Ducati Bikers Thailand
หน้าแรก
ช่วยเหลือ
ค้นหา
สมาชิก
View the memberlist
ค้นหาผู้ใช้
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
Ducati Bikers Thailand
»
TRIP/MEETING/GALLERY
»
Showroom Ducati
»
Bigbike in my Memory ^^ รีวิว Diavel 1200cc. แล้วครับ หน้าแรก^^
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
หน้า: [
1
]
2
3
...
5
ลงล่าง
ผู้เขียน
หัวข้อ: Bigbike in my Memory ^^ รีวิว Diavel 1200cc. แล้วครับ หน้าแรก^^ (อ่าน 55021 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
WEBMASTER(กอล์ฟฟี่)
Administrator
กระทู้: 5787
Moto GP point: +169/-8
Bigbike in my Memory ^^ รีวิว Diavel 1200cc. แล้วครับ หน้าแรก^^
«
เมื่อ:
กุมภาพันธ์ 16, 2012, 03:22:04 PM »
จริง ๆ บทความต้น ๆ ในกระทู้นี้ ผมได้เขียนและแปะไว้ที่เว็บ ninja250thailand นะครับ แต่อยากเอามาแปะไว้ที่นี่้ด้วย จะได้เป็นเรื่องราวเผื่อเพื่อนๆ ใหม่ที่สนใจขี่สองล้อกันนะครับ
กระทู้นี้ เป็นการรวบรวมประสบการณ์ จากตัวกระผมเองนะครับ ตั้งแต่ วันแรก ที่อยากขี่มอเตอร์ไซค์ คันใหญ่ๆ หรือที่เค้าเรียกกันว่า บิ๊กไบค์ อื้มมมม (เพื่อจะได้เก็บไว้ในความทรงจำ ไว้กลับมาอ่าน แล้วคงรู้สึกดีมากครับ )
โดยจะขออัพไปเรื่อยๆ ไม่เร่ง ไม่รีบ นะครับ
ณ. จุดเริ่มต้นนั้น......ช่วงแรก ในการตัดสินใจจะมีมอเตอร์ไซค์ซักคัน ..
จำได้ว่า .. ก็ตื่นเต้นครับ เพราะไม่เคยขี่มาก่อนเลย แต่อยากลองจัง อยากขี่ อยากรับรู้แรงบิดที่ติดมือออกไปครับ หลังจากที่เราบ่น ๆ ๆ มานาน และเข้าดูเว็บมอไซค์ดอทคอม ดูรูปมอไซค์มือสอง บวกกับดูงบประมาณแล้ว เอ่อ ก็พอฟัดพอเหวี่ยงหารถเก่าๆมาลองขี่ได้อยู่นะครับ
แล้วอยู่ๆ พี่ที่ออฟฟิศเห็นว่าเราบ่น ว่าอยากขี่จัง ๆ ๆ เลยบอกขึ้นมาตอนทานข้าวกลางวัน.. ว่า พี่ที่รู้จักกัน เค้าขาย cb750 จะเอามั้ย
ตัดสินใจอยู่นานครับ.. งงๆ เหมือนกัน ว่ามันเป็นอย่างไร คันใหญ่ไหม คือเดิมขับแต่รถครับ ไม่รู้เลยจริง ๆ ว่าจะเริ่มยังไง ใบขับขี่ก็ไม่มี ..
แต่ในที่สุด กลางวันวันนั้น ก็ไปดูรถ แล้ววางมัดจำทันที วันถัดมา ก็ไปทำใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ (เช่ารถของขนส่ง และยืมหมวกด้วยครับ เพราะไม่เคยขี่เลย) แล้วอีกวันนึง ก็มารับตัว เจ้าcb750 กลับไปบ้านเพื่อนครับ(ย้ำว่าบ้านเพื่อน) เพราะถ้าเอาเข้าบ้านตัวเอง แบบเก้ ๆ กัง ๆ พ่อกับแม่ คงว่า และให้ขายแน่ ๆ จำเราจะต้องฝึกให้ดีเสียก่อนครับ
นี่คือ มอไซค์ บิ๊กไบค์ คันแรก ของผมคร้าบ
ความรู้สึก แรก ที่ได้เห็นตัวมันเป็น ๆ ตื่นเต้นครับ และรูปทรงก็ดูเก่าๆ แต่เห็นท่อ มีสองท่อ แล้วรู้สึกว่าแรงทันทีครับ
และแม้จะเป็นท่อเดิม แต่ด้วยความเป็นสี่สูบ 750cc. เสียงมันเพราะมากเลยครับ ในราคา 63000 บาท ผมชอบนะครับ เบาะใหญ่ นั่งสบาย มุมมองการนั่ง ผมว่ามันคล้าย SF400 ดีครับ ตอบสนองนี๊ดดด ได้พอสมควรเลยเชียว
ที่สำคัญ เป็นครั้งแรก ที่ผม ได้ขี่มอเตอร์ไซค์ เกิน 120 km/hr ครับ โอย แร๊งค์ม้ากกกก (เส้นรัชดา) ตอนนั้นตื่นเต้นมากครับ
ก็ไปบ้านเพื่อนบ่อยๆ ฝึกขี่อยู่สองสัปดาห์ครับ เริ่มรู้สึกอยากเปลี่ยน ด้วยความเก่า ของตัวมันเอง
จึงเริ่มมองหา รถคันใหม่ ในเวบครับ จนได้มาเจอกับ นินจา 250 นั่นเอง
«
แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 02, 2013, 09:54:30 AM โดย WEBMASTER(กอล์ฟฟี่)
»
บันทึกการเข้า
NEXZTER BIGBIKE PADS BRAKE CLICK ..
https://www.facebook.com/Nexztermoto/
สนใจลงโฆษณา ติดต่อ
โทร.0841433398
LINE ID : diavel1200
http://www.facebook.com/ducatibikersthailand
Ducati Bikers Thailand
Bigbike in my Memory ^^ รีวิว Diavel 1200cc. แล้วครับ หน้าแรก^^
«
เมื่อ:
กุมภาพันธ์ 16, 2012, 03:22:04 PM »
//
WEBMASTER(กอล์ฟฟี่)
Administrator
กระทู้: 5787
Moto GP point: +169/-8
Re: Bigbike in my Memory ^^
«
ตอบกลับ #1 เมื่อ:
กุมภาพันธ์ 16, 2012, 03:30:16 PM »
หลังจากขายcb750 ไป ก็จองทันที ครับ กับนินจา 250 (มือสอง) โดยตอนเห็นรูปในเวบครั้งแรก โอ้โห.. คันนี้ แต่งเต็ม สวยมาก ๆ เลย เห็นแล้ว ใจเต้น อยากได้ อยากไขว่คว้า มาเป็นเจ้าของครับ
ตอนนั้น น้องเลม่อน(ชื่อนินจา250 ของผมนะ) อยู่ที่เมืองตรังครับ พี่แม๊ก(เจ้าของคนแรก) ประกาศขายมันทางเวบนินจา250 นี่ล่ะครับ
มีคนสนใจจำนวนมาก ผมก็นะ.. ไม่รู้จะลงไปดูยังไง เพราะไม่มีเวลาไปจริงๆ ครั้น จะอยู่เฉยๆ คงอดแน่นอน
ก็เลยใช้ความไว้ใจล้วนๆครับ โอนตังค์ไปก่อนเลย ทั้งหมด โดยไม่ดูสภาพรถ... แล้วรบกวนทางพี่แม็ก ให้ส่งน้องม่อน ขึ้นมากทม. ทางไปรษณีย์ไทย กันไปเลย พร้อมกับแนบใบโอนรถ และเล่ม ส่งEMS แยกมาครับ
หลายคน ก็ตกใจครับ ว่าเชื่อใจได้งัยขนาดนี้ ถ้าพี่เค้าไม่ส่งนินจามาให้ หรือ ถอดอะไหล่ออกจะทำอย่างไร
ก็ขอบอกว่า หลังจากได้คุยกับพี่เค้า ก็เชื่อพี่เค้าครับ และพี่เค้าก็ส่งรูปตอนห่อน้องม่อน มาให้ดูด้วย ได้ใจกันไป
หลังจากพี่เค้าบอกว่า ส่งมาให้แล้วนะ.. พร้อมกับให้หมายเลขรหัสEMS กับเราไว้ ทีนี้ ก็เครียดดิ่ครับ กับการรอคอย
นั่งนับวันกันเลยครับ เมื่อไหร่จะมาถึง เช็คเน็ท ตรวจสถานะการส่งสินค้าตลอด ลุกลี้ลุกลน อยากให้มันมาถึงไวๆครับ โอย .. เครียด
จนเช้าวันจันทร์วันนึง.. เจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ เขตยานนาวา ก็โทรศัพท์เข้ามือถือมา.. บอกว่า มีพัสดุ.. ให้ไปรับ ที่ไปรษณีย์ครับ
ตอนที่ไปถึง.. ตื่นเต้นมากครับ รีบซื้อหมวกกันน้อค อินเด็กไปด้วย โอย..ขึ้นมอไซค์รับจ้างไปด้วยใจระทึกครับ ไปถึง ก็มองหาก่อนเลย ว่าอยู่ไหน ก็เห็นละครับ ไกลๆ (ดีใจมาก) เข้าไปเช็คเอกสารต่างๆ.....
เจ้าหน้าที่หลายคน ก็มาช่วยแกะช่วยดู และสนใจกันมากครับ สอบถามราคานู่นนี่นั่น.. เราก็ทั้งเขิน ทั้งภูมิใจครับ ทุกคนก็ช่วยกันดี
แล้วผมก็ขึ้นคล่อมน้องม่อน ค่อยๆ เปิดคันเร่ง บิดออกมาจากไปรษณีย์คับ ความรู้สึกตอนนั้น ตื่นเต้น ดีใจมากๆอย่างบอกไม่ถูก รู้สึกเท่ห์มากมายครับ ขับมาจอดที่ออฟฟิศ ก็ยังคึกคักมาก ๆ เย็นนี้เราจะขี่ม่อนกลับบ้านแล้ว เย้ๆๆ
และแล้ว ในที่สุด.. น้องม่อน ก็มาอยู่ที่บ้านผมครับ
หลังจากได้น้องม่อนมาอยู่ที่บ้าน ตอนนั้น ตื่นเต้น ดีใจ หลากหลายอารมณ์มากครับ หลังจากชำนาญ นิดๆ พอสมควร สิ่งที่อยากทำมาตลอด ก็คือการ ออกทริปครับ เพราะเคยเห็นมอไซค์ใหญ่ๆ เค้าออกทริปกันเป็นกลุ่มแล้วเท่ห์จัง หึๆ คราวนี้ล่ะ ตาเราซะที
โดยทริปแรก ในประวัติศาสตร์ของการขี่มอเตอร์ไซค์ของผม นั่นก็คือ... ทริป แพลุงหรั่ง เขื่อนศรีสวัสดิ์ กาญจนบุรี ครับ.. โดยไปกับเพื่อนใหม่ๆ กลุ่มลูกเรือนั้นเอง
ก่อนออกทริปตอนนั้น ล่กเลยครับ ไปหาซื้อเสื้อการ์ดหุๆ กับถุงมือครับ ยังใหม่มาก กับเรื่องพวกนี้ ไม่รู้เรือ่งเลย ก็ไปร้านพี่สยาม แห่งแพนด้าไรเดอร์ล่ะครับ ได้เสื้อคอฟเวอร์มาหนึ่งตัว.. พร้อมละคร้าบ
คืนก่อนออกทริป... เอ่อ... นอนไม่ค่อยหลับครับ ตื่นเต้นว่างั้นเถอะ.. เช้าวันออกทริป เค้านัดกัน06.30 น.มั้งครับ ผมไปถึงตั้งแต่06.00 คือ .. ยังไม่มีใครมาเลยครับ แหะๆ...
เมื่อทุกคนพร้อมแล้ว.. ขบวน จึงจัดตั้งขึ้น และออกสู่ถนน มุ่งสู่ แพลุงหรั่งกันครับ...
รูปทริปแรกของผมคร้าบ
จำได้ว่า ตอนออกถนนเป็นกลุ่มครั้งแรก.. ตื่นเต้น.. ตอนนั้น ไม่เคยขี่ลาก120 ยาว ๆเลยครับ แต่พออยู่ในขบวน ความเร็ว120 นี่ น่าจะเรียกได้ว่า "ยืนพื้น".. จำได้อีกว่า หายใจครับ ตอนนั้น คิดในสมอง หายใจลึก ๆ ให้ลึกลึ้กกก มาก ๆ เลย แล้วผ่อนลมออกแบบสุดๆ ในหมวกกันน็อค พร้อมกับคิดว่า วันนี้ เราได้ทำตามสิ่งที่ใจตัวเองต้องการประสบการณ์ใหม่ๆ อีกครั้งนึง ตามที่ฝันไว้แล้ว คือขี่มอเตอร์ไซค์ ออกทริปเป็นกลุ่มครับ อารมณ์นั้น ปลื้ม และดีใจมีความสุข กับสองล้อคู่ใจ ผจญภัยไปบนถนนมากมาย เพื่อนทุกคนให้ความเป็นกันเองมากครับ
อีกเรื่องนึง ที่ตื่นเต้น ไม่แพ้กัน.. นั่นคือ... โค้งบนเขาครับ
ทางไปแพลุงหรั่งนั้น มีสองทางนะครับ คือ จะข้ามแพขนานยนต์ไป หรือจะอ้อมไปเล่นโค้งบนเขาครับ เหอๆ วันนั้น ทุกคนตกลงเล่นโค้งครับ ตื่นเต้นอีกแระ คนมันไม่เคยอ่ะครับ
ประสบการณ์บนเขานั้น.. บอกตรงๆ ว่า ไม่มีใครสอนเลยครับ จำเอาเอง ด้วยความงง ๆ ตอนนั้นยังคิดอยู่เลย ว่าเข้าโค้งไปได้อย่างไร มันไม่เหมือนที่เข้าใจในวันนี้เลยครับ..
โค้งแรก และโค้งประวัติศาสตร์บนเขา ของผม... ตึก ๆ .. ตึก ๆ ... ตึก ๆ ....
มันเป็นโค้งซ้ายครับ... คันหน้า ผ่านไปแล้ว เอาล่ะ ตาเรา... แฟว่บบบ... เหอะ ๆ ๆ ๆ ๆ เสียวครับ เสียวล้มสไลด์
เลยเอาขาลงมายันพื้น..ซะงั้น
(ร่างกายมันเป็นไปเอง) กลายเป็นว่า บานครับบาน.. เหอๆๆๆๆ ดีนะ ว่าฝั่งตรงข้าม ไม่มีรถวิ่งสวนมา
พอโค้งถัดไปเลย เข้าช้าๆครับ เลยรอดไปถึงแพลุงหรั่งได้อย่าง ย่องๆ ไปอ่ะค้าบ
บอกตรงๆ ว่า ตื่นเต้นมาก.. กลับถึงบ้าน มา ก็ประทับใจครับ มีความสุขมาก หลับฝันดี กันเลยทีเีดียว.. มีเรื่องใหม่ๆ ประสบการณ์ใหม่ๆ ให้พบเจอ จากการขี่มอเตอร์ไซค์ บนถนน มากมายครับ สนุกจริงๆ
อีกเรื่องราวนึงที่น่าจดจำเมื่อครั้งขี่น้องม่อน คงหนีไม่พ้น เรื่องของการได้ลงสนามBRC เพื่อซ้อมเข้าโค้ง เล่นๆ เป็นครั้งแรกนะครับ
เช้าวันนั้น ตื่นเต้นครับ เมื่อขี่ไปถึงที่สนาม ก็สองจิตสองใจครับ ใจนึงบอกให้ลงเลย วิ่งก่ิอน ก็คุ้มกว่า(เสีย 300วิ่งได้ครึ่งวัน )
อีกใจนึง บอกว่าเดี๋ยวล้มนะเฟ้ย.. เดี๋ยวซวย ไม่คุ้มกัน อย่าดีกว่า เสียรถเปล่า ๆ
แต่ก็นะครับ..... มาแล้วอ่ะ ลองให้มันทุกอย่างไปล่ะ (กันล้มก็ไม่มีนะนั่น)
ตื่นครับ ตื่นสนามมากๆๆๆๆ ตอนออกไป ก็กังวลครับ กลัวไปบังไลน์คนที่เค้าขี่เก่งๆ แต่ก็คิดว่า เราก็ไปของเรา เดี๋ยวเค้าแซงเอง
ในใจตอนนั้น .. อยากครับ.. อยากลอง "เข่า เช็ด พื้น" เอาวะ ลงให้สุดๆกันไปเลย... จนเป็นที่มาของภาพนี้ครับ
แบนครับ ตอนนั้น แบนมาก.. จำได้ว่า มองพื้นถนนแล้ว เสียววาบทุกโค้งเลย แต่ก็ยังไปต่อ แบบเสียวๆทุกโค้ง
ใจนึงก็อยากไปเร็ว ๆ ไม่ให้น้อยหน้าคนอื่น.. อีกใจ ก็กลัวเข้าโค้งเร็วแล้วล้ม จะซ่อมบานครับ
แต่แล้ว คิดไปก็เท่านั้นครับ... โค้งซ้าย โค้งที่ 4 หึ ๆ ๆ .. พลั่กกก... !!! รู้ตัวอีกที.. นอนคว่ำหน้ากับพื้น ส่วนน้องม่อน สไลด์ไปหยุดบนหญ้าครับ โอ้ว บ๊ะจ้าวววว เอาแล้วงัย... เหอะๆๆๆๆๆ
ก็ซ่อมกันไปครับ ตอนนั้นก็แอบเซง แต่ก็ได้เห็นน้ำใจของพี่ๆน้อง ๆ โดยเฉพาะพี่ยอด เราไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่แกคงเห็นเป็นน้องๆที่ขี่ 250 ด้วยกัน แกเดินเข้ามาซ่อม ๆ เปลี่ยนๆนู่นนี่ให้ (เกียร์โยงหัก) จนพอใช้การได้ครับ สุดยอดมาก ซึ้งในน้ำใจ(ปัจจุบันแกก็คงจำผมไม่ได้หรอก )
รวมๆแล้วกับค่าชุดของแต่ง ตอนนั้นหมดไปสองหมื่นได้ครับ เหอะๆๆๆ และันั่นก็เลยเป็นครั้งเดียวที่ผมเล่นโค้งครับ เงินไม่เหลืออำนวยค่าซ่อมรถจริงๆ จะไว้ลงแข่งอย่างเดียวก็ไม่ได้ เพราะก็ใช้ในชีวิตประจำวันด้วยครับ ต่อจากนั้นมาเวลาออกทริป เลยผ่อนช่วงโค้งตลอด จนโดนน้องๆพี่ๆในกลุ่มแซงกันเป็นว่าเล่น
แต่ก็นะครับ เราไปเที่ยว ไปออกทริป ความสุขที่ได้ มันเกิดจากการรับรู้สัมผัสธรรมชาติและสีสรรค์รอบกาย ไม่ใช่ใครเร็วกว่าชนะซักหน่อย คิดแล้ว ก็อืดของเราต่อไปครับ
ในช่วงใช้นินจานั้น ก็ได้ออกทริปถัด ๆ มาอีกมากมาย ได้สนุก ได้อิสระกับสายลม อย่างที่ตั้งใจไว้เลยครับ
แม้นินจา จะไม่ใช่ 4 สูบ .. แต่ถ้าใจเรารักในความอิสระ สายลม มิตรภาพ การขับเป็นกลุ่ม ขอบอกครับ รถคันนี้ ตอบสนองความรู้สึกเหล่านั้น ได้ครบหมดแล้ว อยากไปต้องได้ไปครับ กระเป๋าข้างซักใบ แพ็คกลางคืน วางแผนการเดินทาง เช้าปั๊บ ออกไปเที่ยวโลดครับ ความสุขในชีวิตนี้ หาได้ใกล้ๆตัวครับ เพียงแค่เรารู้.. ว่าเราต้องการอะไร.. ถ้าทำได้และทุกอย่างพร้อม ลงมือทำเลยครับ .. ลงมือก่อน ก็ใช้ชีวิตได้คุ้มค่ากว่านะครับ
แต่แล้ว.. สำหรับผม.. เมื่อได้ใช้นินจาบ่อยๆเข้า.. บอกตรง ๆ ว่า สุดครับ หมดปลอก ก็ลองแล้ว.. ช่วงแรงปลาย แถว ๆ 160-170 จะตื้อๆครับ
ที่นี้ ก็เอาล่ะสิ.. อยากได้สี่สูบ กิเลสเกิดครับ อยากได้รถที่บิดแล้ว เสียงท่อ เพราะๆ โดนใจ.. พองบการเงิน พอจะคว้าถึง..
จัดสิครับ... ตามหา สี่สูบที่อยากได้ ในเวบ..... เจอหลายคัน หลากราคา
แต่สุดท้าย มาจบที่ yamaha yzf R6 ครับ
จัดการ ขายน้องม่อน ให้กับน้องเปา (นครปฐม)ไป..
ตอนที่น้องเปา มาขี่กลับบ้านไปนั้น ใจหายจริงๆครับ
น้องม่อน มีคุณค่ากับจิตใจผมมากมาย ถ้าเงินผมพร้อมกว่านี้ ผมคงไม่ขายมันแน่ๆ
แต่ก็ดีใจครับ ที่ขายให้เปาไป เพราะเปาก็ดูแลรถดีมากๆ ต้องขอบคุณไว้ด้วยครับ
บันทึกการเข้า
NEXZTER BIGBIKE PADS BRAKE CLICK ..
https://www.facebook.com/Nexztermoto/
สนใจลงโฆษณา ติดต่อ
โทร.0841433398
LINE ID : diavel1200
http://www.facebook.com/ducatibikersthailand
WEBMASTER(กอล์ฟฟี่)
Administrator
กระทู้: 5787
Moto GP point: +169/-8
Re: Bigbike in my Memory ^^
«
ตอบกลับ #2 เมื่อ:
กุมภาพันธ์ 16, 2012, 03:31:16 PM »
มาถึงคันที่สามแล้วครับ.. กับคันนี้
YAMAHA YZF-R6 ปี2007
600cc. 4 สูบ
ท่อ อคาโปรวิค เกียร์โยง กันสะบัด
นู่นนี่นั่นอีกนิดหน่อยครับ
สำหรับรถคันนี้นั้น ผมซื้อมาจากในเวบนะครับ ผ่านน้องหนุ่ย ปราจีนฯครับ โดยไปรับที่บ้านเค้ากันเลยทีเดียว
ความรู้สึกแรก ที่ได้ลองคล่อม โอ้ววว... ตูดสะดิ้งเลยครับ มันดีใจ ว่างั้นเถอะ.. ยิ่งคิดว่าเดี๋ยวต้องขี่กลับกทม.ด้วย ก็ตื่นเต้นครับ
ท่านั่ง ของรถr6 นั้น เนื่องจากเป็นตัวสปอร์ต จึงก้ม มากมาย ใครเคยขี่นินจา250 มาก่อน จะไม่ชินแน่ ๆครับ และอาจบ่นว่าเมื่อยด้วยซ้ำไป ทั้งการวางขา การวางแขน ต้องปรับใหม่หมดครับ
แต่ไม่เกิน 15 นาที เดี๋ยวก็ชินครับ คนเรา ปรับได้สบายอยู่แล้ว
เสียงท่อ... บอกได้แค่ว่า เร้าใจมากครับ ตอนลากรอบ ตอนเข้าโค้ง ตอบสนองได้เนียน ออกโค้งเปิดคันเร่งส่งต่อ บิดออก สนุกเร้าใจ เพลินไปเลยครับ คันนี้ เจ๋งมากๆเลย
ตอนขี่กลับมา ก็ได้ลองกดเกิน 200 km/hr เป็นครั้งแรกในชีวิต.. อื้มมมมมม มันเป็นอย่างนี้ นี่เอง
แรงลมปะทะเอย กำลังแขนที่ต้องเกร็งต่อสู้กับแรงผลักไปด้านหลังเอย.. สุดยอดครับ ก็ลองไปแค่220 ก่อน แล้วก็ผ่อนลงครับ ตอบโจทย์ของความต้องการในตอนนั้นได้มากมายเลยครับ สำหรับตัวนี้ เยี่ยม ๆ ๆ
หลังจากนั้นก็ขี่ไปทำงาน นู่นนี่เรื่อยมา ออกทริปก็เยอะครับ...
และแล้ว... ทริปในตำนาน.. ก็เกิดขึ้นกับผม.. ในช่วงที่ใช้ R6 คันนี้ นี่เองครับ
สำหรับทริปนี้นั้น.. ก่อนอื่น ต้องยกเครดิตให้กับ พี่แต๊กครับ สำหรับแรงบัลดาลใจ ในการคว้าฝัน ในครั้งนี้ของผม และเพื่อนในกลุ่มแบดบอย นั่นคือ ทริปล่าฝัน เซปัง มาเลย์เซียครับ..
นี่คือ กระทู้ของพี่แต๊กครับ
http://www.ninja250thailand.com/board/index.php?topic=3710.0
บอกตรงๆ ตอนได้อ่านกระทู้นี้ครั้งแรก.. ตื่นเต้นมากครับ และคิดกับตัวเองว่า ซักวันเหอะ จะต้องไปบ้าง
ในฝันตอนนั้นคือ.. อยากเอามอไซค์ที่ตัวเองขี่ และหน้าของตัวเอง ไปโผล่ในรูปถ่าย โดยด้านหลัง เป็นตึกแฝด ทวินทาวเวอร์ครับ
แค่คิดก็รู้สึกแล้วครับ.. ว่ามันไม่ง่ายเลย.. แต่.. ก็ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้นี่นา..
จึงเป็นที่มาของการรวมกลุ่มพี่น้องที่จะไป.. หาข้อมูลเยอะมากครับ เพื่อความพร้อมในการข้ามประเทศ ไหนจะเรื่องจองตั๋วดูเซปังโมโตจีพี ไหนจะโรงแรมในKL เยอะครับ และนี่คือ กระทู้เตรียมข้อมูลครับ
http://www.ninja250thailand.com/board/index.php?topic=7096.0
และเมื่อทุกอย่างพร้อม..
เช้าวันประวัติศาสตร์ก็มาถึงครับ.. ผมออกจากบ้าน ด้วยใจที่มั่นใจและเต็มเปี่ยมด้วยพลัง คิดในใจว่า วันนี้ล่ะ เราจะสร้างตำนานให้ชีวิต ให้เรื่องราวที่จะเกิดขึ้นในอีก5 วันข้างหน้า เป็นความทรงจำที่มีค่า ตลอดไป จะคิด จะพูดเมื่อไหร่ ก็ภูมิใจกับมัน
เราทุกคน พร้อมครับ ตอนขี่R6 ลงใต้ไป ก็มีอุปสรรคบ้างตามเรื่องราว มีรถใหญ่ก็เยอะครับ ยิ่งตอนขี่ในมาเลย์ รถที่นั่นใช้ความเร็วเกือบ200 อ่ะครับ ก็ขี่ตามบ้าง หยุดพักบ้าง.. ส่วนเรื่องราวในตอนนั้น ขอเชิญเพื่อนๆติดตามรายละเอียดพร้อมภาพประกอบได้ในกระทู้นี้นะครับ
http://www.ninja250thailand.com/board/index.php?topic=9656.0
ป้ายไวนิว ที่เตรียมไปครับ ตอนกางออกมา ในสนาม คนมองเยอะมาก เขินมากมายครับ
เอาเป็นว่า จะเล่าเฉพาะความผูกพันกับR6 ในครั้งนั้นนะครับ ในคืนวันสุดท้าย ที่กลับจากมาเลย์เซียนะครับ เราหลงทางไปผิดเมือง เสียระยะไปฟรี ๆ ประมาณ400 กิโลครับ ตอนวิ่งมาด่านมาเลย์ จึงดึกมาก ทุกคนง่วงครับ
ผมก็เป็นคนนึงที่ง่วงมาก
วิธีแก้ของผมในตอนนั้น.. คือ บิดส่งไปเลยครับ ถนนมันตรงๆ อยู่แล้ว บิดไป 220-250 ยาว ๆ แล้วไปแวะ จอด.. หลับ รอเพื่อนๆ ตามใต้ทางด่วนอีกทีครับ แวะไปเรื่อย
บอกตรงๆ ว่า ตอนที่แวะ .. มันจะมืด และเปลี่ยวมากครับ
ในช่วงเวลานั้น.. นอกจากผมแล้ว.. ก็เหลือแค่r6 นี่ล่ะครับ ที่เป็นเพื่อนกัน..
นอนเลยครับ นั่งกลับหลังหัน เปิดไฟกระพริบมาหาเพื่อนที่กำลังจะขี่มา.. แล้วก้มหลับเลย
ขอบอกครับ มันก้มลงหลับได้พอดี ไม่เมื่อย มันเปะมากครับ
ก็เลยอยู่ด้วยกันทั้งคืนเลย..
แต่ละครั้งที่ลุกขึ้นตื่น เพราะกลุ่มเพื่อนมากันแล้ว.. ก็สตาร์ทเครื่องแล้วบิดเลยครับ
R6 ก็ไม่เคยงอแงใด ๆ บิดเป็นมา บิดเป็นมาตลอด ตอบสนองตามใจเจ้าของได้เป็นอย่างดี.. มันรู้สึกดีมากครับ ที่เรากับรถ เหมือนเป็นเพื่อนที่ไปผจญภัยด้วยกัน.. และ กำลังจะกลับบ้านด้วยกัน..
ซึ้งครับ ในตอนนั้น รู้สึกขอบคุณมันมากมาย เมื่อกลับมาถึงบ้าน อย่างปลอดภัยครับ ขอบคุณจริง ๆที่พาผม ไปตามความฝัน จนสำเร็จครับ
ในภาพ.. ที่เห็นอยู่ข้างหลังไกลๆนั่น คือผมครับ นอนกับR6เลย
นี่ล่ะครับ ภาพที่ชีวิตนี้ ผมต้องถ่ายมาให้ได้ซักครั้ง
ผม+รถ+ทวินทาวเวอร์
ถ่ายกับเพือ่นพี่น้องแบดบอยที่ไปด้วยกันครับ
และแล้ว ก็ถึงเวลาต้องจากลา
เนื่องจากตอนนั้น มีรายรับก้อนหนึ่งพุ่งเข้าชนหนะครับ เลยทำให้สามารถขยับซีซีได้ ก็เลยอยากไปคว้า ตัว 1000cc. มาขี่ดูซักที
โดยคันที่มองไว้ตอนนั้น และได้ไปลองรถแล้ว คือ z1000 ปี09 ครับ
ก็เลยประกาศขายR6 คันนี้ไป.. ทั้งที่บอกตรงๆว่า ใจผูกพันมากๆเลย
มีคนสนใจเยอะครับตอนนั้น สุดท้าย ก็มาจบที่ พี่หนุ่ม จากสุพรรณบุรี
โดยแกให้ขับไปให้แกดูแล้วจ่้ายสดกันเลยตรงนั้น แล้วกลับครับ
ตอนขับไปสุพรรณฯ รอบนั้น เศร้ามาก เส้นทางนี้ เคยขี่ด้วยกันมา
มาถึงวันนี้ เราต้องขี่พามันไป แต่มันจะไม่ได้กลับมาบ้านกับเราแล้ว .. ปวดครับ สงสาร เสียใจ ผูกพันอย่างบอกไม่ถูกจริงๆ ก็พยามขี่แบบรักษา และถนอมที่สุด ให้เค้าถึงบ้านหลังใหม่อย่างสบายๆ
เรียบร้อยครับ ให้รถไปรับเงินมา เอาล่ะสิ ตัวเปล่าเล่าเปลือย ต้องหารถซะแล้วเรา
«
แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 16, 2012, 04:29:55 PM โดย WEBMASTER(กอล์ฟฟี่)
»
บันทึกการเข้า
NEXZTER BIGBIKE PADS BRAKE CLICK ..
https://www.facebook.com/Nexztermoto/
สนใจลงโฆษณา ติดต่อ
โทร.0841433398
LINE ID : diavel1200
http://www.facebook.com/ducatibikersthailand
WEBMASTER(กอล์ฟฟี่)
Administrator
กระทู้: 5787
Moto GP point: +169/-8
Re: Bigbike in my Memory ^^
«
ตอบกลับ #3 เมื่อ:
กุมภาพันธ์ 16, 2012, 03:31:33 PM »
และแล้ว.. ก็มาถึงคันmuj 4 ครับ กับคันนี้ ..
Suzuki GSXR-1000 K8 หรือที่ใครเรียกชื่อเล่นเค้าไว้ว่า Gixxer นะครับ
รถคันนี้ บอกตามตรง ไม่เคยคิด ไม่เคยฝันว่าจะขี่เลยครับ ตอนแรก กะไปจับ z1000 ปี 08 แต่แล้ว ไม่รู้อะไรดลใจให้เจ้าของ(หนุ่ย ปราจีน) โทรมาในเช้าวันนั้น ว่าจะขายเคแปด ในราคาที่ถูกใจมากๆ
คิดไป คิดมา คำนวน หน้าหลัง บวกลบ ดูเงินในกระเป๋า ดูราคาขายต่อ ดูของแต่งแล้ว..
เลยตกลงครับ โอนตังค์ไปก่อนเลย อีกอาทิตย์ค่อยไปเอารถ (เชื่อใจกัน)
เลยเป็นที่มาของ คันนี้ครับ
สำหรับคันนี้นั้น.. ในวันแรก ที่ไปรับรถ ที่ปราจีนบุรี.. นั่งรถตู้ไปครับ ไปคนเดียว หิ้วหมวกกันน็อค ถุงมือ เสื้อการ์ดไป.. ไปด้วยใจระทึกครับ เอาล่ะสิ วันนี้เราจะได้บิดตัวพันแล้วเหวย ตื่นเต้น ๆ
ระหว่างไป ก็ได้หาข้อมูลมาแล้วครับ.. ว่าของเด็ดของคันนี้ คือ ท่อครับ ชอบจังเลย กับท่อ Yoshimura Tri-Oval Titanium คู่ ปลาย 4 รูครับ แถมคอท่อ เป็น Y-pipe ด้วย ครบๆ กันไปเลย ลองหาข้อมูลในเนตดู พบว่า เฉพาะค่าท่อแต่งคู่ ชุดนี้ ก็ราคาแรงมากแล้วครับ สุดยอดๆ
เมื่อไปเจอตัวจริง... เห็นสภาพ รูปทรงต่างๆแล้ว โอ้ว... สตาร์ทเครื่องปั๊บ โอ้ว... พอบิดคันเร่งเบิ้ลเครื่อง.. เสียงเครื่องยนต์ผ่านท่อ สี่สูบ พันซีซี กระหึ่ม ฟู่มมม.. ฟู่มมม...ฟู่มมม...
บอกได้คำเดียวว่า.. แค่นี้ ก็ กระแทก.. สะในใจ มาก ๆ ครับ บอกอารมณ์ไม่ถูก (คนมันไม่เคย )
เอาหนะ.. R6 ก็เคยขี่มาแล้ว .. ก็เคลียทุกอย่าง เรียบร้อย ฝากอุปกรณ์เดิมบางชิ้นไว้กับหนุ่ยเค้า.. แล้วก็ขี่กลับมาคนเดียวเลยครับ
ความรู้สึก ตอนเปิดคันเร่งแต่ละครั้งนั้น..... เสียง ดุดัน.. พลัง เหลือเฟือ.. บ้าระห่ำมาก ๆ ยอมรับเลยว่า สนุกที่สุดเลยครับ บิดไปตามใจคิดจริง ๆ จนต้องยังมือไ้ว้บ้าง ถ้าหมดปลอกแบบใจร้อน มีหงายครับ ต้องค่อย ๆ ไล่รอบ ใจเย็นๆ
ระหว่างทาง ก็ผ่านเส้น นครนายกด้วยครับ ที่จะมุ่งหน้ามารังสิต ซึ่งถนนช่วงนี้ เกาะกลางมีที่กั้นครับ ทางกลับรถก็มีป้ายบอกก่อนเห็นชัด...
เอาหนะ ขอซักนิดละกันเน้อ
เลยลองทอร์ก ตอนออกจากไฟแดงครับ ลากเกือบเรดไลน์ ๆ ๆ .. ตัดเกียร์ไปเรื่อย ๆ 1,2,3,4 ... ไม่ไหวแล้วครับ หมดทางแล้ว มีรถเยอะ มองดูไมล์อีกที ที่เกียร์ 4 รอบหมื่นกว่า เลขพุ่งไปที่ 260 กว่า ๆ แล้ว ยังเหลือ ๆ เลยพอดีกว่าครับ พอยกคันเร่ง เอ็นจิ้น เบรกทำงานแรงมาก ความเร็วลดลงรวดเร็ว ชอบครับ
ตอนวิ่งเส้นรังสิต จำได้ว่า เกียร์2 เปิดคันเร่งมากไปหน่อย ก็ล้อฟรีเลยครับ(หรือพื้นยางมะตอยลื่นด้วยมังครับ) อื้มมม บอกได้คำเดียว ซะแก่จาย
สิ่งที่ประทับใจจริงๆ สำหรับคันนี้ คงเป็นเสียงครับ.. เสียงท่อ ที่ดุดัน เหลือๆ เบิ้ลเครื่องที ชาวบ้านด่ากันทั่ว เลยต้องรู้จักคุมจิตคุมใจ ไม่ให้คะนองเกินไปครับ นั่นคงเป็นสิ่งนึงที่แตกต่างกัน ระหว่าง ขี่บิ๊กไบค์ กับรถออโต้ 110 cc. คือ ถ้าใจร้อน ใจเร็ว บ้าพลัง มีสิทธิ์คุมรถไม่อยู่ เพราะทอร์กมันสูงมาก มีสิทธิ์เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายกว่ามาก ๆ ครับ
สิ่งที่แตกต่างชัดเจน ระหว่าง 250cc กับ 1000cc เท่าที่ผมรู้สึกนะครับ
1. น้ำหนักครับ.. จริง ๆ ถ้าดูจากน้ำหนักที่ออกจากโรงงานมา เหมือนจะไม่ต่างกันมากก็จริง แต่อาจด้วยความสูงที่เพิ่มขึ้น ทำให้เท้าของผม ยันพื้นได้น้อยลงนะครับ ทำให้เวลามุด.. ถ้ามุดตรง ๆ นั้น ไม่เท่าไหร่ครับ PCX ไปได้ ผมก็ไปได้ครับ แต่..เหอะๆ ถ้าเมื่อไหร่ต้องโยกออกข้าง ไปมุดรูอื่นนี่.. ต้องทรงตัวให้ดีเลยครับ เน้นตีวงกว้าง ๆ อย่าตีวงแคบเชียว เพราะน้ำหนักรถจะเทเยอะครับ มีสิทธินรกแตกกลางถนน อายคนอื่นเค้าครับ
2. ความร้อนครับ.. จากการที่โตมาจาก 250 ก็จะรู้นะครับ ว่านินจาร้อน.. แต่.. มันเทียบไม่ได้กับตัวพันเลยครับ เวลาติดกลางสี่แยกอโศก ในเวลา 12.00 น.นั้น.. พระเจ้า.. เสื้อการ์ด หมวกกันน้อค ครบเซ็ตอีกตะหาก.. ร้อนครับ.. สุดยอดจริงๆ ไม่รู้จะอธิบายยังไง 555 ขาร้อนไปหมดตัว อยากจะบิดส่งออกไปรับลมไวๆ มาก ๆ เลยครับ
3. ขนาดวงเลี้ยว.. ก็คงคล้าย ๆ กับข้อ 1 อะนะครับ คือ มันกว้างขึ้นครับ ต้องตีวงดีๆ ครับ
4. ทอร์ก การบิดคันเร่ง.. อันนี้ชัดอยู่แล้วครับ .. ว่า อย่า หมด ปลอก.. มันอันตรายมากครับ ถ้าติดเกียร์แล้วหมดปลอกขึ้นมา.. พุ่งทะยานหายไปเลยคับ หายไปจากโลกใบนี้กันเลย ^^'
สำหรับผม จะท่องไว้ครับ ว่าใจร่ม ๆ บ่อยครั้งเวลาขี่ในเมืองนะครับ (แทบจะทุกครั้งล่ะครับ) จะมีรถออโต้ หรือไม่ก็รถ 2 จังหวะ มาบิดปาด แซง ครับ.. ประมาณว่า ทำเนียนเหมือนปกติ แต่ก็แอบปาด ว่าแซง บีบี ประมาณนั้น ผมก็ ไปของผม เหมือนเดิมครับ ชั่งเค้า เราไปประมาณ100 km/hr ปล่อยให้เค้าแซง แล้วตาม ๆ เค้าไปเรื่อยๆดีกว่า ไม่กดดันตัวเองดีครับ แต่ถ้านอกเมือง เราก็ไปของเรา อย่าไปสนเค้าครับ ซัก140-160 ก็ว่ากันไป เดี๋ยวเค้าก็หายไปเอง
5. การดูแลรักษา ยอมรับเลยครับ อะไหล่หายากขึ้นเยอะ ^^' ตอนนี้ ก็ได้แต่ไปเซอร์วิส เปลี่ยน นมค. กับกรอง และเช็ค อื่น ๆ ที่ 59 bike ล่ะครับ ก็ยังดี พี่เค้าดูแลดีมากครับ
ก็ได้ใช้คันนี้ ทั้งนำขบวน เป็นมาแชล ขี่ตามปิดท้าย หาคนหลงทาง วิ่งไปวิ่งมา เข้าโค้งในเขา สนุก และมีความสุขมากเลยครับ เร้าใจเหลือเกิน
«
แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 19, 2013, 04:56:04 PM โดย WEBMASTER(กอล์ฟฟี่)
»
บันทึกการเข้า
NEXZTER BIGBIKE PADS BRAKE CLICK ..
https://www.facebook.com/Nexztermoto/
สนใจลงโฆษณา ติดต่อ
โทร.0841433398
LINE ID : diavel1200
http://www.facebook.com/ducatibikersthailand
WEBMASTER(กอล์ฟฟี่)
Administrator
กระทู้: 5787
Moto GP point: +169/-8
Re: Bigbike in my Memory ^^
«
ตอบกลับ #4 เมื่อ:
กุมภาพันธ์ 16, 2012, 03:31:45 PM »
มาต่อกันที่ คันที่ 5 นะครับ
กับรถที่ผมเคยใฝ่ฝันอยากเป็นเจ้าของมานาน.. นาน หลายปี จนไม่รู้ว่าเริ่มต้นตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่อยากขี่มัน
รู้เพียงแต่ว่า เมื่อใดก็ตาม ที่ได้เจอฮายาฯ ตามท้องถนน หรือตามทริปต่างๆ สายตา จะต้องคอยมอง คอยจ้องดู และอยากขี่ อยากสัมผัส อยากถ่ายรูปด้วยมากๆเลยครับ
จนในที่สุด.. วันนั้น มันก็มาถึงจนได้ กับคันนี้
Suzuki Hayabusa 1350 cc. Year 2009..
หลังจากขี่ K8 ได้พอสมควร .. พอดีมีน้องๆสนใจรถครับ.. เลยตกลงขายให้ไป อุๆ ว่างสิครับ ไม่มีรถขี่อีกแล้ว คราวนี้ เลยอยากลอง เจ้านกเหยี่ยวตัวยักษ์ กับเค้าบ้างครับ กับสเปคเดิมโรงงาน ที่พิสูจน์กันมาแล้ว ว่าเร็วที่สุดในโลก... สักครั้งเหอะครับ ชีวิตนี้ ต้องลองให้ได้
เนื่องจากร้างลาในการหาข้อมูลมานาน .. เลยต้องย้อนกลับไปหาข้อมูลของนกเหยี่ยวกันใหม่ครับ ในใจตอนนั้น หลังดูสเปคแล้ว.. คงเลือกตัวไมเนอร์เชนครับ นั่นก็คือ เป็นฮายาฯ ตั้งแต่ปี 08 ขึ้นมา จะเปลี่ยนโฉมตรงไฟหน้า และช่วงท้าย ชัดเจนครับ หน้าจอไมล์ก็สวยกว่าด้วย ราคาขายต่อ ก็น่าจะดีกว่าเนกัน จึงเริ่มหารถครับ
ส่อง ๆ ดูหลายวัน ในเวบมอไซค์ดอทคอม ก็เจอแต่รถปีเก่ากว่า 08 ครับ ส่วนปีใหม่ ๆ ก็แพงหูฉี่เลย เอางัยดี ๆ
แต่แล้ว ก็เหมือนสวรรค์บันดาลครับ กับรถฮายาฯ 09 เปิดราคามาโดนใจมาก และเอื้อมถึงพอดี... เอาหนะ .. ลองไปดูรถกันดีกว่า อิอิ
ก็ขับไปตามที่เจ้าของฮายาฯ เค้าบอกนะครับ พอไปถึง ได้เจอตัวจริง แว๊บแรกที่คิดคือ อื้มมมม.. สวยจริงๆ ขาว อวบ ใหญ่ โอย.. สุดยอด
เข้าไปคุยกับเจ้าของ แล้วก็ขอลองคล่อมครับ ก้ม ๆ เงย ๆ ดูเครื่อง ดูแผงหม้อน้ำ ดูขอบหม้อ สีถัง ฯลฯ ไปเรื่อยๆ แล้วก็ขอลองขี่ โดยเอารถยนต์เราจอดไว้ให้เค้าครับ เพื่อจะได้ชัวร์ว่าเราไม่หนีไปไหน
ความรู้สึกแรก ตอนเริ่มขี่เจ้าเหยี่ยวคันนี้ คือ... มันโล่ง ๆ ใหญ่ ๆ เรื่อยๆ มากครับ เครื่องไม่มีอาการสะดุดหรือสั่นเลย รอบต่ำ ก็ไปไวแล้ว เพราะเครื่องcc. เยอะ ยิ่งพอจังหวะเปิดคันเร่ง ลองแรงบิดดู อื้มมมมม ก็เพลินครับ แต่ความแรง ไม่หนีกับเคแปดซักเท่าไหร่ (ไม่ได้ลองแรงปลายนะครับ) เพียงแต่พอความเร็วประมาณ 160 ขึ้นไป เจ้าฮายาฯคันนี้ มันยังไปต่อครับ ไปแบบ นิ่งๆ ปื้ดดดดดดดด...เดียว ขึ้น230 >>> 240 >>> 250 ขึ้นไปเรื่อยๆ ไม่รอรอบเลยครับ ถือว่า ขี่สนุกมากๆเลย
เช็คระบบไฟ นู่นนี่แล้ว โอเคครับ เอากลับมาบ้านเลย อิอิ ฮายา ฯ มาแล้วเจ้าข้า
เคยมีอยุ่ครั้งนึงครับ ขี่ฮายาฯ ไปที่ทำงานที่สาทร โดยบ้านกระผมนั้น อยู่ พระราม7 ขอบอกว่า ไกล และรถติด มากครับ หึ ๆ ไม่เจียมบอดี้มากๆเลย ขากลับ จะไปมิตติ้งต่อกับกลุ่ม ที่ร้านริมโมงค์ครับ แถวพัฒนาการ โดยผมจะขี่จากสาทร ผ่านถนนจันทร์ มาพระราม 4 หน้าศูนย์ประชุมสิริกิต ตรงไปแยกอโศก เข้าเพชรบุรี ขอบอกว่า แต่ละเส้นทางที่ไป รถโคร ตะระ ติดๆๆๆเลยครับ ทางก็เล็ก นี่ก็เป็นอีกครั้งที่ทำให้ผมเข้าใจวิถีในการขี่ฮายาฯจริงๆ ว่ามันไม่ใช่รถวิ่งในเมือง 555
การได้มีเจ้าเหยี่ยวฮายาบูสะ มาอยู่ในบ้าน มาอยู่ในความครอบครองนั้น สำหรับผมแล้ว มันก็เป็นสิ่งเติมเต็มความต้องการของเรา ในสมัยแรก ๆ ๆ ที่เราอยากขี่บิ๊กไบค์นะครับ ผมมีความสุข และรู้สึกดีมาก ทุกครั้งที่ได้ขี่มัน ได้ร่อนมันไปตามท้องถนน แม้จะไม่ได้ขี่เร็วซักเท่าไหร่ แต่ความภูมิใจตัวเองที่ได้ทำตามสิ่งที่ตนฝันนั้น มันสุขมากเลยครับ
แต่ก็อีกละครับ เนื่องจากเจ้าเหยี่ยวคันนี้มันเป็นรถอินวอยครับ ไม่นานนัก ก็มีพี่คนนึง มาขอแลกรถ cbr1000 ทะเบียนแท้ ตอง1 กับมัน... ผมใช้เวลาคิดตรึกตรอง และเปรียบเทียบโดยมองครบทุกด้านแล้ว คิดว่า คุ้มค่าครับ เลยขอแลอง และในที่สุด เจ้าเหีย่ยวขาว ก็ต้องจากผมไป กลายเป็นเจ้าพริกขี้หนู สีแดงแป๊ดดดดด ทะเบียนแท้ เข้ามาแทนที่ครับ
«
แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 16, 2012, 04:46:54 PM โดย WEBMASTER(กอล์ฟฟี่)
»
บันทึกการเข้า
NEXZTER BIGBIKE PADS BRAKE CLICK ..
https://www.facebook.com/Nexztermoto/
สนใจลงโฆษณา ติดต่อ
โทร.0841433398
LINE ID : diavel1200
http://www.facebook.com/ducatibikersthailand
WEBMASTER(กอล์ฟฟี่)
Administrator
กระทู้: 5787
Moto GP point: +169/-8
Re: Bigbike in my Memory ^^
«
ตอบกลับ #5 เมื่อ:
กุมภาพันธ์ 16, 2012, 03:31:57 PM »
มาถึงคันที่ 6 ในชีวิตนี้ ที่ได้คว้ามาเป็นเจ้าของครับ
กับเจ้า
Cbr1000 rr ปี 08
ซึ่งเป็นโมเดล เชนจ์ จากปี 07 นะครับ หน้าตาคล้ายตัวปัจจุบันเลยครับ
หลายคนมอตามัน แล้วบอก ว่า เหมือนนกแก้ว ผมก็ว่าคล้ายๆครับ
cbr1000 08 สีแดง รุ่นนี้ ตัวผมเอง ..
ครั้งนึง เคยขี่ cb750 (คันแรก) ไปร้านๆนึงย่านบางกรวยครับ จะไปขายรถแล้วเค้ากดราคามาก แล้วพอเดินเข้าไปหลังร้าน ก็เจอมันนี่ละครับ จอดอยู่ ตอนนั้นที่เจอ .. ได้แต่คิดว่า โอ้ววว สวยมาก ๆ ๆ ๆ ๆ.. ยิ่งได้ลูบ ยิ่งรู้สึกถึงพลัง และเสน่ห์ที่ซ่อนในสีแดงจัดจ้านของมันครับ .. แต่ก็ได้แต่ดูและชื่นชม ในเวลานั้นไม่คิดเลยว่าอีกหนึ่งปีกว่า ๆ ให้หลัง .. เรา จะได้คล่อม และพามันท่องสายลมไปด้วยกัน
กับสีแดง แรงฤทธิ์จริงๆ สภาพที่ได้มานั้น มีเพียงท่อเท่านั้นครับ ที่แต่งมา ที่เหลือเดิมๆ โดยรถคันนี้ เป็นทะเบียนแท้ครับ แถมเลขสวย ซะด้วยสิ นี่เป็นเหตุผลนึงเลยครับ ที่ผมเลือกเป็นเจ้าของคันนี้
ในครั้งแรก ที่บิดมันกลับบ้าน ความรู้สึกที่ได้รับคือ ... เบา ครับ.. ความรู้สึก ไม่ต่างกับขี่นินจากันเลยทีเดียว ในเมืองก็คล่องมาก ขี่ง่าย พลิกรถ เข้าโค้ง ง่ายสุดๆๆๆ เสียงท่อก็ดังสุดๆ มันเหมือนเป็นท่อแต่งแบบไร้สำนักจากต่างประเทศครับ แต่ดังเวอร์
แต่ก็นะครับ มีดีก็ย่อมมีข้อเสีย คือ ท้ายมันเบา และไม่มีปีก ยื่นออกมารับลม เพื่อกดน้ำหนักรถ เหมือนรถสปอร์ทพันซีซี ตัวอื่นนะครับ
ผลคือ เมื่อเราขี่ขึ้นเกิน 220 + ผมลองไปถึง250+ รู้สึกได้เลยครับ ว่ามีอาการ ท้ายร่อน.. คือ เบา ไม่มั่นคง ยิ่งเร็ว ไม่ได้ยิ่งนิ่ง แต่กลาย เป็นลอยๆ อาจเพราะผมเคยขี่ตระกูล K และขี่ฮายาบูสะ มาแล้วด้วย ทำให้รู้สึกถึงอาการเหล่านี้เด่นชัดมาก
ก็ได้เอาเจ้า cbr วิ่งไปวิ่งมาในเมืองครับ สบาย มุดได้ง่ายมาก pcx ไปได้ cbr1000 ก็ไปได้ครับ 555+ แต่วงเลี้ยวก็ยังกว้างอยู่ดี ดังนั้นถ้าจะให้ซ่อกแซก เบียงหลบรถที่จอดติด ไปมาซ้ายขวา ก็ยังยาก และต้องทรงตัวให้ดี เหมือนเดิมครับ ถ้าโยกมากไป เหอะๆ.. น้ำหนักรถจะเอนลงมาทันที ซึ่งอันตรายมาก ถ้าขารับน้ำหนักไม่ไหว ได้หน้าแตกกลางถนนแน่ๆ อิอิ คนยิ่งมอง ยิ่งหมั่นไส้กันอยู่ครับ
อัตราเร่งต้น สนุกครับ แต่ไม่แรงจัดจ้าน แบบคนบ้าขี่ซูฯ.. แรงปลาย เบาๆ ตื้อ ๆครับ ท้ายร่อนไม่หนักแน่นอีกตะหาก ในความรู้สึกผมเอง แม้คันนี้ จะขี่สนุกในเมือง แต่ถ้าเทียบระดับตัว1000 cc. ด้วยกันแล้ว ตระกูลเค โอเคกว่าเยอะครับ
เรื่องความร้อน ของ cbr1000 เองก็เหมือนกัน ร้อนกว่า K8 ครับ แต่ร้อนน้อยกว่า R1 ปี 07 แต่ก็ทนไหวอยู่แล้วล่ะคับ เพราะเราเลือกแล้ว ที่จะขี่มัน จะร้อน จะฝน จะแดดจะหนาว พร้อมเสมอเนอะครับ
อีกสิ่งหนึ่งที่ผมชอบจังเลย กับคันนี้ คือสีครับ สีแดง สดๆ เดิมๆ พอเคลือบเงาแล้วนี่ โอ้โห.. วับๆเลยครับ งามจริง ๆ โดยรวมแล้ว ก็เป็นที่พอใจครับ แต่ยังไม่ใช่ (งงมะคับ) เลยขี่ไป ประกาศขายไป
อ่า.... ก็โอเคครับ งั้นก็ปล่อยไป .. กำเงินไว้ดีกว่า ไว้หาคันใหม่ครับ
กับคันถัดมา ที่ลงจังหวะเวลาพอดีเป๊ะ กับคันใหม่ ณ. ปัจจุบันนี้
มือหนึ่งป้ายแดง ออกศูนย์ Ducati monster 795
«
แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 16, 2012, 04:52:04 PM โดย WEBMASTER(กอล์ฟฟี่)
»
บันทึกการเข้า
NEXZTER BIGBIKE PADS BRAKE CLICK ..
https://www.facebook.com/Nexztermoto/
สนใจลงโฆษณา ติดต่อ
โทร.0841433398
LINE ID : diavel1200
http://www.facebook.com/ducatibikersthailand
WEBMASTER(กอล์ฟฟี่)
Administrator
กระทู้: 5787
Moto GP point: +169/-8
Re: Bigbike in my Memory ^^
«
ตอบกลับ #6 เมื่อ:
กุมภาพันธ์ 16, 2012, 03:32:06 PM »
คันที่ 7 ... เมื่อ ก้าวเข้าสู่ รถป้ายแดง คันแรก ในชีวิต..กับ รถประกอบไทย .. รุ่นแรก ของ Ducati และเป็นคันแรก ของประเทศไทย นั่นก็คือ
Ducati Monster 795
กับคันนี้ แรกเริ่มเดิมที่ หลังจากที่ขาย cbr1000 ไป กะว่า จะซื้อ cb1000 เน็คเค็ท ปี 2010 ครับ แต่พอดี อดได้ เลยต้องมองหารถคันใหม่
การตัดสินใจ และการจอง
ตอนแรก ทีหารถใหม่ เจอกับ monster 696 ปี 08 ครับ ขายอยู่ 420000 บาท ก็มองแล้วมองอีก อยากได้มาก ๆ เลย เลยขอลองครับ .. แต่แล้ว.. ด้วยความโชคดี ที่ได้เจอกะพี่หน่อง .. พี่หน่องกระซิบบอกว่า เฮ้ย.. ดูคาติ จะทำตัวประกอบไทยแล้ว เครือ่งเดียวกับ 796 เลย จะมาซื้อมือสองทำไม จองมือหนึ่งโลด .. ราคาไม่น่าเกิน 450000 บาท
โอ้ววว.. รอสิครับงานนี้ ก็คอยเ้ฝ้าติดตาม หาเบอร์โทร.หาเซล ว่าเปิดจองหรือยัง พอดีตอนนั้น เป็นช่วงน้ำท่วมครับ เลยต้องวัดดวง ว่าศูนย์จะเปิดหรือไม่ คอยโทร.ตามเซลตลอด จนสุดท้าย ผมก็ไปยืนรอหน้าศูนย์ดูคาติ ทองหล่อ ในวันแรก ที่เค้าให้เปิดจองรถ M795 (ตอนนั้นยังไม่มีรถเดโม่ให้ดูเลยครับ)
ด้วยความมั่นใจว่ามันโอเค ก็จองเลยครับ คิวแรกเลย กะว่า ได้ขี่เร็วแน่นอน
ระหว่างนั้น จับพลัดจับผลู มาทำเว็บบอร์ด
ด้วยความที่ มองเห็นว่า ลูกค้าดูคาติ คงจะเพิ่มขึ้นมากมาย และประกอบกับทำกลุ่มแบดบอย มาเรื่อย ๆ จัดออกทริปจองที่พักเองตลอดมา เลยอยากสร้างกลุ่มเพื่อน ๆ เพิ่มครับ นั่นจึงเป็นที่มาของเว็บบอร์ด
www.monsterclub-thai.com
ปัจจุบัน เว็บก็เป็นช่วงเติบโต และได้รับมิตรภาพ ความอบอุ่นมากมาย ดีใจครับ ที่่ตัดสินใจลองทำในช่วงเวลานั้น
วันรับรถครั้งแรก
หลังจากที่รอรถมาหนึ่งเดือน ในที่สุด เซลก็โทรมาแจ้งให้ไปรับรถได้ครับ โอ้ววว.. นอนไม่หลับกันเลยครับ
เช้านั้นจำได้ว่าตรงกับเช้าวันเสาร์ที่ 26 พฤศจิกายน 2554 (ติดในหัวเลย) ตื่นขึ้นมาสดใสมาก หยิบหมวก หยิบเสื้อการ์ด ขึ้นแท็กซี่ไปด้วยใจระทึกครับ ไปถึง มีM795 จอดอยู่ 4 คัน เขียนว่า "รอส่งมอบ" โอ้ยยย.. ดีใจ
ซักพักพี่เซลก็เอาเอกสารมาให้เซ็น ตรวจมอบรถ พร้อมกับเลี้ยงกาแฟ ในดูคาติคาเฟ่ หนึ่งแ้ก้วครับ
นี่เป็นครั้งแรกที่ผมซื้อรถป้ายแดง และมีการบริการที่ดี การส่งมอบ คู่มือรถ และระยะประกันต่าง ๆ .. มันช่างแตกต่างจากคันที่แล้ว ๆ มา โดยสิ้นเชิงครับ ราคาที่จ่ายเพิ่ม นอกจากเรื่องป้ายทะเบียนแท้แล้ว มันคือ เซอร์วิสครับ .. ค่าบริการ และคุณภาพ ที่รถอินวอย หรือรถจดประกอบไม่สามารถมีได้ .. ผมว่า ความรู้สึกมันต่างกันเหลือเกินครับ
ครั้งแรกที่คล่อมน้องกระติก (ชื่อเค้าครับ)
ความรู้สึกนั้น บอกตรงๆ ยังติดในสมองมาจนวันนี้ครับ พี่เซล เข็นรถของผม ออกมา ที่ตรงกลางของศูนย์ทองหล่อ โล่งๆ
เค้าบอกว่า คันนี้ของคุณกอล์ฟครับ..
ผม... มองมัน .. สวยจัง.. สวยม้าก
ดีใจครับ ห้วงเวลานั้น เหมือนโลกทั้งโลกมืดไปหมด แล้วมีแค่เจ้ากระติก สว่างอยู่คันเดียว
สีแดง .. โลโก้ DUCATI .. บอกตรง ๆ เป็นรถในฝัน ที่ผมเคยได้แต่เปิดเว็บ ดูราคา แล้วปิดไป เพราะมันแสนจะแพง
แต่วันนี้.. ณ.วินาทีนั้น ผมยกขาขวา ก้าวข้ามเบาะหลังไปคล่อมมั่น
ฟึ่บบบ...!!! ก้นผมอยู่บนเบาะ บนรถคันนี้ คันใหม่เอี่ยมป้ายแดง ของผมเอง กับรถที่มีบุคลิก เน็คเก็ต สวยงาม ดูคาติมอนสเตอร์.. ที่เคยแต่แค่ฝันมาตลอด
ตอนนั้น ขอบคุณครับ ขอบคุณโชคชะตา .. ที่ทำให้ผมมีวันนี้ วันที่ได้ทำตามใจฝัน วันที่อะไร ต่ออะไร มันลงตัว ทำให้ได้คล่อม เจ้ากระติก คันนี้...
ปลื้มครับ จำความรู้สึกนั้นได้ติดตาเลยเชียว
ก็ลองคล่อม แล้วเซลเค้าก็สอนวิธีการเซ็ตหน้าจอ การดูต่าง ๆ ครับ โอ้ว .. แหล่มมาก บริการดีแท้
ไม่นาน ผมก็ขับมันกลับบ้านครับ เป็น M795 คันแรก ที่ออกสู่ถนนเมืองไทย โดยEnd User
เพราะอีก3 คันที่นัดรับวันนั้น เ้จ้าของยังไม่มาเลยครับ
ตอนขี่กลับบ้าน ติดไฟแดงมากมาย คนมองกันเกรียว จนผมไม่รู้จะเอามือไว้ไหนด้วยซ้ำ ได้แต่ยืนกอดอก ใครที่เจอผมวันนั้นอย่าเข้าใจว่าผมหยิ่งนะครับ ผมเขินครับ
เริ่มมีเพื่อน ๆ จาก monster club มากขึ้นเรื่อยๆ
หลังจากที่เปิดเว็บบอร์ด มอนสเตอร์คลับไทย ได้ซักระยะ ก็ได้กระแสตอบรับที่ดีจากเพื่อนๆพี่น้อง ทั้งที่ขี่ และที่สนใจรุ่นนี้เป็นจำนวนมากครับ จำนวนสมาิชิกเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และเริ่มมีการมิตติ้งกัน จนเกิดกิจกรรมดี ๆ ขึ้นมากมาย ต้องขอบคุณเจ้ากระติกจริง ๆ ครับที่เป็นตัวเชื่อมสายสัมพันธ์ในเรื่องนี้
และแล้ว ทริปใหญ่ สำหรับเจ้ากระติกก็เกิดขึ้นครับ
กับทริปตะลอนทัวร์เที่ยวเหนือ 5 วัน ไม่รู้กี่พันโค้ง
โดย ผม ได้ขอติดตามพี่ๆ น้อง ๆกลุ่มลูกเรือในเว็บ นินจา250 ไปเที่ยวเหนือด้วยคนครับ ถือเป็นทริป และเส้นทางที่โหดมาก ๆ ๆ ๆ เส้นทางหนึ่งสำหรับผมเลย วิ่งจากนครสวรรค์ ไปน่าน ไปอ่างขาง ไปปางอุ๋ง ไปตาก ครับ อ้อมภาคเหนือกันเลย ซึ่งก็ทำให้ได้ลองใช้ศักยภาพ ยาง และปรับตัวเข้ากับการขี่น้องกระติก ตลอดเวลาครับ เพราะโค้งเยอะม้ากกก ไม่รู้จะเยอะไปไหน .. บางโค้ง ผมรู้สึกว่า มันอ้อมภูเขาเป็นวงกลมด้วยซ้ำไปครับ พี่ ๆ น้อง ๆ ในกลุ่มขี่กันเก่งมาก ๆ เข้าเขาตอนค่ำ มืดก็มืด ผมก็ขี่ช้าด้วยครับ เลยขอคลานไปเรือ่ย ๆ ดีกว่า ซึ่งทำให้มีหลายจังหวะมาก ๆ ที่ผมขี่คนเดียวกลางป่าเขาครับ
ถามว่ามันน่ากลัวไหม ก็น่ากลัวครับ..
แต่แปลกครับ ที่ภายในความน่ากลัวนั้นมีความสงบ และความสุข ความปลื้มใจ ที่เราได้มาอยู่ตรงนี้ อยู่ด้วย
การเข้าโค้ง แนวเน็คเก็ต ก็ได้เรียนรู้ ปรับตัว กับทริปนี้แหละครับ มันง่ายซะเหลือเกินครับ ..
แค่กดแฮนด์บาร์ ซ้าย ขวา ตามแนวโค้งของถนน เท่านั้น รถมันก็ไปตามแนวโค้งแล้วครับ เราแค่เผื่อไลน์การเข้าให้ดี อย่าเข้าแคบครับ ปลอดภัยสุดสำหรับผมคือ ตีวงเข้า แล้วอย่าตัดวงโค้ง อ้อม ๆ ตามวง รักษาแนวตัวเองไว้ ยังไงก็ไม่มีหลุดครับ แม้จะช้าไปบ้าง แต่ปลอดภัยไว้ก่อนคร้าบ
หลังจากนั้น ผมก็ยังไปเที่ยว ไปสนุกกับเจ้ากระติกเรื่อยมา ยอมรับว่ามีความสุขกับมันมาก ๆ เลยครับ เป็นรถที่ขี่ง่าย คล่องแคล่ว แต่งสนุก มีสังคม โอ้ยยย.. ครบไปหมดครับผม
แต่แล้ว... ต่อมาไม่นาน ก็เอาอีกแล้วครับ ohhhhhh มีข่าวหนาหูว่า รุ่นถัดไป ที่ดูคาติประเทศไทยจะประกอบ นั่นคือ Ducati diavel
ซึ่งบอกตรงๆ ครั้งนึง เมื่อนานมาแล้ว ผมเคยขี่ K8 ไปเที่ยวสวนผึ้งครับ และพบกับรถรุ่นนึง ที่สวยเวอร์ ๆ ล้อหลังโตม้ากกก ไม่รู้จะโตไปไหน
ปะโลโก้ดูคาติ ซึ่งตอนนั้น พอกลับมา ก็มาหาข้อมูล อ้ออออ.. มันคือ ดูคาติ ไดเวล .. แต่พอเช็คราคา ถึงกับอึ้งครับ gag 1,150,000 บาท (หนึ่งล้าน หนึ่งแสน ห้าหมื่นบาท
) ตายครับตาย ชาตินี้ ไม่ไหวครับ ขี่มอไซค์คันเป็นล้าน เกินเอื้อมไปละ
แต่อนิจจา เมื่อมันประกอบไทย แน่นอนครับ ราคาลงแน่ๆ แต่จะลงเหลือกี่บาทนี่สิ
ผมเลยบอกเซลไว้ว่า ถ้าไม่เกิน 850,000 บาท ให้โทรมาเลย
และแล้ว เซลก็โทรมาครับ
เซลบอกว่า คุณกอล์ฟครับ ไดเวล ราคา แปดแสน
เซลบอกว่า คุณกอล์ฟครับ รุ่นนี้ same spec กับตัวประกอบนอกเลยครับ ไม่ลดสเปค
แล้วจะรีรออะไรละครับ..
ผมขอบัญชีของดูคาติ
ผม... โอนเงินให้เค้าไป ห้าหมื่น
ผม.. จองไว้ ได้คิว คันที่สองของล็อตแรก
ณ.วันนี้ รออยู่ครับ ไม่เกินกลางเดือนหน้าจะส่งมอบแล้วครับ
โดยหลังจากจองไดเวลไปแล้ว.. ก็เลยต้องประกาศขายน้องกระติกครับ เพราะไม่สามารถถือไว้ขี่หลาย ๆคันได้เลยจริงๆ
วันที่น้องกระติกจากไป ยอมรับว่า ใจหายมากครับ
เสียใจ.. เพราะผมรัก และดูแลมันมาก ๆ มันจอดอยู่ตรงที่ประจำของมัน แต่วันนี้มีแต่ความว่างเปล่า.. ใจหายสุดๆครับ ได้แต่ทำใจ และก็ดีใจที่พี่คนที่รับไปดูแลต่อ ก็รักรถไม่แพ้ผมครับ
ก็ได้แต่ขอให้มันไปด้วยดีมีความสุขกับเจ้าของใหม่ครับ
ก็ยังคงฝัน ๆ ๆ กันต่อไป .. มีหลายคนถามครับ คันนี้จะคันสุดท้ายได้หรือยัง... แฮ่ๆๆ
ก็ขอตอบครับ.. ว่า อนาคตไม่มีอะไรแน่นอน... แต่ฝัน ต้องไปให้ถึงนั้น แน่นอนครับ
พยามกันต่อไป ... รอรีวิวไดเวลกันนะครับ
ขอบคุณที่ติดตามอ่านมาถึงตรงนี้ครับผม
«
แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 19, 2013, 04:38:23 PM โดย WEBMASTER(กอล์ฟฟี่)
»
บันทึกการเข้า
NEXZTER BIGBIKE PADS BRAKE CLICK ..
https://www.facebook.com/Nexztermoto/
สนใจลงโฆษณา ติดต่อ
โทร.0841433398
LINE ID : diavel1200
http://www.facebook.com/ducatibikersthailand
Tim@maesod(ติม)
Ducati Owner
กระทู้: 48
Moto GP point: +0/-0
Re: Bigbike in my Memory ^^
«
ตอบกลับ #7 เมื่อ:
กุมภาพันธ์ 16, 2012, 04:04:59 PM »
ผมชอบมากๆเลยได้อ่านได้รับรู้เรื่องราวต่างๆและประสบการณ์ของพี่ๆ ทำให้ผมมีกำลึงใจในการรอBIGBIKEคันแรกในชีวิต เกิดมาได้24ปี แต่ผมรอเป็นเจ้าของมา14ปี
บันทึกการเข้า
WEBMASTER(กอล์ฟฟี่)
Administrator
กระทู้: 5787
Moto GP point: +169/-8
Re: Bigbike in my Memory ^^
«
ตอบกลับ #8 เมื่อ:
กุมภาพันธ์ 16, 2012, 04:30:34 PM »
19/06/2013
รีวิวคันที่ 8 Ducati Diavel 2012
รีวิว นี้ ได้ลงไว้ในพันทิพย์นะครับ ขอปรับปรุงข้อมูลเล็กน้อย เพื่อมาลงในนี้ต่อนะคับผม
ก่อนอื่น ขอเกริ่นนำว่า เมื่อก่อนหน้านั้น.. นานมาแล้ว ซัก ปีครึ่งเห็นจะได้.. เคยมีอยู่ครั้งนึง ครับ .. สมัยนั้น ผมขี่ suzuki gsx r1000 k8 ..บินเดี่ยว เที่ยว สวนผึ้งครับ..
จำได้ ว่า ไปเที่ยว ที่ซินเนอรี่ ที่เค้ามีให้อาหารแกะ แหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตติดลมในช่วงนั้น ใครไปต้องไปเที่ยวที่นี่..
ใช่ครับ.. ขณะที่ผมจอดรถ .. ผม พบเจอกับ รถดูคาติมอนสเตอร์ .. ที่ผมรู้จักดี .. แต่เอ๊ะ *0*!! อีกคัน ที่จอดข้าง ๆ กัน ถังน้ำมัน ใหญ่ม้ากกกก คันนี้ผมไม่เคยเจอเลย
พอขี่กลับมาถึงบ้าน เจ้าดูคาติ คันงามใหญ่ที่เห็นนั้น ยังติดตาอยู่ครับ .. เลยกลับมาค้นข้อมูลดู .. โอ้วว เจอจนได้ .. มันชื่อว่า ดูคาติ เดวิล (หรือไดเวล) ซึ่งแปลจากภาษาอิตาลี แปลว่า ปิศาจ
สนนราคา.. อ่านไปหนาวไปครับ ... 1,150,000 บาท *0*!!!
ยอม ... -*- เพราะสำหรับผม มอเตอร์ไซค์ราคาเป็นล้าน ชีวิตนี้ คิดไว้แล้ว .. คงไม่มีวัน เหอะๆๆๆๆ T^T (ปลอบใจตัวเอง)
หลังจากนั้นมา ผมจึง ได้แต่ฝันถึงมันครับ..
( บางครั้งบางคราว ฝันนี้ ก็เก็บเข้าิลิ้นชักลึก ๆ มากๆ จนเผลอลืมไป..
แต่เมื่อ เราเก็บกวาด ลิ้นชัก รื้อดูเมื่อไร .. ฝันนี้ ก็ยังค้างคาอยู่ในลิ้นชักความฝันของเราเสมอ ไม่เคยเปลี่ยนแปลง...
ระหว่างนั้น ผมก็ได้ขี่ดูคาติ นั่นคือ มอนสเตอร์ 795 นั่นละครับ เพราะเป็นตัวประกอบไทย ราคาลงมาเหลือ 400,000 บาท จึงตัดสินใจไม่ยากเลย ที่จะไปนั่งเฝ้า ขอจองรถที่ศุนย์ดูคาติ ทองหล่อ ตั้งแต่วันแรก 555+
และแล้ว.. จากข่าวหนาหู .. ให้เพื่อน ๆ ชาวสองล้อ ได้ลุ้นกัน ว่ารุ่นประกอบไทย ของดูคาติ ประเทศไทย ต่อจากมอนสเตอร์ คือรุ่นอะไร *0*!!!
ถ้าเพื่อน ๆ ได้ติดตามข่าวภาพหลุดต่าง ๆ จากโรงงาน .. คงจะจำได้ครับ.. ว่า ในภาพนั้น.. มีกระดาษแปะที่เสา .. บ่งบอกไลน์ผลิต ชัด ๆ ๆ ๆ ว่า .. ไลน์ผลิตเส้นนั้น คือ DUCATI DIAVEL
อืมมมม... เอาละสิ ภาพนั้น ทำให้ผมมั่นใจครับ ว่า มาแน่ ๆ รถที่เราเคยได้แต่ฝันถึง จะมาประกอบ และขายในไทยแน่นอน ..
ที่นี้ ก็ต้องมาลุ้นกันละครับ ว่า ราคาจะเปิดมาที่กี่บาทกันแน่
ดูจากมอนสเตอร์ นำเข้า 600,000 บาท ประกอบไทย 400,000 บาท
ผมจึงคะเนเอาเองว่า เดวิล นำเข้า 1,150,000 บาท ประกอบไทย ก็น่าจะมีหายไป 30% คือเหลือ 805,000 บาท ผมจึงบอกพี่เซลไว้ครับ ว่า ถ้าราคาออก ไม่ถึง 850,000 บาท พี่โทร.หาผม ผมจะจองทันที
ไม่นานนักครับ เบอร์พี่เซล ก็ call เข้ามา .. บอกกับผมว่า .. ราคาที่ออกมาคื้อออออออ...... 799,900 บาท ฟรีประกันชั้น 1 & มีบอลลูน ดาวส์แสนเดียว ..+แถม นู่นนี่นั่น
โอ้วว... โปรฯ อะไรกันนี่
!!! ทำไมมันยั่วเย้า อย่างรุนแรง
โอนเงินจองทันทีคับ
ไม่ได้คิดเลย
ช่วงเวลารอ ก็แสนทรมานเนอะครับ ไม่เคยชินซักที ที่จะต้องรอรถ ได้แต่มอง และหาของแต่งไปวัน ๆ
จะโทรหาพี่เซล ก็เกรงใจครับ ไม่อยากโทร.บ่อย เดี๋ยวจะว่าจิก แหะๆ .. เข้าใจการทำงานครับ เลยรอๆๆๆต่อไป ...
แต่แล้ว .. วันนั้นก็มาถึงครับ เมื่อพี่เซล นัด .. ให้ไปรับรถได้ เย้ๆ
วันนั้น เป็นปลื้มครับ ความรู้สึก ตอนเห็นรถตัวเองที่ศูนย์ดูคาติ มันบรรยายไม่ออกจริง ๆ ครับ รู้แต่ว่า แม้รถจะสีดำ .. แต่เหมือนมีหลอดไฟฝังอยู่ เพราะมันสว่างโดดเด่นซะเหลือเกิน
มาถึงสเปค คร่าว ๆ กันบ้างครับ
เครื่องยนต์ L-Twin 2 สูบ , 4 วาล์ว/สูบ ระบบขับวาล์วแบบ Desmodromic ระบายความร้อนด้วยน้ำ
ความจุกระบอกสูบรวม 1,198 cc.
162 แรงม้า ที่ 9,500 rpm.
ความรู้สึกแรก คือ... ใหญ่ครับ ..
ใหญ่มว้ากกก..
(หลายคงก็คงรู้สึกเหมือนกัน) โดยเฉพาะระยะ จากไปหน้า ถึงเบาะ กว้าง ยาว ไกลมากครับ
ตัวเครื่องยนต์ และแรง บิด ให้รอบที่ทันใจครับ
มีโหมดการขับขี่ทั้งหมด 8 ระดับ หรือจะปรับ ง่าย ๆ แบ่งเป็น 3 โหมดครับ คือ สปอร์ท / ทัวร์ริ่ง / เออเบิ้น(ในเมือง)
เบาะนั่งนั้น.. ต่ำครับ abc29นั่งง่ายมาก เท้ายันเต็มฝ่าเท้า แถมเข่ายังงออีกครับ (ผมสูง 175) ถือเป็นเบาะที่ต่ำมาก คงเพราะมันเป็นรถแนวครุยเซอร์ อยู่มาก เลยเน้นให้นั่งสบาย เรียกได้ว่าหลังเกือบตรง
สิ่งนึง ที่ผม(และหลายๆคน) ชอบจังเลยกับคันนี้ นั่นก็คือ โปรอาร์มครับ
หรือสวิงอาร์มเดี่ยวนั่นละครับ (งงๆ)
เลยต้องจัดท่อแต่ง ให้สั้นลงเล็กน้อย โชว์ล้อซักนิด ครับ จะใช้บริการท่อแต่งศุนย์ ซึ่งจัดโปรลดราคาท่อเทอมิคฟูล ก็ตกอยู่ที่ราคา 120,000 บาท T0T
ผมเลยต้องหันใช้บริการท่ออเมริกา ซึ่งตอบโจทย์เรื่องความสั้น.. (ชอบเชียวอะไรสั้นๆ) เลยมาลงเอยที่ท่อ Compettion werk ครับ ^^
ยาว x สูง x กว้าง 2,235 mm x 1,192 mm x 860 mm
เบาะนั่งสูง 770 mm
ห่างจากพื้น 139 mm
ระยะฐานล้อ 1,580 mm
ด้วยมิติ ที่เห็นนะครับ เวลามุดในเมือง จะค่อนข้างเหนื่อยหน่อยครับ แต่ด้วยความที่เราไม่ต้องก้มมาก เลยออกจะเรื่อย ๆ ครับ เรียกได้ว่า ยังไงก็เร็วกว่าตุ๊ก ๆ 555+
ความร้อน ไม่เท่าไหร่นะครับ ร้อนน้อยกว่ามอนสเตอร์ครับ อาจเพราะมีระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ และมีพัดลมครับ
ความจุถังน้ำมัน 17 Lite ( รวมสำรอง 4 Lite )
น้ำหนักเปล่า 210 kg. ( ไม่รวมแบ็ตเตอร์รี่และของเหลวภายในเครื่องยนต์)
เรื่องความประหยัดนั้น เป็นเรื่องที่ต้องคำนึงถึงพอสมควรเนอะครับ
อย่างที่เห็ฯครับว่า ถังน้ำมันเดวิลความจุด17 ลิตร โดย เมื่อเหลือ 3 ลิตรสุดท้าย ไฟเตือนจะสว่างขึ้นครับ เพื่อให้เราหาปั๊มน้ำมัน พร้อมทั้งจะขึ้นระยะทางที่วิ่งหลังไฟเตือนให้ครับ ชือ่ว่า Fuel Trip
เท่าที่วิ่งออกทริปมา เอาง่ายๆครับ ถ้าบิดชิวด์ ๆ 120-130 ไปเรื่อย ๆ ไม่ซัดเลยซักนิด จะวิ่งได้ ประมาณ 220-240 โล ก่อนไฟเตือนครับ เท่ากับกินน้ำมันที่ 16.4โล/ลิตร ครับ
แต่ เส้น บางเลน เคยซัดสุดครับ.. >< ต่อเนื่องด้วย (เป็นตัวอย่างไม่ดีครับ) สรุปอัตราสิ้นเปลือง คือ 180 ไฟเตือนแล้วคับ *0* คือหมด 14 ลิตรในถังแล้ว เท่ากับว่า กินน้ำมัน ตอนซัด ๆ ที่ 12.8 โล / ลิตร ครับ
ล้อหน้า / ยางหน้า วงล้ออัลลอยด์ 14 ก้าน ขนาด 17 x 3.50 inc. / 120/70 ZR-17
ยางหน้านั้น ขนาด120 ครับ อาจจะดูว่าเล็กไปเมื่อเทียบกับยางหลัง แต่รวม ๆแล้ว สำหรับทุกการเข้าโค้ง ผมว่ามันยังประสานกันดี เข้าไม่ยากเลยครับ
ล้อหลัง / ยางหลัง วงล้ออัลลอยด์ 14 ก้าน ขนาด 17 x 8.00 inc. / 240/45 ZR17
มาถึง ยางหลัง ที่โดดเด่นกันบ้างครับ
เอาเป็นว่า ใครก็ต้องมายืนส่องยืนเล็งครับ แล้วถามว่า โอ้โห.. ยางหลังขนาดเท่าไหร่นี่ เกือบเท่ารถเก๋งเลย
มันก็ใหญ่จริง ๆละครับ ขนาด 240 ครับ ออกแบบที่ยึดป้ายทะเบียนได้ถูกใจมากๆเลย
เอายางมาจอดเทียบให้ดู กับรถ มิตซู แลนเซอร์ ที่บ้านครับ ^^ ใครใหญ่กว่ากันเอ่ย *0*!!!
ไฟท้าย ทั้งไฟเบรค และไฟเลี้ยว จัดให้อยู่โคมเดียวกัน โดยใช้หลอด LED ครับ ทำให้ลักษณะไฟ เป็นเส้นตรง ยาว ๆ ทั้งสองข้าง
แรก ๆ ผมมองแล้วมันแปลก ๆ นะครับ.. แต่ดูไปนาน ๆ โครตะระ ชอบมันเลยอ่ะคับ
สวยดีนะ
หน้าจอแสดงผล มีสองชั้นครับ
จอบน เป็น แบบขาวดำ ไว้บอกระยะทาง ความเร็วรอบต่าง ๆ , อุณหภูิมิ , เวลา ฯลฯ
ส่วนจอล่าง จะเน้นฟังชั่น พิเศษต่าง ๆ ที่เพิ่มมาเกี่ยวกับตัวรถครับ เช่น DTC / และมี ตัวเลขบอก ตำแหน่งเกียร์ด้วยครับ ชอบมองตรงนี้มาก ๆ
อีกนิดครับว่า กุญแจรถ เป็นแบบ คีย์เลส ครับ คือ ไม่ต้องเสียบกุญแจ แต่พก ไว้กับตัว ห่างรถไม่เกิน 2 เมตร จะสามารถสตาร์ทได้ทันทีครับ
และกรณีกุญแจหาย เราสามารถกดเปิดรถแล้วใส่รหัส 4 ตัวที่เราตั้งไว้ เพื่อสตาร์ทรถได้เช่นกันครับ แต่ผมไม่สามารถบอกรหัสตรงนี้ได้นะ eiei
ไฟสัญญานแจ้งเตือนการทำงานต่าง ๆ ของระบบรถ ตอนจะเริ่มสตาร์ทรถครับ ^^
(ถ่ายตอนมันติดพร้อมกันพอดี แล้วมันก็จะดับไปทั้งหมด เมื่อทุกอย่างถูกตรวจเช็คเรียบร้อยครับ)
abc36ปะกับด้านซ้าย .. มีปุ่มสำหรับเลือกฟังชั่นต่าง ๆพอควรครับ ต้องเรียนรู้นิดหน่อย ^^ ก็จะเข้าใจครับ ไม่ยากครับ
นี่คือ ปุ่มต่าง ๆ ด้านขวามือ ..
เดิมผมเคยคิดนะครับ ว่า เมื่อเดวิลไม่มีกุญแจ แล้วมันจะ ติดเครื่อง เปิดเครื่องยังไง แล้วจะดับเครื่องอย่างไร
หลังจากใช้ ก็ไม่ยากเลยครับ ดับเครื่องคือ รูดสีแดง ปุ่ม ออฟรัน ลง จบครับ
ส่วนปุ่มอื่นๆ นั้น ก็คล้ายๆคันอื่น ๆ ครับ ปรับตัวง่าย ไม่ยากเลย
ภาพรถด้านซ้ายครับ
ดูคาติ ก็ต้องเฟรมถัก เนอะครับ
รองรับมุมเอียงเข้าโค้งได้ถึง 41° จากแนวดิ่ง
ชิลด์หน้านั้น.. ซื้อมาติดเพิ่มครับ เป็นชิลด์ของ ducati performance เพราะผมชอบออกทริปด้วยครับ
เลยเน้นสูงหน่อย
หลายท่านบอก ใส่แล้ว มันไม่เข้ากัน ดูไม่ดุ อย่างแรง
ก็เห็นด้วยครับ ไว้จะแกะชิลด์ ไปติดฟิล์มรถยนต์ เข้ม ๆ ดีก่า ^^
มาถึงท่อแต่งกันบ้าง
โจทย์ในใจผม มีไม่มากครับ ในการเลือกท่อแต่งสำหรับเดวิลตัวนี้
คือ มันต้องโชว์ล้อครับ ไหน ๆ ก็ได้ซิงเกิ้ลไซด์ สวิงอาร์มมาทั้งที (โปรอาร์มแหละครับ^^) ก็ต้องขอจัดให้เด่นกันหน่อย
ด้วยราคา และการสั่งของไม่ยากของพี่อีเบย์ ผมก็ได้ท่อ CW มาครอบครองไม่ยากเย็นนักครับ โชว์ล้อสมใจ เสียง สะใจเกินบรรยาย *0* !!
อีกสิ่งที่สำคัญ กับการใช้งาน กับรถที่ทุก ๆ ท่านรัก คงหนีไม่พ้น "กันล้ม" เนอะครับ
ตอนแรก ดูไว้ยี่ห้อริโซม่าครับ แต่ เมื่อถามไถ่จากเพื่อน ๆ แล้วเห็นควรว่า เอา R&G จะคุ้มกว่ามาก ทั้งราคาและการใช้งาน รวมถึงรูปทรงที่โค้งมน รับกับตัวถังเดวิลพอดิบพอดี
สำหรับการใช้งานจริง กับการขี่ในเมืองนั้น .. มุด พอไปได้ครับ
แฮนด์มันไม่ได้ใหญ่เกินไปเท่าไหร่ครับ สบายๆ เชื่อว่า กระจกข้าง ของดูคาติ มอนสเตอร์เดิม ๆ นั้น บานมากกว่าอีกครับ
ความร้อน ผมว่า มันโอเคนะ รับได้ครับ เทียบกับตัวอื่นถือว่ากลางๆครับ
แต่พอพัดลมทำงาน เมืออุณหภูมิเกิน 100องศา .. ก็จะเป่าไอร้อนซัดใส่ขาเราเลยครับ สำหรับเมืองหนาว พอมันเป่า ผู้ขี่ คงอบอุ่นสบาย แต่สำหรับบ้านเราเมืองร้อน พอเป่าปั๊บ ... จะสุกแระค้าบ
สำหรับการออกทริปต่างจังหวัดนั้น ..
ความเร็ว เกียร์ 6 ที่ รอบ ประมาณ 4500 ซึ่งสบาย ๆไม่ต้องบิดเท่าไหร่ ความเร็วจะอยู่ที่ประมาณ 120 Km/Hr ครับ ก็ถือได้ว่า ขี่สบาย ๆ ครับ ไม่เครียดเท่าไหร่
มันทำให้เรามีเวลา มีสติ นิ่งอย่างเป็นสุข อยู่กับรถ ได้มากขึ้นจริงๆครับ
โดยรวมๆแล้ว.. สำหรับรถคันนี้ ..
ออกจะเป็นรถที่มีบุคลิกเฉพาะตัวเยอะ จนเด่นชัดมาแต่ไกลครับ
การใช้งาน ง่าย โหมดต่าง ๆ ดูง่าย อัตราเร่งเหลือเฟือ ก็เครื่องใหญ่ซะขนาดนั้น
ช่วงล่าง กระด้างนิดหน่อย แต่ได้การเข้าโค้งที่คมขึ้นครับ สามารถปรับได้ด้วยครับ จะให้แข็งหรือนิ่ม
กับเงินที่จ่ายไป .. ไม่ว่ามองมุมไหน นอกจากเรื่องอารมณ์ในการซื้อแล้ว ถึงจะคำนวนตามหลักเหตุผล ผมว่ามันก็คุ้มค่านะครับ
ผมเอง ก็แค่มีโอกาสจับต้องมันได้ ก็ดีใจแล้วครับ คงมีความสุข และขอขี่มันไปอีกนาน ๆเลยครับผม
ขอบคุณที่ติดตามรีวิว "สั้น ๆ" นี้ นะครับ แหะๆ
เบื้องหลังการถ่ายทำ
ขอขอบคุณ พ่อผมเองครับ อิอิ อยากถ่ายด้วย ผมเลยให้แกถ่ายครับ แล้วผม แอบเอาไอโฟน ถ่ายแกอีกที
นี่แกยังไม่รู้เลยนะว่ามีรูปนี้ 5555+
«
แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 19, 2013, 04:44:35 PM โดย WEBMASTER(กอล์ฟฟี่)
»
บันทึกการเข้า
NEXZTER BIGBIKE PADS BRAKE CLICK ..
https://www.facebook.com/Nexztermoto/
สนใจลงโฆษณา ติดต่อ
โทร.0841433398
LINE ID : diavel1200
http://www.facebook.com/ducatibikersthailand
Din@
วัยช่างฝัน หวังวันควบ2ล้อออกถนน
กระทู้: 37
Moto GP point: +0/-0
นักบิดเด็กแนว
Re: Bigbike in my Memory ^^
«
ตอบกลับ #9 เมื่อ:
กุมภาพันธ์ 16, 2012, 06:30:04 PM »
สุดยอดครับพี่
บันทึกการเข้า
boomtar
Ducati Owner
กระทู้: 384
Moto GP point: +2/-0
Re: Bigbike in my Memory ^^
«
ตอบกลับ #10 เมื่อ:
กุมภาพันธ์ 16, 2012, 06:30:56 PM »
อ่านซะเพลินเลยคุณกอล์ฟ บรรยายได้น่าอ่านมากเลยครับ เยี่ยมครับบทความดีๆที่นำมาแบ่งปัน
บันทึกการเข้า
sirapong (อัน)
Ducati Owner
กระทู้: 214
Moto GP point: +4/-0
เพศ:
Re: Bigbike in my Memory ^^
«
ตอบกลับ #11 เมื่อ:
กุมภาพันธ์ 16, 2012, 06:47:08 PM »
อ่านเพลิ๊นนเพลิน น่าจะมีคันต่อๆไป
บันทึกการเข้า
Racha_oat(โอ๊ต)
Ducati Owner
กระทู้: 109
Moto GP point: +2/-0
เพศ:
Re: Bigbike in my Memory ^^
«
ตอบกลับ #12 เมื่อ:
กุมภาพันธ์ 16, 2012, 07:38:58 PM »
อ่านเพลินเลยครับ คุณกอล์ฟ
และสำหรับ เจ้าM795 ตัวนี้ เป็นยังไงบ้างครับ. ตอบความต้องการได้ทั้งหมดมั๊ย. อยากฟังความคิดเห็นคับ
บันทึกการเข้า
ปุ๊ DNT
Global Moderator
กระทู้: 8000
Moto GP point: +26/-1
Re: Bigbike in my Memory ^^
«
ตอบกลับ #13 เมื่อ:
กุมภาพันธ์ 16, 2012, 08:30:48 PM »
อ่านแล้วเพลินมากๆครับ
ว่าแต่ webmaster ใช้ผู้หญิงเปลืองเหมือนรถไหมครับ
บันทึกการเข้า
Q DNT
Ducati Owner
กระทู้: 3057
Moto GP point: +29/-2
เพศ:
Ducati Only!!
Re: Bigbike in my Memory ^^
«
ตอบกลับ #14 เมื่อ:
กุมภาพันธ์ 16, 2012, 08:58:02 PM »
อิจฉา อ่านแล้วอยากไปมาเลย์ๆ
บันทึกการเข้า
https://www.facebook.com/DucatiDNT
เบิ้ม DNT(B)
Ducati Owner
กระทู้: 786
Moto GP point: +4/-0
Re: Bigbike in my Memory ^^
«
ตอบกลับ #15 เมื่อ:
กุมภาพันธ์ 16, 2012, 09:29:13 PM »
สุโค้ย
บันทึกการเข้า
Endless riding, Endjoy living
meng23 เหม่ง
Ducati Owner
กระทู้: 130
Moto GP point: +2/-2
เพศ:
Re: Bigbike in my Memory ^^
«
ตอบกลับ #16 เมื่อ:
กุมภาพันธ์ 16, 2012, 11:15:56 PM »
อ่านและคิดตามเลยคับ เป็นประสบการณ์ที่ดีในแต่ละคัน สุดยอดมากๆคับ
บันทึกการเข้า
หนึ่ง DNT(B)
Ducati Owner
กระทู้: 991
Moto GP point: +12/-1
Re: Bigbike in my Memory ^^
«
ตอบกลับ #17 เมื่อ:
กุมภาพันธ์ 16, 2012, 11:30:41 PM »
สุดยอดครับ แบบว่าผมตั่งใจอ่านมาก
บันทึกการเข้า
MomoArshi(Art)
วัยช่างฝัน หวังวันควบ2ล้อออกถนน
กระทู้: 92
Moto GP point: +6/-0
เพศ:
Re: Bigbike in my Memory ^^
«
ตอบกลับ #18 เมื่อ:
กุมภาพันธ์ 16, 2012, 11:52:14 PM »
น่าอิจฉาสุดๆอ่ะคับ...
บันทึกการเข้า
-RiTzOMa-
Ducati Owner
กระทู้: 62
Moto GP point: +0/-0
เพศ:
Ducati M795
Re: Bigbike in my Memory ^^
«
ตอบกลับ #19 เมื่อ:
กุมภาพันธ์ 16, 2012, 11:54:43 PM »
ขอบคุณที่นำมาแชร์ครับ ชอบๆ
บันทึกการเข้า
พิมพ์
หน้า: [
1
]
2
3
...
5
ขึ้นบน
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »