ผู้เขียน หัวข้อ: อยากทราบครับ ขับ M795 พอดีมีนำ้มันเครื่องเกรด 5W40 สามารถใส่รถได้ไหมครับ  (อ่าน 4031 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ BEBYDIESEL

  • วัยช่างฝัน หวังวันควบ2ล้อออกถนน
  • *
  • กระทู้: 21
  • Moto GP point: +0/-0
อยากทราบครับ ขับ M795 พอดีมีนำ้มันเครื่องเกรด 5W40  สามารถใส่รถได้ไหมครับ

มีข้อดี ข้อเสีย ยังไงหรือป่าวครับ เพิ่งถ่ายครั้งแรกไม่ทราบข้อมูลครับ


ออฟไลน์ BEBYDIESEL

  • วัยช่างฝัน หวังวันควบ2ล้อออกถนน
  • *
  • กระทู้: 21
  • Moto GP point: +0/-0

ออฟไลน์ switchgear

  • ขี่ถนนในซอย ย่องๆชิดซ้ายอย่างเดียว
  • **
  • กระทู้: 137
  • Moto GP point: +1/-0
ถ้า shell advance ultra ตาม0แนะนำ
1. สังเคราะห์แท้ <---- น้ำมันคงสภาพในการใช้งานยาวนานกว่า
2. API SN <----- เกรดดีสุดในตลาดตอนนี้
3. ความหนืด 10W40 <----- ลื่นพอๆกัน

ลองเทียบดูนะคับ

ออฟไลน์ BEBYDIESEL

  • วัยช่างฝัน หวังวันควบ2ล้อออกถนน
  • *
  • กระทู้: 21
  • Moto GP point: +0/-0

ออฟไลน์ GOOD

  • Ducati Owner
  • *****
  • กระทู้: 49
  • Moto GP point: +1/-0
  • เพศ: ชาย
ถ้าหาได้ ผมใช้เบอร์ 60 ครับ

มาตรฐานกำหนดค่ากลางๆไว้ที่ความหนืดตัวหลัง 50

แต่บ้านเราร้อนนรกแตก ไม่นับอุณหภูมิบนท้องถนนยามรถติดๆ (อากาศผ่าน airbox 45-50องศา คิดดูเครื่องจะร้อนแค่ไหน)

เบอร์60 ที่ความร้อนระดับอุณหภูมิทำงานของเครื่องยนต์นั้นสามารถรักษาฟิล์มน้ำมันปกป้องเครื่องยนต์ได้ปลอดภัยกว่าครับ







ผมไม่เสี่ยงกับน้ำมันเครื่องใสๆ ทนความร้อนไม่ได้จนแหวนกวาดตายเกิดการกินน้ำเครื่อง และลามไปจน ลูกติด ชาร์ปละลาย ก้านพัง ข้อเหวี่ยงเดี้ยง แน่นอนครับ







ตั้งรถตรง ไหนล่ะน้ำมัน???????






เปิดหัวเทียนมา เขม่าเข้าห้องเผาไหม้เพียบ ติดเป็นเกล็ดขาวๆที่หัวเทียน






แต่.....ใช้เบอร์40มันจะพังเลยงั้นเหรอ?

ไม่ครับ อยู่ที่มือคุณล่ะ ว่าพฤติกรรมการขับเป็นอย่างไร

เพราะมันไม่ได้พังทันที หรือภายในไม่กี่กิโลเมตรที่คุณใช้หรอก หลายคนขายรถออกไปก่อนด้วยซ้ำ

แต่สำหรับผม รถทุกคันอยู่ยาว ดังนั้นก็ต้องดูแลมันให้เหมาะให้ควรตามสภาวะแวดล้อมครับ

ออฟไลน์ switchgear

  • ขี่ถนนในซอย ย่องๆชิดซ้ายอย่างเดียว
  • **
  • กระทู้: 137
  • Moto GP point: +1/-0
มาตรฐานของน้ำมันเครื่อง
มาตรฐานของน้ำมันเครื่อง
       การเลือกซื้อน้ำมันเครื่องให้เหมาะกับเครื่องยนต์แต่ละประเภท แต่ละภูมิอากาศ และสภาพของเครื่องยนต์ที่มีปัจจัยต่างๆในการเลือกซื้อ โดยมักดูที่ค่าความหนืดและคุณภาพของของผลิตภัณฑ์ที่กำกับโดยมาตรฐานต่างๆ เช่น
     SAE - SOCIETY OF AUTOMOTIVE ENGINEERS
     API- AMERICAN PETROLEUM INSTITUTE
     US MILITARY CLASSIFICATION-สถาบันทางทหารของสหรัฐอเมริกา
     ASTM- AMERICAN SOCIETY FOR TESTING AND MATERIALS
     CCMC – COMITEE OF COMMON MARKET CONSTRUCTION
 
ในที่นี้จะพูดถึงมาตรฐานที่ใช้กันหลักๆ 2 ประเภท คือ SAE และ API
 
มาตรฐาน SAE
มาตรฐาน SAE จะประกอบด้วยตัวเลข 2 ชุด คือ SAE XW-XX 
โดยตัวเลขชุดหน้าแสดงถึงการวัดค่ามาตรฐานในเขตหนาว (สัญลักษณ์ W- Winter Grade) จะเป็นการวัดค่าต้านทานการเป็นไข โดยวัดตั้งแต่อุณหภูมิ 20 องศาเซสเซียส  ต่ำลงมาจนถึงจุดเยือกแข็งตั้งแต่ 0 องศาเซสเซียสจนถึง -30 องศาเซสเซียส โดยตัวอักษร W ที่ระบุแสดงถึง WINTER โดยตัวเลขค่าต่างๆ สามารถสรุปผลได้เป็น ดังนี้
                0W คือ ความสามารถคงความข้นใสไว้ได้ต่ำกว่า -30 องศาเซสเซียส โดยไม่เป็นไข
                5W คือ ความสามารถคงความข้นใสไว้ได้ถึง -30 องศาเซสเซียส โดยไม่เป็นไข
                10W คือ ความสามารถคงความข้นใสไว้ได้ถึง -20 องศาเซสเซียส โดยไม่เป็นไข
                15W คือ ความสามารถคงความข้นใสไว้ได้ถึง -10 องศาเซสเซียส โดยไม่เป็นไข
                20W คือ ความสามารถคงความข้นใสไว้ได้ถึง 0 องศาเซสเซียส โดยไม่เป็นไข
 
ตัวเลขชุดหลัง แสดงถึงการวัดค่าความหนืดที่อุณหภูมิ 100 องศาเซสเซียส แทนค่าออกมาเป็นตัวเลขเรียกว่า เบอร์ของน้ำมันเครื่อง (NUMBER) เช่น 30, 40, 50 เป็นต้น โดยตัวเลขที่มากขึ้น แสดงถึง ความหนืดน้ำมันที่มากขึ้น
 
อย่างไรก็ตาม ความหนืดมิได้เป็นตัวบอกคุณภาพของน้ำมันเครื่องนั้น ๆ ผู้ใช้ควรเลือกน้ำมันเครื่องที่มีความหนืดที่เหมาะสมกับสภาพของเครื่องยนต์ และสภาพการใช้งานของท่าน เช่น หากรถของท่านเป็นรถใหม่ ก็ควรเลือกใช้น้ำมันเครื่องที่มีเบอร์ความหนืดใส(เบอร์น้อยๆ) จะช่วยในการประหยัดเชื้อเพลิงมากขึ้น เช่น SAE 10W-30 เป็นต้น แต่หากรถของท่านเป็นรถเก่า มีอาการกินน้ำมันเครื่อง ก็ควรเลือกใช้น้ำมันเครื่องที่มีเบอร์ความหนืดที่ข้นมากขึ้น เพื่อช่วยลดปัญหาการกินน้ำมันเครื่อง เช่น SAE 20W-50 เป็นต้น
 
มาตรฐาน API
มาตรฐาน API เป็นตัวบ่งบอกคุณภาพของน้ำมันเครื่อง โดยมาตรฐาน API จะขึ้นต้นด้วย API และตามด้วย
          S- โดย S - Service Station Classifications สำหรับเครื่องยนต์เบนซิล 
          C- โดย C - COMMERCIAL SERVICE-COMPRESSION IGNITION สำหรับเครื่องยนต์ดีเซล 
 
นั่นคือจะมีเฉพาะตัวอักษรด้านท้ายตัวเดียวเท่านั้นที่เปลี่ยนแปลง โดยอักษรตัวสุดท้ายจะเริ่มต้นตามภาษาอังกฤษ คือ A B C ... ไล่ไปเรื่อยๆ ยิ่งไกลจากตัว A เท่าไรแสดงว่า เป็นเกรดคุณภาพสูงขึ้น API มีการประกาศใช้ระดับมาตรฐานใหม่ไม่บ่อยทุก 3-10 ปี ไล่ห่างจากตัว A และบางตัวอักษรก็ข้ามไป ของเบนซินและดีเซล ไล่ออกมาไม่เท่ากัน ส่วนระดับมาตรฐานเก่าๆ ก็จะไล่ยกเลิกไปโดยปริยาย เพราะมีผลิตภัณฑ์ที่ดีกว่าออกสู่ตลาด
 
เกรดของน้ำมันเบนซิน  API SA SB SC SD SE SF SG SH SJ SL SM SN


-----  Credit : http://www.oilsquare.com  -----------

ออฟไลน์ GOOD

  • Ducati Owner
  • *****
  • กระทู้: 49
  • Moto GP point: +1/-0
  • เพศ: ชาย
 api เดียวกัน  sae เดียวกัน ยี่ห้อเดียวกันแต่ต่างรุ่นกัน

viscosity@อุณหภูมิต่างๆยังไม่เท่ากันเลยครับ

เกณฑ์การเลือกน้ำมันของผม ดูที่ไอ้ตัวเลขพวกนี้ครับ


mon61 mon61 mon61





และ

อ้าว เบอร์60 แต่ที่อุณหภูมิต่ำกลับใสกว่าเบอร์50 ชาร์ทแรกอีกแฮะ อิอิ






ออฟไลน์ switchgear

  • ขี่ถนนในซอย ย่องๆชิดซ้ายอย่างเดียว
  • **
  • กระทู้: 137
  • Moto GP point: +1/-0
ข้อมูลแน่นมากเลยคับ   mon57 mon57 mon57 mon57

ไม่เคยเจาะลึกขนาดนั้นเลย ขอความรู้เพิ่มเติมจะเป็นพระคุณครับ

1. ที่ท่านยกข้อมูลมามันน้ำมันเครื่องยี่ห้ออะไร รุ่นอะไรจะลองใช้บ้าง
2. มันได้ API อะไรเหรอคับ


ออฟไลน์ GOOD

  • Ducati Owner
  • *****
  • กระทู้: 49
  • Moto GP point: +1/-0
  • เพศ: ชาย
ตัวในรูปที่ผมลงน่ะครับ

น้ำมันตัวนี้ API SN ส่วนมาตรฐาน JASO คือ MA2 และมาตรฐาน SAE ที่ 10w-60

ตัวน้ำมันเป็น Pure Ester จัดอยู่ใน Group 5 ครับ