Ducati Bikers Thailand
Online Magazines => User Review => ข้อความที่เริ่มโดย: G-FORCE (หมู) ที่ เมษายน 24, 2015, 10:59:33 PM
-
Full Review by หมู G-FORCE: Scrambler Ducati รถจิ๊กโก๋ดูคาติที่จะเปลี่ยนทัศนคติรถ L-Twin ของคุณ
บ่ายวันนึง ขณะที่กำลังนั่งว่าง ๆ จิบกาแฟยามบ่าย (เพราะอู้งาน) อยู่แถวบ้าน ผมได้รับโทรศัพท์จากคุณทรายว่า Scrambler คันทดสอบมีคิวว่างแล้วสามารถนำไปทดสอบได้ หลังจากวางสายด้วยความลิงโลดราวกับเด็กกำลังจะได้ของเล่นใหม่และแรงปราถนาเนื่องจากร้างราจากการเขียนรีวิวไป 2 ปี สุดท้ายรีวิวฉบับเต็มของเจ้า Ducati Scrambler ก็ได้เริ่มขึ้น
และเช่นเคย รีวิวรถสไตล์ G-FORCE จะไม่มานั่งอธิบายข้อมูลทางเทคนิคเชิงลึก ปริมาตร ตัวเลขต่าง ๆ อัตราเร่ง สัดส่วนตรงนู้นตรงนี้ให้ปวดหัวเสียเวลา อ่านไปก็ไม่รู้เรื่อง และหาอ่านเอาที่ไหนก็ได้ เราว่ากันด้วยเรื่องของความรู้สึกของผู้ใช้กับสิ่งที่เจอล้วน ๆ ภาษาก็ไม่ได้ทางการสวยงาม ผมเขียนเพื่อให้คนที่สนใจรถรุ่นนี้ได้มีข้อมูลในการตัดสินใจและรู้ว่าจ่ายเงินไปแล้วได้อะไร!
ด้วยความที่ Ducati ปิด ๆ บัง ๆ รถรุ่นนี้มาตั้งแต่ปี 2014 เห็นไฟหน้ามั่ง ล้อบ้าง เงารถบ้าง ดูแล้วออกแนววินเทจ ย้อนยุค แต่ไม่ได้เห็นรูปเต็มคันสักที บวกกับกระแสรถคลาสสิคช่วงนี้บ้านเรากำลังมาแรง ยิ่งทำให้เกิดความสงสัยว่ารถที่ Ducati กำลังจะปล่อยออกมาจะเป็นรถประเภทไหนกันแน่
(http://image.ohozaa.com/i/cca/W1s1kj.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/yiRoJJrncDKbgIjA)
ย้อนกันกลับไปถึง Ducati Scrambler รุ่นแรกเป็นรถสูบเดียวถูกผลิตขึ้นในปี 1962 (พศ 2505, เกิดกันรึยังนิ) ด้วยความตั้งใจที่ให้รถมีความเป็นออฟโรด (off-road) อยู่ในตัว เจ้า Scrambler เกิดจากการโมดิฟาย Ducati Diana ตามคำขอของบริษัท Berliner จากสหรัฐอเมริกาที่ต้องการให้ Ducati ผลิตรถอเนกประสงค์ที่ใช้งานได้หลากหลายสำหรับวัยรุ่น รวมทั้งทำให้วัยไม่รุ่นรู้สึกเกิดแรงบันดาลใจ กระชุ่มกระชวยที่จะกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง Scrambler 250 คันแรกวางขายที่อเมริกาปี 1964 ด้วยเครื่องยนต์แบบ Narrow Case
(http://image.ohozaa.com/i/a96/JC1OXO.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/yiRoHBzhvs2s7agO)
ในปี 1968 Ducati ทำการปรับโฉมใหม่ให้ Scrambler ด้วยการเปลี่ยนเครื่องยนต์เป็นแบบ Wide Case ตัดความเป็นออฟโรดออกไป เน้นการใช้งานบนถนนมากขึ้น และรุ่นที่ 2 นี้เองที่ได้กลายมาเป็นรถคลาสสิคเป็นที่ต้องการของนักสะสมจนถึงปัจจุบัน ตัวรถยังคงเป็นแบบสูบเดียว ถูกผลิตขึ้นมาทั้ง 250, 350 และ 450 ซีซี. (ในยุโรปเองมีขายรุ่น 150 ซีซี.ด้วย)
(http://image.ohozaa.com/i/cca/W1s1kj.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/yiRoJJrncDKbgIjA)
จากความต้องการให้เป็นศิลปะที่สามารถใช้ในชีวิตประจำวันได้ วิศวะกรได้ออกแบบให้การกระจายน้ำหนักของผู้ขับขี่อยู่กึ่งกลางรถ เครื่องยนต์เดินเรียบ ขี่ง่าย และเฟรมที่ออกแบบมาดี Scrambler เป็นรถที่เหนือความคาดหมายของคนในยุคนั้น ตัวรถถูกผลิตด้วยสีที่สะใจวัยโจ๋ (hipster) โดดเด่นทั้งสีเหลือง และสีส้มเพื่อเป็นการผสมผสานของสไตล์ในยุค 60 จากฝั่งยุโรปและอเมริกาเข้าด้วยกัน โฉมที่ 2 ของ Scrambler ถูกผลิตจนถึงปี 1974 (พศ 2517)
มาถึงวันนี้ ดีเอ็นเอ แห่งยุค 70 ถูก Ducati นำมาปัดฝุ่นคืนชีพอีกครั้งเมื่อปี 2014 ก่อนเปิดผ้าคลุมอย่างเป็นทางการเมื่อต้นปี 2015 ที่ผ่านมาเป็นรถรุ่นที่ 3 ภายใต้ชื่อสุดคลาสสิค Scrambler Ducati
(http://image.ohozaa.com/i/10e/ltfy6c.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/yiRsH2JjqMJNRNA8)
(http://image.ohozaa.com/i/ad8/nI0BYu.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/yiRrRDOqjv4axHsW)
รูปลักษณ์ภายนอก
ถ้าใครช่างสังเกตุหน่อยจะรู้ว่า Ducati ถือเป็นเทพแห่งการนำประเภทของรถมาตั้งเป็นชื่อรุ่นรถของตนเองอยู่แล้ว อาทิเช่น สตรีทไฟเตอร์ (streetfighter) หรือ ไฮเปอร์โมตาด (hypermotard) ถ้าถามว่า Scrambler คือรถประเภทไหน จะว่าไปแล้วบางคนบอกหน้าตามันดูไปมาคล้าย Sportster จากสไตล์รถและสีสันมันก็ดูคลาสสิค จากยางของมันและการยกสูงทำให้ดูเป็นวิบาก ประหลาดแบบนี้เมืองนอกเค้าเรียกมันว่า Scrambler!
(http://image.ohozaa.com/i/6be/BjlbC1.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/yiRtBLkqNDBlQJBq)
ใช่ครับ Scrambler เป็นชื่อรถประเภทหนึ่ง นิยามของคำว่า Scrambler นั้นมีความเกี่ยวข้องกันกับสไตล์ของรถวิบากอย่าง Motocross และ Dirt Bikes ภายหลังมีการปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับการวิ่งบนถนนทางเรียบมากขึ้น ตัวรถเองมีบุคคลิกคลาสสิคแบบขี่สนุกแต่ยังคงลักษณะลุยลุยอยู่บ้างเช่น ล้อซี่ลวด ยางกึ่งวิบาก และทรงท่อไอเสียทรงสูงออกข้างรถ
เพราะฉะนั้นแน่นอนว่าสิ่งที่ Ducati ทำไม่ใช่รถคลาสสิคเต็มตัว อย่าเอาหน้าตามันไปเทียบกับ Triumph Bonneville แล้วบอกว่ามันคลาสสิคสู้ไม่ได้ ใช่สิ ก็มันเป็นรถคนละประเภทนี่ครับ
เริ่มจากด้านหน้ากับไฟหน้าดวงโต มีไฟ LED เป็นลูกเล่นอยู่โดยรอบตามสมัยนิยม มองเข้าข้างในตรงกลางแอบมีโลโก้ปิ๊กกีต้าร์ฝังไว้ในโคม คงความคลาสสิคด้วยไฟเลี้ยวสีส้ม สว่างสดใส ชัดเจน
(http://image.ohozaa.com/i/5cf/sBHVgD.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/yiRubzbjrjooBkpv)
ต่ำลงมาเราจะเจอออยคูลเลอร์ขนาดจุ๋มจิ๋มทำหน้าที่ลดความร้อนของน้ำมันเครื่องด้วยอากาศ แปลแบบชาวบ้านว่า รถวิ่งจึงจะเย็นครับ
(http://image.ohozaa.com/i/b22/bWdnai.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/yiRuPYL3LvYERWHr)
ด้านขวาของตัวรถมีแครงค์เครื่องและครอบสายพานอลูมีเนียมชนิดที่ว่า “หน้าตาดีตั้งแต่เกิด” หากเทียบกับรุ่นพี่ซึ่งเป็นเพียงพลาสติคธรรมดา จะขัดใจก็ตรงทรงของท่อไอเสีย ซึ่งโดยปกติแล้ว Scrambler สไตล์ดั้งเดิมต้องเป็นท่อทรงสูง ไม่ว่าจะ Honda, BMW หรือ Triumph ที่ทำรถ Scrambler ต่างทำท่อทรงสูงยิงออกข้างกันหมด! น่าเสียดายที่ Ducati บั่นทอนความสามารถในการลุยทางฝุ่นและความคลาสสิคของ Scrambler ลงไป
(http://image.ohozaa.com/i/c63/atwlrK.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/yiRve5jr2ZNdLD6x)
เครื่องยนต์ 803 ซีซี ตัวเดียวกับ Monster ดีไซน์สไตล์ minimalist โชว์แต่เครื่องไม่มีอย่างอื่นให้รกรุงรัง มีแครงค์เครื่องหน้าตาดี (อีกแล้ว) พักเท้าที่ให้มาลายเหมือนของ Monster 796 แม้ไม่ได้เกาะติดรองเท้าแบบตีนตุ๊กแกแต่ก็ไม่ลื่นไถลง่าย ๆ แน่นอน
(http://image.ohozaa.com/i/c3e/WFWMnk.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/yiRw6k3Mr0CAyZls)
(http://image.ohozaa.com/i/ce9/R4iC4P.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/yiRw9RQBgI4Dbll4)
ด้านท้าย ไฟท้ายสวยงามลงตัวด้วยไฟท้ายแบบ LED สว่างชัดเจน ตัดกับไฟหรี่รูปตัว U พะด้วยโลโก้ Ducati ที่เบาะ แอบเห็นแฮนด์ทรงสูงทรงคล้ายนกกำลังบิน ยางหลังดอกเยอะสะใจวิ่งลุยได้สไตล์รถวิบาก ใครชอบขี่สนุก ๆ ลุย ๆ ไม่ต้องเปลี่ยนให้เปลืองเงิน
(http://image.ohozaa.com/i/7bb/jlnY5c.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/yiRxo5heeFgjsfo1)
ด้านหลังมีกันดีดมาให้ไว้ใส่ป้ายทะเบียน ถ้าอยากให้รถสวยก็เอาออกครับ บางคนบอกกลัวน้ำกระเด็นเวลาขี่ เชื่อผมต่อให้มีติดไว้ก็เลอะอยู่ดี
(http://image.ohozaa.com/i/828/Kw80YN.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/yiRxu6UP3Bioc3PX)
กุญแจทรงกีต้าร์ไฟฟ้าที่ให้มาโดนฝังด้วยชิพ ใครเอากุญแจเราไปก๊อปเหมือนแค่ไหนก็สต๊าทรถไม่ติด รถไม่หายแต่ “ชิพหาย” (ไม่ใช่ฉิบหาย อ่านดีดี) งานจะงอกเพราะค่ากุญแจชิพราคาเอาเรื่องเช่นเคย
(http://image.ohozaa.com/i/dc1/KL20N2.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/yiRy1MTBZG9eKUij)
ฝาถังน้ำมันดีไซน์เก๋ เขียนไว้ว่า BORN FREE 1962 อันเป็นการบอกถึงประวัติความเป็นมาของรถรุ่นนี้ตั้งแต่ปี 1962
(http://image.ohozaa.com/i/cd8/S0pABx.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/yiRxXbaKjb19Sh5A)
ประกับซ้าย เลื่อนซ้ายขวาเป็นการเปิดไฟเลี้ยว หากดันซ้ายค้างประมาณ 4 วินาทีจะเป็นการเปิดไฟฉุกเฉิน ปุ่มเลื่อนขึ้นลงมีไว้ใช้ดูข้อมูลของตัวรถ (แสดงผลที่เรือนไมล์) ด้านหลังมีก้านชักไฟสูงอีก 1 ชิ้น ปลอกแฮนด์หนืบกำลังดีและต่อให้ไม่ใส่ถุงมือกำนาน ๆ ก็ไม่เจ็บ
(http://image.ohozaa.com/i/435/YB6Rxg.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/yiRyKsdxISWfDhMV)
ด้านขวาเป็นสวิตซ์ เปิด-ปิดเครื่องยนต์ ดันลงมาคือปิด ดันขึ้นจะเจอปุ่มเมื่อกดลงไปก็จะเป็นการติดเครื่องยนต์
(http://image.ohozaa.com/i/eab/bspp95.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/yiRzdauMGZfslwWD)
เรือนไมล์ดิจิตอลดีไซน์สวยงาม แต่บอกฟังค์ชั่นไม่ครบถ้วน (อ่านไปเรื่อย ๆ จะรู้ว่าขาดอะไรไป) เข็มวัดรอบเป็นครึ่งวงกลมอยู่ด้านล่างของเรือนไมล์ สวยดีแต่อ่านรอบยากครับ ตรงกลางบอกความเร็ว ไฟบอกตำแหน่งเกียร์ไม่มี มีแค่สถานะเกียร์ว่างโชว์เท่านั้น ข้อดีคือมีระบบป้องกันความอับอายขายขี้หน้าเพราะมีบอกด้วยว่าขาตั้งข้างรถยกขึ้นหรือยังในกรณีที่เราลืมยกขาตั้งข้าง (ทรงแปลกประหลาด) ขึ้นก่อนออกตัวแล้วทำให้เครื่องดับ
(http://image.ohozaa.com/i/9e2/JpGUXK.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/yiRA8X1WUJQnYGyy)
หากเลื่อนประกับซ้ายขึ้นลงจะสามารถตั้งค่าต่าง ๆ ได้ เช่น เปิด-ปิดระบบ ABS, ตั้งหน่วยเป็นกิโลเมตร หรือไมล์, ตั้งความสว่างหน้าจอ, เช็คค่าไฟของแบ๊ตเตอรี่ และตั้งนาฬิกา บางคนบอกทำไมฟังค์ชั่นมันคุ้นตา ก็เพราะมันเหมือน Monster 795/796 ทุกอย่างเลยครับ
(http://image.ohozaa.com/i/db2/bTVQ18.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/yiRAVw7nLukw2FBd)
สายไฟ สายเบรคทั้งมวล โดนเก็บอยู่ด้านหลังกระบอกโช๊คเช่นนี้ ลองหักซ้าย-ขวาดูแล้วไม่มีสายเส้นไหนงัด บิด หัก งอให้เสียหายหากใช้งานระยะยาว (ส่วนมากกรณีนี้เกิดกับรถที่นำไปแต่งหลังจากซื้อแล้วช่างเก็บสายเก็บงานเข้าที่ไม่เรียบร้อย รายละเอียดเล็กน้อยก็จริงแต่สำคัญครับ ลองเช็คกันดูครับ)
(http://image.ohozaa.com/i/bff/alSo3W.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/yiRCJxoTmTcf7J6j)
ด้านหน้าเป็นโช๊คกลับหัว มีพลาสติคกันกระแทกกระบอกโช๊คมาให้สำหรับขาลุย จานเบรคมีแค่ข้างเดียว ปั้มเบรคหน้า Brembo ก็มีแค่ตัวเดียว และเป็นปั้มตัวเดียวกับที่ติดรถ Hypermotard 821 มาให้จากโรงงาน
(http://image.ohozaa.com/i/d48/DGUNVp.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/yiRDbTHs3mCconiY)
ปั้มเบรคหลังเป็นแบบกดจานจากด้านเดียว ไม่ได้เป็นปั้มลูกสูบเต็มกดจานสองข้างแบบรุ่นอื่น ๆ
(http://image.ohozaa.com/i/5df/wDPD9B.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/yiRDFjW3AGvExnnn)
เบาะนั่งโอเค นุ่มกำลังดี งานเย็บเรียบร้อย ประกอบได้แนบสนิทตัวถัง
(http://image.ohozaa.com/i/c50/GnRydO.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/yiRF2KOpVHvLiu3m)
(http://image.ohozaa.com/i/b8b/9p4un7.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/yiREB6tdOnHCevdt)
กุญแจเปิดเบาะนั่งเสียบจากด้านล่างตามรูป
(http://image.ohozaa.com/i/7e8/LSbjeq.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/yiREnDhj270Ik6BR)
ด้านใต้ของเบาะนั่งจะมีช่องเก็บของอยู่ด้วยสามารถใส่โทรศัพท์หรือซองเอกสารสำคัญของรถได้
(http://image.ohozaa.com/i/55a/we0dPB.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/yiRExcHIGPL2L6n1)
มีช่องเสียบ USB ให้มาเลย ดีมั่กมั่ก เราสามารถชาจอุปกรณ์ไฟฟ้าเคลื่อนที่ได้เท่าที่จำเป็นเวลาขี่ทางไกล
(http://image.ohozaa.com/i/805/rTnR0m.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/yiRG0jeZz5rs6xYz)
-
ท่านั่ง มุมมอง เทคโนโลยี และฟิลลิ่งการขับขี่
วันที่ไปรับรถ รถที่ผมได้มาทดสอบเป็นตัว ICON ถือเป็นตัวพื้นฐานสุดของ Scrambler ความรู้สึกแรกตอนก้าวขาขึ้นคร่อม รู้สึก....ปลอดภัย! ไม่ต้องกังวลว่าปลายเท้าจะไปป้ายเอาครอบเบาะเป็นรอยหรือจะหวดจรเข้ฝาดหางใส่ไฟเลี้ยวเพราะตัวรถเองท้ายยกไม่สูง ตัวรถไม่เตี้ยไป หรือสูงไป (ผมสูง 175 ซม.) วางฝ่าเท้าได้เต็มสองเท้า เบาะนุ่มกำลังดีไม่รู้สึกยวบยาบ ขี่ทางไกลสบายเพราะเข่างอเพียงเล็กน้อย และนี่คือมุมมอง 360 องศา
(http://image.ohozaa.com/i/4c1/PZYdgw.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/yiRJfjbGlzLXmpr3)
(http://image.ohozaa.com/i/e60/yPhAeM.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/yiRHV47syIIujO4i)
(http://image.ohozaa.com/i/db6/AajVlV.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/yiRI29H6epDqSajG)
(http://image.ohozaa.com/i/786/cbh8J9.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/yiRId92f1xkRbkap)
(http://image.ohozaa.com/i/c46/6Wm12o.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/yiRIkAAyYx73Bf27)
(http://image.ohozaa.com/i/ba7/HofwPs.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/yiRIpUgNempxXhqA)
ด้านหลังมีที่จับคนซ้อนแต่ตำแหน่งการจับไม่ได้ร่นไปด้านหลัง แต่อยู่ขนานลำตัวทำให้ไม่ได้ช่วยรั้งตัวคนซ้อนแต่อย่างใด
(http://image.ohozaa.com/i/938/Hcd06k.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/yiRJInrBBgflp5J3)
พอวางมือลง เฮ้ย ทำไมแฮนด์สูงจัง กว้างด้วย ก็เข้าใจนะว่าติดดีเอ็นเอรถวิบากมาแต่มันสูงไปป่ะ? มุมมองด้านหน้าคนขี่โล่ง โปร่ง
(http://image.ohozaa.com/i/cc6/By10Oh.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/yiRKzyfU8hqqAD89)
ไม่คิดมาก ใส่หมวกเสร็จโบกมือลาทีมงาน Ducati ผมเลี้ยวซ้ายเข้าถนนวิภาวดีแล้ว พยายามพาตัวรถมุดเข้าสู่ “การจราจรติดขัด” ทันที ผมเคยบอกคุณก้องของทาง Ducati แล้วว่าผมทำรีวิวแบบใช้ในเมืองนะครับเพราะผมเชื่อว่า 80-90% ของคนซื้อ Scrambler ใช้รถคันนี้ในเมืองแน่นอน
(http://image.ohozaa.com/i/d6a/4Y4AUm.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/yiRLjhvSIhN7K38f)
บิดคันเร่งออกไป รถให้แรงดึงสะใจเช่นเดิมตามสไตล์เครื่อง L-Twin (วางลูกสูบเป็นลักษณะตัว L) แม้ว่าทาง Ducati จะบอกผมมาว่า “รถไม่แรงนะครับ ถึงจะ 800 ซีซี แต่มีการตัดทอนกำลังออก 10% เพื่อให้ขี่ง่ายขึ้น” แต่เชื่อผมเปิดคันเร่งแรงมีหน้าลอยได้เหมือนกัน
ตบเกียร์สอง เกียร์สาม รถให้แรงดึงต่อเนื่อง มีกำลัง แต่สิ่งที่ต่างไปของ Scrambler คือ “เสียงเกียร์” ปกติใครเคยขี่ Ducati จะชอบมีคำถามมาถามว่า เกียร์รถผมมีปัญหาไหมอ่ะ ผมเข้าเกียร์แล้วมันมี ปึ๊ก ปัก เสียงดังอย่างกับมีอะไรหลุด อะไรหัก ถามว่า Scrambler มีไหม คำตอบคือมีครับ แต่น้อย น้อยมาก น้อยลงเยอะ เกียร์เข้าง่ายกว่า และช่วงต่อไหลลื่นกว่า 795/796 มากทีเดียว
ข้างหน้าเจอรถติด ปล่อยคันเร่ง เอ็นจิ้นเบรคยังคงมีน้ำมีเนื้อ ทำงานดีดังที่เคยเป็นมาในรถหลายรุ่นของ Ducati โดยส่วนตัวแล้วผมไม่ค่อยใช้เบรคเท่าไหร่ถ้าไม่จำเป็นเพราะถ้าเราใช้เกียร์และรอบเครื่องเหมาะสมเอ็นจิ้นเบรคของรถสูบ L จะดึงความเร็วของรถให้ชะลอได้ง่ายมากครับ
ถึงเวลามุดตัวผ่านรถติดของถนนวิภาวดี กระจกมองข้างขนาดเท่าใบลานทำหน้าที่สะท้อนวัตถุที่ตามหลังมาได้เป็นอย่างดี มองเห็นชัดเจน และสั่นน้อยกว่า 795/796 เยอะเลย จะติดก็ตรงที่ว่าความยาวของมันเลยแฮนด์ออกมาทำให้เวลาขี่ต้องคอยระวังไม่ให้ใบลานไปตบกระจกมองข้างรถเก๋งของเพื่อนร่วมท้องถนน
(http://image.ohozaa.com/i/b28/hTtXU0.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/yiRLXl6WL2dR1SzJ)
(http://image.ohozaa.com/i/8e6/djOtkJ.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/yiRLSJo54uYGSkF0)
เครื่องที่ทาง Ducati ปรับจูนมาใหม่บวกกับสเตอร์หลังขนาด 46 ฟันเป็นสิ่งที่ประเสริฐ เลิศล้ำ เกินพรรณนาสำหรับคนที่ขี่รถในเมืองที่รถติดมากมาก ผมไม่ได้พูดเกินจริงนะ! ถ้าขี่รถ Ducati มุดเวลารถติด สิ่งที่คนทั่วไปบ่นคือ.....เมื่อยจัง กำคลัทช์ เลี้ยงคลัทช์ ทำไมรอบต่ำมันกระตุกจังวะ เครื่องจะดับไหมเนี่ย ขี่ไม่สนุกเลย ใช่ป่ะ ใช่ป่ะ บ่นมะ บ่นนนนน บ่นกันหมดตอนได้รถมาแล้วยังไม่เข้าใจลักษณะของเครื่องยนต์ L-Twin ของค่ายปิ๊กกีต้าร์ แต่เชื่อผมเหอะ “คันนี้แทบไม่เป็น” ยังไม่ลื่นเท่าสี่สูบแต่มันก็เนียนที่สุดเท่าที่เคยขี่มาเลย เกียร์หนึ่งไหลลื่น วิ่งฉิวผ่านช่องระหว่างรถได้แบบไม่มีกระตุกให้ลุ้น บีบคลัทช์อีกทีนู่นเลยตอนกำเบรคจอดรถเข้าเกียร์ว่าง โอ้ พระเจ้าจอร์จ จอดรถไฟแดงแรกแทบจะยกมือขึ้นอธิฐานหลังจากนี้ไปผลิตรถออกมาให้ขอเชื่องเป็นพุดเดิ้ลแบบนี้ทุกคันเลยได้ไหม!
(http://image.ohozaa.com/i/72c/vN4pw1.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/yiRMDwA6v3UcdJk8)
ไฟเขียว เลี้ยวขวาเข้าอนุสารีย์ชัย รถติดสุดสุด ข้อเสียของแฮนด์ที่กว้างมากทำให้เวลามุดในช่วงที่รถติดนิ่งสนิทเป็นสิ่งที่ต้องกะดีดี ต้องคำนวนวงเลี้ยวกันล่วงหน้านิดหน่อย และเวลาเลี้ยวจนสุด มันสุดแขนเลยจริง ๆ จนตัวต้องโน้มไปข้างหน้า นับเป็นข้อเสียอีกข้อสำหรับคนที่ช่วงแขนสั้น
(http://image.ohozaa.com/i/69f/MEFMry.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/yiRNdGpFqfPS3s2q)
ถามว่าร้อนไหมเวลารถติด ตอบว่าร้อนครับ แต่คันนี้มาค่อนข้างแปลก รถขยับเพียงนิดเดียวหายร้อนทันที แม้ว่าจะแค่ขยับแบบกระดิกนิดเดียว ประมาณว่าความเร็ว 10 กม./ชม. หน้าแข้งหายร้อนเลย ไม่มีอารมณ์มาแสบขาตลอดเวลาที่ขี่เหมือนรุ่นพี่ ดีจุงเบยย
(http://image.ohozaa.com/i/ad5/h7miDI.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/yiRO6D7nntSnosBp)
ผมตัดสินใจเลี้ยวซ้ายเข้าถนนศรีอยุธยา วิ่งเส้นใต้ทางด่วนเพื่อหาที่ว่างทำความเร็วนิดหน่อยเพื่อทดสอบระบบขับขี่ ต้องออกตัวก่อนเลยว่าตอนเห็น Scrambler ครั้งแรกรู้สึกหงุดหงิดมากกับ “จานเบรคข้างเดียว และปั้มเบรคตัวเดียว” ที่ติดรถมา ก็พอเข้าใจกับความแนวที่ Ducati พยายามทำให้รถคันนี้เป็นแต่เรื่องเบรคมันดูไม่ค่อยน่าแนวไหมครับ และก็เป็นอย่างที่ผมคิดจริง ๆ รถคันนี้เบรคได้ แต่ไม่กริ๊บ หมายความว่าถ้าขี่มาแล้วบีบเบรคหน้า รถจะไม่มีอาการ “จิก” ให้เห็นเหมือนรุ่นอื่นที่เป็นจานคู่ จะแค่ชะลอรถลง แต่ว่า Ducati เองทดแทนความแนวด้วยการใส่ระบบ ABS มาให้ซึ่งผมว่าใช้ได้เลยแหละ ไว้ใจได้ สามารถทดสอบได้เลยโดยการขี่ขี่อยู่แล้ว “กำเบรคสุดแรง” กล้ากล้ากำไปเลย หน้าไม่จิกก็จริงแต่ระยะเบรคไม่ยาวอย่างที่คิด เอาเป็นว่าคะแนนไม่เต็ม แต่ผ่านครับ รับได้
(http://image.ohozaa.com/i/bee/xNH0Fi.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/yiROUY6dDSzCxaG6)
ช่วงล่างทำมาค่อนข้างนุ่มเหมาะกับการใช้งานในเมือง ขี่เร็วกำเบรคยวบไปนิดนึง แต่ไม่นิ่มจนน่าเกลียด ข้อดีคือเวลาเจอทางขรุขระ ผมนี่ลุกขึ้นไม่คิดจะเบรคเลย จากต้องเบรคตัวโก่ง อันนี้จะมีอารมณ์อยากพุ่งเข้าใส่ ทั้งยาง ทั้งช่วงล่างออกแบบมาให้คุณอยากเอามันไปวิ่งบนทางที่ไม่ค่อยเรียบ สนุกดีครับ
กลับมาที่ถนนศรีอยุธยา ตัดสินใจขึ้นสะพานข้ามแยกเพราะรถติดเหลือเกิน เปิดคันเร่งอีกครั้ง รถพุ่งออกไปอย่างเร็ว ลงสะพานมา วิ่งเลนขวาด้วย ไอ้ย่ะ!!! คุณตำรวจโบกมือรออยู่ตีนสะพานแล้ว อีกหนึ่งเรื่องที่ไม่เห็นทาง Ducati ออกมาป่าวประกาศแต่ค้นพบได้หลังจากการทดลองขี่คือเรื่องของ สลิปเปอร์คลัทช์ ถ้าจะคุยลงลึกมันจะยาวมาก เอาเป็นว่าสรุปสั้น ๆ ให้เข้าใจได้คือ “รถคันนี้ถอยเกียร์ลงได้เนียนมาก” หมายความว่าถ้าคุณวิ่งมาที่เกียร์สามแล้วต้องการเบรคกระทันหันแล้วใช้การลดเกียร์ช่วยให้รถหยุดเร็วขึ้น คุณสามารถกำเบรคแล้วตบเกียร์ลงได้เลยโดยไม่ต้องกลัวล้อหลังจะปัดจนรถเสียการควบคุม เจ๋งป่ะล่ะ เจ๋งสิ ผมหยุดทันคุณตำรวจโบกด้วย ล้อหลังไม่ไถลสักนิด ค่าเรียนรู้และทดสอบสลิปเปอร์คลัทช์ในสถานการณ์ฉุกเฉิน 200 บาทครับ
(http://image.ohozaa.com/i/462/F0WC8L.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/yiRPxBMyyhld1o1z)
คุณตำรวจเดินเข้ามาหลายคน ถามว่ารถอะไรไม่เคยเห็น ระหว่างอธิบาย (ว่าผมผิดแต่อย่าจับผมเลยยย) เรื่องตัวรถ ผมถึงเข้าใจว่าจริงจริงแล้วรถคันนี้ลูกเล่นเหมือนกันกับ Ducati Monster 796 อย่างกับแกะ บนเรือนไมล์ลูกเล่นทุกอย่างเหมือนกันหมดแกะกันมาเลย ต่างกันก็แค่รูปแบบของหน้าจอและวิธีนำเสนอเท่านั้น และก็....ยังมีสิ่งที่เหมือนกันอีกอย่าง และเป็นอะไรที่ผมไม่เข้าใจมาจนถึงวันนี้ ไอ้ที่วัดระดับน้ำมันที่เหลือในถัง มันทำยากมากนักเหรอครับ จะกี่ปีก็ไม่ทำ ยังไงก็ไม่ยอมทำ รถราคาเป็นแสนบอกระดับน้ำมันไม่ได้ แค่ขึ้นเป็นไฟเตือนเนี่ย ออกทริปกันเคยเกือบหาปั้มน้ำมันไม่ได้ในรัศมี 30 กม. มาแล้วนะครับ
(http://image.ohozaa.com/i/c6c/I7Hmac.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/yiRsk06Z083ugzCU)
จ่ายค่าปรับเสร็จ ลาคุณตำรวจ ทีนี้พลิ้วเลย (กระเป๋าแห้ง) จึงทำให้รู้ว่าเหตุผลที่ Ducati ทำแฮนด์ของรถมาค่อนข้างสูง เพื่อต้องการคงคอนเซ็ปรถขี่สนุกของ Scrambler ไว้เพราะการโยกรถและถ่ายน้ำหนักนั้นสามารถทำได้โดยง่าย พลิกรถได้ง่ายกว่าปกติ ขี่สนุก ยืนขี่ก็ได้ ยืนเลี้ยวก็ทำได้ (ถ้าแฮนด์ต่ำหมดสิทธิ์สนุก) ขี่แล้วจิ๊กโก๋มาก ๆ ครับ
กลับมาถึงบ้าน ลงจากรถ เอ๊ อะไรมันห้อย ๆ หว่า ก้มลงไปดูพบสายไฟเส้นนี้หลุดออกมา ผมไม่รู้คันอื่นเป็นไหม เรื่องปกติหรือไม่ปกติ แต่ที่แน่แน่ผมไม่ได้เลือกรถคันนี้เองด้วยสิ ก่อนส่งรถให้ผม ตรวจเช็คหรือเปล่า? ใครออกรถไปแล้วสังเกตุกันดูนะครับ
(http://image.ohozaa.com/i/b62/lakTDJ.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/yiRQOj3Xv5PyQVHi)
โดยสรุป
ข้อดีของ Scrambler ICON
- เครื่องยนต์อัตราเร่งดี ขับสนุก แรงเหลือเฟือในเมือง อัตราเร่ง 0-130 ไม่ใช่ปัญหาของรถคันนี้
- ยกขึ้นไว้บนหิ้งสูงสูงเลยสำหรับทำเนียบรถ Ducati ขี่ไม่กระตุก
- เกียร์ลื่นไหล เข้าง่าย เปลี่ยนเกียร์สนุก
- มีสลิปเปอร์คลัทช์ดีดีแถมมาให้โดยไม่โฆษณาด้วย
- เรือนไมล์สวยงามดูทันสมัย
- ท่านั่งชิลด์ ยืนขี่ก็ได้ พลิกซ้ายขวาก็ง่าย (ถ้าไม่เปลี่ยนแฮนด์)
- เจอหลุม เจอบ่อ แปลว่าไฟเขียวให้พุ่งเข้าใส่
- มีช่องเสียบ USB สามารถชาจโทรศัพท์ได้
ข้อเสียของ Scrambler ICON
- คนช่วงแขนสั้นขี่ลำบาก เลี้ยวเอื้อมกันสุดแขนไปเลย
- กระจกมองข้างใหญ่ไปหน่อย
- มือจับคนซ้อนมีให้แต่ใช้ไม่ได้จริง
- ไม่มีเกจวัดระดับน้ำมันเชื้อเพลิง (ทำสักทีเถอะ)
- มีจานเบรคเดียว ปั้มเบรคตัวเดียว เบรคหน้าไม่จิกเท่าที่ควร
- คุณภาพงานประกอบ อะไรกันวิ่ง ๆ อยู่มีสายไฟหลุดออกมา
- ค่า excess ประกัน 30,000 บาทต่อ 1 ล้มแล้วนะครับ
- อะไหล่ และค่าแรงศูนย์ยังคงมีราคาสูง (ถ้าไม่มีโปรโมชั่น)
แล้วรถคันนี้เหมาะกับใคร
ถ้าหากคุณกำลังมองหารถที่ขี่ง่าย ใช้งานได้ทุกวัน ขี่ไปซื้อส้มตำ ไปเซเว่นได้เหมือนรถทั่วไป หรือในขณะเดียวกันก็สามารถเอาไปใช้ซิ่งเล่นในวันหยุดได้สบาย ยิ่งไปกว่านั้นหากคุณเบื่อกับรถที่ใหญ่มาก ๆ ร้อนมาก ๆ หรือมีรถเทพอยู่แล้ว อยู่ในเมืองเบื่อรถติด แรงไปก็เท่านั้นต้องการไว้ใช้งานสบาย ๆ ดูชิล ๆ แต่ในขณะเดียวกันหากเจอรถเล็กเพี้ยน ๆ มาเบิ้ลคันเร่งข้าง ๆ คุณก็สามารถทิ้งฝุ่นไว้ให้เค้าดูต่างหน้าได้ไม่ยาก ถ้าที่ผมพล่ามมาตอบโจทย์ คุณต้องไปลองขี่ Scrambler
ส่วนตัวแล้วผมว่า Ducati สอบผ่านในเรื่องการทำรถระดับ เริ่มต้น หรือ New Entry ให้กับกลุ่มคนหรือลูกค้าที่ไม่เคยได้ลองรถของทางค่าย เท่ากับว่า Ducati มีรถระดับ “เริ่มต้น” ที่ขี่ง่ายอยู่ถึงสองคัน คือ Scrambler และ Monster โดยที่สองคันนี้เป็นรถที่มีบุคคลิกคนละแบบกันโดยสิ้นเชิง
รุ่นไหนดีล่ะทีนี้ (ราคา ณ เมษายน 2015)
ICON: สีแดงอยู่ที่ 369,900 บาท ส่วนสีเหลือง 374,900 บาท
Classic: ราคา 419,900 บาท
ERBAN Enduro: ราคา 419,900 บาท
Full Throttle: ราคา 419,900 บาท
ให้ไปเดินมองตัวจริงก่อนตัดสินใจ แนะจุดที่แตกต่างที่เห็นได้ง่ายมีดังนี้
- ICON ต่างกันแค่สีแดง สีเหลือง
- Classic สีรถทำย้อนยุคเหมือนครั้งคุณตาคุณยายยังวัยรุ่น ล้อเป็นซี่ลวดและเบาะหนังสีน้ำตาล คล้ายรถสมัยปี 1968 มาก
- ERBAN Enduro เป็นรถที่เข้าแนว Scrambler มากที่สุด หมายความว่าเป็นรถคลาสสิคแนวกึ่งวิบาก โคมไฟหน้าเป็นตะแกรง ขาดเพียงแค่ท่อออกข้างทรงสูงเท่านั้น
- Full Throttle คล้ายกับ ICON จะต่างที่ได้เบาะลายออกสปอร์ต แฮนด์ทรงต่ำ และท่อเสียแต่งมาให้เลย
ถ้ารู้สึกว่าเราเป็นคนแนวมาก ชอบแต่งตัวเซอ ๆ ฟังเพลง The Beatles แล้วอยากย้อนยุคกลับไปได้ รุ่น Classic กับ Enduro จะเหมาะกับคุณมาก เพราะ Ducati คัสตอม “ความแนว” มาให้คุณแล้ว (บางรายการ) กับราคาที่แพงขึ้น 50,000 บาท
ถ้าไม่ชอบแฮนด์ทรงสูง (ซึ่งมันขี่สนุกนะ) และอยากได้รถที่ดูสปอร์ต หรือรัก Termignoni เป็นชีวิตจิตใจให้เลือก Full Throttle
แต่ถ้าคุณไม่ได้ชอบล้อซี่ลวดขนาดนั้น หรือ เบาะลายแปลก ๆ ที่แถมมาให้ก็เฉย ๆ ไม่ได้ถูกใจอะไร ส่วนต่าง 50,000 บาทคิดว่าเอาไปแต่งอย่างอื่นได้ตรึมก็เลือก ICON จะแดงหรือว่าเหลืองต่างกันอยู่ 5,000 บาท
ไม่ว่าจะตัวเลือกไหนจำไว้ว่าเครื่องยนต์แรงเท่ากันทุกประการ และมันเป็นรถจิ๊กโก๋ที่ขี่ได้สนุกที่สุดรุ่นนึงในเวลานี้
(http://image.ohozaa.com/i/5e6/Afp9ro.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/yiRSXf5HPT0crOXi)
ขอขอบคุณ
คุณทราย, Public Relation, Ducati Thailand
คุณก้อง, Sales and Marketing Director, Ducati Thailand
เอื้อเฟื้อรถทดลองขี่
ผู้เขียน หมู G-FORCE
สงวนลิขสิทธิ์ ข้อความ เนื้อหา ทั้งบทความ โดยผู้เขียน
ลิขสิทธิ์ภาพถ่าย รถจักรยานยนต์ในประเทศไทย ทั้งหมด เป็นผลงานของผู้เขียน
ห้ามนำส่วนหนึ่งส่วนใดหรือทั้งหมด ไม่ว่าภาพ หรือบทความ ไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต
เผยแพร่ครั้งแรกใน www.ducatibikersthailand.com (http://www.ducatibikersthailand.com)
26 เมษายน 2015
Copyright (c) 2015 all texts and pictures/photos
-----------------------------------------------------------------------------------
บทความนี้จะไปอยู่ในเว๊บไซต์ของ G-FORCE ในอนาคตที่ www.gforcethailand.com (http://www.gforcethailand.com)
แสดงความคิดเห็น ติชม ตอนนี้ทำได้ที่ www.facebook.com/GForcethailand (http://www.facebook.com/GForcethailand)
-
(http://image.ohozaa.com/i/a6c/1b5dOp.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/yiRVVe3F0yyNuZAK)
หมู G-FORCE
www.facebook.com/Gforcethailand (http://www.facebook.com/Gforcethailand)
Youtube: G-FORCE CHANNEL
IG: #gforcethailand
-
จองเกิน ขออภัย mon32
-
จองเกิน ขออภัย mon32
-
ขอบคุณสำหรับรีวิวดีๆคับ อ่านจบนี่แทบวิ่งไปจองเลยคับ mon48
-
mon57 mon57 mon57 ขอบคุณบทความดีๆครับหมู
-
ละเอียดมากๆครับได้ข้อมูลดีๆเยอะเลยครับ abc24
-
กระทู้ปักหมุดเลยครับ ชัดเจนทุกรายละเอียด
-
คนที่สนใจอยู่คงกระจ่างขึ้น ไม่ได้ขี่สนุกอย่างเดียว เอามาแต่งสนุกตามแนวตัวเองได้อีก
-
ละเอียด ชัดเจนมากครับ