ของผมเริ่มจากล้างรถก่อนล้างโซ่ครับ อาจจะสลับๆ กับท่านอื่น ล้างรถก็รอบแรกฉีดน้ำล้างเม็ดทรายที่มีขนาดใหญ่ให้หลุดออกก่อน
จากนั้นจึงเริ่มลมแชมพูครับ แน่ะนำควรเป็นแชมพูสระผม (สูตรไม่มีครีมนวดผสม) หรือแชมพูล้างรถโดยตรงก็ได้ครับ หลังจากล้างเสร็จ
ทีนี้ก็มาถึงทางแยก เพราะการขัด - เคลือบ นั้นมันมีหลายขนาน ส่วนอุปกรณ์มาตรฐานเครื่องขัด DA (Dual-Action) แบบปรับรอบได้ซักตัว
ราคาเริ่มตันที่พันกว่าๆ ถึงเป็นหมื่น ตามกำลังทรัพย์ ฟองน้ำ เรื่องของฟองน้ำก็จะมีหลายสีอีก แต่ละสีจะมีความละเอียดที่แตกต่างกัน ของผมที่ใช้ก็จะมี
สีขาว (ขัดลึก) , สีแดง (ขัดตื้น), สีดำ (เคลือบ) แล้วก็น้ำยาขัด หรือน้ำยาเคลือบ อันนี้ก็แล้วแต่อีกครับตัวน้ำยาขัดจะมีหลายเบอร์ ตั้งแต่ขัดลบรอย ยันขัด
เพื่อล้างแว็คเก่าออก จากขัดก็เคลือบ ตัวเคลือบก็มีหลายอย่างอีก ชอบแบบไหน สีฉ่ำๆ สีสดใส แย่ะมากมาย หลังจากขัด + เคลือบ จะให้สุดจะมีสเปร์แว็คอีก
เพื่อเพิ่มชั้นแว็คให้หนาขึ้น (สีจะฉ่ำๆขึ้นอีก) แล้วก็ให้สัมผัสที่ลื่น (ประมาณแมลงวันบินมาเกาะลื่นหัวแตกได้)
จากนั้นก็เริ่มล้างโซ่ครับ โดยจะมีน้ำยาฉีดล้างโซ่ แน่ะนำของ โมตุล กับของ มัคออฟ เคยใช้ทั้งล้างโซ่ และหล่อลื่นโซ่ใช้ดี
ของตัวอื่นยังไม่เคยลอง หลังจากล้างโซ่เสร็จก็ใช้ตัวเป่าลมเป่าโซ่ให้แห้ง แล้วเคลือบครับ อ้อ ล้างรถเองแน่ะนำควรซื้อตัวเป่าลมไว้ใช้ครับ
ค่อนข้างจำเป็น เพราะต้องเป่าไล่น้ำ อย่างไล่น้ำจากโซ่ เพราะถ้าล้างโซ่เสร็จแล้วปล่อยให้แห้งเอง มีโอกาสเกิดสนิมสูงครับ หรือเอาไปขี่
ให้โซ่ให้ก็เสี่ยงทำให้โซ่เสียหายจากการที่ไม่มีสารหล่อลื่นในโซ่เลย ดังนั้น ตัวเป่าลมจึงเป็นคำตอบที่ดีครับ หลังจากเป่าลมเสร็จก็หล่อลื่นโซ่ครับ
เป็นอันเสร็จเรื่องของโซ่ อ้อ หลังจากหล่อลื่นโซ่ต้องจอดรถทิ้งไว้ซัก 3-4 ชม. นะครับ ให้ตัวหล่อลื่นโซ่จับตัว ไม่ใช่ฉีดปุ๊บ ออกขี่ปั๊บ อันนี้
เดี๋ยวได้ล้างล้อใหม่แน่นนอน
สำหรับผมถ้าล้างใหญ่ แบบทุกขึ้นตอน เริ่มล้าง 09.00 เสร็จก็ประมาณเกือบ 13.00 ครับ ล้างเสร็จ จอดรถทิ้งไว้ แล้ว 17.00 ก็เอารถออกไปร่อน
เพื่อเป็นการไล่ความชื้นที่่ยังค้างอยู่ให้ออกให้หมดครับ
ปล.การล้างรถไม่ควรทำตอนช่วงเย็นๆครับ แล้วถ้าล้างรถที่บ้าน หลังจากล้างควรนำรถออกไปขี่ซัก 5-10 กม. เพื่อไล่ความชื้่นในส่วนต่างๆ ออกให้หมดครับ
ปล.2 ผิดพลาดประการใดขออภัยครับ ยังไม่ใช่มืออาชีพ