับ
 ผมไม่ได้ห่วงเครื่องพัง เครื่องร้อน ที่เกี่ยวกับตัวคนโดยตรงครับ เพราะถ้าร้อนเกินไป การตอบสนองของสิ่งมีชีวิตต่อความร้อนก็คงต้องหาทางครับ แต่ที่ผมห่วงคือความร้อนที่ไปต้มน้ำมันจนเดือด แล้วนำพาไปสู่ปัญหาขั้นตนคือถังบวม หรือ อาจจะเลยเถิดไปถึงระเบิดเพลิง ในขณะที่ศูนย์ไม่มีคำตอบที่ชัดเจนตรงนี้ นี่แหละครับผมห่วง หวยออกมาสองรอบแล้ว โชคยังดี รอบแต่ผมไม่ทราบครับ
 มีคำอธิบายง่ายๆครับว่า ค่าชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นกับร่างกาย ผมว่าไม่เคยคุ้มครับ หากต้องเป็นคนครึ่งผีครึ่งครับ ลองถามเคสคนโดนไฟลวกดูครับ
ในขณะที่มีปัญหาความเสี่ยงแบบนี้อยู่ มันเกิดคำถามต่อเนื่องว่า ศูนย์ทำอะไรอยู่ครับ มีการแจ้งเตือน ให้ความรู้แก่ผู้ขี่หรือเปล่า หรือ ทำอะไร ท่านใช้รถอยู่คงจะทราบดี
 ลองอ่านข้อมูลในเวปต่างประเทศ ผมว่าของไทย เสี่ยงสูงสุดครับ
 เรื่องมุมมองความเสี่ยงและความไม่แน่นอน แต่ละท่านมีมุมมองที่ต่างกันไปครับ ท่านยังคงรับค่าความเสี่ยงได้เมื่อเทียบกับกับความสุขที่ท่านได้รับ แล้วพบว่าความสุขท่านสูงกว่าครับ ก็ตามสะดวกครับ แต่ผมแค่เห็นต่างครับ เอาไว้มานั่งเรียนกับผม แล้วจะอธิบายให้ฟังครับ
วันนี้ขอตัวครับ ครึ่งเช้าผมสอนที่ศรีราชา ครึ่งบ่ายจะกลับมาตอบให้ครับ

เรียนสมาชิกครับ ผมตัดสินใจแล้วครับ ผมคืนใบจองแน่นอนครับ เหนื่อยครับ ส่วนพวกที่อยากรบกับศูนย์ต่อ ผมยินดีให้คำปรึกษาครับ
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: Basry Hayden In DKC ที่ พฤศจิกายน 04, 2012, 09:45:59 AM
โลกอยู่ยากขึ้นจริงๆ
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: minisk2 (NooM) ที่ พฤศจิกายน 04, 2012, 10:03:35 AM
ผมเห็นกระทู้นี้มาซักระยะแล้วแต่ไม่เคยเปิดอ่าน แต่วันนี้ว่างเลยลองเปิดอ่านดูตั้งแต่กระทู้แรกจนถึงกระทู้ล่าสุด  mon36 mon36


ผมคนนึงใช้ 795 มาพักใหญ่ๆแล้ว ปัญหาเก่วกับความร้อนที่บอกว่าไข่ลวก ไข่ต้ม ไข่นึ่ง หรือจะไข่ดาว 555  เจอมาหมดคับทั้งวิ่งยาวๆวิ่งสั้นๆวิ่งขบวน


เพราะก่อนซื้อได้ลองหาข้อมูลในเรื่องนี้มาก่อน  แต่ทำไงได้รักมัน หลงมัน ชอบมัน แล้วก็ต้องกับมันครับ  ส่วนท่านใดคนไหนที่มาบอกว่าอย่างโน้นอย่างนี้


เครื่องจะพังเอา ร้อนมากๆ อย่าเอาเลย  ผมเชียร์คับว่าอย่าเอาเลย เอามาแล้วมาหาวิธีแก้ลำบากคับ ผมว่าหาวิธีที่จะยอมรับมันดีกว่าคับ ง่ายกว่าหาวิธีแก้เยอะ


อย่าไปพาดพิงถึงเซลส์เลยคับ คุณไปหาเซลส์ค่ายอื่นยี่ห้ออื่นหรือที่ไหนๆ ไม่มีใครเค้าเอาข้อเสียมาบรรยายขายกันหรอกคับ เอาข้อดีมาขายดีกว่า อยู่ที่คุณจะรับ


ข้อดีได้มากกว่าข้อเสียรึป่าวเท่านั้นเองคับ   mon48 mon48   


ปล.คำเดียวสั้นๆสำหรับผม    รถแมร่งใช้ดีว่ะ   mon16 mon16
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: a_book ที่ พฤศจิกายน 04, 2012, 10:34:57 AM
เมื่อผมทราบว่าเกิดเหตุการณ์น้ำมันดันฝาถังน้ำมันออกมา เป็นครั้งที่สอง หลังจากที่เกิดขึ้นแล้วครั้งนึง ร่วมปี ซึ่งกำลังจะรับรถภายในเดือนนี้ ทำให้ต้องหาข้อมูลเพิ่มเติมและสอบถามไปยังศูนย์เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ก่อนหน้านี้ผมได้ประเมินตัวเองเพื่อปรับเปลี่ยนลักษณะการขับขี่ให้เหมาะสมกับรุ่นนี้เป็นพิเศษ นอกเหนือจากค่าบริการ เช่น การศึกษาเส้นทางเพื่อหลีกเลี่ยงสภาวะการจราจรติดขัด การ Cooldown เครื่องก่อนดับเครื่อง ถังน้ำมันขยายตัว(เรื่องปกติ) แรงดัน(มาพร้อมความร้อน)  อีกทั้งการเติมน้ำมัน 95 ล้วนเพื่อเลี่ยงความร้อนจาก Gasohol ถือเป็นค่าใช้จ่ายแฝงเพิ่มขึ้นอย่างไม่จำเป็น

User แต่ละท่าน มีเงื่อนไขการตัดสินใจต่างกัน ปัจจัยการตัดสินใจต่างกัน ท่านที่ใช้เงื่อนไขทาง "อารมณ์"ตัดสินใจก็ไม่ควรจะเอากรอบความคิดมาครอบคนที่ใช้"เหตุผล" แล้วตัดสินว่าควรจะคิดแบบไหน
วิธีการใช้จ่ายเงินของแต่ละคนมีแรงจูงใจต่างกัน กระทู้นี้ Capture ไปในเรื่องของ"เทคนิค" โดยผมรู้สึกว่า จขกท จริงใจ ตรงไปตรงมาและใช้ข้อมูลสื่อสาร ถึงจะโดนแซว โดนเหน็บก็ยังสื่อสารด้วยข้อมูล (หวังดีแต่กลับโดนโจมตี จากสมาชิกด้วยกัน) โมเดล M795 นั้นถึงจะราคาถูกที่สุด แต่ด้วยปริมาณที่จำหน่ายออกไป นับว่าเป็นโมเดลทำกำไรอันดับหนึ่ง นั้นทำให้ศูนย์พิจารณาเพิ่มศูนย์ให้บริการ
โดยเนื้อหา ประเด็นที่สำคัญคือ "ท่าที"ของผู้ขายที่ไม่ได้เอื้อหรือช่วยในการให้คำตอบอย่างเป็นรูปธรรม

ผมและเพื่อน ตัดสินใจขายใบจอง ทั้งๆที่เริ่มเข้าฤดูหนาว ขี่ Vespa เที่ยวกันไปก่อน ไว้สถานการณ์ดีขึ้น หรือมีโมเดลใหม่ ค่ายอื่นเข้ามาในตลาด ค่อยว่ากันอีกที
เพราะเกรงว่าเมื่อได้รถแล้วจะเกิดอาการน้ำท่วมปากกับทางศูนย์ และไม่ไว้ใจการ Support หลังจากหมดการรับประกันศูนย์
กลุ่มผม บางท่านตัดสินใจเพิ่มเงินเพื่อที่จะมาออก Ducati ด้วยกันแทนที่จะออก 650 ของค่ายเขียว เงินกว่าแสน กับการซื้อมอเตอร์ไซด์คันนึง สำหรับบางคนก็ใช้ขนาดหัวใจมากกว่าที่คิด ประเมินความคุ้มค่า สนับสนุนความพอใจ และเกิดแรงจูงใจเพื่อ "ซื้อ" หรือ " ไม่ซื้อ" นั่นเอง

ปลื้มใจแทน Ducati ที่ออกแบบได้โดนใจ ผมเองก็ชอบการออกแบบของ Ducati มาก มันมีชีวิต ศิลปะ ล้ำและคลาสสิคไปพร้อมๆกัน
เห็นด้วยกับการเปรียบกับผู้หญิง เห็นภาพเลย , ตอนนี้ ผู้หญิงสวยมีจำนวนน้อย เราก็ต้องเอาใจเธอเป็นพิเศษ
อยากให้มีสาวๆเยอะขึ้น อัตราต่อรองจะได้น้อยลง ในตลาดตอนนี้ ราคานี้ไม่มีใครสวยเท่าจริงๆ

ขับขี่ปลอดภัยนะครับ หนาวแล้ว ได้ออกทริปกัน ใครเห็น Vespa ตัวใหม่สีดำ วิ่งไป-กลับ กทม-ราชบุรี ทะเบียน888 ทักทายกันด้วยละ mon57
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: hokoon (โฮ่ DNT) ที่ พฤศจิกายน 04, 2012, 12:42:10 PM
เอางี้ครับ ว่ากันด้วยข้อมูลทางเทคนิคนะครับ ไม่รู้ว่าจะพอช่วยไขข้อข้องใจได้บ้างหรือเปล่า

เรื่องถังบวมและเกิดอาการปลาวาฬทำไมเกิดขึ้นกับ 795
ตอบได้ตามที่ทราบมาคือ 795 เป็น Asian Model ซึ่งใช้มาตราฐานการปล่อยไอเสีย Euro3 เพื่อที่จะขายได้ในบางประเทศเช่นญี่ปุ่น
จึงมีเจ้าอุปการณ์หน้าตาประหลาดที่เราๆเรียกกัยว่ากล่องดักไอมาห้อยอยู่ข้างล่างด้านซ้าย
เพื่อดักไอน้ำมันเครื่องและไอเบซินไม่ให้ไหลออกมาทำลายสภาพแวดล้อม

ตัวปัญหาคือตัวนี้แหละครับเพราะตอนแรกไม่ได้ออกแบบมาให้มีกล่องอันนี้
ตอนแรกออกแบบมาแค่ว่ามีท่อต่อระบายแรงดันจากฝาถัง ถ้าร้อนแล้วแรงดันสูง ก็ปล่อยไอลงพื้นเลย
ดังนั้นสังเกตว่ารถที่ไม่ใช่ Asian Model จะไม่เกิดปัญหาปลาวาฬหรือถังบวม
ไม่ใช่ว่าน้ำมันไม่ร้อน คือมันร้อนเท่ากันแต่แรงดันระบายออกไปแล้ว
ถ้ากลัวว่าไอน้ำมันจะติดไฟก็ไม่ต้องกลัวครับ รถรุ่นก่อนๆเป็นแบบนี้ทั้งนั้น
เพระปริมาณที่ปล่อยออกมาถือว่าน้อยมากเทียบกับอากาศด้านนอก
โอกาศจะติดไฟถือว่าเป็นศูนย์ครับตอนวิ่งอยู่ เพราะปล่อยมาเท่าไหร่ก็โดนลมพัดไปหมด
แต่ถ้าตอนจอดมันจะติดไฟก็ต้องมีคนคิดร้ายมาเอาไฟไปจ่อตรงปากท่อแหละครับถึงจะติด

แต่คราวนี้พอเป็น Asian Model มีเจ้าตัวนี้ขึ้นมามันดันทำงานได้ห่วยครับ
แทนที่มันจะดักเอาส่วนผสมที่เป็นเบนซินไว้แล้วปล่อยอากาศออกไป
มันดันเก็บแรงดันไว้ บวกกับการใช้งานบางทีความร้อนสะสมมากๆ
แรงดันก็สะสมสูงขึ้น จนเกิดเหตการบ้าบอแบบปลาวาฬขึ้นมา

ซึ่งจริงๆแล้วศูนย์ทุกศูนย์ควรรู้เรื่องนี้ และให้คำแนะนำอย่างตรงไปตรงมากับลูกค้า
เพื่อที่ตอนออกรถลูกค้าจะได้ตัดสินใจเลือกเองได้ว่าจะถอดอุปกรณ์นี้ออกหรือติดไว้แบบเดิม
บางการใช้งานแบบผมที่ไม่ได้วิ่งผ่านรถติด ก็คงเลือกใส่ไว้อย่างเดิม เวลาจอดในโรงรถจะได้ไม่เหม็นน้ำมันมาก
แต่บางการใช้งานที่ต้องเจอความร้อนมากๆ ก็ควรจะถอดออกเพื่อความปลอดภัยของเจ้าของรถเอง

แต่ทำไงได้ครับ มันเกิดเรื่องแบบนี้หลายครั้งแล้ว แต่ศูนย์ก็นิ่งเฉย ทางออกของชาวสองล้อก็มีแต่คอยช่วยเหลือกันนี่แหละครับ
ก็เลยมีพี่ๆในนี้เขียนคำเตือน เขียนวิธีการ DIY ถอดกล่องดักไอมาให้ดู เพื่อให้เราๆทำกันเองได้ จะได้ไม่ต้องเข้าไปเสียเงินให้ศูนย์


ตัวเลือกที่เราเลือกได้และได้ผลเร็วที่สุดก็คงเป็นถอดกล่องดักไอออก
ส่วนการแก้ไขของศูนย์ก็หวังการผลักดันจากพี่ dukdikdog นี่แหละครับ

แต่ในระหว่างที่รอการแก้ไขของศูนย์ เราก็คงขี่และมีความสุขกับมันได้ด้วยวิธีของเรา
เผลอๆถ้าวันนึงศูนย์มีการแก้ไขหรือไม่ออกมา เราอาจจะเปลี่ยนรถเปลี่ยนรุ่นหรือบางคนเปลี่ยนค่ายไปแล้วก็ได้ครับ
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: OJJ69 ที่ พฤศจิกายน 04, 2012, 12:56:30 PM
เอางี้ครับ ว่ากันด้วยข้อมูลทางเทคนิคนะครับ ไม่รู้ว่าจะพอช่วยไขข้อข้องใจได้บ้างหรือเปล่า

เรื่องถังบวมและเกิดอาการปลาวาฬทำไมเกิดขึ้นกับ 795
ตอบได้ตามที่ทราบมาคือ 795 เป็น Asian Model ซึ่งใช้มาตราฐานการปล่อยไอเสีย Euro3 เพื่อที่จะขายได้ในบางประเทศเช่นญี่ปุ่น
จึงมีเจ้าอุปการณ์หน้าตาประหลาดที่เราๆเรียกกัยว่ากล่องดักไอมาห้อยอยู่ข้างล่างด้านซ้าย
เพื่อดักไอน้ำมันเครื่องและไอเบซินไม่ให้ไหลออกมาทำลายสภาพแวดล้อม

ตัวปัญหาคือตัวนี้แหละครับเพราะตอนแรกไม่ได้ออกแบบมาให้มีกล่องอันนี้
ตอนแรกออกแบบมาแค่ว่ามีท่อต่อระบายแรงดันจากฝาถัง ถ้าร้อนแล้วแรงดันสูง ก็ปล่อยไอลงพื้นเลย
ดังนั้นสังเกตว่ารถที่ไม่ใช่ Asian Model จะไม่เกิดปัญหาปลาวาฬหรือถังบวม
ไม่ใช่ว่าน้ำมันไม่ร้อน คือมันร้อนเท่ากันแต่แรงดันระบายออกไปแล้ว
ถ้ากลัวว่าไอน้ำมันจะติดไฟก็ไม่ต้องกลัวครับ รถรุ่นก่อนๆเป็นแบบนี้ทั้งนั้น
เพระปริมาณที่ปล่อยออกมาถือว่าน้อยมากเทียบกับอากาศด้านนอก
โอกาศจะติดไฟถือว่าเป็นศูนย์ครับตอนวิ่งอยู่ เพราะปล่อยมาเท่าไหร่ก็โดนลมพัดไปหมด
แต่ถ้าตอนจอดมันจะติดไฟก็ต้องมีคนคิดร้ายมาเอาไฟไปจ่อตรงปากท่อแหละครับถึงจะติด

แต่คราวนี้พอเป็น Asian Model มีเจ้าตัวนี้ขึ้นมามันดันทำงานได้ห่วยครับ
แทนที่มันจะดักเอาส่วนผสมที่เป็นเบนซินไว้แล้วปล่อยอากาศออกไป
มันดันเก็บแรงดันไว้ บวกกับการใช้งานบางทีความร้อนสะสมมากๆ
แรงดันก็สะสมสูงขึ้น จนเกิดเหตการบ้าบอแบบปลาวาฬขึ้นมา

ซึ่งจริงๆแล้วศูนย์ทุกศูนย์ควรรู้เรื่องนี้ และให้คำแนะนำอย่างตรงไปตรงมากับลูกค้า
เพื่อที่ตอนออกรถลูกค้าจะได้ตัดสินใจเลือกเองได้ว่าจะถอดอุปกรณ์นี้ออกหรือติดไว้แบบเดิม
บางการใช้งานแบบผมที่ไม่ได้วิ่งผ่านรถติด ก็คงเลือกใส่ไว้อย่างเดิม เวลาจอดในโรงรถจะได้ไม่เหม็นน้ำมันมาก
แต่บางการใช้งานที่ต้องเจอความร้อนมากๆ ก็ควรจะถอดออกเพื่อความปลอดภัยของเจ้าของรถเอง

แต่ทำไงได้ครับ มันเกิดเรื่องแบบนี้หลายครั้งแล้ว แต่ศูนย์ก็นิ่งเฉย ทางออกของชาวสองล้อก็มีแต่คอยช่วยเหลือกันนี่แหละครับ
ก็เลยมีพี่ๆในนี้เขียนคำเตือน เขียนวิธีการ DIY ถอดกล่องดักไอมาให้ดู เพื่อให้เราๆทำกันเองได้ จะได้ไม่ต้องเข้าไปเสียเงินให้ศูนย์


ตัวเลือกที่เราเลือกได้และได้ผลเร็วที่สุดก็คงเป็นถอดกล่องดักไอออก
ส่วนการแก้ไขของศูนย์ก็หวังการผลักดันจากพี่ dukdikdog นี่แหละครับ

แต่ในระหว่างที่รอการแก้ไขของศูนย์ เราก็คงขี่และมีความสุขกับมันได้ด้วยวิธีของเรา
เผลอๆถ้าวันนึงศูนย์มีการแก้ไขหรือไม่ออกมา เราอาจจะเปลี่ยนรถเปลี่ยนรุ่นหรือบางคนเปลี่ยนค่ายไปแล้วก็ได้ครับ
mon4 mon57
อันนี้น่าจะสรุปได้ดี
 mon2
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: Nass ที่ พฤศจิกายน 04, 2012, 04:46:29 PM
เอางี้ครับ ว่ากันด้วยข้อมูลทางเทคนิคนะครับ ไม่รู้ว่าจะพอช่วยไขข้อข้องใจได้บ้างหรือเปล่า

เรื่องถังบวมและเกิดอาการปลาวาฬทำไมเกิดขึ้นกับ 795
ตอบได้ตามที่ทราบมาคือ 795 เป็น Asian Model ซึ่งใช้มาตราฐานการปล่อยไอเสีย Euro3 เพื่อที่จะขายได้ในบางประเทศเช่นญี่ปุ่น
จึงมีเจ้าอุปการณ์หน้าตาประหลาดที่เราๆเรียกกัยว่ากล่องดักไอมาห้อยอยู่ข้างล่างด้านซ้าย
เพื่อดักไอน้ำมันเครื่องและไอเบซินไม่ให้ไหลออกมาทำลายสภาพแวดล้อม

ตัวปัญหาคือตัวนี้แหละครับเพราะตอนแรกไม่ได้ออกแบบมาให้มีกล่องอันนี้
ตอนแรกออกแบบมาแค่ว่ามีท่อต่อระบายแรงดันจากฝาถัง ถ้าร้อนแล้วแรงดันสูง ก็ปล่อยไอลงพื้นเลย
ดังนั้นสังเกตว่ารถที่ไม่ใช่ Asian Model จะไม่เกิดปัญหาปลาวาฬหรือถังบวม
ไม่ใช่ว่าน้ำมันไม่ร้อน คือมันร้อนเท่ากันแต่แรงดันระบายออกไปแล้ว
ถ้ากลัวว่าไอน้ำมันจะติดไฟก็ไม่ต้องกลัวครับ รถรุ่นก่อนๆเป็นแบบนี้ทั้งนั้น
เพระปริมาณที่ปล่อยออกมาถือว่าน้อยมากเทียบกับอากาศด้านนอก
โอกาศจะติดไฟถือว่าเป็นศูนย์ครับตอนวิ่งอยู่ เพราะปล่อยมาเท่าไหร่ก็โดนลมพัดไปหมด
แต่ถ้าตอนจอดมันจะติดไฟก็ต้องมีคนคิดร้ายมาเอาไฟไปจ่อตรงปากท่อแหละครับถึงจะติด

แต่คราวนี้พอเป็น Asian Model มีเจ้าตัวนี้ขึ้นมามันดันทำงานได้ห่วยครับ
แทนที่มันจะดักเอาส่วนผสมที่เป็นเบนซินไว้แล้วปล่อยอากาศออกไป
มันดันเก็บแรงดันไว้ บวกกับการใช้งานบางทีความร้อนสะสมมากๆ
แรงดันก็สะสมสูงขึ้น จนเกิดเหตการบ้าบอแบบปลาวาฬขึ้นมา

ซึ่งจริงๆแล้วศูนย์ทุกศูนย์ควรรู้เรื่องนี้ และให้คำแนะนำอย่างตรงไปตรงมากับลูกค้า
เพื่อที่ตอนออกรถลูกค้าจะได้ตัดสินใจเลือกเองได้ว่าจะถอดอุปกรณ์นี้ออกหรือติดไว้แบบเดิม
บางการใช้งานแบบผมที่ไม่ได้วิ่งผ่านรถติด ก็คงเลือกใส่ไว้อย่างเดิม เวลาจอดในโรงรถจะได้ไม่เหม็นน้ำมันมาก
แต่บางการใช้งานที่ต้องเจอความร้อนมากๆ ก็ควรจะถอดออกเพื่อความปลอดภัยของเจ้าของรถเอง

แต่ทำไงได้ครับ มันเกิดเรื่องแบบนี้หลายครั้งแล้ว แต่ศูนย์ก็นิ่งเฉย ทางออกของชาวสองล้อก็มีแต่คอยช่วยเหลือกันนี่แหละครับ
ก็เลยมีพี่ๆในนี้เขียนคำเตือน เขียนวิธีการ DIY ถอดกล่องดักไอมาให้ดู เพื่อให้เราๆทำกันเองได้ จะได้ไม่ต้องเข้าไปเสียเงินให้ศูนย์


ตัวเลือกที่เราเลือกได้และได้ผลเร็วที่สุดก็คงเป็นถอดกล่องดักไอออก
ส่วนการแก้ไขของศูนย์ก็หวังการผลักดันจากพี่ dukdikdog นี่แหละครับ

แต่ในระหว่างที่รอการแก้ไขของศูนย์ เราก็คงขี่และมีความสุขกับมันได้ด้วยวิธีของเรา
เผลอๆถ้าวันนึงศูนย์มีการแก้ไขหรือไม่ออกมา เราอาจจะเปลี่ยนรถเปลี่ยนรุ่นหรือบางคนเปลี่ยนค่ายไปแล้วก็ได้ครับ
อันนี้ผมเห็นด้วยกับคุณโฮ่ ผมว่าตัวปัญหาที่ทำให้ถังบวม มีเสียงฟู่ตอนเปิดฝาถัง เกิดน้ำมันพุ่ง(ปลาวาฬ)อาจจะมาจากกล่องดักไอน้ำมันนี่แหละ แต่ถ้าจะให้ถอดผมว่าควรที่จะรอให้ทางดูคาติอนุมัติให้ถอดจะดีกว่า จะได้ไม่หมดWarranty
โดยส่วนตัวถามว่า ตัว795นี้ดีมั้ย ผมว่าเป็นรถที่ดี สวยถูกใจ สมราคา แต่เป็นกังวลใจอยู่เรื่องเดียว เรื่องถังบวม เสียงฟู่ น้ำมันพุ่ง ซึ่งอาจจะเกิดมาจากกล่องดักไอน้ำมัน
ทางดูคาติคงต้องหาทางแก้ปัญหาเรื่องนี้ เพราะมันอันตราย
ส่วนเรื่องความร้อนผมว่า บิ๊กไบค์ทุกคันร้อนทุกคันครับ mon32

สุดท้ายผมยังคงขี่เจ้า795ต่อเพราะว่าชอบ(แต่ก็ยังรอทางดูคาติแก้ไขเรื่องถังบวม เสียงฟู่ น้ำมันพุ่ง จะได้ขี่อย่างสบายใจเต็ม100)
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdog ที่ พฤศจิกายน 04, 2012, 04:48:15 PM
เอางี้ครับ ว่ากันด้วยข้อมูลทางเทคนิคนะครับ ไม่รู้ว่าจะพอช่วยไขข้อข้องใจได้บ้างหรือเปล่า

เรื่องถังบวมและเกิดอาการปลาวาฬทำไมเกิดขึ้นกับ 795
ตอบได้ตามที่ทราบมาคือ 795 เป็น Asian Model ซึ่งใช้มาตราฐานการปล่อยไอเสีย Euro3 เพื่อที่จะขายได้ในบางประเทศเช่นญี่ปุ่น
จึงมีเจ้าอุปการณ์หน้าตาประหลาดที่เราๆเรียกกัยว่ากล่องดักไอมาห้อยอยู่ข้างล่างด้านซ้าย
เพื่อดักไอน้ำมันเครื่องและไอเบซินไม่ให้ไหลออกมาทำลายสภาพแวดล้อม

ตัวปัญหาคือตัวนี้แหละครับเพราะตอนแรกไม่ได้ออกแบบมาให้มีกล่องอันนี้
ตอนแรกออกแบบมาแค่ว่ามีท่อต่อระบายแรงดันจากฝาถัง ถ้าร้อนแล้วแรงดันสูง ก็ปล่อยไอลงพื้นเลย
ดังนั้นสังเกตว่ารถที่ไม่ใช่ Asian Model จะไม่เกิดปัญหาปลาวาฬหรือถังบวม
ไม่ใช่ว่าน้ำมันไม่ร้อน คือมันร้อนเท่ากันแต่แรงดันระบายออกไปแล้ว
ถ้ากลัวว่าไอน้ำมันจะติดไฟก็ไม่ต้องกลัวครับ รถรุ่นก่อนๆเป็นแบบนี้ทั้งนั้น
เพระปริมาณที่ปล่อยออกมาถือว่าน้อยมากเทียบกับอากาศด้านนอก
โอกาศจะติดไฟถือว่าเป็นศูนย์ครับตอนวิ่งอยู่ เพราะปล่อยมาเท่าไหร่ก็โดนลมพัดไปหมด
แต่ถ้าตอนจอดมันจะติดไฟก็ต้องมีคนคิดร้ายมาเอาไฟไปจ่อตรงปากท่อแหละครับถึงจะติด

แต่คราวนี้พอเป็น Asian Model มีเจ้าตัวนี้ขึ้นมามันดันทำงานได้ห่วยครับ
แทนที่มันจะดักเอาส่วนผสมที่เป็นเบนซินไว้แล้วปล่อยอากาศออกไป
มันดันเก็บแรงดันไว้ บวกกับการใช้งานบางทีความร้อนสะสมมากๆ
แรงดันก็สะสมสูงขึ้น จนเกิดเหตการบ้าบอแบบปลาวาฬขึ้นมา

ซึ่งจริงๆแล้วศูนย์ทุกศูนย์ควรรู้เรื่องนี้ และให้คำแนะนำอย่างตรงไปตรงมากับลูกค้า
เพื่อที่ตอนออกรถลูกค้าจะได้ตัดสินใจเลือกเองได้ว่าจะถอดอุปกรณ์นี้ออกหรือติดไว้แบบเดิม
บางการใช้งานแบบผมที่ไม่ได้วิ่งผ่านรถติด ก็คงเลือกใส่ไว้อย่างเดิม เวลาจอดในโรงรถจะได้ไม่เหม็นน้ำมันมาก
แต่บางการใช้งานที่ต้องเจอความร้อนมากๆ ก็ควรจะถอดออกเพื่อความปลอดภัยของเจ้าของรถเอง

แต่ทำไงได้ครับ มันเกิดเรื่องแบบนี้หลายครั้งแล้ว แต่ศูนย์ก็นิ่งเฉย ทางออกของชาวสองล้อก็มีแต่คอยช่วยเหลือกันนี่แหละครับ
ก็เลยมีพี่ๆในนี้เขียนคำเตือน เขียนวิธีการ DIY ถอดกล่องดักไอมาให้ดู เพื่อให้เราๆทำกันเองได้ จะได้ไม่ต้องเข้าไปเสียเงินให้ศูนย์


ตัวเลือกที่เราเลือกได้และได้ผลเร็วที่สุดก็คงเป็นถอดกล่องดักไอออก
ส่วนการแก้ไขของศูนย์ก็หวังการผลักดันจากพี่ dukdikdog นี่แหละครับ

แต่ในระหว่างที่รอการแก้ไขของศูนย์ เราก็คงขี่และมีความสุขกับมันได้ด้วยวิธีของเรา
เผลอๆถ้าวันนึงศูนย์มีการแก้ไขหรือไม่ออกมา เราอาจจะเปลี่ยนรถเปลี่ยนรุ่นหรือบางคนเปลี่ยนค่ายไปแล้วก็ได้ครับ

เข้าใจว่าการปรับแต่งต่างๆที่พวกเราทำด้วยตนเองเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้าครับ ศูนย์เองเท่าที่ทราบก็ไม่ค่อยเห็นด้วยครับ แต่เนื่องจากทางศูนย์เองก็ดันไม่มีคำตอบให้ พวกท่านทั้งหลายเลยต้องผันชะตากรรมด้วยการทดลอง ทดสอบ และ ดำเนินกาีด้วยตนเองมาโดยตลอด
ผมเข้าใจทุกฝ่ายดีครับ ทางน้องๆพี่ๆที่ครองครองอยู่ก็คงหาทางออกกับปัญหาด้วยตนเองเพราะศูนย์ มันคือ 'ศูนย์' จริงๆครับ
ส่วนท่านที่กำลังจะตัดสินใจซื้อ ก็ลองประมวลข้อมูลทุกอย่างดูครับ แล้วค่อยตัดสินใจเลือกครับ ผมถือว่าเป็นการแชร์ข้อมูลในกลุ่มเพื่อประโยชน์ในการตัดสินใจครับ จะได้ไม่มาบ่นภายหลังว่า 'รู้อย่างนี้ รู้อย่างนั้น น่าจะทำอีกอย่าง' ถือว่าเป็นการให้ข้อมูลในมุมมองที่แตกต่างกันครับ
หากตัดสินใจไปแล้ว จะได้ไม่ต้องมองย้อนหลังกลับมานั่งเสียดายครับ
ตัวผมเอง ขออยู่ นิ่งๆ แล้วค่อยตัดสินใจเลือกใหม่ว่าจะเป็นค่ายไหนต่อไปครับ
ผมคิดว่าข้อมูลที่ผมหามาแชร์กับพวกเราได้ ผมคิดว่ามากพอในมุมมองของข้อมูลทางเทคนิคครับ เชิญท่านทั้งหลายลองหากระทู้เก่าๆที่ผมแปะนิดแปะหน่อยศึกษาดูตามศรัทธาครับ
ถึงนาทีนี้ เท่าที่ทราบ ศูนย์น่าจะมีการตอบสนองบางอย่างในไม่ช้า หลังจากที่แช่แป้งมานมนาน
ฝากพี่ๆน้องๆ สานต่อกันไปด้วยครับ
ผมยังเชื่อว่า เจ้าดูคาติทุกวันนี้ขี่แล้วเท่ห์สุดแล้วครับ ขี่ดีแล้วสำหรับความคิดเห็นของบางท่าน
 แต่ผมว่า หากปัญหาต่างๆได้ถูกสะสางแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม มันจะยิ่งดีมากขึ้นไปกว่านี้อีกครับ
ช่วยกันลุยต่อกันไปครับ ยี่ห้อนี้จะได้อยู่อย่างยาวนานและยั่งยืนครับ
ขอบคุณทุกความคิดเห็นครับ
สวัสดีครับ
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdog ที่ พฤศจิกายน 04, 2012, 05:05:47 PM
แนะนำต่อเลยอีกนิด ในกลุ่มเรามีนักกฏหมายอยู่ ก็น่าจะเป็นหัวเรี่ยวหัวแรง รวบรวมรายชื่อและข้อมูล ยื่นหนังสือถึงบริษัทเพื่อขอคำชี้แจงและการแก้ไขอย่างเป็นทางการต่อนื่องเลยครับ ศูนย์จะได้ตื่นนอนสักทีครับ สคบ. เขาก็ช่วยได้หากศูนย์ยังดื่อแพ่งครับ
เหล็กต้องตีตอนร้อนครับ ผมจุดให้แล้ว ช่วยกันต่อให้ติดครับ
รวมกันให้ติดครับ ให้ศูนย์รู้ว่าเราไม่ใช่รายย่อยครับ และอำนาจก็จะกลับสู่ผู้บริโภคอย่างเราๆท่านๆครับ
ในมุมมองผม ปัญหานี้น่าจะใช้เวลานานในการแก้ไข ตราบใดที่ศูนย์ยังต้องรอติดต่อยานแม่ที่อิตาลีทุกก้าว
ย้ำครับพี่น้อง ทำอย่างเป็นทางการเลยครับ...
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: red1 ที่ พฤศจิกายน 04, 2012, 05:51:04 PM
ducati ทุกตัวเสน่ห์หลักๆคือเฟรมถักกะเสียงท่ออันดุดันครับ เมื่ออยากฟังเสียงท่อมันส์ๆๆก็ต้องลากเกียร์กันหน่อย เมื่อลากเกียร์รถก็รอบจัดกว่าที่ควรจะเป็นสมมุติว่ารถวิ่งที่100ใช้เกียร์4ที่รอบ4000รอบต่อนาที ถ้าลากเกียร์3รอบมากกว่า4000รอบแน่นอนครับ ความร้อนก็มากขึ้นอีกหน่อย  ก่อนเข้าปั้มเติมนํามันก็ลดรอบลงนิสๆเข้าห้องนําก่อนกินกาแฟสักแก้ว เปลี่ยนพถติกรรมที่จะต้องเติมนํามันก่อนแล้วค่อยพักรถพักคน รึว่ารถก่อนติดไฟแดงเรากําคลัชปล่อยไหลรถรอบก็ตกมารอบเดินเบาแต่อากาศยังผ่านครับกะออยคูลเลอร์ได้อยู่ความร้อนก็คงลดลงบ้างหละครับ เมื่อเรารู้ข้อจํากัดของเค้าปรับตัวอีกนิสให้เข้ากะสาวสวยบ้างชีวิตก็น่าจะสุขสันต์นะครับ ผมจะไปรับรถที่ศูนย์พัทยาอาทิตย์หน้า ถ้าได้มาจะลองหาทางใส่แผงออยให้ยาวขึ้น อาจจะดูตําแหน่องทําครีบปรับอากาศให้ระบายสูบบนเหมือนกระจกรกดัทสันรุ่นช้างเหยีบสมัยก่อนดูครับ m795สําหรับผมคือรถในฝันและเป็นรถที่เอาไว้ขี่เล่น แต่งเล่น แต่จนจิงไรจิงครับ  mon47
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: Nongk69 ที่ พฤศจิกายน 04, 2012, 08:13:59 PM
0h my god แล้วจะมีทางออกมั้ยเนี้ย abc10
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: TBBelle ที่ พฤศจิกายน 09, 2012, 04:54:40 PM
เอาพัดลมวัดที่มันมีใบพัดใหญ่ๆ
คงจะเย็น  mon47 mon47
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: Black Sheep ที่ พฤศจิกายน 14, 2012, 01:29:00 PM
ผมเคยติดไฟแดงประมาณ 10 นาที ไม่ดับเครื่องความร้อนขึ้น 6ขีดมาแล้วครับ mon19 ไม่เจอปลาวาฬครับ mon19 mon6 mon6 mon6
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: Nongk69 ที่ ธันวาคม 15, 2012, 07:33:40 AM
ผมเคยติดไฟแดงประมาณ 10 นาที ไม่ดับเครื่องความร้อนขึ้น 6ขีดมาแล้วครับ mon19 ไม่เจอปลาวาฬครับ mon19 mon6 mon6 mon6
แต่เจอไขสุกแทนป่ะอิอิ
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: chaiann14 ที่ ธันวาคม 31, 2012, 11:20:17 AM
มีใจ และมีไฟครับ ทุกคนที่ขับขี่เพราะความชื่นชอบในตัวตนของมัน ไม่ว่าจะมีอุปสรรคอะไรก็ยังคงใช้ครับเพราะ (มันอยู่ที่ใจรักจริงๆ) abc18 abc18 ส่วนเรื่องอื่นค่อยว่ากัน mon42 mon42
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: Q DNT ที่ ธันวาคม 31, 2012, 01:09:08 PM
ผมว่านะครับ กระทู้นี้มีสาระมากครับ แต่มันมีสาระมากเกินไปมั้ยครับผม คิดขนาดนี้ได้รถมาขี่คงไม่มีความสุขแล้วมั้งครับ
แค่เรื่องความร้อนที่รถ Air-cooled ต้องเจอทุกคัน ถ้าเคยลองขี่ HD จะรู้ว่า 795 ไข่ลวกหนะเรื่องเล็กไปเลย HD เค้าเรียกไข่ต้ม
ไม่ใช่ว่าผมไม่เห็นด้วยกับการไขข้อสงสัยอะไรต่างๆที่ต้องการคำตอบจากศูนย์นะครับ มันเป็นสิ่งที่ดีครับถ้าได้คำตอบเหล่านั้นออกมา

แต่ถ้าไม่ได้คำตอบหละ เราจะทำยังไง???

ประเด็นคือ สมมุติว่าเรารักเราชอบอะไรซักอย่าง เราควรจะหาวิธีที่จะอยู่กับมันครับ

ถ้าเปรียบ 795 เป็นผู้หญิง ก็คงเป็นเด็กสาวชาวอิตาเลี่ยนร่างเล็กเซ็กซี่ที่นิสัยกระโชกโฮกฮากเอาใจยากหน่อยในตอนแรก
กว่าจะคุยกันรู้เรื่องก็นาน แต่ถ้าเข้าใจนิสัยกันแล้ว ข้อเสียของเธอก็ไม่ใช่เรื่องที่เราจะรับมือไม่ไหว ใช่มั้ยครับ

ไม่งั้น... ถ้าไม่เรียนรู้ที่จะอยู่กับผู้หญิงคนนี้แบบมีความสุขก็คงต้องเลิกกันไปคบกับผู้หญิงที่เอาใจง่ายกว่า
เช่นหญิงสาวจากทางญี่ปุ่นที่นิสัยเรียบร้อย เสียงไม่ดัง ตัวไม่ร้อน สินสอดก็ไม่แพง
แต่ก็ต้องยอมรับข้อที่ว่าเธอหน้าตาธรรมดาพบเห็นได้ทั่วไปไม่มีเอกลักษณ์เหมือนสาวอิตาเลี่ยน


ผมไม่รู้ว่าคนอื่นเลือกทางไหน แต่ผมเลือกที่จะเรียนรู้และอยู่กับสาวอิตาเลี่ยนคนนี้อย่างมีความสุขครับ แล้วคุณหละ?
บ้ะ mon57 mon57
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: kaakumijung ที่ ธันวาคม 31, 2012, 03:10:41 PM
มีใจ และมีไฟครับ ทุกคนที่ขับขี่เพราะความชื่นชอบในตัวตนของมัน ไม่ว่าจะมีอุปสรรคอะไรก็ยังคงใช้ครับเพราะ (มันอยู่ที่ใจรักจริงๆ) abc18 abc18 ส่วนเรื่องอื่นค่อยว่ากัน mon42 mon42
ถูกต้อง ที่สุดครับ เหนด้วยอย่างแรง  mon57
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: DHAMMADA7 ที่ มกราคม 16, 2013, 01:05:01 PM
เพิ่งจะได้มีโอกาสนั่งอ่านกระทู้นี่ทั้งหมด ได้ความรู้มากทีเดียวครับ mon32
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: brickable ที่ มกราคม 22, 2013, 11:03:57 PM
อ่านแล้วกล้าๆ กลัวๆ แต่พอถามพี่ๆแล้ว รถยุโรปมันเป็นแบบนี้ทุกคัน ไม่ใช่แค่รุ่น M795 นะที่เครื่องร้อน ความเห็นผมนะ ถ้าจะนั่งสบายๆก็คงไม่ขี่มอเตอร์ไซค์ รถเก๋งก็มีนั่งเปิดแอร์เย็นๆ แต่ที่อยากได้เพราะมันคือ Ducati ถ้าเป็นยี่ห้ออื่นก็ไม่เอา
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: EMONOSKA ที่ มกราคม 28, 2013, 10:56:37 AM
ติดตามอ่าน หาความรู้ครับ ลังเลอยู่ระหว่างค่ายเขียว กับ monster ใจมันรัก ducati ครับแต่ต้องหาข้อมูลเยอะๆ เพราะ ราคาต่างกันมากเหลือเกิน แถมเราก็เป็นมือใหม่  ความรู้ดีจริงๆครับกระทู้นี้  mon32
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: เป้ 795 ที่ มกราคม 30, 2013, 09:52:21 PM
ขอแชร์ความเห็นครับ
1.796ไม่มีดักไอ 795 มีดักไอ อนุมานว่าถังดักไอคือตัวปัญหา
ผมว่ามีส่วนมาก ครับตามความเห็นส่วนตัวนะครับ
เพราะความร้อนจากเครื่องส่งผ่านสายดักไอกลับเข้าถังน้ำมัน ทำให้ความร้อนสะสมในถังน้ำมันสูงขึ้นเรื่อยๆเมื่อสูงถึงจุดหนึ่งก็เพิ่มแรงดันในถัง ทำให้สามารถดันออกมาได้เมื่อเปิดถัง และความร้อนที่สะสมนั้นก็ส่งผ่านมาที่ ไข่ และยิ่งร้อนยิ่งมีแรงดันจนสามารถทำให้ถังบิดเบี้ยวได้
เพราะท่อเล็กๆด้านซ้ายของถังไม่สามารถระบายแรงดันและความร้อนได้ทันความร้อนที่เข้ามาจากเครื่องโดยตรงของสายด้านขวา

ผมว่าการอุดและตัดเส้นทางความร้อนและแรงดันกลับมาเข้าถังคือสายด้านขวาน่าจะถูกต้องนะครับ
อยากรบกวนว่าผู้ที่ทำแล้วดีขึ้นจริง ทางducati ควรยอมรับและไม่หลุดประกันครับ

ปล.กำลังจะออก795abs และจะพิสูจน์ให้ได้ครับ
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: Mr. KK ที่ กุมภาพันธ์ 18, 2013, 09:30:08 AM
ร้อนจริง ร้อนไข่ด้วยตอนขี่ทางไกล นึกสภาพเหมือนเหมือนนั่งคร่อมเตาไฟอยู่
กำลังลังเลอยู่ว่าจะใช้ต่อไปหรือขายต่อดี
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: Golf-DKC ที่ กุมภาพันธ์ 24, 2013, 10:18:41 AM
จะรับรถพรุ่งนี้แล้ว
ทำใจ..
ขี่อยู่ต่างจังหวัด ไม่ค่อยมีไฟแดง
น่าจะเบาหน่อยนะคับ
ถ้าร้อนนัก ก้อกะจะหาจอดตามป้ายรถเมล์
ที่มีเด็ก นศ. รอรถอยู่เยอะๆ
ความร้อนจะได้ถูกชดเชยด้วยความเท่กันปายยย
5555+
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: เป้ 795 ที่ มีนาคม 14, 2013, 01:43:33 PM
รับรถมาวันแรก รื้ออุดสายที่มาจากถังดักไอ และเอาท่อยางใหม่ต่อทิ้งลงข้างล่างแทนครับ ขี่จากพัฒนาการกลับสมุทรสาคร ไม่มีเกิน 4 ขีดครับ แต่ไฟแดงดับเครื่องนะครับ และวิ่งช่วงเช้า กับช่วงเย็นเลิกงาน อากาศเลยไม่ร้อนมาก
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: hokoon (โฮ่ DNT) ที่ มีนาคม 14, 2013, 03:54:00 PM
รับรถมาวันแรก รื้ออุดสายที่มาจากถังดักไอ และเอาท่อยางใหม่ต่อทิ้งลงข้างล่างแทนครับ ขี่จากพัฒนาการกลับสมุทรสาคร ไม่มีเกิน 4 ขีดครับ แต่ไฟแดงดับเครื่องนะครับ และวิ่งช่วงเช้า กับช่วงเย็นเลิกงาน อากาศเลยไม่ร้อนมาก

ทางไกลกลางวันแดดร้อนๆผมเอา 796 ไปอัดกันตาม 848 ชู้ตและแช่กันยาวๆ
ไม่มีเกินสี่ขีดครับ ขี่ไปก็ไม่ได้รู้สึกร้อนไข่อะไรนะ เพราะลมผ่านแรงมากๆ

ปัญหาไข่ลวกจะเจอเฉพาะคนเมืองหลวงครับ อันนี้เห็นใจจริงๆ มีอย่างเดียวคือต้องทนและปรับตัวกันไป
ท่านั่งเวลาอยู่ในเมืองความเร็วต่ำ ลองถอดตูดออกมาเยอะๆ ให้มีช่องว่างให้ไอร้อนลอยขึ้นบน น่าจะช่วยได้บ้างนะผมว่า
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: Moshimoi2o ที่ มีนาคม 29, 2013, 07:42:09 PM
กระทู้นี้ให้ความรู้ก่อนซื้อจริงๆครับ  สงสัยต้องทำใจเรื่องความร้อน  mon6  พอดีเข้าไปงานมอเตอร์โชว์มาวันที่ 27 ที่ผ่านมาเห็นเจ้า 795 แล้วเกิดหลงรักขึ้นมา ก็เลยเข้ามาหาข้อมูลก่อนนะครับ   mon61
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: เป้ 795 ที่ เมษายน 01, 2013, 01:22:45 PM
"หลงรัก"อาการเดียวกันกับผมเลยครับ
"ความร้อน" มีวิธีแก้ แก้แล้วทุเลาลงได้ แต่
"ความรัก ความหลง" ได้รถมาเป็นเดือนยังหาวิธีแก้ไม่ได้เลยครับ

ยินดีล่วงหน้าเลยแล้วกันครับ อิอิ
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: VTBS ที่ เมษายน 01, 2013, 07:46:52 PM
ก่อนที่ผมจะซื้อรถ อ่านไปอ่านมา คิดกลางๆสรุปจากหน้าจอนะครับ = Monster795 ไม่น่าขับเอาซะเลย น่ากลัวไปหมด

แต่พอได้รถมาเมื่อต้นเดือนมีนา ผมผละตัวเองจากคีย์บอร์ด ลองทดสอบด้วยตัวเอง กลางวันแสกๆกลางหน้าร้อนนี่หล่ะครับ วิ่งเกียร์สองแช่ยาว 4 กิโลเมตร ความเร็ว 40 ก็ความร้อนขึ้นมา 3 ขีด, ขี่ปกติ รถไม่ติด 20 กิโลเมตร ความร้อน 3 ขีด, ขับที่ความเร็ว 120-150 ประมาณ 4 กิโลเมตร ความร้อน 3 ขีด, ขับจากดินแดงออกมาพระราม 9 รถติดโคตรๆ ตอนมุดบ้าง จอดบ้าง 4 ขีด พอติดไฟแดงดับเครื่อง ลงมาเหลือ 3 ขีด start ง่ายเหมือนปกติ

ชอบก็ซื้อครับ แค่รู้ไว้เฉยๆว่ามันร้อน ก็เครื่อง 2 สูบ 803cc ระบายความร้อนด้วยอากาศ ไม่มีลมผ่านมันก็ร้อนสิครับ เรื่องวิทยาศาสตร์ จับต้องได้ 

ส่วนตัวผม เรื่องเครื่องร้อนนี่ไม่ได้เป็นประเด็นเท่าอากาศร้อนเลยครับ อย่าไปสาระมาก (ผมใส่ Air Jacket หมวก full face โม่ง ถุงมือ กางเกงยีนส์พร้อมสนับเข่า รองเท้าเต็มข้อ...แต่งเต็ม เพื่อความปลอดภัย แต่ร้อนจุงเลย)

ผมขี่เพื่อความสนุกสนาน เติมความฝันของผมที่ตอนเด็กทำไม่ได้ เลือกที่จะขี่วันหยุด วันที่รถไม่ติด เลือกเวลาและเส้นทาง วางแผนล่วงหน้า ขี่เป็นงานอดิเรก เลยไม่เจอปัญหาดังกล่าวเท่าไร ส่วนใครที่จะซื้อมาวิ่งใน กทม ใช้งานทุกวันก็ลองหารถหม้อน้ำก็ได้ครับ แต่มันก็จะไม่ได้ Feeling ดิบๆแบบ Ducati ครับ และที่สำคัญ อากาศมันก็ร้อนอยู่ดีครับ ... 555

ฝากรูปมาให้ดูนะครับ เป็นกำลังใจสำหรับคนที่กำลังตัดสินใจครับ

(http://imageshack.us/a/img29/4825/img1291or.jpg)

(http://imageshack.us/a/img541/7461/img1274sm.jpg)

(http://imageshack.us/a/img268/2072/img1258g.jpg)




หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: AE_AE>DuCaTi ที่ เมษายน 03, 2013, 10:20:32 AM
มาร่วมเก็บเกี่ยวความรู้ระหว่างรอรับรถคับ^^ mon42
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: Tum Sharkdevil ที่ เมษายน 03, 2013, 10:50:45 AM
ก่อนที่ผมจะซื้อรถ อ่านไปอ่านมา คิดกลางๆสรุปจากหน้าจอนะครับ = Monster795 ไม่น่าขับเอาซะเลย น่ากลัวไปหมด

แต่พอได้รถมาเมื่อต้นเดือนมีนา ผมผละตัวเองจากคีย์บอร์ด ลองทดสอบด้วยตัวเอง กลางวันแสกๆกลางหน้าร้อนนี่หล่ะครับ วิ่งเกียร์สองแช่ยาว 4 กิโลเมตร ความเร็ว 40 ก็ความร้อนขึ้นมา 3 ขีด, ขี่ปกติ รถไม่ติด 20 กิโลเมตร ความร้อน 3 ขีด, ขับที่ความเร็ว 120-150 ประมาณ 4 กิโลเมตร ความร้อน 3 ขีด, ขับจากดินแดงออกมาพระราม 9 รถติดโคตรๆ ตอนมุดบ้าง จอดบ้าง 4 ขีด พอติดไฟแดงดับเครื่อง ลงมาเหลือ 3 ขีด start ง่ายเหมือนปกติ

ชอบก็ซื้อครับ แค่รู้ไว้เฉยๆว่ามันร้อน ก็เครื่อง 2 สูบ 803cc ระบายความร้อนด้วยอากาศ ไม่มีลมผ่านมันก็ร้อนสิครับ เรื่องวิทยาศาสตร์ จับต้องได้ 

ส่วนตัวผม เรื่องเครื่องร้อนนี่ไม่ได้เป็นประเด็นเท่าอากาศร้อนเลยครับ อย่าไปสาระมาก (ผมใส่ Air Jacket หมวก full face โม่ง ถุงมือ กางเกงยีนส์พร้อมสนับเข่า รองเท้าเต็มข้อ...แต่งเต็ม เพื่อความปลอดภัย แต่ร้อนจุงเลย)

ผมขี่เพื่อความสนุกสนาน เติมความฝันของผมที่ตอนเด็กทำไม่ได้ เลือกที่จะขี่วันหยุด วันที่รถไม่ติด เลือกเวลาและเส้นทาง วางแผนล่วงหน้า ขี่เป็นงานอดิเรก เลยไม่เจอปัญหาดังกล่าวเท่าไร ส่วนใครที่จะซื้อมาวิ่งใน กทม ใช้งานทุกวันก็ลองหารถหม้อน้ำก็ได้ครับ แต่มันก็จะไม่ได้ Feeling ดิบๆแบบ Ducati ครับ และที่สำคัญ อากาศมันก็ร้อนอยู่ดีครับ ... 555

ฝากรูปมาให้ดูนะครับ เป็นกำลังใจสำหรับคนที่กำลังตัดสินใจครับ

([url]http://imageshack.us/a/img29/4825/img1291or.jpg[/url])

([url]http://imageshack.us/a/img541/7461/img1274sm.jpg[/url])

([url]http://imageshack.us/a/img268/2072/img1258g.jpg[/url])






 mon57ถูกต้องที่สุดเลยครับ ก่อนซื้อผมก็กลัวไปหมดพอได้มาจริงๆสิ่งที่ฝังหัวมาหายไปหมดเลยครับขี่ไม่ยากอย่างที่คิดผมว่าถ้าขี่เร็วเวฟยังขี่ยากกว่าเลยการทรงตัวต่างกันเลยครับ ส่วนเรื่องความร้อนก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดครับถ้ารถเคลื่อนที่ตลอดก็ไม่ได้ร้อนอะไรมากมายทนได้แน่นอนครับ mon43
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: kookkit ที่ เมษายน 03, 2013, 02:10:35 PM
ผมมีข้อสังเกตุว่ามันร้อนที่ช่วงขาอ่อนเรา และตรงนั้นมันพอดีกับช่วงคอท่อ
ถ้าเราเอาผ้าพันท่อไปพันน่าพอช่วยได้นะ
นี่เป็นแค่การวิเคราะห์นะครับผม ยังไม่ได้ลองทำ
 mon32
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: LoVE @ 1sT BiKE [Au] ที่ เมษายน 10, 2013, 05:08:08 PM
ผมไม่เคยมีปัญหากับความร้อนเลย

ใส่ขาสั้นขับก็บ่อย แต่ถ้าไปไกลหน่อยจะใส่ขายาว

ความร้อนประมาณ3 ตลอด เกินน้อยมาก  เต็มที่ก็4

ผมว่าพวกพี่ๆ เลียคลัชกันมากไปรึเปล่า
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: ahster ที่ พฤษภาคม 14, 2013, 03:00:57 PM
อ่านจนตาแฉะ  mon48
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: 88th ที่ พฤษภาคม 20, 2013, 08:51:33 PM
ขอบคุณครับความรู้เพียบ mon32
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: er6th ที่ มิถุนายน 01, 2013, 04:30:23 PM
กว่าจะอ่านครบทุกหน้า  mon8

เท่าที่สัมผัส การจัดการภายใน Ducati Thailand ไม่มีความเป็นมืออาชีพ
เก่งอยู่อย่างเดียว คือ "การสร้างภาพ"
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: StormShadow795 ที่ มิถุนายน 09, 2013, 09:14:41 PM
ผมขายER มาถอย 795 มีคนบอกว่าอย่าเลยมันร้อน
ผมบอกผมไม่สนก็คนมันชอบ (ไข่สุกก็ยอม)  mon57
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: alovela501(เด็กวินจ้า) ที่ มิถุนายน 15, 2013, 09:15:24 PM
ของผม บอกได้เลยว่า ติดไฟแดงไม่เคยดับเครื่องคับ ตั้งแต่ขับมา ไม่มีสักครั้งที่ดับครับ ถามว่าร้อนไหมก็ ร้อนครับ แต่ ดับแปปเดียวก็ ติดเครื่องอีก ผมคิดว่าคงไม่เป็นผลดี ต่อเครื่อง ต่อ ไดสตาท หรืออื่น ๆ ตามมา อีก เลยคิดว่าไม่อยากดับครับ แบบว่าถนอมเครื่องครับ ส่วนเรื่อง น้ำมันพุ่ง ถังบวมไม่มีแล้วครับ เพราะ เปลี่ยนถัง ใหม่ ติดชนวน ฝาถังใหม่ จบเลยครับ ต่อให้ร้อนแค่ไหน ไม่มีปัญหาครับ
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: Bri@n ที่ มิถุนายน 16, 2013, 01:49:00 AM

 mon6 ผมเองก็นัดเอาไว้แล้วครับ โทรไปที่ศูนย์ว่าอยู่ในกลุ่มเรียกเข้าทำใช่มั้ย นัดจะเอารถเข้าไปทำในเดือนนี้เหมือนกัน

จากที่เข้าใจมีอสองประเด็น คือความร้อนทำให้น้ำมันระเหย และรูระบายมีขนาดเล็กไม่เพียงพอ ทำให้แรงดันในถังระบายไม่ทัน
การนำไอระเหยผ่านท่อไปเข้าตัวดักน้ำมัน (ถ้าผมเข้าใจไม่ผิดมันเอาน้ำมันส่วนนี้กลับมาใช้ใหม่ใช่มั้ย) น้ำมันส่วนนี้จริงๆ แล้วมันคือเศษของน้ำมัน
ตามปกติหลักการของเครื่องยนต์เมื่อก่อนไม่เคยมีใครนำกลับมาใช้อีก เพราะจะมีปัญหาเรื่องการเผาผลาญ และอาจมีผลเรื่องการอุดตัน
ยังไม่รวมการเปลี่ยนสภาพไปแล้วของน้ำมันระเหยเป็นไอจากไอเป็นน้ำ ซึ่งคุณสมบัติของมันต้องต่างจากน้ำมันที่กลั่นมาแต่แรกอย่างแน่นอน
ยังไม่รวมเรื่องจุกจิกอื่นๆ ของคาบูเรเตอร์หรือหัวฉีด เดิมการฉีดจ่ายน้ำมันเป็นแบบเส้นฝอย หากมีการจ่ายเศษน้ำมันส่วนนี้กลับเข้าไปจะมีความเสี่ยงจากการอุดตันสูง
หรือปัญหาอื่นๆ จากน้ำมันที่มีคุณสมบัติไม่มาตรฐานอันเนื่องเกิดการร้อนจนเผาไหม้ระเหยในถังไปแล้วรอบนึงแล้วโดนดักกลับมารับรองว่านานๆ ไปต้องมีคราบฝุ่นหรืออะไรบางอย่างอุดตันแน่นอน
และสุดท้ายผมเคยเห็นโซฮอล 95 มีปัญหาเรื่องการเผาไหม้ ถ้าเลี่ยงได้ผมไม่อยากใช้ เคยเห็นตอนที่เค้านำไปใช้กับเครื่องยนต์สองจังหวะ
เบนซิน 91 กับเบนซิน 95 ไม่มีปัญหา โซฮอล์ 91 ก็ไม่มีปัญหา แต่พอนำมาเปลี่ยนไปใช้กับโซฮอลล์ 95 เครื่องยนต์สองจังหวะบางประเภทจะเกิดคราบคล้ายๆ กับทรายละเอียด พอบี้แล้วจะเห็นว่ามันคือไขมันละเอียดเป็นก้่อน อุดตันอยู่ตรงคาบูเรเตอร์หรือส่วนที่ผ่านความร้อนสูงๆ ไม่ทราบมาได้ยังไง ต้องนำไปล้างคาบูเรเตอร์และปรับตั้งเข็มกับปรับคาบูใหม่ เพื่อให้นำมาใช้งานได้ปกติ อันนี้เคยเห็นมากับตา ขอบอกแล้วกันว่าจริง ในส่วนของตัวดักน้ำมันนี่แหละผมคิดว่าคือสาเหตุให้ท่านๆ ต้องกรอคันเร่งทิ้งน้ำมันส่วนนั้นออกมา

ผมเองตั้งใจจะลองตามวิธีแก้ไขปัญหาทางศูนย์ก่อน ตอนนี้ผมมีแค่เปิดฝาแล้วฟู่ๆ หากดีขึ้นก็จบ แต่หากไม่ดีขึ้นคงนำไปให้ผู้มีประสบการณ์ปรับแต่งให้ เรื่องความร้อนคงไม่สามารถแก้อะไรได้มากกว่าที่ศูนย์ทำ แต่เรื่องปลาวาฬกับเรื่องที่ต้องกรอคันเร่งนี้ไม่น่าจะเป็นปัญหาที่แก้ไม่ได้นะครับ

หวังว่าข้อมูลที่อธิบายคงช่วยหลายๆ ท่านได้มีแนวทางนะครับ ผมสรุปมาจากประสบการณ์ส่วนตัวที่โตมาในอู่รถจักรยานยนต์ ผิดถูกอย่างไรขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย mon32
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: คุณชายตั้ม ที่ กรกฎาคม 22, 2013, 08:45:18 PM
ผมเคยเห็นคอมเม้นท์นึง บอกว่าเปลี่ยนสายอะไรไม่รู้อะคับที่ถังน้ำมันลากลงมาข้างล่างป้องกันอาการปลาวาฬ. เหมือนกับระบายอากาศออกจากถังครับ
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: ole ที่ สิงหาคม 08, 2013, 03:51:56 PM
ทุกอย่างต้องสัมผัสเองคับ แล้วจะรู้
ปล แต่ผมรักดูคาติ abc18 abc18 abc18
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: Bestsamui ที่ สิงหาคม 10, 2013, 02:57:25 PM
มือใหม่ครับ กำลังจะมีกะเขาบ้างคับ ไม่ทราบว่าตอนนี้ได้มีการแก้ไขอะไรบ้างคับ ผมจะควบ795 abs โปร termi คับ
ขอบคุณครับ mon42
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: คุณชายตั้ม ที่ สิงหาคม 10, 2013, 09:43:30 PM
ตัวนี้น่าจะแก้แล้วนะครับจะมีก็แค่ความร้อนเวลาขี่ ที่จะอยู่กับเราอย่างยั่งยืน 55 แต่เราก็รับมันได้ อิอิ mon47
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: Bestsamui ที่ สิงหาคม 11, 2013, 09:17:34 AM
ตัวนี้น่าจะแก้แล้วนะครับจะมีก็แค่ความร้อนเวลาขี่ ที่จะอยู่กับเราอย่างยั่งยืน 55 แต่เราก็รับมันได้ อิอิ mon47

ขอบคุณครับบบบบ abc48
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: laicoltcb ที่ ตุลาคม 02, 2014, 12:54:18 PM
ผมขับ 796 ออกวันแรก วันที่ 8 มิถุนายน 2557 ขับไปเจิมที่บ้านเกิดเลย 190 กม จาก กทม ความเร็วที่ ระยะ 110-120 กม/ชม พัก 1 ครั้ง ที่ระยะ 70 กม ขากลับวิ่งยางเลยไม่พัก 190 กม ความร้อนขึ้น 5 ขีด ถังน้ำมันไม่มีปลาวาฬครับ บ.แก้ใขเปลี่ยนวัสดุผลิตถังใหม่ไม่ใช่โลหะแล้วครับ 
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: Glockong ที่ กันยายน 24, 2015, 12:53:11 AM
ผมเห็นว่าในโพสต์ มีแต่ทนายความ และนักเรียกร้องสิทธิ ...ผมอยากเห็น Mechanical eng. ขี่ม้าขาวมาช่วยมากกว่า
ฝ่ายบุ๊นจะร้องสิทธิ์อะไรก็ดำเนินการต่อไป...ส่วน quick win นี่จะเอาไงกันดีครับ ผมเห็นมีอยู่สองท่านพูดถึงพัดลมกับฮีตซิงค์ แต่ไม่มีใครสนใจเลย หรือว่าลองกันแล้วครับ ผมว่าน่าลองทำดูมากครับ สร้างอุโมงค์ลม แล้วเอาพัดลมมาติด ใส่ เทอร์โมสตรัท ด้วยก็ได้  หรือจะเป็นสวิมซ์อากาศ แบบว่าความเร็วเกินเท่านี้ พัดลมดับ ถ้า วิ่งช้าพัดลมติด...อะไรแบบนี้น่าเอาไปต่อยอด หรือส่งไอเดียไปให้ บริษัทแม่ทำเองออกมาเลย..ขายมาชุดละสามสี่พันก็มีคนซื้อครับ...เพราะตอนนี้ผมกำลังคิดจะทำต้นแบบอยู่ แต่หยั่งว่าผมไม่ได้มีโรงงานหรือเครื่องมือผลิตอะไรเลย ว่าจะทำเป็น โมเดลกระดาษ แล้วส่งให้พี่เลี่ยนแมร่งเลย ..5555เอ๊ะหรือว่าจะจดลิขสิทธิ์ดี 5555 ขอบอกว่าประเทศไทยไม่มีประโยชน์ แค่เปลี่ยนพัดลมสี่เหลี่ยมเป็นกลม ก็ไม่ละเมิดแล้ว อยู่เมืองไทยเลยไม่ค่อยอยากคิดอะไรใหม่อ่ะ ลิขสิทธิ์ไม่มีทำไปก็เหนื่อย
แต่ผมอยากทำติดรถตัวเองน่ะ
หัวข้อ: Re: เทคนิคการแก้ปัญหาการระบายความร้อนของรถอย่างยั่งยืน
เริ่มหัวข้อโดย: Glockong ที่ กันยายน 24, 2015, 12:59:09 AM
เอาเวลามานั่งคิดทำ duct case แล้วติดพัดลมกับฮีตซิ้งค์ดีกว่ามั๊ยครับ...!
แก้ตรงจุดไปเลย ร้องเรียนไปให้เมื้อย เครื่องไม่หายร้อนครับ ผมกำลังจะทดลองอยู่ครัช......