ผู้เขียน หัวข้อ: Ducati Multistrada Enduro 2016 Full Review  (อ่าน 13715 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ WEBMASTER(กอล์ฟฟี่)

  • Administrator
  • *****
  • กระทู้: 5787
  • Moto GP point: +169/-8
Ducati Multistrada Enduro 2016 Full Review
« เมื่อ: เมษายน 12, 2017, 09:38:03 PM »


มาถึงหนึ่งไฮไลท์ของรถสไตล์ทัวร์ริ่งจากค่ายดูคาติ ที่ผมเชื่อว่าหลายคนก็อยากรู้ครับ ว่ามันแข็งแรง ทนทาน อึด ถึก กว่ารุ่นน้องของมันยังไง  กับเจ้า Ducati Multistrada Enduro ซึ่งถือเป็นรถที่อยู่ไลน์สูงสุดในกลุ่มรถทรงทัวร์ริ่ง ไว้สำหรับขี่ท่องเที่ยวทางไกล พร้อมลุยกับหลากหลายสภาพถนน ของดูคาติ ซึ่งได้มีการปรับแต่งในหลายๆ ด้าน เพื่อมารองรับกับโจทย์เรื่องการเดินทางไกล และความสมบุกสมบันนะครับ ส่วนจะมีอะไรบ้าง ต้องติดตามกันครับ

สำหรับราคาที่จำหน่ายที่ศูนย์บริการดูคาติในปัจจุบัน สำหรับตัว Enduro เป็นดังนี้ครับ
Multistrada 1200 Enduro                                   Red / Grey   1,035,000
Multistrada 1200 Enduro Traveller Version   Red / Grey   1,090,000
Multistrada 1200 Enduro Traveller Proversion   Red / Grey   1,102,000




โดยในการรีวิวครั้งนี้ผมต้องขอขอบคุณทาง Ducati Thailand ด้วยครับ สำหรับความอนุเคราะห์ให้รถมาทดสอบ สำหรับเส้นทางวันนี้ จะเป็น
Survey 1 day trip ครับโดยเราจะขี่ไปกบินทร์บุรี จังหวัด ปราจีนบุรี ผ่านทางรังสิต และแวะบ้านคนพิการซ้ำซ้อน นครนายก กันแปปนึงด้วยครับ ซึ่งทางที่ขับขี่ ช่วงแรก จะเป็นการขับขี่ในเมือง หลังจากนั้น จะเป็นทางตรงโล่งยาว ๆ พอกลางทาง จะเป็นโค้งไฮสปีด สลับกับทางตรง และสุดท้ายใกล้ๆ จุดหมายปลายทาง จะเป็นถนนดิน ทั้งทางตรงและโค้งนะครับ เรียกได้ว่า "ครบ" ทุกรสชาติแน่นอนครับ 

ระยะทาง ไปกลับ ประมาณ 400 กิโลเมตร ครับ มาดูกันว่า น้ำมันถังเดียว  เอาอยู่ไหม?



โดยในครั้งนี้ ผมจะขอแบ่งหัวข้อการรีวิว เพื่อความชัดเจนในการทำความเข้าใจดังนี้ครับ
: รูปลักษณ์โดยทั่วไป และมิติรถเมื่อเทียบกับคนขี่
: เทคโนโลยีตัวรถใหม่ๆ
: การขับขี่จริงช่วงรถติด/ช่วงถนนโล่ง
: อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง
: ค่าบำรุงรักษา และระยะการเข้าเซอร์วิส
: ความคุ้มค่า เมื่อเทียบกับราคา
: สรุปความรู้สึกสุดท้าย

Multistrada 1200 Enduro - Enduro Pack



พร้อมรึยังครับ !! ถ้าพร้อมแล้ว ไป ENDURO ด้วยกันครับ


ติดตามเราได้ที่ Facebook  click !

สนใจดูพรีวิวรถรุ่นอื่น  click !

หาซื้อดูคาติ มอนสเตอร์(มือสอง)  click !

หาซื้อดูคาติ รุ่นอื่นๆ (มือสอง)  click !
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 27, 2017, 11:40:53 PM โดย WEBMASTER(กอล์ฟฟี่) »
NEXZTER BIGBIKE PADS BRAKE CLICK ..
https://www.facebook.com/Nexztermoto/

สนใจลงโฆษณา ติดต่อ

โทร.0841433398
LINE ID : diavel1200
http://www.facebook.com/ducatibikersthailand

Ducati Bikers Thailand

Ducati Multistrada Enduro 2016 Full Review
« เมื่อ: เมษายน 12, 2017, 09:38:03 PM »
//

ออฟไลน์ WEBMASTER(กอล์ฟฟี่)

  • Administrator
  • *****
  • กระทู้: 5787
  • Moto GP point: +169/-8
Re: Ducati Multistrada Enduro 2016 Full Review
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: เมษายน 18, 2017, 08:13:15 PM »
ก่อนอื่น เรามาดูคลิป เปิดตัว เพื่อเป็นการโหมโรงกันก่อน  โดยทางดูคาติ ได้ทำการโปรโมทคลิปวิดีโอ มัลติ เอ็นดูโร่ ออกมาทั้งหมด 4 ตอนครับ เริ่มตั้งแต่การรู้จักคาแรคเตอร์รถ ความพร้อมใช้งานทุกสถานะการณ์ จิตวิญญานแห่งการผจญภัย และ แนะนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ ของตัวรถครับ 

The Wild Side of Ducati - Episode 1: Enjoying off-road adventures


The Wild Side of Ducati - Episode 2: Determined to meet any challenge


The Wild Side of Ducati - Episode 3: Adventure Soul by Touratech


The Wild Side of Ducati - Episode 4: Outstanding technology
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 18, 2017, 08:35:34 PM โดย WEBMASTER(กอล์ฟฟี่) »
NEXZTER BIGBIKE PADS BRAKE CLICK ..
https://www.facebook.com/Nexztermoto/

สนใจลงโฆษณา ติดต่อ

โทร.0841433398
LINE ID : diavel1200
http://www.facebook.com/ducatibikersthailand

ออฟไลน์ WEBMASTER(กอล์ฟฟี่)

  • Administrator
  • *****
  • กระทู้: 5787
  • Moto GP point: +169/-8
Re: Ducati Multistrada Enduro 2016 Full Review
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: เมษายน 18, 2017, 08:41:04 PM »
: รูปลักษณ์โดยทั่วไป และมิติรถเมื่อเทียบกับคนขี่ :



สำหรับรูปลักษณ์โดยทั่ว ๆ ไป ก็ต้องขอบอกว่า มันเป็นรถสำหรับท่องเที่ยวครับ (ทัวร์ริ่ง) เบาะสูง 870 มิลลิเมตร น้ำหนักรถเมื่อน้ำมันเต็มอยู่ที่ 254 กิโลกรัม ถือว่าหนักพอสมควรครับ ลักษณะการนั่งจึงเน้นให้เดินทางไกล นั่งหลังตรงๆหน่อย ไม่เมื่อยหลัง และมีแผ่นบังลมขนาดใหญ่ เพื่อลดลมที่จะปะทะกับผู้ขี่ ทำให้เหนื่อยน้อยลง และขับขี่ได้ไกลกว่าเดิมนะครับ หลาย ๆ คนบอกว่า รถทรงนี้ แก่ เป็นรถสำหรับคนมีอายุ ที่ขี่สปอร์ทไม่ไหว mon16 แต่ก่อนก็ไม่แน่ครับ  แต่สำหรับเดี๋ยวนี้ ผมเชื่อครับ ว่ามีคนจำนวนมาก ที่ต้องการออกรถทรงนี้ไว้ท่องเที่ยวกันไปเลย โดยเฉพาะวัยรุ่นที่ชอบท่องเที่ยว ถ่ายรูป ตามต่างจังหวัด รถสไตล์นี้ จะตอบโจทย์ได้ดีเยี่ยมเชียวครับ



มาเจาะรายละเอียดกัน

เครื่องยนต์ Testastretta Desmodromic ความจุกระบอกสูบ 1198.4cc ระบายความร้อนด้วยน้ำครับ
ให้กำลังแรงม้าอยู่ที่ 160hp ที่ 9500rpm และTorque 136 Nm (13.9 kgm) ที่ 7,500 rpm กับรถทัวร์ริ่ง ระดับ 160 แรงม้า  ต้องบอกว่ามันเหลือๆครับ อัดติดมือตามใจนึก อยากเร่งก็เปิดคันเร่งออกได้เลย ไม่มีอาการหน่วงให้เห็นโดยเฉพาะโหมด สปอร์ทนั้น ต้องจัดได้ว่า"แรง" และต้องใช้ความระมัดระวังในการเปิดคันเร่ง ต้องมีสมาธิมากๆตลอดเวลา ไม่งั้นเผลอๆไป จะหน้าเงิบเอาครับ





จุดเด่นอีกจุดก็คือ ล้อหน้าครับ ที่มีขนาดกว้าง3 นิ้ว เส้นรอบวง 19 นิ้ว (มัลติตัวอื่นจะล้อหน้า 17 นิ้ว) และเป็นล้อซี่ลวด ซึ่งให้ความยืดหยุนได้ดีกว่าล้ออัลลอยปกติ รัดด้วยยาง Pirelli Scopion Trail II 120/70 ส่วนการที่ล้อหน้ามีขนาด 19 นิ้ว (ปกติ 17 นิ้ว) นั้น ก็ทำให้เวลารถขี่ผ่านหลุมบ่อ หรือทางไม่เรียบ ด้วยความกว้างของรอบวงของล้อ จะทำให้รถผ่านอุปสรรคไปได้อย่างราบรื่นกว่าล้อ 17 นิ้ว นะครับ ส่วนโช๊คนั้นใช้ของ Sachs ขนาด 48 mm พร้อมโช๊คไฟฟ้าสามารถปรับค่า compression and rebound damping ด้วยระบบ Ducati Skyhook Suspension (DSS) ที่ติดมาให้พร้อมเลยครับ





ระบบเบรคหน้า ใช้ปั๊มเบรมโบ้คู่หน้า พร้อมระบบ cornering ABS




แววตา ไฟหน้าขนาดใหญ่คมๆ  พร้อมช่องดักลม และหม้อน้ำขนาดใหญ่ ระบายความร้อนได้เยี่ยมขี่ ๆไป ถ้าวิ่งทางโล่ง ลมพัด เครื่องเย็นราบเรียบดีครับ แม้วันที่อากาศร้อน   แต่.. ถ้าเจอรถติดในเมือง แล้วพัดลมหม้อน้ำทำงาน พัดลมจะพัดความร้อนเข้าขา มากอยู่ครับ ผมลองพยายามหลบแล้วก็ไม่พ้น ร้อนอยู่ดี แต่ทนได้แน่ครับ ไม่ได้ร้อนกว่ารุ่นอื่นๆครับ ส่วน แผ่นบังลม(windshield)แผ่นใหญ่ดีครับ และผมก็ชอบทรงมันที่ให้ลมผ่านด้านข้างลำตัวมาโดนเรานิดนึง ทำให้ไม่ร้อน ตอนขี่กลางแดดจัดๆครับ  และก็สามารถปรับยกสูงขึ้น หรือเตี้ยลงได้ด้วยมือระหว่างขับขี่ครับ 








รถคันนี้ ใช้สวิงอาร์ม วัสดุ อลูมิเนียม (Aluminium double-sided swingarm) เพื่อความแข็งแรงสูงสุดต่อการใช้งาน  ส่วนโช๊คหลัง เป็นของ  Sachs ซึ่งสามารถปรับค่า compression & rebound damping adjustment ด้วยไฟฟ้า. พร้อมทั้งมีระบบ Ducati Skyhook Suspension (DSS) เพื่อปรับความแข็งของโช๊คให้เหมาะสมต่อการบรรทุกสัมภาระด้วยครับ





การ์ดกันเครื่องช่วงล่าง และกันล้มเฟรม ป้ะยี่ห้อ Touratech มีมาพร้อม เข้ากับตัวรถครับ





ในส่วนของหน้าจอแสดงผล องศา กำลังดีไม่ต่ำเกินไป และถ้านั่งอยู่บนรถ แสงท้องฟ้า จะไม่สะท้อนหน้าจอครับ ส่วนปุ่มกดต่าง ๆ ทั้งทางซ้าย และทางขวา ออกแบบมาพอดีมือครับ ไม่ต้องเอื้อม  โดยเฉพาะปุ่มกดด้านซ้าย สำหรับผมแล้ว เป็นอะไรที่น่าทึ่งมากครับ เพราะรถคันนี้ ยัด อัดแน่นไปด้วย เทคโนโลยี เซ็นเซอร์ การปรับโหมดต่าง ๆ เต็มไปหมด  แต่ทุกเรื่อง จบได้ด้วยปุ่มแค่ไม่กี่ปุ่ม (ดูจากภาพครับ) ถือว่าออกแบบมาเหนือชั้นมากครับเรื่องนี้





กระเป๋าข้าง หรือ "ปี๊บ" ที่หลายคนเรียกกัน  ออกแบบให้มิติเป็นสี่เหลี่ยมไม่เหมือนรุ่นก่อน ๆ ครับ  โดยภาพรวมดูแข็งแรงบึกบึนขึ้นมาก  สีเข้ากับตัวรถดีด้วย แต่สิ่งที่ต้องแลกมาก็คือ มันจะต้านลมมากกว่ารุ่นก่อน ๆ และขนาดจะขยายกว้าง จนถ้าเรามองจากด้านหลังไกล ๆ แล้ว ระยะความกว้างจากสุดปี๊บซ้าย ถึง สุดปี๊บขวา จะกว้างกว่ากระจกส่องข้างด้านหน้าครับ  ดังนั้นเวลาเราต้องมุดในที่แคบ หรือขี่ตอนรถติด ๆ เราจะกะระยะปี๊บ จากกระจกหน้าไม่ได้เหมือนรุ่นเก่าครับ (รุ่นเก่าปี๊บแคบกว่ากระจก)  และอีกเรื่องที่สำคัญคือ เวลามุดแล้วไม่พ้นเพราะติดปี๊บนั้น รุ่นก่อน ๆ จะเป็นพลาสติก acs มน ๆ ครับ คือ พอชนแล้ว ยังพอไถ ๆ เบียด ๆ ไปได้  แต่ถ้าเป็นปี๊บเหลี่ยมแบบนี้  ไม่ต้องหวังว่าจะไถไปครับ ติดแหงก หยุดนิ่งแน่นอน  ต้องใช้ความระมัดระวังมากหน่อยครับ





กล่องกว้างแค่ไหน ก็ใส่หมวกเต็มใบได้ 1 ใบครับ







มิติรถเมื่อเทียบกับคนขี่
ผู้ทดสอบ สูง 174 เซ็นติเมตร ครับ หนัก 80 กิโลกรัม  กับรถที่มีความสูงเบาะ 870 mm.(มีออฟชั่นเบาะสูงที่ 890mm และเบาะเตี้ยที่ 850mm) ถือว่าขาเหยียดนิดหน่อยครับ ยังสามารถคอนโทรลการโยกรถซ้าย ขวา ได้อยู่ครับ เพียงแต่ด้วยน้ำหนักรถ 254 กิโลกรัม(รวมน้ำมัน) เวลาตั้งรถขึ้น ถ้าแนวการจอดรถเอนไปทางขาตั้งเยอะ จะต้องใช้แรงแขนช่วยกันเหวี่ยง เพื่อโยกรถตั้งตรงเยอะอยู่ครับ ดังนั้นเวลาจอดต้องค่อนข้างระวังครับ ยิ่งถ้าจอดริมถนนนี่ ต้องเอาหลังเข้าเท่านั้นครับ ถ้าเอาหน้าเข้านี่ ตอนออก เข็นไม่ไป อายคนแถวนั้นแน่ครับ abc52





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 21, 2017, 09:24:56 PM โดย WEBMASTER(กอล์ฟฟี่) »
NEXZTER BIGBIKE PADS BRAKE CLICK ..
https://www.facebook.com/Nexztermoto/

สนใจลงโฆษณา ติดต่อ

โทร.0841433398
LINE ID : diavel1200
http://www.facebook.com/ducatibikersthailand

ออฟไลน์ WEBMASTER(กอล์ฟฟี่)

  • Administrator
  • *****
  • กระทู้: 5787
  • Moto GP point: +169/-8
Re: Ducati Multistrada Enduro 2016 Full Review
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: เมษายน 21, 2017, 09:23:09 PM »
เทคโนโลยีตัวรถใหม่ๆ

Multistrada Link
เป็นเทคโนโลยี ที่ผู้ขับขี่สามารถดาวน์โหลด Multistrada Link app เพื่อไว้จัดเก็บข้อมูลการขับขี่ครับ ไม่ว่าจะเป็น ความเร็วในการขับขี่  องศาการเอียงรถ อัตราการบริโภคน้ำมัน และเส้นทางที่ขับขี่ได้ครับ



Ducati Cornering Lights (DCL)
เป็นไฟLED ที่อยู่ในโคมไฟหน้าครับ ซึ่งจะมีเซ็นเซอร์คอยตรวจวัดเมื่อเวลาเข้าโค้ง เมื่อมุมเอียงถึงองศาที่กำหนดไว้ ไฟจะสว่างขึ้นเพื่อส่องไปที่มุมของการเอียง ทำให้มองเห็นปลายโค้งได้สว่าง และปลอดภัยมากขึ้นครับ

Cruise control
เป็นเทคโนโลยีที่ติดมา เหมือนกันกับรุ่นน้อง Multistrada 1200 นะครับ ซึ่งให้ความสะดวกสบายในการขับขี่บนถนนดำระหว่างจังหวัดเป็นอย่างมาก ปุ่มกด และวิธีใช้ก็ไม่ยากครับ ผมว่าทางดูคาติออกแบบปุ่มกดการใช้งานระบบนี้มาได้ดี และสะดวกแค่มือซ้ายเท่านั้นเองครับ





Ducati Wheelie Control (DWC)
ระบบนี้ อาจจะไม่เหมาะกับสายยกนะครับ กับ DWC ซึ่งจะคอยวิเคราะห์การขับขี่ และการทรงตัวของรถ และถ้าระบบเห็นว่าล้อหน้าเริ่มยก ก็จะตัดแรงบิด และแรงม้าลง เพื่อให้ล้อหน้าและหลังแตะบนพื้นไม่เสียอาการนะครับ สามารถปรับการจับวิเคราะห์ให้มาก หรือ น้อย ได้ 8 ระดับ ครับ

Vehicle Hold Control (VHC)
ในเจ้ามัลติสตาด้า เอ็นดูโร่ตัวนี้ มีฟีเจอร์ใหม่ๆ น่าสนใจเข้ามาในระบบ ABS ครับ นั่นก็คือ VHC ซึ่งเป็นระบบที่จะช่วยให้การออกตัวในทางชันจะไม่ทำให้รถไหลไปด้านหลัง เพื่อให้ผู้ขับขี่มุ่งความสนใจที่คันเร่ง กับครัชได้อย่างเต็มที่ โดยระบบจะทำงานเมื่อ ผู้ขี่จอดนิ่ง ขาตั้งรถยกขึ้นแล้ว และทำการบีบเบรคหน้า หรือหลังไว้แน่น(อารมณ์จอดบนเนินชัน และกลัวไหล) ระบบจะคำนวนและจับบีบเบรคหลังให้ทำงานประสานกัน เพื่อล็อคล้อหลังไว้แปปนึงช่วงออกสตาร์ทนะครับ

Ducati Multimedia System (DMS)
เป็นระบบให้ผู้ขับขี่เชื่อมต่อบลูทูธระหว่างโทรศัพท์กับตัวรถ เพื่อจะได้สามารถ ทราบผู้โทรเข้า ไว้ฟังเพลง รวมถึงการแจ้งเตือนข้อความเข้าครับ

โช๊คไฟฟ้า สามารถปรับค่าอ่อนแข็งได้ง่ายได้บนหน้าจอ ถ้านั่งเยอะ ของแยะ แบกสัมภาระมาก โช๊คจะปรับแข็งขึ้นตามที่เรากดปุ่ม เพื่อการเข้าโค้งที่ปลอดภัยขึ้นครับ



ไฟสว่าง เตือนว่าเปิด Cruise Control อยู่



NEXZTER BIGBIKE PADS BRAKE CLICK ..
https://www.facebook.com/Nexztermoto/

สนใจลงโฆษณา ติดต่อ

โทร.0841433398
LINE ID : diavel1200
http://www.facebook.com/ducatibikersthailand

ออฟไลน์ WEBMASTER(กอล์ฟฟี่)

  • Administrator
  • *****
  • กระทู้: 5787
  • Moto GP point: +169/-8
Re: Ducati Multistrada Enduro 2016 Full Review
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: เมษายน 21, 2017, 09:45:59 PM »
การขับขี่จริงช่วงรถติด/ช่วงถนนโล่ง

สำหรับรีวิวเรื่องการขับขี่นั้น ต้องขออนุญาตแจ้งก่อนครับ ว่าผมไม่ได้เอารถไปกระโดดลุยข้ามห้วย เข้าป่าลึก รึจมบ่อโคลนครับ เพราะเส้นทางที่ขี่คราวนี้เป็นการเซอร์เวย์ทริป  แต่อยากจะบอกว่าที่ผมทดสอบรถมาก็เพียงพอกับการใช้งานประจำของรถคันนี้ที่ใครหลายๆคนก็คงใช้งานพอๆกับเส้นทางที่ผมได้ขี่ไปครบเท่าๆกันครับ นั่นคือ รถติดในเมือง ทางถนนโล่งตามต่างจังหวัด และทางสายฝุ่นในที่ ๆ ถนนดำเข้าไปไม่ถึง



การขับขี่ในเมือง : แสนอึดอัด



สำหรับการขับขี่ในเมือง ผมเองละครับ ที่อยากรู้ให้ครบรสชาติ เลยติดปี๊บเข้าไปด้วยซะเลย (ทั้งๆที่ไม่มีของจะแบก) เพื่อวัดระยะการมุด และความยากง่ายของการขับขี่ ต้องขอบอกว่า "อึดอัด" ครับ   แน่นอนครับ เราจะโทษรถก็ไม่ได้ เพราะเมื่อติดปี๊บ ไซส์ความกว้างของตัวรถจะใหญ่ขึ้นมามากทันที แถมถ้าชนอะไรล้มไป เรื่องคงจะยาวมาก ผมจึงต้องคอยระมัดระวังเป็นพิเศษครับ  ผลที่ออกมาเลยเหมือนกับเรานั่งตุ๊กตุ๊กครับ ความกว้างของมันประมาณนั้นเลย



ถามว่ามุดได้มั้ย ...อื้มมม... ก็ได้บ้างครับ สำหรับช่องที่ใหญ่จริงๆ ส่วนการรูดขวา ไปยังเลนฝั่งตรงข้าม(วิ่งตรงเกาะกลาง) ถือเป็นเรื่องที่อันตรายมากครับ เพราะรถฝั่งเลนสวนถ้าไม่เห็นเราแต่ไกล รับรองว่าตกใจกับปี๊บข้างขวาของรถเราที่ยื่นไปเลนฝั่งเค้าอย่างมากแน่นอนครับ ไม่ควรอย่างยิ่ง

หลังจากที่มุดอย่างทุลักทุเล ก็เริ่มรับรู้ได้ถึงความร้อนที่แผ่มาที่ขาครับ หลายๆคนกังวลกับเรื่องนี้ สำหรับผมเองก็รู้สึกว่าร้อนครับ ทนได้ไหม มันก็ได้ครับ แต่ช่วงรถติดไฟแดง ถ้าต้องเอาขาลง ผมก็จะบิดขา หามุมที่พัดลมกับไอร้อนไม่มาปะทะขาผมครับ (มันร้อน) หลักจากผ่านการจราจรขาออกของกรุงเทพมหานครตั้งแต่ช่วงดอนเมือง มาจนถึงคลองต้น ๆ ของถนนรังสิต-นครนายก พอผ่านไปช่วงคลอง 10กว่าๆ  ก็เริ่มไม่มีไฟแดง และเริ่มเข้าสู่โหมดการขับขี่ทางโล่งๆ ยาวๆ ซะทีครับ mon6


การขับขี่นอกเมือง : สวรรค์ของคนเดินทางไกล




พอถึงช่วงทางโล่งก็ได้ทดสอบการใช้งานทางไกลอย่างจริงจังเสียทีครับ  ผมเริ่มปรับท่าทางหาจุดนั่งที่สบาย แม้ถังน้ำมันจะมีขนาดใหญ่แต่ก็สามารถหนีบถังนั่งสบายๆได้ครับ แฮนด์ถือว่ายกสูงอยู่ วางแขนง่ายครับ  ระหว่างขับขี่ ถ้าผมจะพักไปด้วยผมมักจะวางส้นเท้าที่พักเท้าครับ(ปกติจะจิกปลายเท้า) แรงบิด การเร่งแซงในแต่ละครั้ง มั่นใจและเหลือเฟือครับ กับกำลังเครื่องขนาดนี้ เรื่องนี้หายห่วง คิดจะแซง ก็แซงได้หมดครับ



เมื่อถึงทางโล่งยาวๆ ก็ได้ลองเปิดใช้ระบบCruise Control ดูครับ แรก ๆ อาจมีไม่ชินกันบ้าง แต่พอชินและมั่นใจว่าระบบจะตัดกรณีใดบ้างแล้ว ก็จะใช้ง่าย ติดมือครับ  แต่ผมว่าไม่ควรใช้ที่ความเร็วสูงครับ เพราะตอนเปิดใช้ เครื่องยนต์จะเร่งค้างตลอดเวลา ไม่เว้นแม้ตอนถึงโค้ง ถ้าชิน ๆ กับการผ่อนคันเร่งเพื่อใช้เอ็นจิ้นเบรคนี่ มีเหวอแน่นอนครับ เพราะมันไม่มีเอ็นจิ้นช่วยเลย



สะดวกสบาย ใช้ง่ายถ้าเข้าใจ เหมาะกับคาแรคเตอร์ขี่ทางไกลมากครับ



การขับขี่ลุยทางดินทางฝุ่น : มั่นใจได้ แม้รถจะหนักไปนิด


มาถึงอีกหนึ่งเส้นทางที่ถ้าทำรีวิวรถรุ่นนี้ คงต้องเอามันมาแตะกันบ้างครับ กับการยืนขี่สนุก ๆ ลุย ๆ ไปบนทางฝุ่น และเนินดิน โดยในเส้นทางที่ขี่ไปนั้น ก็มีได้เจอบ้างครับ สำหรับทางดินนั้นด้วยล้อที่ให้ติดรถมามีลักษณะเป็นบั้ง ๆ ทำให้มั่นใจในการขี่ขึ้นเยอะครับ รถสามารถตะกุยผ่านถนนไปได้อย่างมั่นคงไม่เสียอาการ กับล้อหน้าขนาด 19 นิ้ว และสเตอร์หลังขนาด 43 ฟัน ให้แรงบิดในรอบต่ำติดมือ มาทันที ถือว่าทำมาได้เหมาะสมกับรถครับ ตัวโช๊คที่ให้มานุ่ม หนึบมันใจ ช่วงขี่ลุยเนินดินไปเรื่อย ๆ ความรู้สึกจะมั่นคง ไหลไปเนิบ ๆ ผ่านอุปสรรคต่าง ๆ ได้ครับ



องศาแฮนด์และพักเท้า เหมาะมากสำหรับการยืนขี่ครับ พลังของเครื่องยนต์ที่ปล่อยออกไป บวกกับล้อ และน้ำหนักรถ ทำให้ขี่ขึ้น ๆ ลง ๆ เนินไปมา แปปเดียวก็ชิน และกล้าที่จะลุยมากขึ้นครับ แม้ผมจะไม่ได้ขี่เทสโหด ๆ อย่างเว็บต่างประเทศ แต่อย่างที่บอกครับ ถ้าเจอทางฝุ่น ถนนที่ยังทำไม่เสร็จตามเส้นทางต่างจังหวัด มั่นใจกับมันได้ครับ ว่ามันจะพาเราผ่านอุปสรรคไปได้ง่ายๆ สบายแน่นอน









อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง

สำหรับเรื่องอัตราการบริโภคน้ำมัน กับรถสไตล์ทัวร์ริ่งน่าจะเป็นเรื่องสำคัญมากนะครับ กับรถคันนี้ที่มีขนาด 1200 cc. ดูเหมือนจะกินน้ำมันมากนะครับ แต่ด้วยความที่เส้นทางวันนี้วิ่งออกต่างจังหวัดเป็นหลัก รถโล่ง และใช้ความเร็วประมาณ140 km/hr ตลอดส่วนใหญ่ของเส้นทางนะครับ ผลที่ออกมาเป็นดังนี้ครับ

ระยะทางที่วิ่งไปทั้งหมด 395.3 กิโลเมตร
อัตราการบริโภคน้ำมัน 26.41 ลิตร
เมื่อนำมาหารกัน จะได้เท่ากับ 14.96 กิโลเมตร ต่อ 1 ลิตร
หรือเท่ากับ กิโลละ 2.14 บาท ครับ 





: ค่าบำรุงรักษา และระยะการเข้าเซอร์วิส

สำหรับระยะเวลาการเข้าเซอร์วิสนั้น ก็ระยะยาวขึ้นแล้วครับ และราคาก็ลดลงมาแล้ว มีระยะตั้งวาว์ลอยู่ที่ 30,000 กิโลเมตรครับ ค่าใช้จ่ายและสิ่งที่เช็ค เป็นดังตารางนี้ครับ



: ความคุ้มค่า เมื่อเทียบกับราคารถ

สำหรับราคา ตัว Multistrada Enduro มี 3 ราคาครับ

Multistrada 1200 Enduro                              Red / Grey       1,035,000 บาท
Multistrada 1200 Enduro Traveller Version   Red / Grey   1,090,000 บาท
Multistrada 1200 Enduro Traveller Proversion   Red / Grey   1,102,000 บาท

สิ่งที่ให้มาผมว่าสำหรับรถทัวร์ริ่งระดับไฮเอนด์สักคันควรจะมี ก็ถือว่าให้มาครบถ้วนครับ ทั้งสมรรถนะรถ และเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่กล่าวมาด้านบน กับคาแรคเตอร์รถที่ชัดเจน ไม่ได้แค่ขี่ง่าย ขี่คล่อง เรื่อย ๆ แต่ยังแฝงด้วยพละกำลังในตัวเองที่พร้อมจะเกรี้ยวราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 1,000,000 บาท ผมว่าก็สมควรแก่ราคาครับ ในความรู้สึกไม่ถึงกับถูก แต่ก็ไม่ได้แพงไปแน่นอน สมตัวมันแล้วครับ

: สรุปความรู้สึกสุดท้าย




สำหรับรถคันนี้ ตั้งแต่วันแรกที่ได้รู้ว่าดูคาติจะผลิตออกมา ผมก็ใจจดใจจ่อที่จะได้ลองขี่มันนะครับ เพราะจริง ๆแค่ตัว Multitrada 1200 ที่โมเดลเชน เมื่อปี 2015 ผมก็รู้สึกตื่นเต้นกับสิ่งที่มันทำได้มามากแล้ว  การที่จะผลิตอะไรให้ "สุด" กว่าเดิมเข้าไปอีกนั้น ย่อมต้องมีอะไรแตกต่าง ฉีกแนว และที่สำคัญคือ "ดี" กว่าของเดิมอีกตังหาก   

การที่รถคันนี้ ได้ออกมาโลดแล่น และได้ลองขับขี่ จึงต้องขอบอกว่า ปลื้มมากครับ ถือว่าดูคาติ กล้า ที่จะก้าวไปสู้โลกที่ไม่เคยไปมาก่อน กล้าที่จะเปลี่ยนไอเดียให้เป็นความจริง ภาพลักษณ์ กับคาแรคเตอร์รถที่ พ่วงทั้งทัวร์ริ่งแบบน้อง ๆ ของมัน แต่แฝงกลิ่นไอของการตะลุยแบบวิบากเข้าไปจนออกมาเป็นรถคันนี้ มันช่างประณีต เรียบเนียน กลมกล่อม เข้ากันดีจังครับ

ผมเชื่อครับ ว่าผู้ที่ซื้อรถรุ่นนี้ไป หลายคน (น่าจะร้อยละ90) ก็ไม่ได้เอารถลงไปลุยดิน กระโดดเนิน หรอกครับ  ยังคงทัวร์ริ่งขี่ถนนดำท่องเที่ยวเดินทางไกลเป็นหลักเหมือนเดิม

แต่.. สิ่งที่เจ้ารถคันนี้ มีให้ และไม่เหมือนใคร .. มันคือ ฟิลลิ่ง  มันคือ ไลฟสไตล์ ที่บ่งบอกว่า คุณ  ไปสุดทางของ "รถสายทัวร์ริ่ง ที่พร้อมจะลุยวิบากได้" แค่ได้นั่งคล่อมอย่างสง่าผ่าเผย ก็โครตจะเท่ห์แล้วครับ    ไม่ต้องคิดถึงตอนขี่ไปตามท้องถนน  ต้องขอบอกเลยครับว่า มันคือ "ความภูมิใจ" ครับ

ผมขอขอบคุณมาก ๆ เลย สำหรับท่านที่ติดตามอ่านคอนเท้นมาถึงจุดนี้นะครับ 
ถ้าเห็นว่าบทความนี้พอเป็นประโยชน์บ้าง ก็อยากขอกำลังใจด้วยการช่วยแชร์ด้วยนะครับ

Golfy

















« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 25, 2017, 10:41:32 PM โดย WEBMASTER(กอล์ฟฟี่) »
NEXZTER BIGBIKE PADS BRAKE CLICK ..
https://www.facebook.com/Nexztermoto/

สนใจลงโฆษณา ติดต่อ

โทร.0841433398
LINE ID : diavel1200
http://www.facebook.com/ducatibikersthailand