ผมเองก็นัดเอาไว้แล้วครับ โทรไปที่ศูนย์ว่าอยู่ในกลุ่มเรียกเข้าทำใช่มั้ย นัดจะเอารถเข้าไปทำในเดือนนี้เหมือนกัน
จากที่เข้าใจมีอสองประเด็น คือความร้อนทำให้น้ำมันระเหย และรูระบายมีขนาดเล็กไม่เพียงพอ ทำให้แรงดันในถังระบายไม่ทัน
การนำไอระเหยผ่านท่อไปเข้าตัวดักน้ำมัน (ถ้าผมเข้าใจไม่ผิดมันเอาน้ำมันส่วนนี้กลับมาใช้ใหม่ใช่มั้ย) น้ำมันส่วนนี้จริงๆ แล้วมันคือเศษของน้ำมัน
ตามปกติหลักการของเครื่องยนต์เมื่อก่อนไม่เคยมีใครนำกลับมาใช้อีก เพราะจะมีปัญหาเรื่องการเผาผลาญ และอาจมีผลเรื่องการอุดตัน
ยังไม่รวมการเปลี่ยนสภาพไปแล้วของน้ำมันระเหยเป็นไอจากไอเป็นน้ำ ซึ่งคุณสมบัติของมันต้องต่างจากน้ำมันที่กลั่นมาแต่แรกอย่างแน่นอน
ยังไม่รวมเรื่องจุกจิกอื่นๆ ของคาบูเรเตอร์หรือหัวฉีด เดิมการฉีดจ่ายน้ำมันเป็นแบบเส้นฝอย หากมีการจ่ายเศษน้ำมันส่วนนี้กลับเข้าไปจะมีความเสี่ยงจากการอุดตันสูง
หรือปัญหาอื่นๆ จากน้ำมันที่มีคุณสมบัติไม่มาตรฐานอันเนื่องเกิดการร้อนจนเผาไหม้ระเหยในถังไปแล้วรอบนึงแล้วโดนดักกลับมารับรองว่านานๆ ไปต้องมีคราบฝุ่นหรืออะไรบางอย่างอุดตันแน่นอน
และสุดท้ายผมเคยเห็นโซฮอล 95 มีปัญหาเรื่องการเผาไหม้ ถ้าเลี่ยงได้ผมไม่อยากใช้ เคยเห็นตอนที่เค้านำไปใช้กับเครื่องยนต์สองจังหวะ
เบนซิน 91 กับเบนซิน 95 ไม่มีปัญหา โซฮอล์ 91 ก็ไม่มีปัญหา แต่พอนำมาเปลี่ยนไปใช้กับโซฮอลล์ 95 เครื่องยนต์สองจังหวะบางประเภทจะเกิดคราบคล้ายๆ กับทรายละเอียด พอบี้แล้วจะเห็นว่ามันคือไขมันละเอียดเป็นก้่อน อุดตันอยู่ตรงคาบูเรเตอร์หรือส่วนที่ผ่านความร้อนสูงๆ ไม่ทราบมาได้ยังไง ต้องนำไปล้างคาบูเรเตอร์และปรับตั้งเข็มกับปรับคาบูใหม่ เพื่อให้นำมาใช้งานได้ปกติ อันนี้เคยเห็นมากับตา ขอบอกแล้วกันว่าจริง ในส่วนของตัวดักน้ำมันนี่แหละผมคิดว่าคือสาเหตุให้ท่านๆ ต้องกรอคันเร่งทิ้งน้ำมันส่วนนั้นออกมา
ผมเองตั้งใจจะลองตามวิธีแก้ไขปัญหาทางศูนย์ก่อน ตอนนี้ผมมีแค่เปิดฝาแล้วฟู่ๆ หากดีขึ้นก็จบ แต่หากไม่ดีขึ้นคงนำไปให้ผู้มีประสบการณ์ปรับแต่งให้ เรื่องความร้อนคงไม่สามารถแก้อะไรได้มากกว่าที่ศูนย์ทำ แต่เรื่องปลาวาฬกับเรื่องที่ต้องกรอคันเร่งนี้ไม่น่าจะเป็นปัญหาที่แก้ไม่ได้นะครับ
หวังว่าข้อมูลที่อธิบายคงช่วยหลายๆ ท่านได้มีแนวทางนะครับ ผมสรุปมาจากประสบการณ์ส่วนตัวที่โตมาในอู่รถจักรยานยนต์ ผิดถูกอย่างไรขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย