ว่าด้วยเรื่องน้ำมัน shell v power nitro plus !!!

[rapperp]

เท่าที่ศึกษาข้อมูลอยู่นาน เคยอ่านกระทู้หนึ่งมีเขียนเรื่อง น้ำมัน 91 , 95 หรือแก๊สโซฮอล

เท่าที่พอจำได้ว่า Ducati ควรเติม 91 แต่หากจำเป็นจริงๆต้องเติม โซฮอล ก็ได้ แต่ควรใช้ให้หมดไม่ควรเก็บไว้ในถัง (อันนี้ถูกหรือปล่าวครับ?)

แต่เมื่อน้ำมันshell v power nitro plus ออกมาใหม่ ผมจึงสนใจเพราะเดิมเป็นคนชอบเติม Shell อยู่แล้ว มากกว่า ปตทอยู่หลายแล้วเพราะคิดว่าน้ำมัน ของ Shell ดีกว่า จากการลองเติมดู

แต่โดยปกติจะชอบเติม 91 มาตลอด ไม่ค่อยชอบเติม แก๊สโซฮอล

แต่วันนี้เค้าแนะนำให้เติม น้ำมัน shell v power nitro plus เค้าบอก ผลิตมารองรับซูปเปอร์คาร์ เฟอร์รารี่ อ่ะ แล้วเค้าบอกว่า คุณภาพดีกว่า Shell 91 แล้วถูกกว่า

แต่มีส่วนผสม แก๊สโซฮอล 95 อยู่ 3%

ผมจึงอยากรู้ว่า ถ้าเติมน้ำมัน shell v power nitro plus ใน Ducati จะมีผลหรือปล่าว เพราะมีส่วนของ แก๊สโซฮอล ?

หรือว่า ควรเติม 91 ต่อไป ?

ขอบคุณครับ

[Vut(DCDC)]

เออ..ส่วนตัวผมเติม โซฮอล 95 มาตลอดเลยนะครับ(เซลแจ้งว่าไม่ 95 ก็ต้อง โซลฮอล 95 นะครับ) ก็ไม่มีปัญหาอะไรนะครับตอนนี้ ก็ 4000 กว่าโลแล้วครับ

และก็เคยได้ลอง  v power nitro plus แล้วเหมือนกัน 2 ถัง (เห็นว่าออกใหม่เลยอยากลองนะครับ)

ส่วนตัวไม่เห็นความแตกต่างนะครับ.............

[monsterjeff]

  ก็ใช้อยู่ครับ ทั้ง camryและducati ก็บอกว่าใช้ดีครับ ก็แรงปรกติ แต่ไม่เคยใช้ตัวอื่นนะ
ส่วนตัวผมว่าสารปรุ่งแต่งของ shell ดีกว่า PTT นะ ตัวนี้มันระดับโลก V-Power มันมีขายหลายประเทศเลย

[Fown]

สรุปว่าควรใช้น้ำมันอะไรอะครับ ของผมเค้าบอกให้เติม 95 ถ้าไม่มีจริงๆก็ 91 แทนได้บางครั้ง

[MizunoMonster(อ้น)]

ตอนแรกผมก็เติม91ครับ พอลองv-power แล้วรู้สึกว่าแรงกว่านิดๆแต่ระยะทางต่อถังผมได้มากขึ้นครับ วิ่งถึงไฟเตือนได้ถึง260โลเลย

[jack66]

ตอนแรกผมก็เติม91ครับ พอลองv-power แล้วรู้สึกว่าแรงกว่านิดๆแต่ระยะทางต่อถังผมได้มากขึ้นครับ วิ่งถึงไฟเตือนได้ถึง260โลเลย

260โลเลยหรอครับ สุดยอดมากกกกกกกกก

[KNOT...]

เห็นด้วยครับ สิ่งที่ต่างกันคือสารเติมแต่ง
เพราะจริงๆแล้วที่มาของน้ำมันก็มาจากโรงกลั่นเดียวกัน (ทั้งจากระยองและศรีราชา)

ส่วนตัวผมเติม Gasohol 95 กับ Benzene 95 เป็นหลักครับ ไม่เคยเติม 91 ส่วนเรื่องความแรงส่วนตัวคิดว่าไม่ต่างครับ 

[KNOT...]

อีกเรื่่องครับ เป็นความรู้สำหรับการเลือกเติมน้ำมันครับ
1. เลือกค่า Octane ที่เหมาะกับรถ สูงกว่าได้แต่ห้ามต่ำกว่า (ข้อนี้สำคัญมาก เครื่องน๊อกได้ง่ายๆ ถ้าเติมผิด)
2. เลือกเติมปั๊มที่ ดูใหม่ๆ มีรอบการหมุนเวียนน้ำมันเยอะๆ (ถ้าเลือกปั๊มเก่า ถังใต้ดินอาจจะผุ อาจจะได้ของแถมเป็นน้ำได้)
3. ส่วน Brand ก็ไม่ค่อยต่างกันครับ เพราะรับจากโรงกลั่นเดียวกันทั้งหมด ยกเว้น Esso (ปตท., Shell, Caltex รับน้ำมันจากที่เดียวกัน)
4. มาตรฐานน้ำมันไม่ต่างกัน ต่างกันที่ สารเติมแต่ง (Additive) ก็ตามโฆษณาเลยครับ ลดความฝืด, ล้างหัวฉีด ฯลฯ
5. น้ำมันทุกชนิดไม่ว่า Benzene, Gasohol, Diesel ก็มีอายุครับ ถ้าไม่มีการหมุนเวียนคุณภาพจะลดลงเรื่อยๆ จนกลายเป็นน้ำมันเน่าไปเลยครับ ดังนั้นอย่าเติมเยอะๆแล้วทิ้งไว้นานๆ

หวังว่าคงมีประโยชน์นะครับ   

[I3ank DEZ]

ผมก็ใช้ V power ครับ ส่วนตัวสำหรับมอไซ ผมไม่เห็นต่างเรื่องระยะกิโล เพราะเอาDucati ออกทีไรก็ซัดทุกทีความประหยัดเลยไม่มีครับ แต่ใช้ก็ไม่มีปัญหา

ส่วนเรื่องประหยัดผมจับกับ แอคคอด 2.4 ของผม ได้ระยะกิโลเพิ่มขึ้นครับ เวลาเหยียบคันเร่งไม่ต้องกดเยอะมากเหมือน พวก E20 หรือ แก๊ซโซฮอล ตัวอื่นครับ

(คหสต นะครับ)

[atiphon09 (เต้ย DCDC)]

ตอนผมรับรถเซลบอกว่าให้เติม 95 แต่ถ้าไม่มีให้เติม shell v power ได้หรือแก็สโซฮอล์ 95 ได้ ไม่เห็นบอกให้เติม 91 ได้
ก่อนอื่นผมต้องขอทำความเข้าใจก่อนว่า 91 กับ 95  ต่างกันอย่างไร ตัวเลขนี้คือค่าออกเทน

ค่าออกเทน คือ อะไร...

โดยปกติแล้วในน้ำมันเบนซินจะถูกเติมสารเพิ่มค่าออกเทน เพื่อจะทำให้น้ำมันมีคุณสมบัติทนต่อการน๊อคได้สูงขึ้น เช่นเดียวกับการเพิ่มค่าซีเทนในน้ำมันดีเซล ซึ่งในอดีตสารที่ใช้ในการเพิ่มค่าออกเทน จะมีส่วนผสมของสารตะกั่วประกอบอยู่ด้วย โดยสารตะกั่วจะทำให้เกิดมลพิษจากไอเสีย ซึ่งเป็นผลร้าย ต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อมแต่ในปัจจุบันมีการพัฒนาคุณภาพของน้ำมันโดยไม่ต้องใช้สารตะกั่วมาเป็นสาร ประกอบเพื่อเพิ่มค่าออกเทนอีกต่อไป ดังนั้นเราจึงได้ยินคำว่า “ น้ำมันไร้สารตะกั่ว ” ซึ่งในขณะนี้มีอยู่ 2 ชนิดในท้องตลาดคือ น้ำมันเบนซินออกเทน 91 และน้ำมันเบนซิน ออกเทน 95 โดยทั้ง 2 ชนิด จะเป็นน้ำมันที่ไร้สารตะกั่วทั้งคู่

    ค่าออกเทน คือ คุณสมบัติของน้ำมันที่แสดงถึงความสามารถในการต้านทานการจุดระเบิดก่อนเวลาที่กำหนดในเครื่องยนต์เบนซิน หรือเป็นค่าที่แสดงถึงความต้านทานการน็อคของเชื้อเพลิงในเครื่องยนต์ซึ่งในเครื่องยนต์แต่ละรุ่นแต่ละแบบจะมีความต้องการค่าออกเทนที่ไม่เท่ากันโดยขึ้นอยู่กับการ ออกแบบของวิศวกรและบริษัทผู้ผลิตรถยนต์

ผมเข้าใจว่าค่าออกเทนที่ต่ำที่สุดของ Ducati ที่สามารถเติมได้โดยไม่ส่งผลกับเครื่องยนต์ น่าจะเป็นออกเทน 95 นะครับ ถ้าเติม 91 อาจทำให้น้ำมันที่ถุกดูดเข้าไปในห้องเผาไหม้อาจจะชิงจุดระเบิดก่อนที่หัวเทียนจะจ่ายไฟ อาการแบบนี้โดยทั่วไปเค้าจะเรียกว่า เครื่องเขก หรือเครื่องน็อก บางครั้งในกรณีรุนแรงอาจจะได้ยินเสียงเขกบริเวณห้องเผาไหม้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะถ้าเป็นรถยนต์ ซึ่งอาการเหล่านี้จะทำให้เครื่องยนต์สึกหรอโดยรวดเร็ว หรืออาจจะถึงขั้นพังได้นะครับในกรณีที่รุนแรงแต่ก็ไม่มากนะครับ เพราะถ้ารถคุณต้องใช้น้ำมันออกเทน 100 แล้วไปเติม 91 นี่แบบนี้ไปไวแน่ครับ

ผมว่าเติมน้ำมันที่มีค่าออกเทน 95 ไว้ก่อนจะปลอดภัยกว่าถึงแม้จะเป็นแก็สโซฮอล์ก็ตาม แต่ถ้าถามถึง  shell v power nitro plus !!! ทางshell เค้าน่าจะผสมสารบางอย่างที่แตกต่างจากแบรนด์อื่นเข้าไป อาจทำให้การเผาไหม้หมดจดสมบูรณืขึ้น จึงทำให้รู้สึกว่าอัตราเร่งดีขึ้น และประหยัดขึ้น

ผมเองเติม 95 ตลอด แต่ถ้าหาไม่ได้หรือไม่มีปั๊ม ก็เติม shell v power nitro plus !!! หรือแก็สโซฮอล์ แต่ต้อง95 เท่านั้นครับ

ปล.อันนี้เป็นความรู้ความเข้าใจส่วนตัวของผมนะครับ ผิดถูกอย่างไรขออภัยด้วย ถ้ามีผู้ที่รู้และเข้าใจอย่างไรก็มาให้ความกระจ่างกับเพื่อนๆด้วยนะครับ

[ไอ้มดเอ็กซ์(DNT)]

แอบมาเก็บความรู้ครับ 

[garbage]

เติมออกเทนสูงกว่่า spec เครื่อง --> ทางวิศวกรรมไม่มีผลครับ เพราะเครื่องเบนซินจุดระเบิดด้วยหัวเทียน เมื่อลูกสูบบีบอัดถึงระยะแล้ว หัวเทียนก็จุดระเบิด
เติมออกเทนต่ำกว่า spec เครื่อง --> น้ำมันจะชิงระเบิดก่อนที่ลูกสูบจะอัดถึงจุดที่ออกแบบไว้ เครื่องน็อคไม่ก็สะดุด

ส่วนที่บอกว่าเติมออกเทนสูงกว่าเครื่องแล้วแรงขึ้น ทางวิศวกรรมน่าจะเป็นการ "คิดไปเอง" แต่หลายๆท่านก็บอกว่าแรงขึ้นจริง อันนี้ก็ไม่เป็นไรครับ

ส่วนตัวน้อง m795 ผมเติม 95 ตลอด (Caltex และ Petronas)
เคยเติม Gasohol 95 ทีนึงตอนที่ไปออกทริปร่วมกับแก๊ง CDC กลางๆถังผมเจอปัญหาอากาศในท่อน้ำมันเข้าเครื่องเนื่องจากเครื่องร้อน ที่ทำให้เครื่องดับตอนเดินเบา (คือสตาร์ทไม่ติด แต่ถ้าบิดคันเร่งส่ง จะไม่ดับ) ไม่รู้เกี่ยวกันหรือเปล่านะครับ แต่ตอนเติม 95 รถติดยังไงก็ไม่ออกอาการ

[Kirk]

ตอนผมรับรถเซลบอกว่าให้เติม 95 แต่ถ้าไม่มีให้เติม shell v power ได้หรือแก็สโซฮอล์ 95 ได้ ไม่เห็นบอกให้เติม 91 ได้
ก่อนอื่นผมต้องขอทำความเข้าใจก่อนว่า 91 กับ 95  ต่างกันอย่างไร ตัวเลขนี้คือค่าออกเทน

ค่าออกเทน คือ อะไร...

โดยปกติแล้วในน้ำมันเบนซินจะถูกเติมสารเพิ่มค่าออกเทน เพื่อจะทำให้น้ำมันมีคุณสมบัติทนต่อการน๊อคได้สูงขึ้น เช่นเดียวกับการเพิ่มค่าซีเทนในน้ำมันดีเซล ซึ่งในอดีตสารที่ใช้ในการเพิ่มค่าออกเทน จะมีส่วนผสมของสารตะกั่วประกอบอยู่ด้วย โดยสารตะกั่วจะทำให้เกิดมลพิษจากไอเสีย ซึ่งเป็นผลร้าย ต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อมแต่ในปัจจุบันมีการพัฒนาคุณภาพของน้ำมันโดยไม่ต้องใช้สารตะกั่วมาเป็นสาร ประกอบเพื่อเพิ่มค่าออกเทนอีกต่อไป ดังนั้นเราจึงได้ยินคำว่า “ น้ำมันไร้สารตะกั่ว ” ซึ่งในขณะนี้มีอยู่ 2 ชนิดในท้องตลาดคือ น้ำมันเบนซินออกเทน 91 และน้ำมันเบนซิน ออกเทน 95 โดยทั้ง 2 ชนิด จะเป็นน้ำมันที่ไร้สารตะกั่วทั้งคู่

    ค่าออกเทน คือ คุณสมบัติของน้ำมันที่แสดงถึงความสามารถในการต้านทานการจุดระเบิดก่อนเวลาที่กำหนดในเครื่องยนต์เบนซิน หรือเป็นค่าที่แสดงถึงความต้านทานการน็อคของเชื้อเพลิงในเครื่องยนต์ซึ่งในเครื่องยนต์แต่ละรุ่นแต่ละแบบจะมีความต้องการค่าออกเทนที่ไม่เท่ากันโดยขึ้นอยู่กับการ ออกแบบของวิศวกรและบริษัทผู้ผลิตรถยนต์

ผมเข้าใจว่าค่าออกเทนที่ต่ำที่สุดของ Ducati ที่สามารถเติมได้โดยไม่ส่งผลกับเครื่องยนต์ น่าจะเป็นออกเทน 95 นะครับ ถ้าเติม 91 อาจทำให้น้ำมันที่ถุกดูดเข้าไปในห้องเผาไหม้อาจจะชิงจุดระเบิดก่อนที่หัวเทียนจะจ่ายไฟ อาการแบบนี้โดยทั่วไปเค้าจะเรียกว่า เครื่องเขก หรือเครื่องน็อก บางครั้งในกรณีรุนแรงอาจจะได้ยินเสียงเขกบริเวณห้องเผาไหม้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะถ้าเป็นรถยนต์ ซึ่งอาการเหล่านี้จะทำให้เครื่องยนต์สึกหรอโดยรวดเร็ว หรืออาจจะถึงขั้นพังได้นะครับในกรณีที่รุนแรงแต่ก็ไม่มากนะครับ เพราะถ้ารถคุณต้องใช้น้ำมันออกเทน 100 แล้วไปเติม 91 นี่แบบนี้ไปไวแน่ครับ

ผมว่าเติมน้ำมันที่มีค่าออกเทน 95 ไว้ก่อนจะปลอดภัยกว่าถึงแม้จะเป็นแก็สโซฮอล์ก็ตาม แต่ถ้าถามถึง  shell v power nitro plus !!! ทางshell เค้าน่าจะผสมสารบางอย่างที่แตกต่างจากแบรนด์อื่นเข้าไป อาจทำให้การเผาไหม้หมดจดสมบูรณืขึ้น จึงทำให้รู้สึกว่าอัตราเร่งดีขึ้น และประหยัดขึ้น

ผมเองเติม 95 ตลอด แต่ถ้าหาไม่ได้หรือไม่มีปั๊ม ก็เติม shell v power nitro plus !!! หรือแก็สโซฮอล์ แต่ต้อง95 เท่านั้นครับ

ปล.อันนี้เป็นความรู้ความเข้าใจส่วนตัวของผมนะครับ ผิดถูกอย่างไรขออภัยด้วย ถ้ามีผู้ที่รู้และเข้าใจอย่างไรก็มาให้ความกระจ่างกับเพื่อนๆด้วยนะครับ

ถูกต้องเลยครับพี่

[dragstar(wut) DCRY]

ผมเติม 91 มาตลอดตั้งแต่ถอยรถมา รถยังไม่เคยมีอาการสะดุดหรือน๊อคครับ 2,4xx กิโลแล้ว สงสัยต้องหัดไปเติม โซฮอล์ 95 ไว้บ้างเผื่อเดือนหน้ารัฐบาลยกเลิก 91 ส่วน 95 แพงและหาเติมยากมาก

[Fown]

 
สรุปเติมโซฮอลได้เหรอครับ ใครช่วยฟันธงที

[okumura]

 

[dukdikdog]

ถ้าถังเป็นวัสดุPa6 ไม่ควรเติมครับ

[toppingman(ท้อป)]

Sales บอกเติม91ได้ บางคันผมเห็นเค้าก็เลืิอก91

[jack66]

สำหรับผมเรียงลำดับตามนี้ครับ
เบนชิน95 เบนชิน91 แก๊สโซฮอล์95 แก๊สโซฮอล์91
ส่วนใหญ่จะ เบนชิน91 ครับ เพราะ95แถวบ้านไม่มี

[atiphon09 (เต้ย DCDC)]

สรุปเติมโซฮอลได้เหรอครับ ใครช่วยฟันธงที

ถ้ามีกำลังเติม 95 ได้ก็จะดีนะครับ แต่ถ้าไม่สะดวกก็ shell v power nitro + ดีครับ แต่ถ้าไม่สะดวกอีกค่อย แก็สโซฮอล์ 95 ได้หมดครับ
อันนี้ผมเอามาฝากให้อ่านเล่นๆคับ


ความจริงเกี่ยวกับน้ำมันแก๊สโซฮอล์

          น้ำมันแก๊สโซฮอล์(Gasohol) คือน้ำมันเชื้อเพลิงชนิดใหม่สำหรับรถยนต์ ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อเป็นพลังงานทางเลือกทดแทนน้ำมันเชื้อเพลิงทั่วไป และเพื่อลดมลพิษในอากาศ และส่งเสริมเศรษฐกิจของชาติ น้ำมันแก๊สโซฮอล์เกิดจากการผสมระหว่างน้ำมันเบนซิน หรือที่ในภาษาอังกฤษมักจะเรียกกันว่า Gasoline 90% กับ Alcohol 10% (เอทานอล) จึงเป็นที่มาของคำศัพท์ว่า Gasohol หรือที่เรียกกันในวงการว่า E10 (จากสัดส่วนของเอทานอล 10%)
          การผสมเอทานอลเข้าไปในน้ำมันเชื้อเพลิงชนิดนี้ ไม่ได้ทำให้ประสิทธิภาพลดลงแต่อย่างใด เพราะปกติแล้วผู้ผลิตจะเพิ่มค่าออกเทนเข้าไปอีกราว 2-3 จุด จึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเครื่องยนต์ นอกจากนี้เอทานอลยังช่วยให้พลังงานชนิดนี้เผาไหม้ได้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น จึงทำให้เครื่องยนต์สะอาด และช่วยลดมลพิษในอากาศด้วย ดังนั้นคุณจึงเชื่อมั่นได้ว่าน้ำมันแก๊สโซฮอล์ใช้ได้ และเพื่อยืนยันความมั่นใจเกี่ยวกับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ กระทรวงพลังงานมีความจริงเกี่ยวกับน้ำมันแก๊สโซฮอล์มาบอก ดังนี้

          1. ใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ไปนานๆ จะทำให้เครื่องพังจริงหรือ
ความจริงแล้วน้ำมันแก๊สโซฮอล์ คือ น้ำมันเบนซินไร้สารตะกั่วที่ผสมเอทานอลนั่นเอง การผสมเอทานอลลงไปในน้ำมันไร้สารตะกั่วจะช่วยเพิ่มค่าออกเทนให้กับเชื้อเพลิงอีกราว 2-3 จุด จึงช่วยต้านทานไม่ให้เครื่องยนต์น็อก ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเครื่องยนต์ นอกจากนี้เอทานอลยังประกอบด้วยออกซิเจน ซึ่งเผาไหม้ที่จุดสันดาปที่ต่ำกว่าเบนซิน จึงสามารถเผาไหม้ได้อย่างสมบูรณ์มากกว่า ช่วยให้เครื่องยนต์สะอาดขึ้น ใช้งานได้นานขึ้น และช่วยลดมลพิษต่อสภาพแวดล้อมในระยะยาวอีกด้วย

          2. ใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์แล้วทำให้เครื่องร้อนจริงหรือ
ความจริงแล้วการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ ไม่ได้เป็นสาเหตุให้เครื่องยนต์ร้อนจนเกินไปแต่อย่างใด เพราะ          เอทานอล (แอลกอฮอล์) ในน้ำมันแก๊สโซฮอล์มีจุดสันดาปที่ต่ำกว่าน้ำมันเบนซินทั่วไป จึงทำให้เครื่องยนต์เย็นกว่าปกติด้วยซ้ำไป เห็นได้จากการที่รถแข่งเครื่องแรงๆ ที่มีประสิทธิภาพสูงๆ หลายรายจึงเลือกใช้แอลกอฮอล์เป็นเชื้อเพลิงก็ด้วยเหตุนี้

          3. ใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์แล้วทำให้ฟิลเตอร์อุดตันจริงหรือ
ความจริงแล้วการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ ช่วยทำให้เครื่องยนต์สะอาดขึ้นต่างหาก สำหรับผู้ที่เปลี่ยนมาใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ใหม่ๆ แล้วพบว่าฟิลเตอร์อุดตัน อาจเป็นไปได้ว่า ก่อนหน้านี้ถังน้ำมันและเครื่องค่อนข้างสกปรกอยู่แล้ว และไม่ค่อยบำรุงรักษา เมื่อเปลี่ยนมาใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ จึงทำให้สนิมและคราบสกปรกต่างๆ ที่สะสมมาเป็นเวลาหลายปีหลุดออก และไปอุดตันที่ฟิลเตอร์ ถ้าเจอกรณีเช่นนี้               ให้ลองเปลี่ยนฟิลเตอร์ใหม่ และลองใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ต่อไป คุณจะพบว่า ถังน้ำมันและเครื่องยนต์ของคุณสะอาดขึ้น และเครื่องทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

          4. ใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์แล้วจะทำให้เครื่องไม่แรง จึงไม่เหมาะจะใช้กับรถเครื่องยนต์ใหญ่ๆ อย่างรถยุโรป จริงหรือ
ความจริงแล้วน้ำมันแก๊ซโซฮอล์ กับน้ำมันเบนซิน 95 ให้ประสิทธิภาพที่ใกล้เคียงกัน จึงสามารถใช้ได้กับรถยนต์ทุกขนาด ที่ผลิตตั้งแต่ปี 1995 เป็นต้นมา เพียงแต่ว่า ในการวิ่งระยะไกล การเติมน้ำมัน                  แก๊สโซฮอล์อาจทำให้มีอัตราการเร่งลดลง จึงต้องใช้เวลาเดินทางเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเบนซิน 95               แต่ปกติแล้วรถเครื่องยนต์ใหญ่ๆ มักจะกินน้ำมัน และราคาของน้ำมันแก๊สโซฮอล์ก็ถูกกว่าเบนซิน 95 การเติมน้ำมันแก๊สโซฮอล์อาจช่วยให้คุณประหยัดได้มากกว่า

          5. ใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ถึงจะราคาถูกกว่า แต่ก็กินน้ำมันมากกว่าจริงหรือ
ความจริงแล้วอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงของน้ำมันแก๊สโซฮอล์ จะต่างจากน้ำมันเบนซินเพียง 1-2% เท่านั้น อีกทั้งอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงยังขึ้นอยู่กับตัวแปรต่างๆ เช่น สภาพการขับขี่ของแต่ละบุคคล สภาพของรถยนต์ และสภาพการจราจรบนท้องถนน ฯลฯ เช่น ผู้ที่ขับรถเร็ว นิยมเหยียบคันเร่งก็จะสิ้นเปลืองน้ำมันมากขึ้น เป็นต้น อย่างไรก็ดี เมื่อเทียบราคาจำหน่ายแล้ว น้ำมันแก๊สโซฮอล์ถูกกว่าเบนซินถึงลิตรละ 2.50-3.50 บาท ดังนั้นเมื่อคำนวณแล้ว จึงยังนับว่าได้เปรียบในเรื่องความประหยัด

          6. ใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์แล้วจะต้องดูแลเครื่องยนต์เป็นพิเศษจริงหรือ
สำหรับรถยนต์ที่ผลิตตั้งแต่ปี 1995 เป็นต้นไป สามารถเติมน้ำมันแก๊สโซฮอล์ได้ โดยไม่จำเป็นต้องดูแลรักษา หรือปรับแต่งเครื่องยนต์เป็นพิเศษแต่อย่างใด ในทางตรงกันข้ามน้ำมันแก๊สโซฮอล์ยังมีจุดเด่นในเรื่องการเผาไหม้ที่สมบูรณ์กว่า จึงช่วยให้เครื่องยนต์สะอาดกว่า เพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องได้ดีกว่า ในระยะยาว จึงช่วยให้เครื่องมีอายุการใช้งานที่นานขึ้นด้วย

แหล่งที่มา http://www.thaienergynews.com/gassohol.asp